บัดนั้น สองทูตทูลแจ้งแถลงไข
ข้าได้ยินตระหนักประจักษ์ใจ ท้าวดาหาตรัส ใช้เสนี
ให้รีบไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับพาราสิงหัดส่าหรี
อนุชากาหลังธิบดี อีกบุรีระตูจรกา
เห็นกษัตริย์ทั้งสี่ธานีนั้น จะมาช่วยป้องกหันกรุงดาหา
เมื่อวันข้าออกจากเมืองมา เสนาก็ไปพร้อมกัน
ฯ๖คำฯ
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงแข็งขัน
ได้ฟังกริ้วโกรธดังเพลิงกัลป์ จึงกระชั้นสีหนาทประภาษไป
ถึงว่ากษัตริย์ทั้งสี่กรุง จะมาช่วยรบพุ่งเป็นศึกใหญ่
กูก็ไม่ครั่นคร้ามขามใคร จะหักให้เป็นภัสม์ธุลีลง
ว่าพลางทางมีพจนารถ สั่งอำมาตย์ตะหมังตำมะหงง
เร่งเกณฑ์พวกพลรณรงค์ ที่สามารถอาจองในสงคราม
เลือกสรรโยธีทั้งสี่หมู่ เคยทำลายค่ายคู่ขวากหนาม
แต่กองร้อยรบพันไม่ครั่นคร้าม ให้ครบสามสิบหมืนพื้นตัวดี
เอาวิหยาสะกำเป็นกองหน้า ตรวจตราเตรียมขบวนถ้วนถี่
อันกองหลังรั้งพลมนตรี ทั้งศรีอนุชาผู้ใจภักดิ์
กูจะเป็นจอมพลโยธา หนุนทัพลูกยาเข้าโหมหัก
ไม่เกรงวงศ์เทวาสุรารักษ์ ให้ปรากฏยศศักดิ์เสียครั้งนี้
ครั้นเสร็จสั่งมหาเสนา จึงถามขุนโหราทั้งสี่
เราจะยกพลไกรไปต่อตี พรุ่งนี้ดีร้ายประการใด
ช่วยถอดคำประพันธ์อิเหนาหน่อยครับ
ข้าได้ยินตระหนักประจักษ์ใจ ท้าวดาหาตรัส ใช้เสนี
ให้รีบไปแจ้งเหตุพระเชษฐา กับพาราสิงหัดส่าหรี
อนุชากาหลังธิบดี อีกบุรีระตูจรกา
เห็นกษัตริย์ทั้งสี่ธานีนั้น จะมาช่วยป้องกหันกรุงดาหา
เมื่อวันข้าออกจากเมืองมา เสนาก็ไปพร้อมกัน
ฯ๖คำฯ
เมื่อนั้น ท้าวกะหมังกุหนิงแข็งขัน
ได้ฟังกริ้วโกรธดังเพลิงกัลป์ จึงกระชั้นสีหนาทประภาษไป
ถึงว่ากษัตริย์ทั้งสี่กรุง จะมาช่วยรบพุ่งเป็นศึกใหญ่
กูก็ไม่ครั่นคร้ามขามใคร จะหักให้เป็นภัสม์ธุลีลง
ว่าพลางทางมีพจนารถ สั่งอำมาตย์ตะหมังตำมะหงง
เร่งเกณฑ์พวกพลรณรงค์ ที่สามารถอาจองในสงคราม
เลือกสรรโยธีทั้งสี่หมู่ เคยทำลายค่ายคู่ขวากหนาม
แต่กองร้อยรบพันไม่ครั่นคร้าม ให้ครบสามสิบหมืนพื้นตัวดี
เอาวิหยาสะกำเป็นกองหน้า ตรวจตราเตรียมขบวนถ้วนถี่
อันกองหลังรั้งพลมนตรี ทั้งศรีอนุชาผู้ใจภักดิ์
กูจะเป็นจอมพลโยธา หนุนทัพลูกยาเข้าโหมหัก
ไม่เกรงวงศ์เทวาสุรารักษ์ ให้ปรากฏยศศักดิ์เสียครั้งนี้
ครั้นเสร็จสั่งมหาเสนา จึงถามขุนโหราทั้งสี่
เราจะยกพลไกรไปต่อตี พรุ่งนี้ดีร้ายประการใด