ท่ามกลางความมืดมิด มีเสียงคนโหวกเหวกโวยวายก้องกังวานดังที่หูทั้งสองข้าง แต่ตั้งใจฟังอย่างไรก็ไม่เป็นภาษา ความพยายามลืมตาจนสำเร็จ สิ่งแรกที่เห็นคือแสงสีเพลิงที่พล่ามัว ตามด้วยความรู้สึกว่าเหมือนร่างกำลังถูกไอร้อนแผ่เผา พอกระพริบตาถี่ ก็เริ่มเห็นตัวคนเป็นเพียงเงาดำๆ เบลอๆ จนได้ยินเสียงตระโกน ขอน้ำ เสียงตระโกนชื่อคน เสียงหวอรถเริ่มดังขึ้นตามมา
เมื่อกระพลิบตาถี่ๆ ขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มเห็นเปลวไฟลุกท่วมสูง
ที่จริงแล้วตัวของทับทิมอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุ ดวงตาเธอกรอกไปมาอย่างอิสระ แต่ร่างกายยังขยับไม่ได้เธอเริ่มรู้สึกแสบไปทั่วผิวหนัง แขนและขาพุพองจนน่าสยดสยอง
ไม่ไกลจากทับทิมยังมีร่างเพื่อนที่เป็นอาสาสมัคร 2 คน นอนคว่ำหน้า ท่ามกลางกองเพลิง
จนกระทั่ง มีสิ่งที่น่าแปลกเกิดขั้น ทั้งๆ ที่อยู่ทานกลางเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ แต่บรรยากาศกลับเย็นอวบหนาวลงไปถึงกระดูก
ทับทิมหายใจออกมาเป็นไอสีขาว จากนั้นก็มีเงาของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ปรกฎตัวขึ้นท่ามกลางเปลวไฟ เงานั้นมันยืนจ้องมายังเธอ สายตาทับทิมเริ่มสั่นกลัว ลมหายใจเข้าออกหนักและถี่มากขึ้น
เงานั่น มันเดินทะลุออกมาจากเปลวเพลิงอย่างน่าพิศวง เผยให้เห็นร่างเสือโคร่งขนาดใหญ่
ลมหายใจของทับทิมเริ่มถี่ขึ้นทันที เหงื่อกายเปียกชุ่ม พยายามขยับแขนขาที่พุพองเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้ แต่ก็ไร้ผล เหมือนมันถูกสกดตรึงด้วยมนต์ตรา อุ้มตีนขนาดใหญ่พร้อมเผยกรงเล็บฉีกกระชากร่างได้ทุกเมื่อ มันย่ำใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนเงาดำของมันทาบทับมาที่ร่างเธอ ปากของมัน แสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยวขาดใหญ่ เสือตัวนั้นมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มันพ่นลมหายใจออกมาเป็นไอร้อนรดใส่หน้าเธอ
ทับทิมกับเจ้าเสือโคร่งจ้องตากันจนกระทั้ง…
...มันขย่ำคอเธอ!!
กรี๊ด!!!
เสียงกรีดร้องหวาดกลัวดังจนแสบบาดถึงแก้วหูนั้น มันยังดังอยู่ท่ามกลางความมืด ดวงตาทับทิมเปิดโพรง สะดุ้งลุกโผขึ้นมา เธอหายใจถี่ๆ เหงื่อกายเปียกชุ่ม รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ไม่ไกลจากทับทิม มีคนไข้นอนโคม่าอยู่บนเตียง เขามีท่อหายใจระโยงระยางจากสายน้ำเหลือ จากเครื่องช่วยหายใจเต็มไปหมด ทับทิมไม่ชอบภาพแบบนี้เลย เธอจึงนอนพลิกไปอีกฝั่ง จึงได้เห็น ‘ชายโสร่งแดง’ ยืนอยู่ข้างเตียงเธอ โดยที่ไม่รู้ว่า มาตั้งแต่เมื่อไร
ชายผู้นั้นทำเอาตัวเธอนิ่งแข็งด้วยความกลัว บรรยากาศมันกลับมาเย็นยะเยือกอีกครั้งด้วยความกลัว
ก่อนที่มือของชายคนนั้นจะยื่นมาแตะตัวเธอ อยู่ๆ คนไข้ผู้นั้นก็ลุกจากเตียง เขาเดินผ่านเตียงเธอไป โดยที่ยังลากดึงเอาสายที่ละโยงละยางติดคาตัวไปด้วย จนสายท่อหลุดออกจากเครื่องช่วยหายใจ บางท่อเป็นสายน้ำเกลือออกแรงดึงจนขาด มีเลือดไหลหยดมาจากหัวเข็มที่เสียบคาไว้ที่หลังมือของเขาหยดมาเป็นทาง
ทับทิมจ้องคนไข้ผู้นั้นเหมือนว่าเธอจะรู้จัก แต่ไม่กล้าเรียก
เขาเดินโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บ เหมือนคนละเมอไร้สติอยู่ในภวัง จนคนไข้ผู้นั้นเดินออกจากห้องหายไปแล้ว
‘ชายโสร่งแดง’ คนนั้นมองหน้าทับทิม แล้วเดินออกจากห้องไปเช่นกัน
ทับทิมค่อยๆ ลุกออกจากเตียง แล้วเดินออกจากห้องนี้ไป
ทับทิมไม่คิดว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล เหมือนว่าตัวเธอมาอยู่อีกสถานที่หนึ่ง ที่กว้างขวางมองไปสุดตารอบทิศ มีแต่เงามืดสีดำปกคุมไปทั่ว วัตถุทุกอย่างเป็นสีเทา บนพื้นถูกปูด้วยไม้โบราณแผ่นใหญ่สีเทา ซึ่งวางถี่ๆ และรอบๆ เต็มไปด้วยเสาไม้สักสีเทาตั่งตง่านหลายๆ ต้น เรียงรายเป็นแถวเป็นแนว ระยะห่างเท่าๆ กัน จนไปสุดลูกหูลูกตา
“ชะ ช่ ว ย ด้ ว ย”
เสียงขอความช่วยเหลือแลฟังแล้วแสนโหยหวนทำเอาทับทิมสะดุ้ง เธอรีบหันควับหาเสียงนั้นทันที ที่มาของเสียงโหยหวนมันดังออกมาจากเสาต้นหนึ่งที่ไม่ห่างจากเธอนัก
“ช่ ว ย ด้ ว ย”
เสียงนั้น มันดังออกมาจากเสาต้นนั้น เธอค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้อย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ช่ ว ย ด้ ว ย”
คราวนี้เสียงมันดังมาจากด้านหลัง! เธอรีบหันไปทันที จนไปเห็นร่างของคนไข้ผู้นั้นนอนจมกองเลือด แขนขาขาด อวัยยะภายในกระจักกระจาย ร่างของเขาเหลือเพียงท่อนบน ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดไหลออกมาจาก ปาก จมูก ตา และ หูทั้งสองข้าง เขามองมาที่ทับทิม พอปากเขาเริ่มขยับก็มีลิ่มเลือดไหลทะลักออกมาเป็นก้อนๆ
“ชะ ช่ ว ย ด้ ว ย”
ในวินาทีนั้น มีแขนมนุษย์ที่ยาวจนผิดรูปร่างออกมาจากเงามืด จับตัวท่อนบนของชายผู้โชคร้ายแล้วลากร่างเขาหายเข้าไปในเงามืด
“ช่วยด้วย!! กูไม่อย่ากตาย!! อ้าก!! ”
เสียงโหยหวนดังมาพร้อมกับเสียงกระชากเนื้อและเสียงเคี้ยวของกระดูก จนมีชิ้นอวัยวะกระเด็นออกมาจากความมืด บางส่วนกระเด็นไปโดนหลังเท้าของทับทิม พอมองไปดีๆ มันคือ ลูกตา ทับทิมถึงกับตัวสั่นเข่าออนล้มพับลงไป เหมือนขาไม่มีแรง ฉี่ราดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว จนกระทั้งเสียงร้องโหยหวนก็ได้เงียบลง ถูกแทนที่ด้วยเสียงเกลือนอย่างตระกะตระกาม จนมันเริ่มขยับตัวออกมาจากเงามืด เผยให้เห็นร่างเล็กของเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงขาวเปรอะเปื้อนด้วยเลือดและชิ้นเนื้อ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเลือดหยดลงมาเป็นทาง ผมยาวกระเซอะกระเซิง ปดบังใบหน้าจนเห็นไม่ชัด มันเริ่มเดินข้ามาใกล้ ทับทิมยังตัวสั่นด้วยความกลัว จนมันใกล้พอที่จะก้มลงมายื่นหน้าเข้ามาใกล้เกือบประชิดหน้าทับทิม มันเอามือแหวกผมยาวรกชุ่มไปด้วยเลือดและชิ้นส่วนอวัยวะ เผยให้เห็นใบหน้านั้น ทับทิมถึงกับสะดุ้งโหยงอย่างคนขาดสติ
ทับทิมสะดุ้งตื่นขึ้น!!
พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง ห้องผู้ป่วยพิเศษเตียงเดี่ยว เธอเห็นป้านอนอยู่ข้างๆ เตียง เห็นแม่นอนอยู่บนโซฟา ส่วนอาสาวปูเสื่อนอนพื้นติดกับโซฟาที่แม่นอน ทับทิมเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากที่เดียว
แต่แล้ว เมื่อเธอเหลือบไปที่ปลายเตียง เธอเห็นพลอยยังยื่นนิ่งอยู่ ในแววตาที่ไร้ความรู้สึก จ้องมายังทับทิม จนเธอเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
แต่แล้วในหน้าของพลอยก็ฉีกยิ้มจนมุมปากฉีกขาดถึงหู เลือดไหลเยิ้มออกมาจากร่องมุมปากที่ฉีกขาด เผยให้เห็นซี่ฟันที่แหลมคม
พลอยพุ่งตัวขย้ำคอทับทิมจนเลือดสาดทั่ว!!
ทับทิมสะดุ้งตื่นอีกครั้ง!? ปรากฏว่ามีบุรุษพยาบาลเอามือสัมผัสที่หน้าฝากเธอ แล้วบอกว่า “เห็นกระสับกระส่าย เหงื่อท่วมตัวเลย พี่กลัวว่าไข้จะขึ้น”
ทับทิมยังนิ่งไม่ตอบอะไรทั้งนั้น จนบุรุษพยาบาลคนนั้นเดินจากไป เธอไม่ได้นิ่งเพราะความงามของบุรุษพยาบาลคนนั้น แต่นิ่งเพราะรู้ว่า ห้องเดี่ยวพิเศษนี้ เธอนอนคนเดียวมาแล้วสามวัน ไม่มีใครเลยมาอยู่เฝ้าไข้เธอ น้ำตาเธอไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว แต่แล้วมืออีกข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มเธอสัมผัสว่า เหมือนมีแผ่นอะไรบ้างอย่างบางอยู่บนมือ พอเธอนำมาดู มันคือภาพวาดเส้นดินสอ
เป็นรูปหน้าของ ‘พลอย’ ที่ยิ้มจนมุมปากฉีกขาดไปถึงหู
.......
หมออนุญาตให้ทับทิมกลับบ้านได้ เธอใช้โทรศัพท์ของโรงพยาบาล โทรให้อาสาวมารับ ในระหว่างที่เธอนั่งรออยู่นั้น เธอมองสมาร์ทโฟนที่หมดสภาพ ทั้งจอแตก ทั้งถูกไฟไหม้จนพลาสติกละลายหลอมรวมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ภายในเครื่อง เธอได้แต่ทอดถอนหายใจ จนกระทั้งสายตาเธอเห็นตำรวจ ประมาณสิบกว่านาย เดินขวักไขว่เต็มไปหมด
ใกล้ตรงจุดประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ กำลังยืนคุยกับหมอซึ้งอายุไม่ใช้น้อยแล้ว และคู่ชายหญิงวัยกลางคน ซึ้งเหมือนว่าทับทิมจะรู้จักคู่นั้นดี
ชายหญิงคู่นี้ เขาเป็นคู่สามีภรรยา มีฐานะดี สามีเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านแม่เรือน สองสามีภรรยาคู่นี้พวกเขาไม่ถูกกับคนที่บ้านเธอ เพราะเรื่องการหาเงินเข้าวัด พวกเขาไม่เห็นด้วยที่จะเอาเพชรกับพลอยเข้ามา เหมือนว่าพวกเขาสนทา คร่ำเครียดมาก และสักคู่เหตุการณ์ ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อยู่ ดีๆ ผู้เป็นภรรยาเข้ามาทำร้ายร่างกายหมอแก่ๆ คนนั้น ผู้เป็นภรรยาทั้งตบทั้งกระชาก ผู้เป็นสามีพยายามดึงตัวหล่อนออกมา แม้ตำรวจช่วยห้านยื่นขั้นกลางก็ไม่วายถูกหล่อนตบจนหน้าหัน แล้วหล่อนกรีดร้องไห้จนล้มเป็นลมคาที่ทันที แต่ดีที่เป็นสามีรับทัน พยาบาลช่วยกันพยุงผู้เป็นภรรยา
“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? ”
ทับทิมพรึบพรำ
.......
บรรยากาศภายในรถเงียบมากจนน่าอึดอัดไม่มีใครไถ่ถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น
จนทับทิมที่นั่งเบาะข้างคนขับ กำลังจะอ้าปากพูด จนกระทั้งอาสาวเริ่มเปิดประเด็น
“เป็นไงบ้าง? นอนโรงบาลสบายมั้ย? ”
ทับทิม “เออ..คือ”
แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ
“พอรถโรงบาลมา อาก็ไม่ได้ไปดูเรานะ ยุ่งน่ะ พอดีตำรวจมา จึงต้องเป็นพยานให้เขา ตำรวจก็เก่งนะ สืบไปสืบมาก็รู้เลยว่าเป็นพวกชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่พอใจวิธีหาเงินเข้าวัดน่ะ ตอนนี้ก็โดนดำเนินคดีกันหมดแล้วสะใจชะมัด! ”
ทับทิม “แล้วเพชรกับพลอยล่ะคะ? ”
อาสาว “ก็ปลอดภัยดีนะ แม่เอ็งพาน้องๆ กลับบ้านเลยหลังจากเหตุวันนั้นน่ะ”
เมื่ออาสาวขับรถก็ผ่านบ้านของใครคนหนึ่งที่กำลังจัดงานศพ ทันทีก็มีภาพในฝันของชายผู้ถูกฉีกกระชากแว๊บเข้าในห้ว ทับทิมเริ่มกำภาพวาดในมือเธอจนแน่น
อาสาว “เจ้า อุ๊ ลูกผู้ใหญ่บ้าน ที่มันยกพวกปาหินถล่มบ้านพวกเรา แล้วเกิดอุบัติเหตุคืนนั้นน่ะ มันตายเมื่อคืนนี้เองที่โรงบาลเดียวกับเอ็งแหละ...แต่” อาสาวเริ่มทำสีหน้าเครียดขรึม “แต่ ได้ยินว่ามันตายผิดธรรมชาติ เมื่อเช้าพอพยาบาลเข้ามาในห้องก็เห็นร่างของมันกลายเป็นศพชิ้นส่วนกระจักจายเละไปหมด! สยองมาก! ”
แล้วอาสาวก็ยังเล่าต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้เข้าหูทับทิมอีกแล้ว ในหัวเธอกำลังเชื่อมต่อระหว่างฝันกับสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้
'อุ๊' ตายแล้ว...ทับทิมรู้ดี นี่มันไม่ใช่แค่ความฝันอีกแล้ว
TBC
ชายโสร่งแดง ตอน กุมารี วนเวียน 4
ท่ามกลางความมืดมิด มีเสียงคนโหวกเหวกโวยวายก้องกังวานดังที่หูทั้งสองข้าง แต่ตั้งใจฟังอย่างไรก็ไม่เป็นภาษา ความพยายามลืมตาจนสำเร็จ สิ่งแรกที่เห็นคือแสงสีเพลิงที่พล่ามัว ตามด้วยความรู้สึกว่าเหมือนร่างกำลังถูกไอร้อนแผ่เผา พอกระพริบตาถี่ ก็เริ่มเห็นตัวคนเป็นเพียงเงาดำๆ เบลอๆ จนได้ยินเสียงตระโกน ขอน้ำ เสียงตระโกนชื่อคน เสียงหวอรถเริ่มดังขึ้นตามมา
เมื่อกระพลิบตาถี่ๆ ขึ้นเรื่อยๆ จึงเริ่มเห็นเปลวไฟลุกท่วมสูง
ที่จริงแล้วตัวของทับทิมอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่โหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งราวกับพายุ ดวงตาเธอกรอกไปมาอย่างอิสระ แต่ร่างกายยังขยับไม่ได้เธอเริ่มรู้สึกแสบไปทั่วผิวหนัง แขนและขาพุพองจนน่าสยดสยอง
ไม่ไกลจากทับทิมยังมีร่างเพื่อนที่เป็นอาสาสมัคร 2 คน นอนคว่ำหน้า ท่ามกลางกองเพลิง
จนกระทั่ง มีสิ่งที่น่าแปลกเกิดขั้น ทั้งๆ ที่อยู่ทานกลางเปลวเพลิงโหมกระหน่ำ แต่บรรยากาศกลับเย็นอวบหนาวลงไปถึงกระดูก
ทับทิมหายใจออกมาเป็นไอสีขาว จากนั้นก็มีเงาของสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ปรกฎตัวขึ้นท่ามกลางเปลวไฟ เงานั้นมันยืนจ้องมายังเธอ สายตาทับทิมเริ่มสั่นกลัว ลมหายใจเข้าออกหนักและถี่มากขึ้น
เงานั่น มันเดินทะลุออกมาจากเปลวเพลิงอย่างน่าพิศวง เผยให้เห็นร่างเสือโคร่งขนาดใหญ่
ลมหายใจของทับทิมเริ่มถี่ขึ้นทันที เหงื่อกายเปียกชุ่ม พยายามขยับแขนขาที่พุพองเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้ แต่ก็ไร้ผล เหมือนมันถูกสกดตรึงด้วยมนต์ตรา อุ้มตีนขนาดใหญ่พร้อมเผยกรงเล็บฉีกกระชากร่างได้ทุกเมื่อ มันย่ำใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนเงาดำของมันทาบทับมาที่ร่างเธอ ปากของมัน แสยะยิ้มจนเห็นเขี้ยวขาดใหญ่ เสือตัวนั้นมันยื่นหน้าเข้ามาใกล้ มันพ่นลมหายใจออกมาเป็นไอร้อนรดใส่หน้าเธอ
ทับทิมกับเจ้าเสือโคร่งจ้องตากันจนกระทั้ง…
...มันขย่ำคอเธอ!!
กรี๊ด!!!
เสียงกรีดร้องหวาดกลัวดังจนแสบบาดถึงแก้วหูนั้น มันยังดังอยู่ท่ามกลางความมืด ดวงตาทับทิมเปิดโพรง สะดุ้งลุกโผขึ้นมา เธอหายใจถี่ๆ เหงื่อกายเปียกชุ่ม รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
ไม่ไกลจากทับทิม มีคนไข้นอนโคม่าอยู่บนเตียง เขามีท่อหายใจระโยงระยางจากสายน้ำเหลือ จากเครื่องช่วยหายใจเต็มไปหมด ทับทิมไม่ชอบภาพแบบนี้เลย เธอจึงนอนพลิกไปอีกฝั่ง จึงได้เห็น ‘ชายโสร่งแดง’ ยืนอยู่ข้างเตียงเธอ โดยที่ไม่รู้ว่า มาตั้งแต่เมื่อไร
ชายผู้นั้นทำเอาตัวเธอนิ่งแข็งด้วยความกลัว บรรยากาศมันกลับมาเย็นยะเยือกอีกครั้งด้วยความกลัว
ก่อนที่มือของชายคนนั้นจะยื่นมาแตะตัวเธอ อยู่ๆ คนไข้ผู้นั้นก็ลุกจากเตียง เขาเดินผ่านเตียงเธอไป โดยที่ยังลากดึงเอาสายที่ละโยงละยางติดคาตัวไปด้วย จนสายท่อหลุดออกจากเครื่องช่วยหายใจ บางท่อเป็นสายน้ำเกลือออกแรงดึงจนขาด มีเลือดไหลหยดมาจากหัวเข็มที่เสียบคาไว้ที่หลังมือของเขาหยดมาเป็นทาง
ทับทิมจ้องคนไข้ผู้นั้นเหมือนว่าเธอจะรู้จัก แต่ไม่กล้าเรียก
เขาเดินโดยที่ไม่รู้สึกเจ็บ เหมือนคนละเมอไร้สติอยู่ในภวัง จนคนไข้ผู้นั้นเดินออกจากห้องหายไปแล้ว
‘ชายโสร่งแดง’ คนนั้นมองหน้าทับทิม แล้วเดินออกจากห้องไปเช่นกัน
ทับทิมค่อยๆ ลุกออกจากเตียง แล้วเดินออกจากห้องนี้ไป
ทับทิมไม่คิดว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล เหมือนว่าตัวเธอมาอยู่อีกสถานที่หนึ่ง ที่กว้างขวางมองไปสุดตารอบทิศ มีแต่เงามืดสีดำปกคุมไปทั่ว วัตถุทุกอย่างเป็นสีเทา บนพื้นถูกปูด้วยไม้โบราณแผ่นใหญ่สีเทา ซึ่งวางถี่ๆ และรอบๆ เต็มไปด้วยเสาไม้สักสีเทาตั่งตง่านหลายๆ ต้น เรียงรายเป็นแถวเป็นแนว ระยะห่างเท่าๆ กัน จนไปสุดลูกหูลูกตา
“ชะ ช่ ว ย ด้ ว ย”
เสียงขอความช่วยเหลือแลฟังแล้วแสนโหยหวนทำเอาทับทิมสะดุ้ง เธอรีบหันควับหาเสียงนั้นทันที ที่มาของเสียงโหยหวนมันดังออกมาจากเสาต้นหนึ่งที่ไม่ห่างจากเธอนัก
“ช่ ว ย ด้ ว ย”
เสียงนั้น มันดังออกมาจากเสาต้นนั้น เธอค่อยๆ ย่องเข้าไปใกล้อย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ช่ ว ย ด้ ว ย”
คราวนี้เสียงมันดังมาจากด้านหลัง! เธอรีบหันไปทันที จนไปเห็นร่างของคนไข้ผู้นั้นนอนจมกองเลือด แขนขาขาด อวัยยะภายในกระจักกระจาย ร่างของเขาเหลือเพียงท่อนบน ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดไหลออกมาจาก ปาก จมูก ตา และ หูทั้งสองข้าง เขามองมาที่ทับทิม พอปากเขาเริ่มขยับก็มีลิ่มเลือดไหลทะลักออกมาเป็นก้อนๆ
“ชะ ช่ ว ย ด้ ว ย”
ในวินาทีนั้น มีแขนมนุษย์ที่ยาวจนผิดรูปร่างออกมาจากเงามืด จับตัวท่อนบนของชายผู้โชคร้ายแล้วลากร่างเขาหายเข้าไปในเงามืด
“ช่วยด้วย!! กูไม่อย่ากตาย!! อ้าก!! ”
เสียงโหยหวนดังมาพร้อมกับเสียงกระชากเนื้อและเสียงเคี้ยวของกระดูก จนมีชิ้นอวัยวะกระเด็นออกมาจากความมืด บางส่วนกระเด็นไปโดนหลังเท้าของทับทิม พอมองไปดีๆ มันคือ ลูกตา ทับทิมถึงกับตัวสั่นเข่าออนล้มพับลงไป เหมือนขาไม่มีแรง ฉี่ราดออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว จนกระทั้งเสียงร้องโหยหวนก็ได้เงียบลง ถูกแทนที่ด้วยเสียงเกลือนอย่างตระกะตระกาม จนมันเริ่มขยับตัวออกมาจากเงามืด เผยให้เห็นร่างเล็กของเด็กผู้หญิงในชุดกระโปรงขาวเปรอะเปื้อนด้วยเลือดและชิ้นเนื้อ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยเลือดหยดลงมาเป็นทาง ผมยาวกระเซอะกระเซิง ปดบังใบหน้าจนเห็นไม่ชัด มันเริ่มเดินข้ามาใกล้ ทับทิมยังตัวสั่นด้วยความกลัว จนมันใกล้พอที่จะก้มลงมายื่นหน้าเข้ามาใกล้เกือบประชิดหน้าทับทิม มันเอามือแหวกผมยาวรกชุ่มไปด้วยเลือดและชิ้นส่วนอวัยวะ เผยให้เห็นใบหน้านั้น ทับทิมถึงกับสะดุ้งโหยงอย่างคนขาดสติ
ทับทิมสะดุ้งตื่นขึ้น!!
พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง ห้องผู้ป่วยพิเศษเตียงเดี่ยว เธอเห็นป้านอนอยู่ข้างๆ เตียง เห็นแม่นอนอยู่บนโซฟา ส่วนอาสาวปูเสื่อนอนพื้นติดกับโซฟาที่แม่นอน ทับทิมเห็นภาพนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจมากที่เดียว
แต่แล้ว เมื่อเธอเหลือบไปที่ปลายเตียง เธอเห็นพลอยยังยื่นนิ่งอยู่ ในแววตาที่ไร้ความรู้สึก จ้องมายังทับทิม จนเธอเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาทันที
แต่แล้วในหน้าของพลอยก็ฉีกยิ้มจนมุมปากฉีกขาดถึงหู เลือดไหลเยิ้มออกมาจากร่องมุมปากที่ฉีกขาด เผยให้เห็นซี่ฟันที่แหลมคม
พลอยพุ่งตัวขย้ำคอทับทิมจนเลือดสาดทั่ว!!
ทับทิมสะดุ้งตื่นอีกครั้ง!? ปรากฏว่ามีบุรุษพยาบาลเอามือสัมผัสที่หน้าฝากเธอ แล้วบอกว่า “เห็นกระสับกระส่าย เหงื่อท่วมตัวเลย พี่กลัวว่าไข้จะขึ้น”
ทับทิมยังนิ่งไม่ตอบอะไรทั้งนั้น จนบุรุษพยาบาลคนนั้นเดินจากไป เธอไม่ได้นิ่งเพราะความงามของบุรุษพยาบาลคนนั้น แต่นิ่งเพราะรู้ว่า ห้องเดี่ยวพิเศษนี้ เธอนอนคนเดียวมาแล้วสามวัน ไม่มีใครเลยมาอยู่เฝ้าไข้เธอ น้ำตาเธอไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว แต่แล้วมืออีกข้างที่อยู่ใต้ผ้าห่มเธอสัมผัสว่า เหมือนมีแผ่นอะไรบ้างอย่างบางอยู่บนมือ พอเธอนำมาดู มันคือภาพวาดเส้นดินสอ
เป็นรูปหน้าของ ‘พลอย’ ที่ยิ้มจนมุมปากฉีกขาดไปถึงหู
.......
หมออนุญาตให้ทับทิมกลับบ้านได้ เธอใช้โทรศัพท์ของโรงพยาบาล โทรให้อาสาวมารับ ในระหว่างที่เธอนั่งรออยู่นั้น เธอมองสมาร์ทโฟนที่หมดสภาพ ทั้งจอแตก ทั้งถูกไฟไหม้จนพลาสติกละลายหลอมรวมกับอุปกรณ์ชิ้นอื่นๆ ภายในเครื่อง เธอได้แต่ทอดถอนหายใจ จนกระทั้งสายตาเธอเห็นตำรวจ ประมาณสิบกว่านาย เดินขวักไขว่เต็มไปหมด
ใกล้ตรงจุดประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาล มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ กำลังยืนคุยกับหมอซึ้งอายุไม่ใช้น้อยแล้ว และคู่ชายหญิงวัยกลางคน ซึ้งเหมือนว่าทับทิมจะรู้จักคู่นั้นดี
ชายหญิงคู่นี้ เขาเป็นคู่สามีภรรยา มีฐานะดี สามีเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง ส่วนภรรยาเป็นแม่บ้านแม่เรือน สองสามีภรรยาคู่นี้พวกเขาไม่ถูกกับคนที่บ้านเธอ เพราะเรื่องการหาเงินเข้าวัด พวกเขาไม่เห็นด้วยที่จะเอาเพชรกับพลอยเข้ามา เหมือนว่าพวกเขาสนทา คร่ำเครียดมาก และสักคู่เหตุการณ์ ไม่คาดคิดเกิดขึ้น อยู่ ดีๆ ผู้เป็นภรรยาเข้ามาทำร้ายร่างกายหมอแก่ๆ คนนั้น ผู้เป็นภรรยาทั้งตบทั้งกระชาก ผู้เป็นสามีพยายามดึงตัวหล่อนออกมา แม้ตำรวจช่วยห้านยื่นขั้นกลางก็ไม่วายถูกหล่อนตบจนหน้าหัน แล้วหล่อนกรีดร้องไห้จนล้มเป็นลมคาที่ทันที แต่ดีที่เป็นสามีรับทัน พยาบาลช่วยกันพยุงผู้เป็นภรรยา
“เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? ”
ทับทิมพรึบพรำ
.......
บรรยากาศภายในรถเงียบมากจนน่าอึดอัดไม่มีใครไถ่ถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น
จนทับทิมที่นั่งเบาะข้างคนขับ กำลังจะอ้าปากพูด จนกระทั้งอาสาวเริ่มเปิดประเด็น
“เป็นไงบ้าง? นอนโรงบาลสบายมั้ย? ”
ทับทิม “เออ..คือ”
แต่เธอยังพูดไม่ทันจบ
“พอรถโรงบาลมา อาก็ไม่ได้ไปดูเรานะ ยุ่งน่ะ พอดีตำรวจมา จึงต้องเป็นพยานให้เขา ตำรวจก็เก่งนะ สืบไปสืบมาก็รู้เลยว่าเป็นพวกชาวบ้านบางกลุ่มที่ไม่พอใจวิธีหาเงินเข้าวัดน่ะ ตอนนี้ก็โดนดำเนินคดีกันหมดแล้วสะใจชะมัด! ”
ทับทิม “แล้วเพชรกับพลอยล่ะคะ? ”
อาสาว “ก็ปลอดภัยดีนะ แม่เอ็งพาน้องๆ กลับบ้านเลยหลังจากเหตุวันนั้นน่ะ”
เมื่ออาสาวขับรถก็ผ่านบ้านของใครคนหนึ่งที่กำลังจัดงานศพ ทันทีก็มีภาพในฝันของชายผู้ถูกฉีกกระชากแว๊บเข้าในห้ว ทับทิมเริ่มกำภาพวาดในมือเธอจนแน่น
อาสาว “เจ้า อุ๊ ลูกผู้ใหญ่บ้าน ที่มันยกพวกปาหินถล่มบ้านพวกเรา แล้วเกิดอุบัติเหตุคืนนั้นน่ะ มันตายเมื่อคืนนี้เองที่โรงบาลเดียวกับเอ็งแหละ...แต่” อาสาวเริ่มทำสีหน้าเครียดขรึม “แต่ ได้ยินว่ามันตายผิดธรรมชาติ เมื่อเช้าพอพยาบาลเข้ามาในห้องก็เห็นร่างของมันกลายเป็นศพชิ้นส่วนกระจักจายเละไปหมด! สยองมาก! ”
แล้วอาสาวก็ยังเล่าต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้เข้าหูทับทิมอีกแล้ว ในหัวเธอกำลังเชื่อมต่อระหว่างฝันกับสถานะการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้
'อุ๊' ตายแล้ว...ทับทิมรู้ดี นี่มันไม่ใช่แค่ความฝันอีกแล้ว
TBC