รหัสลับรัตติกาล ตอนที่ 11

กระทู้สนทนา
G.K.Line

          11.

          ติ๊งต่อง

          บรรพตแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตู เพราะนานมากแล้วที่เขาไม่เคยมีแขกมาเยี่ยมเยียนถึงบ้าน แต่เมื่อมองผ่านกรอบหน้าต่างของห้องนอนบนชั้นสองออกไปเขาก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก นั่นเพราะแขกผู้มาเยือนในเช้านี้คือชายชราผู้เต็มไปด้วยความลับเพื่อนข้างบ้านของเขานั่นเอง

                หากให้ลองเดาเล่นๆ ว่าจะเป็นแขกคนไหนที่มาเยี่ยมเยือนกันถึงที่พักแล้วละก็ ชายชราที่ชื่อสมานคงจะเป็นคนสุดท้ายที่อดีตนายแพทย์นึกถึง

                ตั้งแต่คืนแสนหวานที่กลับกลายเป็นคืนวิปโยคคืนนั้นแล้ว บรรพตไม่เคยพบกับเพียงพลอยอีกเลย ไม่ใช่ว่าคุณสมานพ่อของเธอจะไม่ยอมให้พบกัน และยิ่งไม่ใช่ว่าเด็กสาวไม่อยากพบเขา แต่กลับเป็นเขาเองต่างหากที่เอาแต่หลบหน้าเธอ

                หลายต่อหลายคืนที่เขาลอบมองออกไปยังสวนหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน เพียงพลอยยังคงยืนอยู่ที่เดิมราวกับกำลังรอคอยใครอยู่ ไม่ได้เป็นการคิดแบบเข้าข้างตัวเอง แต่บรรพตมั่นใจว่าเธอกำลังรอเขา สีหน้าหม่นหมองอมทุกข์ทำให้เธอยิ่งดูซีดเซียวไร้ชีวิตชีวาหนักขึ้นไปอีก

                เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเธอแล้ว ด้วยความห่วงหาอาทร หลายครั้งที่ใจหนึ่งของบรรพตอยากจะลงไปหา ไปปลอบใจเธอ แต่อีกใจหนึ่งกลับห้ามเอาไว้และคอยบอกย้ำว่าเธอคือคนที่ทำให้ยุพาต้องตาย อดีตนายแพทย์ไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังเป็นอะไรไปหรือคิดอะไรอยู่กันแน่

                มันคือความทรมานรูปแบบหนึ่งของความรัก เขาเพียงไม่แน่ใจทั้งยังกำลังรู้สึกถึงความไม่แน่นอนและไม่ปลอดภัยอีกด้วย หรือบางทีมันอาจเป็นกรรมตามสนองที่เขาคิดปันใจให้กับหญิงอื่น

                หลังเหตุการณ์ที่เพียงพลอยคลุ้มคลั่งจนเหมือนกับไม่ใช่คนเดิม เขาได้ยินเสียงแปลกๆ ดังแว่วมาจากที่ไหนสักแห่งติดต่อกันหลายคืนก่อนที่เสียงนั้นจะเงียบหายไป ซึ่งเขาเดาเอาว่าต้นเสียงอาจจะมาจากบ้านของเพื่อนบ้านผู้เก็บตัวนั่นเอง

                เสียงเบาหวิวนั้นคล้ายเสียงร้อง แต่เมื่อลองตั้งใจฟังดูดีๆ ก็เหมือนจะไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะมันให้ความรู้สึกโหยหวนและทรมานแสนสาหัสจนเกินกว่าจะเป็นเสียงร้องปกติ เป็นเสียงที่ยิ่งกว่าความเจ็บปวดของบรรดาผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เขาเคยได้ยินเป็นไหนๆ  

                ชายชราอาจโมโหมากที่ลูกสาวของตนเองขัดคำสั่งจนถึงขนาดลงไม้ลงมือทุบตี หรือไม่ก็ทรมานเธอ

                เรื่องแบบนี้แค่คิดเล่นๆ ก็ไม่ควรแล้ว เพราะไม่มีทางเป็นไปได้ แววตาเกรี้ยวกราดแฝงความรู้สึกปวดร้าวลึกของชายชราที่มองมายังเขาในคืนที่เพียงพลอยผิดปกตินั้นบอกได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าเขารักลูกสาวมากเพียงใด

                คุณสมานคงโกรธเกลียดเขาจนแทบกระอักเลือดเลยทีเดียวที่ไปทำให้เธอต้องเป็นแบบนั้น และก็คงจะเจ็บปวดทรมานใจมากที่เห็นลูกสาวต้องทนทุกข์ทรมานแสนสาหัส ดวงตาแบบนั้นชัดเจนปราศจากการเสแสร้งปั้นแต่งใดๆ จนแม้แต่คนอย่างเขายังดูออก

                ชายชรายังคงยืนรอด้วยท่าทางสงบอยู่นอกประตูรั้ว บรรพตซึ่งลอบมองดูอยู่ครู่หนึ่งกำลังชั่งใจว่าจะลงไปพบดีหรือไม่ เพื่อนบ้านชรามาหาตนแต่เช้าตรู่ทำไม ถ้าจะให้ลองเดาดู คำตอบง่ายๆ ก็น่าจะเป็นเรื่องของเพียงพลอยนั่นล่ะ และหากเป็นเรื่องของเด็กสาวก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของคืนเกิดเหตุ
 
                สมานอาจมาตำหนิต่อว่าต่อขาน หรือถึงขนาดจะห้ามไม่ให้เขามายุ่มย่ามพบปะกับลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของแก แต่เรื่องนั้นก็ผ่านมานานกว่าสองสัปดาห์แล้ว คงแปลกอยู่ไม่น้อยที่ชายชราเพิ่งคิดจะมาถือสาหาความเอาตอนนี้

                ถ้าอย่างนั้นเพื่อนบ้านผู้นี้มาทำไม เป็นไปได้ว่าอาจเพิ่งเกิดอะไรขึ้น หรือว่าเพียงพลอยเกิดเป็นอะไรไป

                พอคิดมาถึงตรงนี้ บรรพตก็รู้สึกใจหายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เขาผลุนผลันลุกขึ้นสาวเท้ายาวๆ ออกไปต้อนรับผู้มาเยือนอย่างร้อนใจ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันที่วิตกกังวลเรื่องของเพียงพลอยมากมาย ทั้งที่คิดว่าจะหยุดความสัมพันธ์กับเธอไว้เพียงเท่านี้ เขากำลังจะปันใจออกห่างจากยุพาอีกครั้งหนึ่งแล้วหรืออย่างไร

                ใช่...เขากำลังจะทำอีกครั้ง หากไม่หลอกตัวเองแล้วละก็ เขากำลังคิดแบบนั้นจริงๆ

                “สวัสดีครับ คุณสมาน ขอโทษที่ออกมาช้า บังเอิญว่า...”

                “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจคุณ หากผมเป็นคุณก็คงลังเลที่จะออกมาต้อนรับเหมือนกันนั่นละ”

                ไม่รอให้อดีตนายแพทย์พูดแก้ตัวให้จบ ชายชราชิงสรุปให้อย่างตรงไปตรงมา ซึ่งทำเอาคู่สนทนาหน้าเผือดสีไปเล็กน้อย

                “ว่าแต่ คุณสมานมีอะไรหรือเปล่าถึงมาหาผมแต่เช้า เจ็บป่วยหรือไม่สบายตรงไหนครับ เอ้อ เข้ามาก่อนสิครับ ผมจะได้ดูอาการให้” 

                คราวนี้เป็นชายชราบ้างที่หน้าสลดลงไป สีหน้าอมทุกข์ของเขาเหมือนมีเรื่องหนักใจและราวกับว่าจะต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างให้เด็ดขาด

                “หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับพลอย พลอยไม่สบายเหรอครับ”

                บรรพตโพล่งถามขึ้นมาสังเกตจากอากัปกิริยาแล้ว ชายชราน่าจะยังเป็นปกติดี ถ้าเช่นนั้นคนที่ไม่ปกติก็น่าจะเป็นเด็กสาวอย่างที่เขานึกสังหรณ์ใจพอได้ยินคำถามนั้นของอดีตนายแพทย์ เจ้าของใบหน้าเศร้าหมองกลับยิ่งดูเศร้าสร้อยขึ้นเหลือกำลัง และนั่นก็เป็นคำตอบที่ช่วยยืนยันแล้วว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอจริงๆ

                “ใช่ครับ พลอยไม่สบาย” ตอบสั้นๆ เพียงแค่นั้นแล้วก็เงียบไปอีก

                “เธอเป็นอะไรครับ แล้วตอนนี้อาการเป็นยังไงบ้าง” อดีตนายแพทย์ร้อนใจมากขึ้นที่ได้ยินดังนั้น

                “อาการพลอยไม่ค่อยดี ผมอยากให้คุณหมอไปดูเธอหน่อยน่ะครับ เผื่อว่าจะทำให้พลอยดีขึ้นมาบ้าง สักนิดก็ยังดี”

                ไม่รอช้าและไม่เหลือความลังเลอะไรอีกแล้ว บรรพตจัดแจงเปิดประตูรั้วบ้านตัวเองแล้วออกเดินตามชายชราไปยังบ้านของสองพ่อลูกเพื่อดูอาการของเพียงพลอย 

                เมื่อพ้นประตูบ้านเข้ามา อดีตนายแพทย์ก็ลอบมองบรรยากาศในบ้านของสมาน เขาสังเกตเห็นว่าบ้านหลังนี้มีข้าวของเครื่องใช้อยู่น้อยชิ้น ไม่มีทั้งโทรทัศน์และเครื่องเสียง ตลอดจนสิ่งให้ความบันเทิงอื่นใด 

                แต่ที่สะดุดตาที่สุดคงจะเป็นหน้าต่างและช่องแสงของบ้านหลังนี้ ซึ่งถูกปิดเอาไว้ด้วยกระดาษหนาและม่านทึบหลายชั้น ราวกับว่าผู้อาศัยไม่ต้องการให้มีแสงจากภายนอกเล็ดรอดเข้ามาถึงข้างในนี้ได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม และนั่นทำให้บ้านนี้ดูมืดทึบชวนอึดอัด อีกทั้งยังน่าหวาดหวั่นดูไม่น่าไว้ใจอย่างช่วยไม่ได้

                ห้องของเด็กสาวอยู่ชั้นบน ประตูห้องปิดสนิท ชายชราเคาะประตูตามมารยาทแต่ไร้การตอบสนอง ข้างในยังคงเงียบกริบราวกับไม่มีใครอยู่

                “พลอยอยู่ในห้องนี้ละครับ รบกวนคุณหมอเข้าไปหาเธอที”

                บรรพตแง้มประตูออกโดยพลการ สายตาพยายามสอดส่องเข้าไปสำรวจภายใน แต่ด้วยความที่ห้องนี้ก็ขาดแคลนแสงเช่นกันทำให้เขามองอะไรได้ไม่ถนัดนัก ชายหนุ่มก้าวเท้าเข้าไปในห้องด้วยความระมัดระวังโดยมีชายชรายืนคอยอยู่ด้านนอก พอพ้นประตูเข้าไปบานประตูก็งับปิดลงไล่หลังเขาทันที

          อดีตนายแพทย์ตกใจ รีบบิดลูกบิดประตูและแง้มเปิดดู และแล้วก็ใจชื้นขึ้นเมื่อปรากฏว่ามันไม่ได้ถูกล็อค บรรพตคลายใจลงหันกลับไปเพ่งกวาดสายตาตามเดิม และในห้องนั้นเองเขาก็พบเข้ากับเงาร่างเล็กซึ่งนั่งอยู่บนเตียงนอน

                ด้วยความมืดทำให้ไม่แน่ใจว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเป็นใคร เงาร่างนั้นนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับไม่รู้ตัวว่ามีคนอื่นเข้ามาในห้อง

                “พลอย”

                เขาลองเรียกชื่อเธอดูเพราะคิดว่านี่เป็นห้องของเด็กสาว เพราะฉะนั้นผู้ที่นั่งอยู่บนเตียงก็น่าจะเป็นเธอ ทันทีที่เปล่งเสียงเรียกก็มีปฏิกิริยาตอบรับ เงาร่างนั้นจะสะดุ้งขึ้นเล็กน้อยก่อนจะหันมองมาทางเขาซึ่งเป็นต้นเสียงทันควัน

                “พี่พต”

                ชายหนุ่มแอบถอนหายใจยาว นึกโล่งอกที่คนบนเตียงเป็นเพียงพลอยจริงๆ เพราะหากให้พูดกันตรงๆ เขาเองก็ยังไม่ไว้ใจคุณสมาน แล้วก็ยิ่งไม่ไว้ใจบรรยากาศในบ้านหลังนี้เป็นที่สุด

                ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อร่างน้อยบนเตียงก็โผเข้ากอดเขาแบบไม่ทันให้ตั้งตัว เธอซบหน้าลงกับอกของคนที่เพิ่งเข้ามาหา แรงสะอื้นทำให้รู้ได้ว่าเธอกำลังร้องไห้อยู่

                “พลอย พลอยเป็นอะไรไป...”

                น้ำเสียงที่ถามเจือไปด้วยความห่วงใย เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะยกมือขึ้นโอบกอดร่างเด็กสาวเอาไว้เช่นกัน

                “พี่พตเกลียดพลอยแล้วใช่ไหมคะ พลอยขอโทษที่ทำอะไรไม่ดีในคืนนั้น พลอยไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป อย่าเกลียดพลอยเลยนะคะ”

                เด็กสาวละล่ำละลักบอกเป็นชุดแทบไม่หายใจหายคอ ราวกับไม่ได้พูดกับใครมานาน เสียงสะอื้นไห้ดังหนักกว่าเก่าอย่างสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ชายหนุ่มรู้สึกสลด ปวดร้าวอยู่ลึกๆ ในใจที่เป็นต้นเหตุให้เพียงพลอยต้องมาเป็นแบบนี้

                “ไม่เป็นไรแล้วนะ นิ่งซะเถอะ พี่ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรพลอยเลย พี่แค่สับสนนิดหน่อย แต่ตอนนี้พี่เข้าใจดีแล้ว พลอยไม่ต้องกลัวไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น พี่จะอยู่ข้างๆ พลอยเอง” วงแขนกระชับร่างเล็กให้แน่นเข้า ลูบศีรษะผู้อยู่ในอ้อมกอดอย่างทะนุถนอมราวกับกลัวว่าเธอจะแตกหัก

                “จริงนะ จริงๆ นะคะพี่พต” ร่างน้อยเงยหน้าขึ้นวิงวอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่