เคยไหม? ขับรถแล้วมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ทัน มือเท้าชา หรือบางครั้งก็รู้สึกไม่มั่นใจ ตื่นตระหนกขณะขับรถ ควบคุมตัวเองไม่ได้ นี่แหละ! เป็นอาการของคนเป็นโรคแพนิค! ฉะนั้นให้ลองสังเกตตัวเองให้ดี เพราะในผู้ป่วยบางรายที่เป็นโรคแพนิคก็ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น ในบางรายมีอาการถึงขั้นกลัวการขับรถไปเลยก็มีมาแล้ว แต่เพื่อการขับขี่รถที่ปลอดภัย เราแนะนำให้ลองทำตามวิธีด้านล่างดู เผื่อจะดีขึ้นก็ได้นะ
อาการแพนิค หรือโรคแพนิค คืออะไร
โรคแพนิค หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก รวมถึงผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าอาการที่แสดงออกมา นั้นคืออาการของโรคแพนิคนั่นเอง โรคนี้เนี่ยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เริ่มต้นอายุตั้งแต่ 15-19ปี และในวัยผู้ใหญ่มีมากถึงร้อยละ 18 เลยทีเดียว
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคนี้มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในอัตราส่วน 2:1 เลยนะ
สาเหตุของการเกิดโรคแพนิค
สาเหตุของโรคแพนิคนั้น ยังไม่อาจทราบแน่ชัดได้ แต่สามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ดังนี้
- ทางร่างกาย
อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวทำงานผิดปกติ เมื่อสมองถูกกระตุ้นเพียงเล็กน้อย จึงทำให้เกิดพฤติกรรม ความคิดที่ผิดปกติ และส่งผลไปสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายส่วนอื่นด้วย ยังไม่พอ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น กรรมพันธุ์ การใช้สารเสพติด และฮอร์โมนที่ผิดปกติด้วยที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดโรคแพนิคขึ้นมา
- ทางจิตใจ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตมาก่อน คุณอาจเป็นโรคแพนิคได้ไม่ยากเลย เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นอาจทำให้สารเคมีในสมองเสียสมดุลได้ ยิ่งอายุน้อยยิ่งมีโอกาสเป็นโรคแพนิคได้ง่ายเลยครับ
ทำอย่างไรเมื่อมีอาการแพนิค ขณะขับรถ
อาการกลัวการขับรถที่หลายคนเป็นกัน โดยเฉพาะมือใหม่ เช่น กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ไม่กล้าตัดสินใจเหยียบคันเร่ง วิตกกังวลเมื่อมีรถมาขนาบข้าง ถึงกลับต้องหยุดรถกะทันหัน หรือบางรายกลัวการขับรถขึ้นเนิน ขึ้นสะพาน อาจจะมีอาการประหม่าบ้าง
วิธีที่ช่วยแก้อาการกลัวเหล่านี้คือ
- ฟังเพลงขณะขับรถ
เพลงสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในรถ ช่วยควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกของเราได้ดี มีผลการวิจัยรองรับแล้วว่าการฟังเพลงที่มีจังหวะเบาสบายจะช่วยลดอัตราการเกิดอาการแพนิค หรืออาการกลัวได้
- ฝึกหายใจ
ฝึกหายใจเข้า-ออกทางจมูก โดยหายใจเข้าจนเต็มปอด และปล่อยลมออกอย่างช้า ๆ จนเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ทำสลับไปมาหลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น การฝึกหายใจแบบนี้ จะช่วยลดความอึดอัดในลำคอ และช่องท้องได้เป็นอย่างดี
- ไม่ขับรถเร็ว
เพราะการขับรถเร็วจะทำให้ระบบประสาทอยู่ในสภาวะตื่นตัวตลอดเวลา แถมยังทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าเดิม สภาวะดังกล่าวนี้ถือเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการแพนิคได้ดีเลยทีเดียว
- พกของหวาน หรือลูกอมติดรถไว้
ผลการวิจัยเปิดเผยว่า เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาล จะส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการกังวล ฉะนั้นมีติดรถไว้บ้างก็ดีนะ
- ยิ่งกลัว ยิ่งต้องขับ
หากเราบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ขับรถ นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องขับเลยล่ะ เนื่องจากการหยุดขับรถเป็นเวลานาน อาจทำให้กลัวการขับรถมากกว่าเดิม ฉะนั้นการหมั่นขับรถบ่อย ๆ ถือเป็นการฝึกความชำนาญไปในตัว อาจเริ่มจากเส้นทางที่เราคุ้นเคยก่อนก็ได้ รับรองว่าอาการแพนิคจะลดลงไปเอง
จริง ๆ แล้วเนี่ย อาการแพนิคก็ดูไม่น่ากลัวขนาดนั้นนะ ขอแค่เราขับขี่อย่างมีสติ และตระหนักในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และยิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับข้อมูลที่บอกไปนี้ หากลองทำตามวิธีเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นะทุกคน
แต่!! สำคัญยิ่งกว่าการขับรถปลอดภัยไม่แพนิคแล้ว เราต้องรอบคอบทำประกันภัยรถยนต์ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ยังมีประกันคุ้มครองให้อุ่นใจอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่หลายคนต้องมีนั่นเอง หากใครยังไม่มีตัวเลือกในใจ ลองเข้ามาเช็กราคาที่นี่ก่อนได้
www.directasia.co.th ด้วยความหวังดีจาก ไดเร็ค เอเชีย อยากให้ทุกคนขับรถรถยนต์ได้อย่างมั่นใจ
แหล่งข้อมูล: คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย
ใครเคยเป็นบ้าง มีอาการแพนิคตอนขับรถ ต้องแก้อย่างไร?
โรคแพนิค หรือโรคตื่นตระหนก เป็นโรคทางจิตเวชชนิดหนึ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก รวมถึงผู้ป่วยมักไม่รู้ตัวว่าอาการที่แสดงออกมา นั้นคืออาการของโรคแพนิคนั่นเอง โรคนี้เนี่ยสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในเด็ก และผู้ใหญ่ เริ่มต้นอายุตั้งแต่ 15-19ปี และในวัยผู้ใหญ่มีมากถึงร้อยละ 18 เลยทีเดียว
ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นโรคนี้มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายในอัตราส่วน 2:1 เลยนะ
สาเหตุของการเกิดโรคแพนิค
สาเหตุของโรคแพนิคนั้น ยังไม่อาจทราบแน่ชัดได้ แต่สามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ ดังนี้
- ทางร่างกาย
อาจเกิดจากสมองส่วนควบคุมความกลัวทำงานผิดปกติ เมื่อสมองถูกกระตุ้นเพียงเล็กน้อย จึงทำให้เกิดพฤติกรรม ความคิดที่ผิดปกติ และส่งผลไปสู่การทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายส่วนอื่นด้วย ยังไม่พอ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่น กรรมพันธุ์ การใช้สารเสพติด และฮอร์โมนที่ผิดปกติด้วยที่เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกิดโรคแพนิคขึ้นมา
- ทางจิตใจ
หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตมาก่อน คุณอาจเป็นโรคแพนิคได้ไม่ยากเลย เพราะเหตุการณ์เหล่านั้นอาจทำให้สารเคมีในสมองเสียสมดุลได้ ยิ่งอายุน้อยยิ่งมีโอกาสเป็นโรคแพนิคได้ง่ายเลยครับ
ทำอย่างไรเมื่อมีอาการแพนิค ขณะขับรถ
อาการกลัวการขับรถที่หลายคนเป็นกัน โดยเฉพาะมือใหม่ เช่น กลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ ไม่กล้าตัดสินใจเหยียบคันเร่ง วิตกกังวลเมื่อมีรถมาขนาบข้าง ถึงกลับต้องหยุดรถกะทันหัน หรือบางรายกลัวการขับรถขึ้นเนิน ขึ้นสะพาน อาจจะมีอาการประหม่าบ้าง
วิธีที่ช่วยแก้อาการกลัวเหล่านี้คือ
- ฟังเพลงขณะขับรถ
เพลงสามารถสร้างบรรยากาศที่ดีในรถ ช่วยควบคุมอารมณ์ และความรู้สึกของเราได้ดี มีผลการวิจัยรองรับแล้วว่าการฟังเพลงที่มีจังหวะเบาสบายจะช่วยลดอัตราการเกิดอาการแพนิค หรืออาการกลัวได้
- ฝึกหายใจ
ฝึกหายใจเข้า-ออกทางจมูก โดยหายใจเข้าจนเต็มปอด และปล่อยลมออกอย่างช้า ๆ จนเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย ทำสลับไปมาหลาย ๆ ครั้งจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้น การฝึกหายใจแบบนี้ จะช่วยลดความอึดอัดในลำคอ และช่องท้องได้เป็นอย่างดี
- ไม่ขับรถเร็ว
เพราะการขับรถเร็วจะทำให้ระบบประสาทอยู่ในสภาวะตื่นตัวตลอดเวลา แถมยังทำให้เราต้องใช้สายตามากกว่าเดิม สภาวะดังกล่าวนี้ถือเป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดอาการแพนิคได้ดีเลยทีเดียว
- พกของหวาน หรือลูกอมติดรถไว้
ผลการวิจัยเปิดเผยว่า เมื่อร่างกายได้รับน้ำตาล จะส่งผลให้รู้สึกผ่อนคลาย และลดอาการกังวล ฉะนั้นมีติดรถไว้บ้างก็ดีนะ
- ยิ่งกลัว ยิ่งต้องขับ
หากเราบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ขับรถ นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่ เพราะยิ่งกังวลมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องขับเลยล่ะ เนื่องจากการหยุดขับรถเป็นเวลานาน อาจทำให้กลัวการขับรถมากกว่าเดิม ฉะนั้นการหมั่นขับรถบ่อย ๆ ถือเป็นการฝึกความชำนาญไปในตัว อาจเริ่มจากเส้นทางที่เราคุ้นเคยก่อนก็ได้ รับรองว่าอาการแพนิคจะลดลงไปเอง
จริง ๆ แล้วเนี่ย อาการแพนิคก็ดูไม่น่ากลัวขนาดนั้นนะ ขอแค่เราขับขี่อย่างมีสติ และตระหนักในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่เสมอ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด และยิ่งรู้ตัวว่าตัวเองมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับข้อมูลที่บอกไปนี้ หากลองทำตามวิธีเบื้องต้นแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่นะทุกคน
แต่!! สำคัญยิ่งกว่าการขับรถปลอดภัยไม่แพนิคแล้ว เราต้องรอบคอบทำประกันภัยรถยนต์ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ยังมีประกันคุ้มครองให้อุ่นใจอยู่เสมอ เป็นสิ่งที่หลายคนต้องมีนั่นเอง หากใครยังไม่มีตัวเลือกในใจ ลองเข้ามาเช็กราคาที่นี่ก่อนได้ www.directasia.co.th ด้วยความหวังดีจาก ไดเร็ค เอเชีย อยากให้ทุกคนขับรถรถยนต์ได้อย่างมั่นใจ
แหล่งข้อมูล: คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย