หมาขนสีนวลหน้ามอม กำลังกินอาหารในจานของมันอย่างเอร็ดอร่อย เมนูของมันวันนี้เป็นข้าวต้มกระดูกหมู แล้วมีหนังติดมัน ล้วนๆ ก้อนใหญ่ๆ มันกินจนหมดอย่างตระกะตระกามเอาลิ้นเลียจานจนเลื่อม เมื่อมันอิ่มก็เดินจากไป
ทับทิมที่ยื่นอยู่ตรงนั้นรอเจ้าหมาเดินจากไปจนพ้นสายตา เธอไปหยิบจานของหมาตัวนั้นมา แล้วเดินไปตักอาหารหม้อต้นหรับหมาจนเต็มจาน แล้วก็ไปนั่งที่ลับตาคน เธอใช้มือจกข้าวต้มกระดูกเข้าปากเคี้ยวแป๊บเดียวแล้วรีบกลืนลงคอ
จนมีชายโสร่งแดงเดินเข้ามาหาทับทิม เข้าย่อตัวอยู่ท่ายามสามขุม เขามองที่ทับทิมนัยน์ตายากที่อ่านความรู้สึก
“ใครให้กินเหรอ?” เขาถาม
“แม่” ทับทิมตอบ
“ทำไมล่ะ?”
“ทำจานน้องแตก”
ชายโสร่งแดงพอได้ฟังตอบนี้ เขายิ้มอย่างพอใจแล้วก็....
โครม!!
จานหมาบนมือทับทิมถูกชายโสร่งแดงคนนั้นปัดจนกระเด็ดไปกระแทรกพื้นกระจักกระจายเต็มไปหมด
....!
“พี่ทับทิม!!”
ทับทิมสะดุ้งเมื่อได้ยินผู้น้องสาวเรียก ทำให้เธอหลุดออกจากพวัง เธอจึงมองน้องสาวที่ยืนจ้องเธออยู่ และชายโสร่งแดงคนนั้นหายไปไหนอีกแล้ว....
“หนูจะพ้องแม่ว่าพี่ไม่ทำตาม!!” แล้วพลอยก็วิ่งไปทันที
“เดี๋ยว!!” ทับทิมรีบลุกขึ้นวิ่งไล่ตามพลอยไป
“หนูจะพ้องแม่ให้หมดเล้ย!! แม่จะได้ลงโทษพี่ ทุกๆ วัน” พลอยมัวแต่วิ่งหันกลับไปขู่ทับทิมที่ตามหลังตน จนไม่ทันดูทางข้างหน้า ไปชนคนที่ยืนขวางเธอไว้ แต่พลอยไม่ล้มหรือเซไปทางใดทั้งสิ้น เธอตัวตรงแข็งทื่อ แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังให้ออกห่างคนที่ยืนขวางเธอตรงหน้า
“พี่เพชรหลีกไป! หนูจะไปหาแม่!!” พลอยตระคอก
ขณะเดียวกันทับทิมก็วิ่งตามพลอยทัน คว้าแขนเธอไว้จากด้านหลังเพื่อจะหยุดพลอยไม่ให้ไปพ้องแม่
ผัวะ!!
หน้าของทับทิมหันไปอีกทางด้วยแรงตบ เธอมองไปยังคนที่ตบก่อนที่ร่างคะมำลงพื้น
“อย่ามาแตะตัวกู
!” พลอยพูดอย่างเกี้ยวกราดบรรยากาศ รอบ ๆ เริ่มบิดเบี้ยวและมืดลงยิ่งกว่าคืนเดือนมืด แต่ไม่ถึงนาที ทุกอย่างก็กับมาสู่สภาพเดิม แล้วพลอยมองไปที่หน้าต่างของบ้าน เธอเห็นรถแม่ขับออกไปแล้ว
พลอยจึงก้าวขาข้ามตัวทับทิม เดินเข้าไปในห้องของแม่อย่างสงบ
หลังจากนั้นเพชรก็พยุงตัวทับทิมขึ้นมานั่งที่โซฟาไม้
ทับทิม “ไม่เป็น พี่คงจับพลอยแรงไปหน่อย”
“พี่ทับทิม” เพชรเข้ามาจับมือ
เธอมองนัยน์ตาของเพชรรู้ทันที่ว่าน้องชายกำลังปลอบเธอ จนกระทั้งมีเสียงไอแห้งๆ ของยายดังขึ้นมาจากห้องนอน
“ป้ากับอาล่ะ ไปไหมกันหมด?” เธอเปลี่ยนเรื่องถาม
เพชร “ป้า กับ อา ไปช่วยงานที่วัด”
ทับทิม “อื้ม...อีกไม่กี่วันจะถึงงานวัดแล้ว ไปพักเถอะ”
ทับทิมลุกออกจากโซฟาไม้ เดินเข้าไปที่ครัว หยิบเครื่องในสดๆ จากตู้เย็นมาใส่ที่ชาม แล้วจึงเดินเข้าไปหายายที่ห้องนอน
นี่ก็สายมากแล้วยังไม่มีใครกลับมาจากวัด ส่วนเพชรเข้าไปที่ห้องของแม่แล้ว มีเพียงทับทิม นั่งเล่นสมาร์ทโฟน ส่องโซเซียล คราวนี้เธอหงุดหงิดมาก หาโพสในวันนั้นไม่เจอ ทั้งๆ ที่เธอไปค้นที่โปรไฟล์คนที่แอดไว้ ก็ไม่เจอ หรือมันถูก ลบแล้วเหรอ?
กระทั่งมีกล่องข้อความเด้งมาใน Inbox เธอจึงเช็คเข้าไปดู ปรากฏว่าเป็นเพื่อนสมัยที่เคยเรียนประถมด้วยกันโดยมีข้อความว่า
“..ว่างป่ะ? มาช่วยพวกกูได้มั้ย?”
ที่วัดแห่งนี้พอมีงานประจำปี จากวัดที่เงียบเหงายามมืด บัดนี้เต็มไปด้วยโคมไฟสีส้มยาวห้อยระย้าแสงนวลตาไปเกี่ยวกิ่งไม้ใหญ่ไปเกี่ยวกับเสาต่างๆ ดูเป็นเส้นทางสว่างไสว
จากนี้ยังมีซุ้มของร้านค้าอาหารที่ทำสดๆ หรือซุ้มขายของไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหนังแผ่นหรือเพลงรวมถึงของเก่าพระเก่าๆ ก็ยังมี
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ งานมหรสพอย่างลิเกจะมีแม่ยกมาจองพื้นที่ไวปูเสื่ออยู่ด้านหน้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินเลย เพื่อจะได้ชมพระเอกหล่อๆ กว่าจะออกมาก็ปาไปเกือบกลางเรื่องแล้วด้วยซ้ำ
มีซุ้มที่จัดให้พิเศษแห่งหนึ่งมีคนล้อมรอบจนแน่นตา
อาสาวเดินออกมาซุ้มนั้น เพื่อจัดให้ทุกคนเข้าแถวให้เรียบร้อย จดให้แถวแคบที่สุดเพื่อไม่ให้ไปกินพื้นที่ทางเดินของผู้ที่มาร่วมงาน..ใช่แล้วซุ้มนี้เป็นซุ้มของ เพชรกับพลอย ซึ่งพวกเขาแต่งชุดไทยสวยๆ อลังการเป็นพิเศษ ส่วนแม่ก็กลับทันตั้งแต่เย็น นำชานมเย็นที่ป้าต้มเป็นหม้อๆ ไว้แต่บ่ายแก่ๆ มานั่งบนเตาและมีถังแก๊สเสียบพ่วงอยู่ 3 ชุด มาวางไว้ที่ซุ้ม ให้อุ่นเพื่อเลี้ยงชาวบ้านจากทุกสารทิศที่มาขอพร ส่วนอาสาวเปิดไมค์เหมือนเวทีกลางแจ้ง เชิญชวนให้ชาวบ้าน มาขอพรที่ซุ้มเพชรกับพลอยอย่างยิ่งใหญ่กว่าซุ้มใดๆ
ทั้งแม่และอาสาวช่วยกันอย่างขะมักเขม้นมีเพียงป้าเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ด้วยเพราะตกเย็นยายมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจึงต้องพาไปที่โรงพยาบาลเร่งด่วน
ส่วนทับทิมเป็นอาสาสมัคร อยู่ซุ้มเครื่องไทยธรรมที่ตั้งตรงข้ามกับซุ้มของเพชรกับพลอย ในซุ้มไทยธรรมมีอาสาสมัคร ประจำอยู่ 3 คน รวมตัวทับทิมด้วย และมีแม่ชีแก่ๆ อีก 1 คน ในซุ้มจะมีเครื่องไทยธรรมและชุดดอกไท้ธูปเทียนหอมๆ จัดไว้บนโต๊ะ 2 ตัวต่อกัน ด้านหนึ่งจะมีแม่ชีแก่ๆ คอยดูแล ส่วนอีกด้านก็เป็นทับทิมมีหน้าที่ยื่นดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทอง แก่ผู้ที่จะเข้าบูชา พระพุทธรูปในโบสถ์
ไม่นานมีชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาที่ซุ้มไทยธรรม เข้ามาคว้าดอกไม้ธูปเทียนชุดหนึ่ง แม่ชีแก่ๆ ในชุดขาวเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า
แม่ชีแก่ๆ “เดี๋ยวก่อนคุณ...ร่วมบุญยังคะ?”
ชาวบ้าน “ยังจ่ะแม่ ฉันไม่ค่อยมีปัจจัยล่ะจ่ะ”
แม่ชีแก่ๆ “ไม่ได้นะ..คุณต้องร่วมบุญก่อน”
ชาวบ้าน “เท่าไรจ๊ะ”
แม่ชีแก่ๆ “ชุดล่ะ 20 บาทค่ะ”
ชาวบ้าน “ฉันมีติดตัวอยู่ 10 บาท แต่ฉันศรัทธานะแม่”
แม่ชีแก่ๆ “ไม่ได้..ยี่สิบก็ต้องยี่สิบ”
ชาวบ้านคนนั้นนิ่งไป แล้วจึงรีบวางดอกไม้ธูปเทียนทันที แล้วจึงรีบเดินหนีไปยังซุ้มเพชรกับพลอยที่คนเยอะและแน่นตากว่ามาก
อาสาสมัคร 1 ซึ่งกำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟน “เฮ้อ.. ทำไมไม่เห็นใครมาซุ้มเราเลย มีแต่คนแห่ไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซุ้มแม่เธอแหละ”
ทับทิมก็ได้แต่เล่นสมาร์ทโฟนยังไม่โต้ตอบอะไรกับเพื่อนที่ถามเธอ
อาสาสมัคร 1 “ว่าแต่เหอะทับทิม เป็นไงบ้างวะ ตั้งแต่จบประถมไปเรียนต่อที่เมืองหลวงน่ะ กูเห็นเงียบไปต้องหลายเดือนพอทักอะไรก็ไม่ตอบ แต่มาตอนนี้ตอบไวจัง”
ทับทิมตอบขณะสายตาและมือยังกดข้อความที่สมาร์ทโฟนอยู่ “ก็ดีนะ”
อาสาสมัคร 2 “ทับทิมกูก็ไม่ได้
เรื่องครอบครัวหรอกนะ..กูสงสัยอ่ะ..ยายที่บ้านเป็นปอบหรือเปล่าวะ..วันก่อนน่ะ.ก็มากินไก่ที่บ้านกู”
ทับทิมได้แต่นั่งเงียบ
อาสาสมัคร 1 “เฮ้ย!! เพื่อนไม่ได้เจอกันนาน ถามอะไรอย่างนั้นวะ”
อาสาสมัคร 2 “เอ้า!! กูสงสัย? ผิดด้วยหรอวะ..อีกอย่างนึงนะบ้านกูกลับบ้านยายทับทิมอ่ะ ห่างกันตั้ง 2 โลฯ ยายแกยังเดินมาได้เองทั้งๆ ที่ไม่น่าจะลุกมาได้แล้วอ่ะ แล้วยายอ่ะตอนดึกอ่ะยังนอนอยู่ไหม”
ทับทิม “ก็นอนปกตินะ ถ้าจะมาถามแบบนี้อย่าถามเลยดีกว่านะ”
อาสาสมัคร 2 “กูขอโทษว่ะ กูก็เสียดาย พ่อกูซื้อพ่อพันธุ์ไก่คู่ละ 30,000 อ่ะ”
ทับทิม “เสียใจด้วย”
อาสาสมัคร 2 “เออจะว่าไป ซุ้มนี้ไม่มีค่อยมีคนมาหรอก พวกกูสองคนก็ไหวอยู่นะ ไปช่วยแม่ก็ได้นะทับทิม จะได้หาเวลาดีๆ กับแม่ไง”
ทับทิม “ขอบใจนะ แต่เลือกอยู่ตรงนี้ดีกว่า....มันสบายใจนะ”
อาสาสมัคร 1 “เห็นป่ะ ทับทิมยังคิดเหมือนกูเลย”
อาสาสมัคร 2 “ทับทิมกูว่านะ น้องสองคน ดูดคนมาเยอะขึ้นจริงๆ ทำอย่างงี้ต่อไปเงินก็เข้าวัดอยู่แล้ว”
แม่ชีแก่ๆ พูดแทรก “ของพรรค์นี้ไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงหรอกนะงมงาย”
อาสาสมัคร 2 “พูดอย่างกับว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่งมงายอย่างนั้นแหละแม่พาคนมาทำบุญวัดเยอะๆ ได้อย่างเขาหรือเปล่าล่ะ อนิจจ้า อนิจจา”
แม่ชีแก่ๆ “กล้าดียังไง! ฉันศีล 8 นะสูง กว่าเธออีก!”
อาสาสมัคร 2 “แปดเปื้อนซิจ๊ะแม่ ไม่ว่า”
อาสาสมัคร 1 “ใจเย็นๆ เถอะเดี๋ยวคนเขาเห็นเข้าเขาจะไม่มาซุ้มเราเอานะ”
ขนาดที่แม่ชีแก่ๆ กับอาสาสมัครเด็กๆ ทั้งสองกำลังโต้เถียงกันอยู่ไม่รู้จบไม่มีใครสักคนที่จะมาซุ่มไทยธรรมนี้ส่วนตัวของทับทิมเองก็ได้แต่นั่งเหม่อตาลอยๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง สายตาของเธอลอยไปยังซุ้มเพชรกับพลอยคนเยอะแน่นตาคึกคักมีความสุข แม่ของเธอมีสีหน้าที่มีความสุขถือถาดที่เต็มไปด้วยน้ำชานมเย็นๆ ใส่น้ำแข็งแจกคนที่ยืนเข้าแถวเพื่อขอพร มันเป็นภาพอะไรที่เห็นแล้วรู้สึกเธออยากจะไปอยู่ตรงนั้นแทนน้องๆ 2 คนนั้นเสียจริง
ทันใดนั้นตาของทับทิมเปิดโพรงเมื่อเห็นชายโสร่งแดง ยืนอยู่ตรงหน้าห่างกันแค่โต๊ะเครื่องไทยธรรมกั้นเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ นำปัจจัยยอดตู้ได้นะคะ ตามกำลังศรัทธา ได้เลยนะคะ แล้วรับดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองตรงนี้ได้เลยค่ะ...อ๋อ ไม่มีปัจจัยเหรอคะ นั้นไม่เป็นไรค่ะ รับดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองไปก่อนนะคะ”
อาสาสมัครทั้งสองคนและแม่ชีต่างกันนิ่งเงียบแล้วมองมายังตัวของทับทิม
อาสาสมัคร 1 “เฮ้ย ทับทิม คุยกับใครวะ?”
อาสาสมัคร 2 “นั้นดิ?!”
ทับทิม “ก็นั้นไง คนที่นุ่งโสร่งคนนั้นน่ะ”
อาสามาสมัคร 1-2 “ไหน!!?”
อาสามาสมัคร2 “ไม่มีนะ...ใครเขานุ่งโสร่งกัน”
ทับทิม “อ้าว...นั้นสิ หายไปไหนแล้ว”
แม่ชีแก่ๆ "เดี๋ยวฉันจะไปห้องน้ำฝากพวกเธอดูเครื่องไทยธรรมหน่อย"
พอแม่ชีแก่ๆ ผู้นั้นลุกไปจากซุ้มกำลังจะเดินออกไปแต่แล้ว
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนดังขั้นกลางงานวัดแต่โชคไม่ดีมีกระสุนลูกนึงไปโดนตัวของแม่ชีทำให้แม่ชีผู้โชคร้ายหงายท้องร่วงลงไปกับพื้นล่างแน่นิ่งไม่รู้เป็นหรือตาย ทับทิมกับเพื่อนๆ อาสาสมัครอีก 2 คน ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งได้ยินเสียงปืนยิงรัวๆ อีกครั้งอาสาสมัครทั้งสองและเธอรีบมุดเข้าไปใต้โต๊ะทันทีถ้ายืนขึ้นอีกคงโดนยิงเช่นเดียวแม่ชีผู้นี้แน่
แล้วก็มีกลุ่มคนสวมโม่งขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มใหญ่ๆ เข้ามาชนซุ้มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มร้านอาหาร ซุ้มการละเล่น รวมถึงซุ้มไทยธรรมพวกมันมีทั้งไม้ทั้งมีดด้ามยาวพวกมันในกลุ่มบางคนก็มีปืนพก
เป้าหมายของพวกมันคือมุ่งไปถล่มซุ้มที่เพชรกับพลอยจนพังย่อยยับ ทับทิมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยน้องๆ ส่วนอาสาวรีบพาแม่หนีออกมาจากที่นั่น
แต่ทันใคนั้นเองทับทิมก็ได้กลิ่นบางอย่างมันคือ กลิ่นแก๊ส ที่รั่วออกมาจากถังที่ถูกกระสุน ดังนั้นเธอจึงรีบเร่งฝีเท้าไปหาน้องๆ อย่างรวดเร็วเป็นจังหวะเดียวกับคนในกลุ่มยิงปืนกระสุนนัดหนึ่งไปกระทบกับถังแก๊สจนเกิดประกายไฟทำให้ไฟเผาลุกท้วม ขณะที่เพชรกับพลอย ยังติดอยู่ในซุ้ม
บรึ้ม!!
แรงระเบิดทำให้ทับทิมกระเด็นออกไปไกลมากจนกระทั่งทุกอย่างดับวูบสู่ความมืด
TBC
ชายโสร่งแดง ตอน กุมารี วน เวียน 3
หมาขนสีนวลหน้ามอม กำลังกินอาหารในจานของมันอย่างเอร็ดอร่อย เมนูของมันวันนี้เป็นข้าวต้มกระดูกหมู แล้วมีหนังติดมัน ล้วนๆ ก้อนใหญ่ๆ มันกินจนหมดอย่างตระกะตระกามเอาลิ้นเลียจานจนเลื่อม เมื่อมันอิ่มก็เดินจากไป
ทับทิมที่ยื่นอยู่ตรงนั้นรอเจ้าหมาเดินจากไปจนพ้นสายตา เธอไปหยิบจานของหมาตัวนั้นมา แล้วเดินไปตักอาหารหม้อต้นหรับหมาจนเต็มจาน แล้วก็ไปนั่งที่ลับตาคน เธอใช้มือจกข้าวต้มกระดูกเข้าปากเคี้ยวแป๊บเดียวแล้วรีบกลืนลงคอ
จนมีชายโสร่งแดงเดินเข้ามาหาทับทิม เข้าย่อตัวอยู่ท่ายามสามขุม เขามองที่ทับทิมนัยน์ตายากที่อ่านความรู้สึก
“ใครให้กินเหรอ?” เขาถาม
“แม่” ทับทิมตอบ
“ทำไมล่ะ?”
“ทำจานน้องแตก”
ชายโสร่งแดงพอได้ฟังตอบนี้ เขายิ้มอย่างพอใจแล้วก็....
โครม!!
จานหมาบนมือทับทิมถูกชายโสร่งแดงคนนั้นปัดจนกระเด็ดไปกระแทรกพื้นกระจักกระจายเต็มไปหมด
....!
“พี่ทับทิม!!”
ทับทิมสะดุ้งเมื่อได้ยินผู้น้องสาวเรียก ทำให้เธอหลุดออกจากพวัง เธอจึงมองน้องสาวที่ยืนจ้องเธออยู่ และชายโสร่งแดงคนนั้นหายไปไหนอีกแล้ว....
“หนูจะพ้องแม่ว่าพี่ไม่ทำตาม!!” แล้วพลอยก็วิ่งไปทันที
“เดี๋ยว!!” ทับทิมรีบลุกขึ้นวิ่งไล่ตามพลอยไป
“หนูจะพ้องแม่ให้หมดเล้ย!! แม่จะได้ลงโทษพี่ ทุกๆ วัน” พลอยมัวแต่วิ่งหันกลับไปขู่ทับทิมที่ตามหลังตน จนไม่ทันดูทางข้างหน้า ไปชนคนที่ยืนขวางเธอไว้ แต่พลอยไม่ล้มหรือเซไปทางใดทั้งสิ้น เธอตัวตรงแข็งทื่อ แล้วค่อยๆ ก้าวเท้าถอยหลังให้ออกห่างคนที่ยืนขวางเธอตรงหน้า
“พี่เพชรหลีกไป! หนูจะไปหาแม่!!” พลอยตระคอก
ขณะเดียวกันทับทิมก็วิ่งตามพลอยทัน คว้าแขนเธอไว้จากด้านหลังเพื่อจะหยุดพลอยไม่ให้ไปพ้องแม่
ผัวะ!!
หน้าของทับทิมหันไปอีกทางด้วยแรงตบ เธอมองไปยังคนที่ตบก่อนที่ร่างคะมำลงพื้น
“อย่ามาแตะตัวกู !” พลอยพูดอย่างเกี้ยวกราดบรรยากาศ รอบ ๆ เริ่มบิดเบี้ยวและมืดลงยิ่งกว่าคืนเดือนมืด แต่ไม่ถึงนาที ทุกอย่างก็กับมาสู่สภาพเดิม แล้วพลอยมองไปที่หน้าต่างของบ้าน เธอเห็นรถแม่ขับออกไปแล้ว
พลอยจึงก้าวขาข้ามตัวทับทิม เดินเข้าไปในห้องของแม่อย่างสงบ
หลังจากนั้นเพชรก็พยุงตัวทับทิมขึ้นมานั่งที่โซฟาไม้
ทับทิม “ไม่เป็น พี่คงจับพลอยแรงไปหน่อย”
“พี่ทับทิม” เพชรเข้ามาจับมือ
เธอมองนัยน์ตาของเพชรรู้ทันที่ว่าน้องชายกำลังปลอบเธอ จนกระทั้งมีเสียงไอแห้งๆ ของยายดังขึ้นมาจากห้องนอน
“ป้ากับอาล่ะ ไปไหมกันหมด?” เธอเปลี่ยนเรื่องถาม
เพชร “ป้า กับ อา ไปช่วยงานที่วัด”
ทับทิม “อื้ม...อีกไม่กี่วันจะถึงงานวัดแล้ว ไปพักเถอะ”
ทับทิมลุกออกจากโซฟาไม้ เดินเข้าไปที่ครัว หยิบเครื่องในสดๆ จากตู้เย็นมาใส่ที่ชาม แล้วจึงเดินเข้าไปหายายที่ห้องนอน
นี่ก็สายมากแล้วยังไม่มีใครกลับมาจากวัด ส่วนเพชรเข้าไปที่ห้องของแม่แล้ว มีเพียงทับทิม นั่งเล่นสมาร์ทโฟน ส่องโซเซียล คราวนี้เธอหงุดหงิดมาก หาโพสในวันนั้นไม่เจอ ทั้งๆ ที่เธอไปค้นที่โปรไฟล์คนที่แอดไว้ ก็ไม่เจอ หรือมันถูก ลบแล้วเหรอ?
กระทั่งมีกล่องข้อความเด้งมาใน Inbox เธอจึงเช็คเข้าไปดู ปรากฏว่าเป็นเพื่อนสมัยที่เคยเรียนประถมด้วยกันโดยมีข้อความว่า
“..ว่างป่ะ? มาช่วยพวกกูได้มั้ย?”
ที่วัดแห่งนี้พอมีงานประจำปี จากวัดที่เงียบเหงายามมืด บัดนี้เต็มไปด้วยโคมไฟสีส้มยาวห้อยระย้าแสงนวลตาไปเกี่ยวกิ่งไม้ใหญ่ไปเกี่ยวกับเสาต่างๆ ดูเป็นเส้นทางสว่างไสว
จากนี้ยังมีซุ้มของร้านค้าอาหารที่ทำสดๆ หรือซุ้มขายของไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหนังแผ่นหรือเพลงรวมถึงของเก่าพระเก่าๆ ก็ยังมี
สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ งานมหรสพอย่างลิเกจะมีแม่ยกมาจองพื้นที่ไวปูเสื่ออยู่ด้านหน้าตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ทันตกดินเลย เพื่อจะได้ชมพระเอกหล่อๆ กว่าจะออกมาก็ปาไปเกือบกลางเรื่องแล้วด้วยซ้ำ
มีซุ้มที่จัดให้พิเศษแห่งหนึ่งมีคนล้อมรอบจนแน่นตา
อาสาวเดินออกมาซุ้มนั้น เพื่อจัดให้ทุกคนเข้าแถวให้เรียบร้อย จดให้แถวแคบที่สุดเพื่อไม่ให้ไปกินพื้นที่ทางเดินของผู้ที่มาร่วมงาน..ใช่แล้วซุ้มนี้เป็นซุ้มของ เพชรกับพลอย ซึ่งพวกเขาแต่งชุดไทยสวยๆ อลังการเป็นพิเศษ ส่วนแม่ก็กลับทันตั้งแต่เย็น นำชานมเย็นที่ป้าต้มเป็นหม้อๆ ไว้แต่บ่ายแก่ๆ มานั่งบนเตาและมีถังแก๊สเสียบพ่วงอยู่ 3 ชุด มาวางไว้ที่ซุ้ม ให้อุ่นเพื่อเลี้ยงชาวบ้านจากทุกสารทิศที่มาขอพร ส่วนอาสาวเปิดไมค์เหมือนเวทีกลางแจ้ง เชิญชวนให้ชาวบ้าน มาขอพรที่ซุ้มเพชรกับพลอยอย่างยิ่งใหญ่กว่าซุ้มใดๆ
ทั้งแม่และอาสาวช่วยกันอย่างขะมักเขม้นมีเพียงป้าเท่านั้นที่ไม่ได้อยู่ด้วยเพราะตกเย็นยายมีอาการท้องเสียอย่างรุนแรงจึงต้องพาไปที่โรงพยาบาลเร่งด่วน
ส่วนทับทิมเป็นอาสาสมัคร อยู่ซุ้มเครื่องไทยธรรมที่ตั้งตรงข้ามกับซุ้มของเพชรกับพลอย ในซุ้มไทยธรรมมีอาสาสมัคร ประจำอยู่ 3 คน รวมตัวทับทิมด้วย และมีแม่ชีแก่ๆ อีก 1 คน ในซุ้มจะมีเครื่องไทยธรรมและชุดดอกไท้ธูปเทียนหอมๆ จัดไว้บนโต๊ะ 2 ตัวต่อกัน ด้านหนึ่งจะมีแม่ชีแก่ๆ คอยดูแล ส่วนอีกด้านก็เป็นทับทิมมีหน้าที่ยื่นดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทอง แก่ผู้ที่จะเข้าบูชา พระพุทธรูปในโบสถ์
ไม่นานมีชาวบ้านคนหนึ่งเดินมาที่ซุ้มไทยธรรม เข้ามาคว้าดอกไม้ธูปเทียนชุดหนึ่ง แม่ชีแก่ๆ ในชุดขาวเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า
แม่ชีแก่ๆ “เดี๋ยวก่อนคุณ...ร่วมบุญยังคะ?”
ชาวบ้าน “ยังจ่ะแม่ ฉันไม่ค่อยมีปัจจัยล่ะจ่ะ”
แม่ชีแก่ๆ “ไม่ได้นะ..คุณต้องร่วมบุญก่อน”
ชาวบ้าน “เท่าไรจ๊ะ”
แม่ชีแก่ๆ “ชุดล่ะ 20 บาทค่ะ”
ชาวบ้าน “ฉันมีติดตัวอยู่ 10 บาท แต่ฉันศรัทธานะแม่”
แม่ชีแก่ๆ “ไม่ได้..ยี่สิบก็ต้องยี่สิบ”
ชาวบ้านคนนั้นนิ่งไป แล้วจึงรีบวางดอกไม้ธูปเทียนทันที แล้วจึงรีบเดินหนีไปยังซุ้มเพชรกับพลอยที่คนเยอะและแน่นตากว่ามาก
อาสาสมัคร 1 ซึ่งกำลังนั่งเล่นสมาร์ทโฟน “เฮ้อ.. ทำไมไม่เห็นใครมาซุ้มเราเลย มีแต่คนแห่ไปขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซุ้มแม่เธอแหละ”
ทับทิมก็ได้แต่เล่นสมาร์ทโฟนยังไม่โต้ตอบอะไรกับเพื่อนที่ถามเธอ
อาสาสมัคร 1 “ว่าแต่เหอะทับทิม เป็นไงบ้างวะ ตั้งแต่จบประถมไปเรียนต่อที่เมืองหลวงน่ะ กูเห็นเงียบไปต้องหลายเดือนพอทักอะไรก็ไม่ตอบ แต่มาตอนนี้ตอบไวจัง”
ทับทิมตอบขณะสายตาและมือยังกดข้อความที่สมาร์ทโฟนอยู่ “ก็ดีนะ”
อาสาสมัคร 2 “ทับทิมกูก็ไม่ได้เรื่องครอบครัวหรอกนะ..กูสงสัยอ่ะ..ยายที่บ้านเป็นปอบหรือเปล่าวะ..วันก่อนน่ะ.ก็มากินไก่ที่บ้านกู”
ทับทิมได้แต่นั่งเงียบ
อาสาสมัคร 1 “เฮ้ย!! เพื่อนไม่ได้เจอกันนาน ถามอะไรอย่างนั้นวะ”
อาสาสมัคร 2 “เอ้า!! กูสงสัย? ผิดด้วยหรอวะ..อีกอย่างนึงนะบ้านกูกลับบ้านยายทับทิมอ่ะ ห่างกันตั้ง 2 โลฯ ยายแกยังเดินมาได้เองทั้งๆ ที่ไม่น่าจะลุกมาได้แล้วอ่ะ แล้วยายอ่ะตอนดึกอ่ะยังนอนอยู่ไหม”
ทับทิม “ก็นอนปกตินะ ถ้าจะมาถามแบบนี้อย่าถามเลยดีกว่านะ”
อาสาสมัคร 2 “กูขอโทษว่ะ กูก็เสียดาย พ่อกูซื้อพ่อพันธุ์ไก่คู่ละ 30,000 อ่ะ”
ทับทิม “เสียใจด้วย”
อาสาสมัคร 2 “เออจะว่าไป ซุ้มนี้ไม่มีค่อยมีคนมาหรอก พวกกูสองคนก็ไหวอยู่นะ ไปช่วยแม่ก็ได้นะทับทิม จะได้หาเวลาดีๆ กับแม่ไง”
ทับทิม “ขอบใจนะ แต่เลือกอยู่ตรงนี้ดีกว่า....มันสบายใจนะ”
อาสาสมัคร 1 “เห็นป่ะ ทับทิมยังคิดเหมือนกูเลย”
อาสาสมัคร 2 “ทับทิมกูว่านะ น้องสองคน ดูดคนมาเยอะขึ้นจริงๆ ทำอย่างงี้ต่อไปเงินก็เข้าวัดอยู่แล้ว”
แม่ชีแก่ๆ พูดแทรก “ของพรรค์นี้ไม่ใช่ที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริงหรอกนะงมงาย”
อาสาสมัคร 2 “พูดอย่างกับว่าตัวเองบริสุทธิ์ไม่งมงายอย่างนั้นแหละแม่พาคนมาทำบุญวัดเยอะๆ ได้อย่างเขาหรือเปล่าล่ะ อนิจจ้า อนิจจา”
แม่ชีแก่ๆ “กล้าดียังไง! ฉันศีล 8 นะสูง กว่าเธออีก!”
อาสาสมัคร 2 “แปดเปื้อนซิจ๊ะแม่ ไม่ว่า”
อาสาสมัคร 1 “ใจเย็นๆ เถอะเดี๋ยวคนเขาเห็นเข้าเขาจะไม่มาซุ้มเราเอานะ”
ขนาดที่แม่ชีแก่ๆ กับอาสาสมัครเด็กๆ ทั้งสองกำลังโต้เถียงกันอยู่ไม่รู้จบไม่มีใครสักคนที่จะมาซุ่มไทยธรรมนี้ส่วนตัวของทับทิมเองก็ได้แต่นั่งเหม่อตาลอยๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง สายตาของเธอลอยไปยังซุ้มเพชรกับพลอยคนเยอะแน่นตาคึกคักมีความสุข แม่ของเธอมีสีหน้าที่มีความสุขถือถาดที่เต็มไปด้วยน้ำชานมเย็นๆ ใส่น้ำแข็งแจกคนที่ยืนเข้าแถวเพื่อขอพร มันเป็นภาพอะไรที่เห็นแล้วรู้สึกเธออยากจะไปอยู่ตรงนั้นแทนน้องๆ 2 คนนั้นเสียจริง
ทันใดนั้นตาของทับทิมเปิดโพรงเมื่อเห็นชายโสร่งแดง ยืนอยู่ตรงหน้าห่างกันแค่โต๊ะเครื่องไทยธรรมกั้นเท่านั้น
“สวัสดีค่ะ นำปัจจัยยอดตู้ได้นะคะ ตามกำลังศรัทธา ได้เลยนะคะ แล้วรับดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองตรงนี้ได้เลยค่ะ...อ๋อ ไม่มีปัจจัยเหรอคะ นั้นไม่เป็นไรค่ะ รับดอกไม้ธูปเทียนแผ่นทองไปก่อนนะคะ”
อาสาสมัครทั้งสองคนและแม่ชีต่างกันนิ่งเงียบแล้วมองมายังตัวของทับทิม
อาสาสมัคร 1 “เฮ้ย ทับทิม คุยกับใครวะ?”
อาสาสมัคร 2 “นั้นดิ?!”
ทับทิม “ก็นั้นไง คนที่นุ่งโสร่งคนนั้นน่ะ”
อาสามาสมัคร 1-2 “ไหน!!?”
อาสามาสมัคร2 “ไม่มีนะ...ใครเขานุ่งโสร่งกัน”
ทับทิม “อ้าว...นั้นสิ หายไปไหนแล้ว”
แม่ชีแก่ๆ "เดี๋ยวฉันจะไปห้องน้ำฝากพวกเธอดูเครื่องไทยธรรมหน่อย"
พอแม่ชีแก่ๆ ผู้นั้นลุกไปจากซุ้มกำลังจะเดินออกไปแต่แล้ว
ปัง ปัง ปัง
เสียงปืนดังขั้นกลางงานวัดแต่โชคไม่ดีมีกระสุนลูกนึงไปโดนตัวของแม่ชีทำให้แม่ชีผู้โชคร้ายหงายท้องร่วงลงไปกับพื้นล่างแน่นิ่งไม่รู้เป็นหรือตาย ทับทิมกับเพื่อนๆ อาสาสมัครอีก 2 คน ตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งได้ยินเสียงปืนยิงรัวๆ อีกครั้งอาสาสมัครทั้งสองและเธอรีบมุดเข้าไปใต้โต๊ะทันทีถ้ายืนขึ้นอีกคงโดนยิงเช่นเดียวแม่ชีผู้นี้แน่
แล้วก็มีกลุ่มคนสวมโม่งขี่มอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มใหญ่ๆ เข้ามาชนซุ้มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นซุ้มร้านอาหาร ซุ้มการละเล่น รวมถึงซุ้มไทยธรรมพวกมันมีทั้งไม้ทั้งมีดด้ามยาวพวกมันในกลุ่มบางคนก็มีปืนพก
เป้าหมายของพวกมันคือมุ่งไปถล่มซุ้มที่เพชรกับพลอยจนพังย่อยยับ ทับทิมจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยน้องๆ ส่วนอาสาวรีบพาแม่หนีออกมาจากที่นั่น
แต่ทันใคนั้นเองทับทิมก็ได้กลิ่นบางอย่างมันคือ กลิ่นแก๊ส ที่รั่วออกมาจากถังที่ถูกกระสุน ดังนั้นเธอจึงรีบเร่งฝีเท้าไปหาน้องๆ อย่างรวดเร็วเป็นจังหวะเดียวกับคนในกลุ่มยิงปืนกระสุนนัดหนึ่งไปกระทบกับถังแก๊สจนเกิดประกายไฟทำให้ไฟเผาลุกท้วม ขณะที่เพชรกับพลอย ยังติดอยู่ในซุ้ม
บรึ้ม!!
แรงระเบิดทำให้ทับทิมกระเด็นออกไปไกลมากจนกระทั่งทุกอย่างดับวูบสู่ความมืด
TBC