หมากผีผ่วน
ผลไม้ป่าในความทรงจำของใครหลายๆ คน ท่านใดเคยทานแล้ว คิดถึงบักผีผ่วนบ้างไหม?😊
ช่วงเดือนกันยายน ปีนี้เป็นฤดูมีผลสุกของบักผีผ่วน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Uvaria rufa
ชื่อวงศ์ ANNONACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ Carabao teats
ชื่ออื่นๆ
นมควาย (ใต้)
นมแมวป่า (เชียงใหม่)
บุหงาใหญ่ (เหนือ)
ลิง (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ติงตัง (นครราชสีมา)
ตีนตั่งเครือ (ศรีสะเกษ อุบล)
พีพวน,ผีผ่วน (อุดรธานี)
สีม่วน (ชัยภูมิ)
Susu ng kalabaw หรือ Carabao teats(ฟิลิปปินส์)
เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เนื้อไม้แข็ง เลื้อยพาดพันต้นไม้อื่นไปได้ไกล สูง 4 -6 เมตรกิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลแดงใบเดี่ยว เรียงสลับรูปวงรีหรือรูปไข่ สีเขียวเข้ม ผิวใบมีขนสีน้ำตาลแดงทั้งสองด้าน กว้าง 2.5-3.5 ซม.ยาว 4.5-10 ซม.ดอกสีแดงสดถึงสีแดงเข้ม ออกเป็นช่อ1-4 ดอก ตามซอกใบ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ มีขนปกคลุม กลีบดอก 6 กลีบรูปไข่ปลายมน มีขนปรายทั้งสองด้าน ดอกบานขนาด 1.5-2.5 ซม. เกสรผู้ จำนวนมาก วงนอกมักเป็นหมัน รังไข่มี 10 อัน หรือจำนวนมากผลเป็นผลกลุ่ม รูปไข่หรือไข่กลับ ขนาดผลเท่าลูกตำลึง ปกคลุมด้วยขนหนาแน่น ขนาดยาว 2-3 ซม. แต่ละช่อมี 4-20 ผล เนื้อข้างในผล สีขาวขุ่นหุ้มเม็ดในสีดำไว้ ก้านผลยาว 1-4 ซม. เมล็ด 10-20 เมล็ด เมื่อสุก ผลจะสีแดงสด รสเปรี้ยวๆ รับประทานได้
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
แก่น และรากต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ สลับไข้ซ้ำ เนื่องจากกินของแสลงรากแก้ผอมแห้งสำหรับสตรีที่อยู่ไฟไม่ได้หลังการคลอดบุตร และช่วยบำรุงน้ำนม ผลผลสุก รสเปรี้ยวๆ รับประทานได้ (ต้องปอกเปลือกออก และทานทั้งเมล็ด เนื่องเนื้อและเมล็ด ติดกัน)เถาเถานมควาย (ภาษาไทยถิ่นใต้ เรียกว่า ย่านนมควาย) มีเนื้อไม้แข็งสามารถนำเถานมควายแห้งมาทำเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือใช้ในงานจักสานได้
แหล่งที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://sites.google.com/site/phlmipaphakhxisan/hmak-phi-ph-wn-1
This is uvaria rufa. "บักผีผ่วน"
ผลไม้ป่าในความทรงจำของใครหลายๆ คน ท่านใดเคยทานแล้ว คิดถึงบักผีผ่วนบ้างไหม?😊
ช่วงเดือนกันยายน ปีนี้เป็นฤดูมีผลสุกของบักผีผ่วน
ชื่อวิทยาศาสตร์ Uvaria rufa
ชื่อวงศ์ ANNONACEAE
ชื่อภาษาอังกฤษ Carabao teats
ชื่ออื่นๆ
นมควาย (ใต้)
นมแมวป่า (เชียงใหม่)
บุหงาใหญ่ (เหนือ)
ลิง (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ติงตัง (นครราชสีมา)
ตีนตั่งเครือ (ศรีสะเกษ อุบล)
พีพวน,ผีผ่วน (อุดรธานี)
สีม่วน (ชัยภูมิ)
Susu ng kalabaw หรือ Carabao teats(ฟิลิปปินส์)
เป็นไม้พุ่มรอเลื้อย เนื้อไม้แข็ง เลื้อยพาดพันต้นไม้อื่นไปได้ไกล สูง 4 -6 เมตรกิ่งอ่อนมีขนละเอียดสีน้ำตาลแดงใบเดี่ยว เรียงสลับรูปวงรีหรือรูปไข่ สีเขียวเข้ม ผิวใบมีขนสีน้ำตาลแดงทั้งสองด้าน กว้าง 2.5-3.5 ซม.ยาว 4.5-10 ซม.ดอกสีแดงสดถึงสีแดงเข้ม ออกเป็นช่อ1-4 ดอก ตามซอกใบ กลีบเลี้ยง 3 กลีบ มีขนปกคลุม กลีบดอก 6 กลีบรูปไข่ปลายมน มีขนปรายทั้งสองด้าน ดอกบานขนาด 1.5-2.5 ซม. เกสรผู้ จำนวนมาก วงนอกมักเป็นหมัน รังไข่มี 10 อัน หรือจำนวนมากผลเป็นผลกลุ่ม รูปไข่หรือไข่กลับ ขนาดผลเท่าลูกตำลึง ปกคลุมด้วยขนหนาแน่น ขนาดยาว 2-3 ซม. แต่ละช่อมี 4-20 ผล เนื้อข้างในผล สีขาวขุ่นหุ้มเม็ดในสีดำไว้ ก้านผลยาว 1-4 ซม. เมล็ด 10-20 เมล็ด เมื่อสุก ผลจะสีแดงสด รสเปรี้ยวๆ รับประทานได้
ส่วนที่ใช้ประโยชน์
แก่น และรากต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ สลับไข้ซ้ำ เนื่องจากกินของแสลงรากแก้ผอมแห้งสำหรับสตรีที่อยู่ไฟไม่ได้หลังการคลอดบุตร และช่วยบำรุงน้ำนม ผลผลสุก รสเปรี้ยวๆ รับประทานได้ (ต้องปอกเปลือกออก และทานทั้งเมล็ด เนื่องเนื้อและเมล็ด ติดกัน)เถาเถานมควาย (ภาษาไทยถิ่นใต้ เรียกว่า ย่านนมควาย) มีเนื้อไม้แข็งสามารถนำเถานมควายแห้งมาทำเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านหรือใช้ในงานจักสานได้
แหล่งที่มา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้