[๑๐๘] ดูกรจุนทะ ผู้ที่ตนเองจมอยู่ในเปือกตมอันลึกแล้ว จักยกขึ้นซึ่งบุคคลอื่นที่จม อยู่ในเปือกตมอันลึก ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีไม่ได้. ผู้ที่ตนเองไม่จมอยู่ในเปือกตมอันลึก จักยกขึ้นซึ่งบุคคลอื่นที่จมอยู่ในเปลือกตมอันลึก ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้. ผู้ที่ไม่ฝึกตน ไม่แนะนำตน ไม่ดับสนิทด้วยตนเอง จักฝึกสอน จักแนะนำผู้อื่น จักให้ ผู้อื่นดับสนิท ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีไม่ได้. ผู้ที่ฝึกตน แนะนำตน ดับสนิทด้วยตนเอง จักฝึกสอน จักแนะนำผู้อื่น จักให้ผู้อื่น ดับสนิท ข้อนี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ฉันใด.
///
มีผู้ยกนัยของพระสูตรนี้ ขึ้นอ้างอิง ในทำนอง ติเตียนหรือติติง ว่า ตนทำได้หรือยัง ถึงมาแสดงธรรมฯ
เห็นว่า เป็นการอ้างอิงที่คลาดเคลื่อน ผู้ฝึกตนแล้ว จึงจะฝึกผู้อื่นได้ น่าจะหมายถึงผู้เป็นศาสดา ไม่ใช่สาวก (ถ้าตนไม่ตรัสรู้ จะเอาธรรมะที่ไหนไปบอกสอน ในฐานะศาสดา) ซึ่งจะสอดคล้องกับพุทธคุณ ในข้อเป็นผู้ฝึกบุรุษได้โดยไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า แต่สังฆคุณ (สาวก)โดยรวมเป็นคุณที่เนื่องด้วยการปฏิบัติตามพระธรรม และพระธรรมก็เป็นศาสดาแทนฯ สาวกไม่ได้คิดค้นธรรมะขึ้นเองเพื่อนำไปช่วยผู้อื่นให้ตรัสรู้ เป็นแต่เพียงถ่ายทอดธรรมของศาสดาต่อๆกันไป
ส่วนสาวก ผู้ทรงจำธรรม และเผยแผ่ ถ่ายทอด
ไม่ใช่เจ้าของธรรม ถ้าอ้างว่าเป็น จะกลายเป็นมหาโจรจำพวกขโมยธรรม
ดังนั้น การมีผู้กล่าวธรรม จึงไม่ถูกต้องที่จะมีใครจะตำหนิว่า ผู้กล่าวธรรมยังทำไม่ได้ ไม่ควรกล่าวธรรมโดยอ้างสูตรดังกล่าว
ใครคือ ผู้ฝึกตน ใครคือผู้ฝึกผู้อื่น
///
มีผู้ยกนัยของพระสูตรนี้ ขึ้นอ้างอิง ในทำนอง ติเตียนหรือติติง ว่า ตนทำได้หรือยัง ถึงมาแสดงธรรมฯ
เห็นว่า เป็นการอ้างอิงที่คลาดเคลื่อน ผู้ฝึกตนแล้ว จึงจะฝึกผู้อื่นได้ น่าจะหมายถึงผู้เป็นศาสดา ไม่ใช่สาวก (ถ้าตนไม่ตรัสรู้ จะเอาธรรมะที่ไหนไปบอกสอน ในฐานะศาสดา) ซึ่งจะสอดคล้องกับพุทธคุณ ในข้อเป็นผู้ฝึกบุรุษได้โดยไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า แต่สังฆคุณ (สาวก)โดยรวมเป็นคุณที่เนื่องด้วยการปฏิบัติตามพระธรรม และพระธรรมก็เป็นศาสดาแทนฯ สาวกไม่ได้คิดค้นธรรมะขึ้นเองเพื่อนำไปช่วยผู้อื่นให้ตรัสรู้ เป็นแต่เพียงถ่ายทอดธรรมของศาสดาต่อๆกันไป
ส่วนสาวก ผู้ทรงจำธรรม และเผยแผ่ ถ่ายทอด
ไม่ใช่เจ้าของธรรม ถ้าอ้างว่าเป็น จะกลายเป็นมหาโจรจำพวกขโมยธรรม
ดังนั้น การมีผู้กล่าวธรรม จึงไม่ถูกต้องที่จะมีใครจะตำหนิว่า ผู้กล่าวธรรมยังทำไม่ได้ ไม่ควรกล่าวธรรมโดยอ้างสูตรดังกล่าว