JJNY : 4in1 อนุสรณ์ชี้ปรีดีลาออก สัญญาณรบ.พัง/นักวิชาการแนะตู่ยุบสภาเลือกตั้งใหม่/เปิดปมขุนคลังลาออก/เอกชนช็อกปรีดีลาออก

"อนุสรณ์" ชี้ "ปรีดี" ลาออก ส่งสัญญาณรบ.พัง แนะ "บิ๊กตู่" ควรยอมรับ ตัวเองคือปัญหา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2331525
 

 
“อนุสรณ์” ชี้ “ปรีดี” ลาออก ส่งสัญญาณรบ.พัง อัด “บิ๊กตู่” ต้องยอมรับก่อนว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางปัญหา
 
เมื่อวันที่ 1 กันยายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี นายปรีดี ดาวฉาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยื่นจดหมายลาออกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุ ป่วย เป็นเหตุผลในการลาออกครั้งนี้ ว่า ก่อนหน้าที่กว่าที่พล.อ.ประยุทธ์ จะตั้งครม.ได้ ก็เกิดสภาวะสูญญากาศอยู่นาน ลักษณะไปชวนใครมาร่วมรัฐบาล ก็ไม่มีใครอยากมาเข้าร่วม นายปรีดี เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม และเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ประชาชนยังสงสัยอยู่เลยว่า ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ของรัฐบาลเริ่มทำงานกันหรือยัง 
 
แต่ปรากฏว่า เรือยังไม่ทันได้ออก ก็ล่มปากอ่าว ก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำ ต้องบอกเลิกศาลาก่อนเวลาอันควร สถานการณ์บอบช้ำหนักของรัฐบาลเช่นนี้ เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่รากของปัญหาหยั่งลึกยากแก้ไขยังมีอีกมาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และทีมรัฐมนตรี 4 กุมารยังโบกมือลา แล้วนายปรีดี เป็นใคร จะทนพิษบาดแผล จากการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพได้อย่างไร วิกฤติเศรษฐกิจหนักขนาดนี้ 10 สมคิด 40 กุมาร ยังช่วยไม่ได้ ตราบใดที่พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ก็ตัวใครตัวมัน
 
“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องยอมรับก่อนว่า ตัว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นศูนย์กลางของปัญหา รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญขนาดนี้ลาออก บ่งบอกถึงอาการว่าหนักมาก สัญญาณพังพาบของรัฐบาลมาถึงแล้ว” นายอนุสรณ์ กล่าว
 

 
นักวิชาการแนะ 'บิ๊กตู่' ยุบสภา-เลือกตั้งใหม่ ลงอย่างสง่างาม อัด บริหารไร้ทิศทางคือปัญหาชาติ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2331431
  
เมื่อวันที่ 1 กันยายน รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ถึงสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังเผชิญกับปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งพันเข้ามาเป็นเรื่องเดียวกัน กล่าวคือปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นมาจากการที่รัฐบาลไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการ อันเป็นปัญหาที่สืบเนื่องมาจากการเมือง ฉะนั้น รัฐบาลจะต้องเจอกับปัญหาที่ถาโถมมาอย่างหนัก เพราะปัจจัยเศรษฐกิจเป็นตัวชี้ ณ วันนี้คนตกงาน เอสเอ็มอี ไปไม่ได้ คนไม่มีเงิน ซึ่งหลังโควิดรัฐบาลก็ไม่มีทิศทางอะไรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ขณะนี้
 
รศ.ดร.นันทนากล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์ถึงปัญหาที่รัฐบาลเผชิญอยู่อย่างแท้จริง พบว่า มาจากการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่มีทิศทางมาตั้งแต่ต้น โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งไม่ใช่ยุทธศาสตร์ทางด้านเศรษฐกิจ แต่เป็นการกุมแขนรักษาอำนาจทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลมองว่า ตัวเองจะอยู่ในอำนาจ 20 ปีอย่างไรโดยใช้แนวทางที่จะดึงให้ประชาชนกลุ่มรากหญ้ามาเป็นพวก ซึ่งใช้นโยบายประชานิยม แต่ได้ผลชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนทำโปรโมชั่น เมื่อหมดโปรก็ไปต่อไม่ได้ พอเศรษฐกิจเดินเข้ามาถึงจุดวิกฤตก็ไม่รู้ว่าจะเดินต่ออย่างไร คนจึงกลับไปมองว่าแล้วใครเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ? ซึ่งก็คือ พล.ประยุทธ์ ไม่รู้ว่าทำไมท่านมองเห็นว่าตัวเองมีความสามารถมากขนาดนั้น เพราะ 6 ปีที่ผ่านมาก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ ฉะนั้น นี่จึงกลายเป็นเรื่องที่คนออกมาชุมนุม ไม่ใช่เรื่องที่เกลียดชัง พล.อ.ประยุทธ์โดยส่วนตัว แต่เป็นปัญหาที่ผ่านมาถึงเรื่องเศรษฐกิจที่เขาต้องไปแก้ที่การเมือง
 
“ถ้า พ.ล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ในอำนาจเช่นนี้ พยายามควบคุมทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม งานด้านเศรษฐกิจ และเป็นนายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือมุมมองที่แตกต่าง ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ ทำเอง เผชิญกับปัญหาเอง และน่าจะไปไม่รอด เพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นดัชนีชี้วัดที่ทำให้คนมีความอดทนน้อยที่สุด เนื่องจากกระทบกับชีวิตเขาอย่างแท้จริง เป็นปัจจัยที่หนักหนาสาหัส และทำให้เขามองว่ารัฐบาลน่าจะไปไม่รอด
 
“จากที่วิเคราะห์ปัญหา พบว่าเกิดจาก พล.อ.ประยุทธ์ เกิดจากการที่นายกฯ ต้องการอยู่ในอำนาจอย่างยาวนาน และกุมอำนาจทั้งหมดเอาไว้ โดยพยายามจัดให้อยู่ในระบบอำนาจนิยม ซึ่งมีความเชื่อพื้นฐานว่า คนไทยไม่ค่อยฉลาด ต้องใช้ระบบอำนาจนิยมจึงจะออกแบบรัฐธรรมนูญให้เป็นแบบนี้ ให้ตนอยู่ในอำนาจต่อเนื่อง ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือ ต้องรับฟังเสียงของคนที่เห็นต่าง ซึ่งก็คือบรรดาเยาวชน เพราะข้อเรียกร้องของเขาไม่ใช่เฉพาะของนักเรียน นักศึกษาเท่านั้น หากแต่เป็นข้อเรียกร้องของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ที่อยากให้แก้ไขตัวรัฐธรรมนูญ” รศ.ดร.นันทนากล่าว
 
รศ.ดร.นันทนากล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจะไปต่อให้ได้ ต้องเปิดให้มีการรับฟังปัญหา และเปิดให้มีการแก้รัฐธรรมนูญอย่างรวดเร็ว โดยไม่พยายามใช้เงื่อนเวลาเหมือนกับฉบับที่ผ่านมาที่ใช้เวลายาวนานกว่าจะผ่านร่าง และลงประชามติ เรามีต้นแบบที่ดีหลายฉบับในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐธรรมนูญ 2540 โดยนำมาเป็นต้นแบบและปรับแก้ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน จากนั้นยุบสภา เลือกตั้งใหม่ นี่คือทางออกของรัฐบาลที่ลงอย่างสวย โดยทำตามที่ประชาชนเรียกร้องให้รัฐธรรมนูญมีตัวบทกฎหมายที่สอดคล้องกับความเป็นจริง และสอดของกับหลักการประชาธิปไตย เช่นนี้จะไม่ต้องใช้ความรุนแรง และ พล.อ.ประยุทธ์จะยังมีสิทธิเข้ามาในกระบวนการได้ หากท่านแน่ใจ ท่านก็เข้ามาตามกระบวนการประชาธิปไตยซึ่งท่านอาจจะได้กลับมาเป็นนายกฯอีก แต่หากไม่ทำอะไรเลย ทำเหมือนข้อเรียกร้องของเยาวชนไม่มีอยู่จริง ไม่ใส่ใจ จะเกิดวิกฤตที่ร้ายแรง จากความสัมพันธ์กันระหว่างวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่