สวัสดีค่ะ อย่างที่บอกไปโพสต์ที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/40134653
ว่าช่วงนี้ ฮิตทานโอมากาเสะค่ะ เป็ฯความฮิตที่ไม่อิงระแสสังคม อิงกระเพาะของตัวเองเป็นหลักค่ะ
สำหรับร้านที่ 2 นี่นับว่าฮิตในหมู่แก๊งค์เพื่อนหนุ่มสาวชาวออฟฟิศแถวสาทรของ จขกท มากค่ะ
เพิ่งคุยกันับเพื่อนเมื่อวันก่อนว่าอยากลอง ... สักพัก facebook ad ก็เด้งขึ้นมารัวๆ จนแบบ เอ่อออ... ไปค่ะไป !!!
Koko Japanese Restaurant อยู่แถวสาทร ด้านหลังตึกหะรินธร จอดรถได้ที่ตึกฟรี 3 ชั่วโมง ค่ะ
มื้อนี้เรามาทานกัน 4 คน มี เจ้าของกระทู้ เพื่อนผู้ชายที่เป็นเซียนอาหารญี่ปุ่น เพื่อนผู้หญิง และเด็กน้อยซึ่งเป็นลูกของนางค่ะ
ขอเริ่มรีวิวแบบสรุปภาพรวมก่อนนะคะ
1. ปกติ จขกท เคยทานแต่โอมากาเสะที่เป็น Authentic Japanese คือ คอร์สซูชิที่ไม่ฟิวชั่น
พูดง่ายๆคือ เสริฟข้าวกับปลา วาซาบิ ซอสโชยุ อาจจะมี ปอนสึ เกลือ อะไรก็ตามที่เป็น Basic Ingredient และชูความสดของปลาเป็นหลัก
นี่เลยเป็นครั้งแรกที่ทานโอมากาเสะแบบฟิวชั่น
โดยรวมเราประทับใจค่ะ เป็นความอร่อยที่ได้หลายรสชาติในหนึ่งคำ แต่ยังคงได้รสความสดความหวานของปลา สิ่งที่เฉยๆ ก็มีค่ะ จะกล่าวในลำดับถัดไป
2. จานที่ชอบที่สุด คือ ซาชิมิปลาฮิรามาสะ (Hiramasa) 3 สไตล์
คือเสริฟกับ วาซาบิ / คาร์เวียร์ / ใบชิโสะ ได้ความตื่นเต้นของรสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละคำ
และ ชอบฟัวกราส์พิซซ่ามากค่ะ อร่อยทุกอณู ย่างฟัวกราส์มาดี
จานที่ชอบน้อยที่สุดคืออากามิ หรือ ปลาทูน่าเนื้อแดง รสชาติมาตรฐานไม่ได้โดดเด่นเท่าเมนูอื่น
3. เมนูซูชิ ร้านจะใช้ข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ ปลูกที่จังหวัดนีงาตะ นำเข้าจากญี่ปุ่น ค่ะ
ข้าวนีงาตะเป็นข้าวที่อร่อยอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ยิ่งถ้าเป็นข้าวใหม่นะคะ เมล็ดจะหนึบ หอม รสจะหวานอ่อนๆ อร่อยมาก
(ทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่นคือแบกกลับมา ครั้งละ 10 โลตลอด แม่สามีชาวญี่ปุ่นชอบค่ะ)
และที่ร้านปรุงข้าวด้วย น้ำส้มสายชูแดงอากาสึ ที่ทำมาจากกากเหล้าสาเกหมัก
เมื่อตีกับข้าวญี่ปุ่นจะสีออกเข้ม ไม่เปรี้ยวหวานโดดเกินไป และมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
4. ประทับใจเชฟค่ะ วันนี้เชฟออฟเป็นคนดูแลเรา ปกติ เชฟ 1 ท่านจะดูแลลูกค้า 6 ที่ แต่เรานี่ก็มากัน 4 คนแล้ว เลยคุยด้วยได้สบายหน่อย
เชฟแม้จะดูอายุน้อยแต่มีประสบการณ์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นดังๆ มาทั้งนั้นเลยค่ะ
สามารถอธิบายวัตถุดิบได้อย่างคล่องแคล่ว ใส่ใจในคำถามของเรา
มีมารยาท มี appropriate joke ทำให้เกิดบรรยากาศเป็นกันเองกับลูกค้า
เราคุยกันทั้งเรื่องการ aged ปลา การแกะหอยโฮตาเตะแล้วปรุงอย่างไรให้อร่อย ไปไกลจนถึงเรื่องว่า นี่ไอโฟน 12 จะออกเมื่อไหร่? เลยค่ะ 5555
กลับไปร้านครั้งหน้าก็จะรีเควสเชฟคนนี้ค่ะ
3. Kids Friendly ร้านโอมากาเสะบางร้านไม่อนุญาตให้เด็กเข้าค่ะ เพราะถือเป็น Find Dining ที่ต้องรักษาบรรยากกาศให้ลูกค้าโดยรวม
ซึ่งก็เป็นนโยบายของร้าน ไม่มีถูกไม่มีผิด
ส่วนร้านนี้มีข้อเด่นที่อาจจะตอบโจทย์การทานโอมากาสะแบบครอบครัว
คือ เด็กสามารถเข้าร้านได้และนั่งเค้าท์เตอร์ทานอาลาคาร์ตกับพ่อแม่ได้แม้ไม่ได้สั่งคอร์สโอมากาเสะ
เพื่อนเราพาลูกชายอายุ 2-3 ขวบไปด้วย สั่งอาลาคาร์ท ส่วนอีแม่ก็อยากกินฟินกับโอมากาเสะ นั่งด้วยกันได้ค่ะ
(แต่พ่อแม่ท่านไหนพาไปก็ต้องกำชับดูแลให้เรียบร้อย ไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่นเนอะ)
4. เราทานคอร์สถูกที่สุดของร้าน (อีกแล้ว 555)
จองและมัดจำล่วงหน้า 1 วัน ลดราคา 200 บาท ต่อคอร์ส ถ้าจอง 1-2 คอร์สมัดจำล่วงหน้า 500 บาท 3 คนขึ้นไป 1000 บาทค่ะ
ราคาก็ถูกลงไปอีก ถ้าจองล่วงหน้า 1 วัน ต้อง ประมาณ 1,5XX ค่ะ
5. องค์ประกอบอื่นๆ ของร้านก็ไม่มีอะไรติดขัด ร้านมีที่จอดรถฟรี
บริการใช้ได้ ที่นั่งยังคง Social Distance เบาๆ มีพลาสติกใสกั้นระหว่างลูกค้าที่ไม่ได้มาด้วยกัน ห้องน้ำสะอาด
ติสองอย่าง คือ ทาน appitizer course เสร็จแล้วไม่มาเก็บจานออกไป และต้องเรียกเติมน้ำชาเขียวค่ะ
รีวิวอาหารค่ะ
1. ไข่ตุ๋นซุปดาชิ เนื้อเนียน เสิร์ฟมาในเปลือกไข่ครึ่งลูก และใส่กรงทองมาอีก
เป็นพรีเซ้นท์เทชั่นของไข่ตุ๋นที่ดูหรูหราที่สุดที่เคยทานไข่ตุ๋นมาค่ะ เว่อร์วังมาก 555
รสชาติมาตรฐาน อร่อยได้เท่าที่ไข่ตุ๋นซุปดาชิควรจะเป็นค่ะ
2. เต้าหู้สดทอด ในน้ำซุป เต้าหู้คุณภาพดีไม่เหม็น หอมปลาแห้ง น้ำซอสโชยุรสอ่อนๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
3. ซาชิมิประจำวัน เชฟออฟบอกว่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามของที่สดที่สุดที่เข้ามาค่ะ
วันนี้ได้ทานซาชิมิปลาฮิรามาสะ (Hiramasa) (Yellowtail Amberjack) เป็นฝาแฝดของปลาฮามาจิ
จับจากทะเลน้ำลึกทางตอนใต้ของญี่ปุ่น หน้าตาคล้ายปลาฮามาจิแต่เนื้อจะเด้ง แน่น กรุบ และมันน้อยกว่า
เชฟเสิร์ฟเป็น สามรสชาติ คือ ให้ทานกับวาซาบิ คาเวียร์ และ ทานกับใบชิโสะ ราดด้วยซอสไข่นกกระทาตีกับทรัฟเฟิล infused หอมมากๆ
จานนี้เป็นหนึ่งในจานที่เราชอบมากที่สุดค่ะ เพราะได้ 3 รสชาติที่แตกต่าง ต่อมรับรสเปิดและเบิกบานสุด
4. ซูชิปลามาได ปลามาไดเป็นปลาเนื้อขาวอยู่ในตระกูล seabream ไขมันน้อย
นิยมแล่ให้ติดหนังเนื่องจากหนังมีรสชาติเข้มเสริมรสเนื้อปลาให้อร่อยขึ้น
เชฟเล่าว่า เป็นปลาที่รักเดียวใจเดียว มีนิสัยอาศัยอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมีย เวลาจับได้ตัวผู้ตัวเมียก็จะติดมาด้วย
ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกันในงานมงคล ปีใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ หรือมอบให้แก่คู่รักในงานแต่งงาน
สำหรับรสชาติ เนื่องจากทางเชฟโรยเกลือที่บดกับ white truffle มาด้วย
สัมผัสแรกจะได้กลิ่นทรัฟเฟิลก่อน ตามมาด้วยความหวานของเนื้อปลา
texture คือแน่น หนึบ แต่แล่มาบางดี ถ้าแล่หนาจะเหนียว เพราะปลาชนิดนี้เอ็นเยอะค่ะ
หลังจากทานซูชิคำแรกเสร็จ เชฟก็จะเช็คกับเราว่า
การที่เค้าทาวาซาบิในปริมาณเท่านี้คือพอดีสำหรับเรามั้ย ถ้าเผ็ดไปหรือไม่ชอบก็ขอลดได้ค่ะ
และการทานก็แนะนำว่าให้เราหันด้านเนื้อปลาให้โดนลิ้นก่อนสัมผัสแรกจะอร่อยที่สุดค่ะ
5. ปลาคินเมได (kinmedai) หรือปลากระพงแดงตาโต เป็นตระกูลเดียวกับปลามาไดคำที่แล้ว
ปลาคินเมไดอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก 200 เมตรขึ้นไป ใช้อวนตกไม่ได้ จึงต้องใช้รอกไฟฟ้าในการตกขึ้นมา
เชฟบอกว่าตอนตกขึ้นมาจะน่านิดนึง เพราะตาจะถลนค่ะ งือออ น้อนนนน
ปลาชนิดนี้มีรสหวานขึ้นมาจากคำก่อน เชฟใส่ซอสสาหร่ายบด ก็คือหอมความทะเลมากค่ะ
เราชอบซอสมาก อยากขอมาคลุกข้าว
6. ข้าวคลุกมันปูซูไว (Zuwai)
ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่มันนำมันปูซูไวมาผัดกับข้าวทานคู่กับอิกุระ หรือเสิร์ฟกับเนื้อย่าง
ไม่ก็ทำเป็นเมนูมันปูย่างคานิมิโสะ ซึ่งเราชอบมาก
ท๊อปมาด้วยกุ้งหวาน หรือ อามาเอบิ (Amaebi) ซึ่งน้องคือกุ้งเด็ก ที่จะเติบโตมาเป็น Ebi ยิ่งเด็กยิ่งหวาน ค่ะ (หมายถึงกุ้งนะคะ อิอิ)
เพิ่มความน่าสนใจและ entertaining ด้วยการสเปรย์เกลือป่นผสมทองคำ วิบวับ สปาร์คกลิ้ง
อยากจะเพิ่มสัก 4-5 ฟืด ซึ่งเชฟนางก็แซวว่าฉีดละ 100 ช่วงนี้ทองแพง
จานนี้รสชาติอร่อยค่ะ ข้าวไม่เลี่ยน กุ้งอุณหภูมิดีไม่เย็นเกินไป
เห็นว่าไม่ได้ใช้ของ frozen นะคะ (เราเคยได้ทานร้านอื่นแบบเสิร์ฟมาเย็นเจี๊ยบเลย deforst มาแหละดูออก ฮืออออ)
ทุกอย่างในถ้วยเข้ากันค่ะ ความมันของข้าว หนึบๆ ตัดกับ texture สดดึ๋ง ของกุ้งหวาน
ได้ความเค็มของอิกุระ และหอมใบชิโสะเวลาเคี้ยวรวมกัน ดีค่ะ เอ่อ มี portion กะละมัง มั้ยคะ อยากสั่งมาทานให้จุใจ 555
7. หอยเชลล์ฮอกไกโด (Hotate) เป็น โฮตาเตะสดทางร้านนำเข้ามาทั้งตัวทั้งเปลือก แล้วนำมาแกะเอง
ตอนแกะหอยจะมีน้ำออกมา พอแกะเนื้อเสร็จก็จะนำตัวหอยไปแช่ในน้ำให้ absorb ความหอมทะเลเข้าไปในเนื้อ แล้วนำย่างไฟปานกลาง
เสิร์ฟห่อสาหร่ายกับข้าวคลุกซอสสาหร่าย ทาซอสไข่ทรัฟเฟิล อร่อยมากกกกกก
เป็นหอยเชลล์ที่เนื้อหวาน กัดแล้วนุ่ม เคี้ยวแล้วละมุนทุกคำ
ข้อเสียอย่างเดียวคือ ให้แค่ตัวเดียวค่ะ
8. ปลาทูน่าเนื้อแดง Akami ส่วนครึ่งตัวบนค่อนไปทางหาง
มันน้อยเพราะน้องขยับหางเยอะในการว่าย แล่มาสวยเชียวดูจิ
รสชาติปกติ อร่อยในระดับที่โอมากาเสะควรจะเป็นค่ะ
9. ปลาทูน่า ชูโทโร่ (chutoro) ส่วนระหว่างหางกับท้อง
นำไป aged ให้รสมีความเข้มข้นขึ้น ส่วนตัวเราชอบชูโทโร่ที่สุดในโทโร่ทั้งหมด เพราะโอโทโร่มันเลี่ยนไป
(ช่วงที่เริ่มทานซูชิแรกๆ คือ เห็นว่าเอ่อมันแพงก็น่าจะดีสุด เลยทานเยอะมาก ทานเยอะมากจนปวดหัว รู้แหละไขมันขึ้น 555)
คำนี้อร่อยเลยค่ะ เป็นรสชาติแปลกใหม่แห่งการทานชูโทโร่
ส่วนตัวเราไม่อินกับคาร์เวียร์ จะอินกับซอสไข่ทรัฟเฟิลมากกว่า มันหอมนัวจริงๆ ค่ะ
10. Foie Gras Pizza
แป้งพิซซ่าแบบอบกรอบบางๆ ซ้อนกัน 2 ชั้น
ท๊อปด้วยฟัวกราส์นำเข้าจากฝรั่งเศส ทำให้สุกมาพอดีมากๆ เนื้อครีมมี่ ไม่ขม มันไม่หยดเฉอะแฉะ
ตัดเลี่ยนด้วยมะเขือเทศฝานบางๆ ใต้ชิ้นฟัวกราส์ ซอสหวานไปหน่อย
ตอนแรกจะสั่งเพิ่ม ในราคา 220 บาท แต่ต้องระงับไว้กลัวมีปัญหากับหมอไขมันค่ะ 555
คำนี้เป็น การลงความเห็นของพวกเรา 3 คนที่ไปกินว่าเป็นคำที่อร่อยที่สุดค่ะ มันพิเศษมากๆ
11. ทูน่าสับปรุงรสกับหัวหอม เสิร์ฟในสาหร่ายพร้อมกับ อิกุระและไข่หอยเม่น
คำนี้อร่อยมาตรฐานค่ะ ตัวหอมญี่ปุ่นแอบกลบรสชาติของอูนิไปหมด เหลือแต่ texture ครีมมี่ แต่ก็อร่อยอยู่ดีค่ะ
ขออภัย จขกท อุ้งมือใหญ่เยี่ยงผู้ชายเลยค่ะ เขินจัง
12. ซุปใสกระดูกปลาบลูฟินทูน่า เคี่ยวน้ำซุป 3 วันจากไขกระดูกปลา
รสชาติหอม ซดคล่องคอ
แอบคิดว่าถ้าทำเป็นน้ำซุปข้าวต้มแล้วใส่ เมนไทโกะน่าจะฟินมากกกก
13. ไข่หวาน Tamago Bate texture เหมือนเค้กไข่หวาน แต่ไม่มีแป้ง
จะมีส่วนผสมของกุ้ง ปลาหมึก มิริน สาเก น้ำตาล และ ยามาอิโมะ หรือมันภูเขา ของญี่ปุ่น ค่ะ
รสชาติหวานน้อย เนื้อจะไม่ได้มีอากาศเยอะ แต่นุ่มละเอียด สมกับเป็น Signature ของร้านค่ะ
เสริฟคู่กับวิปครีมที่เติมความเค็มเข้าไปเล็กน้อย
14 เมลอน หวานสดชื่น ถือว่าปิดท้ายได้ดีค่ะ
สรุปนะคะ เราว่าเป็นคอร์สโอมากาเสะที่ราคาเข้าถึงได้ วัตถุดิบดี เหนือไปกว่านั้นคือประสบการณ์ในการทานและเรื่องราวที่เชฟเล่าทำให้เราลึกซึ้งไปกับรสชาติมากขึ้นกว่าการปั้นแล้ววางให้เรากินโดยบอกแค่ว่าเป็นปลาอะไรสั้นๆ ค่ะ
(ความจริงแล้วแต่ชอบนะคะ เชฟบอกลูกค้าบางท่านก็ชอบทานเงียบๆ ไม่ถามเยอะ แต่ จขกท ขี้ถามค่ะ รู้สตอรี่แล้วมันฟิน ยิ่งเยอะยิ่งฟิน 555)
ขอบพระคุณที่รับชม ค่ะ
สำหรับร้านโอมากาเสะ ราคาไม่ถึง 2,500 ของเรายังมีอีกนะคะ
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ
สวัสดีค่า
[CR] FoodxWow : รีวิวร้านโอมากาเสะ ไม่ถึง 2,500 บาท (ร้านที่ 2 Koko Japanese Restaurant)
ว่าช่วงนี้ ฮิตทานโอมากาเสะค่ะ เป็ฯความฮิตที่ไม่อิงระแสสังคม อิงกระเพาะของตัวเองเป็นหลักค่ะ
สำหรับร้านที่ 2 นี่นับว่าฮิตในหมู่แก๊งค์เพื่อนหนุ่มสาวชาวออฟฟิศแถวสาทรของ จขกท มากค่ะ
เพิ่งคุยกันับเพื่อนเมื่อวันก่อนว่าอยากลอง ... สักพัก facebook ad ก็เด้งขึ้นมารัวๆ จนแบบ เอ่อออ... ไปค่ะไป !!!
Koko Japanese Restaurant อยู่แถวสาทร ด้านหลังตึกหะรินธร จอดรถได้ที่ตึกฟรี 3 ชั่วโมง ค่ะ
มื้อนี้เรามาทานกัน 4 คน มี เจ้าของกระทู้ เพื่อนผู้ชายที่เป็นเซียนอาหารญี่ปุ่น เพื่อนผู้หญิง และเด็กน้อยซึ่งเป็นลูกของนางค่ะ
ขอเริ่มรีวิวแบบสรุปภาพรวมก่อนนะคะ
1. ปกติ จขกท เคยทานแต่โอมากาเสะที่เป็น Authentic Japanese คือ คอร์สซูชิที่ไม่ฟิวชั่น
พูดง่ายๆคือ เสริฟข้าวกับปลา วาซาบิ ซอสโชยุ อาจจะมี ปอนสึ เกลือ อะไรก็ตามที่เป็น Basic Ingredient และชูความสดของปลาเป็นหลัก
นี่เลยเป็นครั้งแรกที่ทานโอมากาเสะแบบฟิวชั่น
โดยรวมเราประทับใจค่ะ เป็นความอร่อยที่ได้หลายรสชาติในหนึ่งคำ แต่ยังคงได้รสความสดความหวานของปลา สิ่งที่เฉยๆ ก็มีค่ะ จะกล่าวในลำดับถัดไป
2. จานที่ชอบที่สุด คือ ซาชิมิปลาฮิรามาสะ (Hiramasa) 3 สไตล์
คือเสริฟกับ วาซาบิ / คาร์เวียร์ / ใบชิโสะ ได้ความตื่นเต้นของรสชาติที่แตกต่างกันในแต่ละคำ
และ ชอบฟัวกราส์พิซซ่ามากค่ะ อร่อยทุกอณู ย่างฟัวกราส์มาดี
จานที่ชอบน้อยที่สุดคืออากามิ หรือ ปลาทูน่าเนื้อแดง รสชาติมาตรฐานไม่ได้โดดเด่นเท่าเมนูอื่น
3. เมนูซูชิ ร้านจะใช้ข้าวพันธุ์โคชิฮิคาริ ปลูกที่จังหวัดนีงาตะ นำเข้าจากญี่ปุ่น ค่ะ
ข้าวนีงาตะเป็นข้าวที่อร่อยอันดับหนึ่งของญี่ปุ่น ยิ่งถ้าเป็นข้าวใหม่นะคะ เมล็ดจะหนึบ หอม รสจะหวานอ่อนๆ อร่อยมาก
(ทุกครั้งที่ไปญี่ปุ่นคือแบกกลับมา ครั้งละ 10 โลตลอด แม่สามีชาวญี่ปุ่นชอบค่ะ)
และที่ร้านปรุงข้าวด้วย น้ำส้มสายชูแดงอากาสึ ที่ทำมาจากกากเหล้าสาเกหมัก
เมื่อตีกับข้าวญี่ปุ่นจะสีออกเข้ม ไม่เปรี้ยวหวานโดดเกินไป และมีความหอมที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ
4. ประทับใจเชฟค่ะ วันนี้เชฟออฟเป็นคนดูแลเรา ปกติ เชฟ 1 ท่านจะดูแลลูกค้า 6 ที่ แต่เรานี่ก็มากัน 4 คนแล้ว เลยคุยด้วยได้สบายหน่อย
เชฟแม้จะดูอายุน้อยแต่มีประสบการณ์ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นดังๆ มาทั้งนั้นเลยค่ะ
สามารถอธิบายวัตถุดิบได้อย่างคล่องแคล่ว ใส่ใจในคำถามของเรา
มีมารยาท มี appropriate joke ทำให้เกิดบรรยากาศเป็นกันเองกับลูกค้า
เราคุยกันทั้งเรื่องการ aged ปลา การแกะหอยโฮตาเตะแล้วปรุงอย่างไรให้อร่อย ไปไกลจนถึงเรื่องว่า นี่ไอโฟน 12 จะออกเมื่อไหร่? เลยค่ะ 5555
กลับไปร้านครั้งหน้าก็จะรีเควสเชฟคนนี้ค่ะ
3. Kids Friendly ร้านโอมากาเสะบางร้านไม่อนุญาตให้เด็กเข้าค่ะ เพราะถือเป็น Find Dining ที่ต้องรักษาบรรยากกาศให้ลูกค้าโดยรวม
ซึ่งก็เป็นนโยบายของร้าน ไม่มีถูกไม่มีผิด
ส่วนร้านนี้มีข้อเด่นที่อาจจะตอบโจทย์การทานโอมากาสะแบบครอบครัว
คือ เด็กสามารถเข้าร้านได้และนั่งเค้าท์เตอร์ทานอาลาคาร์ตกับพ่อแม่ได้แม้ไม่ได้สั่งคอร์สโอมากาเสะ
เพื่อนเราพาลูกชายอายุ 2-3 ขวบไปด้วย สั่งอาลาคาร์ท ส่วนอีแม่ก็อยากกินฟินกับโอมากาเสะ นั่งด้วยกันได้ค่ะ
(แต่พ่อแม่ท่านไหนพาไปก็ต้องกำชับดูแลให้เรียบร้อย ไม่ให้รบกวนลูกค้าท่านอื่นเนอะ)
4. เราทานคอร์สถูกที่สุดของร้าน (อีกแล้ว 555)
จองและมัดจำล่วงหน้า 1 วัน ลดราคา 200 บาท ต่อคอร์ส ถ้าจอง 1-2 คอร์สมัดจำล่วงหน้า 500 บาท 3 คนขึ้นไป 1000 บาทค่ะ
ราคาก็ถูกลงไปอีก ถ้าจองล่วงหน้า 1 วัน ต้อง ประมาณ 1,5XX ค่ะ
5. องค์ประกอบอื่นๆ ของร้านก็ไม่มีอะไรติดขัด ร้านมีที่จอดรถฟรี
บริการใช้ได้ ที่นั่งยังคง Social Distance เบาๆ มีพลาสติกใสกั้นระหว่างลูกค้าที่ไม่ได้มาด้วยกัน ห้องน้ำสะอาด
ติสองอย่าง คือ ทาน appitizer course เสร็จแล้วไม่มาเก็บจานออกไป และต้องเรียกเติมน้ำชาเขียวค่ะ
รีวิวอาหารค่ะ
1. ไข่ตุ๋นซุปดาชิ เนื้อเนียน เสิร์ฟมาในเปลือกไข่ครึ่งลูก และใส่กรงทองมาอีก
เป็นพรีเซ้นท์เทชั่นของไข่ตุ๋นที่ดูหรูหราที่สุดที่เคยทานไข่ตุ๋นมาค่ะ เว่อร์วังมาก 555
รสชาติมาตรฐาน อร่อยได้เท่าที่ไข่ตุ๋นซุปดาชิควรจะเป็นค่ะ
2. เต้าหู้สดทอด ในน้ำซุป เต้าหู้คุณภาพดีไม่เหม็น หอมปลาแห้ง น้ำซอสโชยุรสอ่อนๆ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียวเลยค่ะ
3. ซาชิมิประจำวัน เชฟออฟบอกว่าจะเปลี่ยนไปเรื่อยตามของที่สดที่สุดที่เข้ามาค่ะ
วันนี้ได้ทานซาชิมิปลาฮิรามาสะ (Hiramasa) (Yellowtail Amberjack) เป็นฝาแฝดของปลาฮามาจิ
จับจากทะเลน้ำลึกทางตอนใต้ของญี่ปุ่น หน้าตาคล้ายปลาฮามาจิแต่เนื้อจะเด้ง แน่น กรุบ และมันน้อยกว่า
เชฟเสิร์ฟเป็น สามรสชาติ คือ ให้ทานกับวาซาบิ คาเวียร์ และ ทานกับใบชิโสะ ราดด้วยซอสไข่นกกระทาตีกับทรัฟเฟิล infused หอมมากๆ
จานนี้เป็นหนึ่งในจานที่เราชอบมากที่สุดค่ะ เพราะได้ 3 รสชาติที่แตกต่าง ต่อมรับรสเปิดและเบิกบานสุด
4. ซูชิปลามาได ปลามาไดเป็นปลาเนื้อขาวอยู่ในตระกูล seabream ไขมันน้อย
นิยมแล่ให้ติดหนังเนื่องจากหนังมีรสชาติเข้มเสริมรสเนื้อปลาให้อร่อยขึ้น
เชฟเล่าว่า เป็นปลาที่รักเดียวใจเดียว มีนิสัยอาศัยอยู่เป็นคู่ผัวตัวเมีย เวลาจับได้ตัวผู้ตัวเมียก็จะติดมาด้วย
ชาวญี่ปุ่นนิยมทานกันในงานมงคล ปีใหม่ ขึ้นบ้านใหม่ หรือมอบให้แก่คู่รักในงานแต่งงาน
สำหรับรสชาติ เนื่องจากทางเชฟโรยเกลือที่บดกับ white truffle มาด้วย
สัมผัสแรกจะได้กลิ่นทรัฟเฟิลก่อน ตามมาด้วยความหวานของเนื้อปลา
texture คือแน่น หนึบ แต่แล่มาบางดี ถ้าแล่หนาจะเหนียว เพราะปลาชนิดนี้เอ็นเยอะค่ะ
หลังจากทานซูชิคำแรกเสร็จ เชฟก็จะเช็คกับเราว่า
การที่เค้าทาวาซาบิในปริมาณเท่านี้คือพอดีสำหรับเรามั้ย ถ้าเผ็ดไปหรือไม่ชอบก็ขอลดได้ค่ะ
และการทานก็แนะนำว่าให้เราหันด้านเนื้อปลาให้โดนลิ้นก่อนสัมผัสแรกจะอร่อยที่สุดค่ะ
5. ปลาคินเมได (kinmedai) หรือปลากระพงแดงตาโต เป็นตระกูลเดียวกับปลามาไดคำที่แล้ว
ปลาคินเมไดอาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึก 200 เมตรขึ้นไป ใช้อวนตกไม่ได้ จึงต้องใช้รอกไฟฟ้าในการตกขึ้นมา
เชฟบอกว่าตอนตกขึ้นมาจะน่านิดนึง เพราะตาจะถลนค่ะ งือออ น้อนนนน
ปลาชนิดนี้มีรสหวานขึ้นมาจากคำก่อน เชฟใส่ซอสสาหร่ายบด ก็คือหอมความทะเลมากค่ะ
เราชอบซอสมาก อยากขอมาคลุกข้าว
6. ข้าวคลุกมันปูซูไว (Zuwai)
ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่มันนำมันปูซูไวมาผัดกับข้าวทานคู่กับอิกุระ หรือเสิร์ฟกับเนื้อย่าง
ไม่ก็ทำเป็นเมนูมันปูย่างคานิมิโสะ ซึ่งเราชอบมาก
ท๊อปมาด้วยกุ้งหวาน หรือ อามาเอบิ (Amaebi) ซึ่งน้องคือกุ้งเด็ก ที่จะเติบโตมาเป็น Ebi ยิ่งเด็กยิ่งหวาน ค่ะ (หมายถึงกุ้งนะคะ อิอิ)
เพิ่มความน่าสนใจและ entertaining ด้วยการสเปรย์เกลือป่นผสมทองคำ วิบวับ สปาร์คกลิ้ง
อยากจะเพิ่มสัก 4-5 ฟืด ซึ่งเชฟนางก็แซวว่าฉีดละ 100 ช่วงนี้ทองแพง
จานนี้รสชาติอร่อยค่ะ ข้าวไม่เลี่ยน กุ้งอุณหภูมิดีไม่เย็นเกินไป
เห็นว่าไม่ได้ใช้ของ frozen นะคะ (เราเคยได้ทานร้านอื่นแบบเสิร์ฟมาเย็นเจี๊ยบเลย deforst มาแหละดูออก ฮืออออ)
ทุกอย่างในถ้วยเข้ากันค่ะ ความมันของข้าว หนึบๆ ตัดกับ texture สดดึ๋ง ของกุ้งหวาน
ได้ความเค็มของอิกุระ และหอมใบชิโสะเวลาเคี้ยวรวมกัน ดีค่ะ เอ่อ มี portion กะละมัง มั้ยคะ อยากสั่งมาทานให้จุใจ 555
7. หอยเชลล์ฮอกไกโด (Hotate) เป็น โฮตาเตะสดทางร้านนำเข้ามาทั้งตัวทั้งเปลือก แล้วนำมาแกะเอง
ตอนแกะหอยจะมีน้ำออกมา พอแกะเนื้อเสร็จก็จะนำตัวหอยไปแช่ในน้ำให้ absorb ความหอมทะเลเข้าไปในเนื้อ แล้วนำย่างไฟปานกลาง
เสิร์ฟห่อสาหร่ายกับข้าวคลุกซอสสาหร่าย ทาซอสไข่ทรัฟเฟิล อร่อยมากกกกกก
เป็นหอยเชลล์ที่เนื้อหวาน กัดแล้วนุ่ม เคี้ยวแล้วละมุนทุกคำ
ข้อเสียอย่างเดียวคือ ให้แค่ตัวเดียวค่ะ
8. ปลาทูน่าเนื้อแดง Akami ส่วนครึ่งตัวบนค่อนไปทางหาง
มันน้อยเพราะน้องขยับหางเยอะในการว่าย แล่มาสวยเชียวดูจิ
รสชาติปกติ อร่อยในระดับที่โอมากาเสะควรจะเป็นค่ะ
9. ปลาทูน่า ชูโทโร่ (chutoro) ส่วนระหว่างหางกับท้อง
นำไป aged ให้รสมีความเข้มข้นขึ้น ส่วนตัวเราชอบชูโทโร่ที่สุดในโทโร่ทั้งหมด เพราะโอโทโร่มันเลี่ยนไป
(ช่วงที่เริ่มทานซูชิแรกๆ คือ เห็นว่าเอ่อมันแพงก็น่าจะดีสุด เลยทานเยอะมาก ทานเยอะมากจนปวดหัว รู้แหละไขมันขึ้น 555)
คำนี้อร่อยเลยค่ะ เป็นรสชาติแปลกใหม่แห่งการทานชูโทโร่
ส่วนตัวเราไม่อินกับคาร์เวียร์ จะอินกับซอสไข่ทรัฟเฟิลมากกว่า มันหอมนัวจริงๆ ค่ะ
10. Foie Gras Pizza
แป้งพิซซ่าแบบอบกรอบบางๆ ซ้อนกัน 2 ชั้น
ท๊อปด้วยฟัวกราส์นำเข้าจากฝรั่งเศส ทำให้สุกมาพอดีมากๆ เนื้อครีมมี่ ไม่ขม มันไม่หยดเฉอะแฉะ
ตัดเลี่ยนด้วยมะเขือเทศฝานบางๆ ใต้ชิ้นฟัวกราส์ ซอสหวานไปหน่อย
ตอนแรกจะสั่งเพิ่ม ในราคา 220 บาท แต่ต้องระงับไว้กลัวมีปัญหากับหมอไขมันค่ะ 555
คำนี้เป็น การลงความเห็นของพวกเรา 3 คนที่ไปกินว่าเป็นคำที่อร่อยที่สุดค่ะ มันพิเศษมากๆ
11. ทูน่าสับปรุงรสกับหัวหอม เสิร์ฟในสาหร่ายพร้อมกับ อิกุระและไข่หอยเม่น
คำนี้อร่อยมาตรฐานค่ะ ตัวหอมญี่ปุ่นแอบกลบรสชาติของอูนิไปหมด เหลือแต่ texture ครีมมี่ แต่ก็อร่อยอยู่ดีค่ะ
ขออภัย จขกท อุ้งมือใหญ่เยี่ยงผู้ชายเลยค่ะ เขินจัง
12. ซุปใสกระดูกปลาบลูฟินทูน่า เคี่ยวน้ำซุป 3 วันจากไขกระดูกปลา
รสชาติหอม ซดคล่องคอ
แอบคิดว่าถ้าทำเป็นน้ำซุปข้าวต้มแล้วใส่ เมนไทโกะน่าจะฟินมากกกก
13. ไข่หวาน Tamago Bate texture เหมือนเค้กไข่หวาน แต่ไม่มีแป้ง
จะมีส่วนผสมของกุ้ง ปลาหมึก มิริน สาเก น้ำตาล และ ยามาอิโมะ หรือมันภูเขา ของญี่ปุ่น ค่ะ
รสชาติหวานน้อย เนื้อจะไม่ได้มีอากาศเยอะ แต่นุ่มละเอียด สมกับเป็น Signature ของร้านค่ะ
เสริฟคู่กับวิปครีมที่เติมความเค็มเข้าไปเล็กน้อย
14 เมลอน หวานสดชื่น ถือว่าปิดท้ายได้ดีค่ะ
สรุปนะคะ เราว่าเป็นคอร์สโอมากาเสะที่ราคาเข้าถึงได้ วัตถุดิบดี เหนือไปกว่านั้นคือประสบการณ์ในการทานและเรื่องราวที่เชฟเล่าทำให้เราลึกซึ้งไปกับรสชาติมากขึ้นกว่าการปั้นแล้ววางให้เรากินโดยบอกแค่ว่าเป็นปลาอะไรสั้นๆ ค่ะ
(ความจริงแล้วแต่ชอบนะคะ เชฟบอกลูกค้าบางท่านก็ชอบทานเงียบๆ ไม่ถามเยอะ แต่ จขกท ขี้ถามค่ะ รู้สตอรี่แล้วมันฟิน ยิ่งเยอะยิ่งฟิน 555)
ขอบพระคุณที่รับชม ค่ะ
สำหรับร้านโอมากาเสะ ราคาไม่ถึง 2,500 ของเรายังมีอีกนะคะ
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ
สวัสดีค่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้