ความล่าช้า ไม่ใส่ใจลูกค้า ความไม่รับผิดชอบในการเคลม ทำให้ผิดหวัง และหมดหวังกับฟอร์ดแล้วจริงๆ ครับ
รถผมจอดที่ศูนย์ตั้งแต่วันที่ 6-15 ส.ค. ยังไม่ได้อะไหล่ ทั้งที่นัดหมายกันไว้แล้ว
ผมใช้ Ford ranger wildtrak 2.2 AT ใช้มา 2 ปีกว่า
วันที่ 6 ที่ผ่านมา รถผมเกือบแหกโค้งไปชนรถอีกฝั่งหนึ่งที่ติดไฟแดงอยู่ จากอาการพวงมาลัยไม่ทำงาน หักเลี้ยวไม่ได้
ก่อนหน้านี้ วันที่ 27 รถผมสตาร์ทไม่ติด เข้าใจว่าเกิดจากแบ็ตเตอรี่อ่อน เพราะเผลอเปิดไฟในห้องโดยสาร ให้น้องที่รู้จักใช้ที่ชาร์ตแบตมาชาร์ตให้โดยไม่ถอดขั้ว แบ็ตก็ใช้ได้ปกติ แต่ดูที่ตาแมวแล้ว คิดว่าควรเติมน้ำกลั่น
ถ้าจะเติมน้ำกลั่นให้ครบทุกช่อง ต้องถอดขั้วบวกออก ***ผมเลยโทรถาม Ford hotline ว่า ผมสามารถถอดขั้วแบ็ตเติมน้ำกลั่นได้ไหม***
เจ้าหน้าที่มีการโอนสายให้ช่างตอบคำถามว่า ***ได้*** แต่อาจมีไฟโชว์ กระจกออโต้ไม่ทำงาน แต่ไปเซ็ตใหม่ที่ศูนย์ได้ ผมจึงถอดขั้วแบ็ตเติมน้ำกลั่น รถมีปัญหากระจกออโต้ใช้ไม่ได้ตามที่ช่างบอก แต่ไฟอื่นไม่โชว์ รถใช้งานได้ปกติ สตาร์ตติดตลอด
ใช้รถต่อมา 5-6 วัน หน้าจอเตือน
Hill start assist not available แต่รถก็ใช้ได้ปกติ จนก่อนวันเกิดเหตุ 1-2 วัน มีอาการเป็นบางจังหวะที่พวงมาลัยติดๆ วันเกิดเหตุ ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปเช็คที่ศูนย์ แต่ไปยังไม่ถึงศูนย์ในอำเภอ ก็เกิดเหตุก่อน
ผมเดินหน้าถอยหลัง พวงมาลัยขยับได้ ประคองรถมาศูนย์ในอำเภอ ที่ห่างออกมาประมาณ 3 กิโล แต่ทำอะไรให้ไม่ได้ และพวงมาลัยรถผมก็ไม่ทำงานแล้ว
ผมต้องขึ้นรถสไลด์มาที่ศูนย์ในจังหวัด ช่างเช็คแล้วแจ้งว่า ***เกิดจากไอน้ำกรดจากแบ็ตไปโดนสายไฟที่ออกจากขั้วแบ็ตไปเลี้ยงพวงมาลัยช็อต***
ช่างศูนย์ถามผมว่า *พี่เติมน้ำกลั่นมาเหรอ*
ผมบอกว่า *ใช่*
ช่างศูนย์บอกว่า *พี่ไม่ควรเติมน้ำกลั่นหรอก แบตรุ่นนี้ พอมันเสื่อมก็เปลี่ยนเลย*
พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกคนที่แจ้งว่า *ผมต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด*
รถผมต้องรีบใช้งาน ทั้งที่รู้ว่าไม่น่าจะถูกต้อง แต่ก็บอกให้ศูนย์ซ่อมไปเลย แล้วผมจะคุยกับทาง Ford hotline เอง
ผมติดต่อในวันนั้นเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าจะติดต่อกลับ แต่เงียบหาย
วันรุ่งขึ้นโทรตามอีก คราวนี้ Ford hotline กลายเป็น 2 บริษัทแยกจากกัน
คือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์โยนว่าเราไม่มีช่าง ส่วนที่แนะนำว่าเติมน้ำกลั่นได้ เป็น roadside ต้องติดต่อทาง roadside เราขอให้ประสานงานให้ก็ไม่ช่วย ต้องให้เราเป็นคนไปคุยเอง
ผมโทรไปส่วน roadside บอกว่า
ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แบ็ตมันต้องเติมน้ำกลั่นได้ แนะนำถูกแล้ว ทางศูนย์พูดแบบนี้ไม่ถูก
ผมโทรกลับไปที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 7 แจ้งว่าจะติดต่อกลับมา แต่ไม่เคยโทรมา
วันที่ 8 ผมเหมารถจากบ้านไปที่ศูนย์ คิดว่าจะได้รับรถแล้ว ตามที่ศูนย์แจ้งไว้ ถ้าจะต้องจ่ายเงินเองก็จะจ่ายไปก่อน แล้วค่อยร้องเรียนต่อ เพราะต้องรีบใช้รถ ผลปรากฏว่า ทางศูนย์บอกต้องรออะไหล่ สายไฟเข้าปั้มพวงมาลัย ที่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ในคลังใหญ่ของฟอร์ดประเทศไทย โดยไม่ทราบว่าจะได้วันไหน
ผมต้องใช้รถส่งของทุกวัน เลยถามทางศูนย์ถึงรถใช้ระหว่างซ่อม ศูนย์ให้ติดต่อ Ford hotline เอง คำตอบที่ได้ จัดหารถให้ แต่เราต้องจ่ายเงินเอง วันละ 2,500 ไม่รวม vat (ตลกไหมครับ)
ระหว่างนี้ ผมโทรไปสอบถามที่ hotline ถึงความคืบหน้าเรื่องเคลมและอะไหล่เกือบทุกวัน แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า
จนเย็นวันที่ 11 ถึงมีโทรมาแจ้งว่า
อะไหล่ที่รอ จะได้มาวันที่ 15 ส.ค. นี้
(สุดท้าย วันนี้ 15 ส.ค. ผมต้องติดตามเอง ได้คำตอบว่าอะไหล่ยังไม่มา)
และเรื่องเคลม รถผมเคลมไม่ได้ ต้องจ่ายเอง เพราะเติมน้ำกลั่นเกิน ทำให้เกิดปัญหา
ผมรอดชีวิตมาได้ถือว่ากำไรแล้ว ถ้า Ford ประเทศไทยคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมควรเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ผมยินดีจ่าย
แต่ขอระบายและให้ข้อมูลเป็นอุทาหรณ์กับเพื่อนๆ จะได้ระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหานี้
ถ้าแค่เติมน้ำกลั่นเกินแล้วเกิดเหตุขนาดนี้ ขั้วแบตของคุณที่มีสายไฟมากมายมาอยู่ตรงกับรูระบายอากาศของแบ็ตเตอรี่ แล้วสามารถส่งผลรุนแรงขนาดเสียชีวิตได้ และเราก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของคุณก่อนทำ หากมันสามารถเกิดเหตุรุนแรงขนาดนี้ได้ ทำไมไม่แนะนำอะไรเราเลยว่าควรทำอย่างไร อาจเกิดผลเสียอย่างไร หรือทำไมไม่ทำแผ่นกั้นระหว่างขั้วกับแบตเตอร์รี่ หรือมีข้อความเตือนบอกไว้บริเวณแบตเตอรี่ หรือมีข้อความห้ามเติมน้ำกลั่นไปเลย อย่างที่ช่างศูนย์ของคุณบอก
ยังบอกเรากลับมาว่า ทาง roadside แนะนำให้เติมน้ำกลั่น ให้เราคุยกับ roadside เอง โยนกลับไปอีก
จากเรื่องทั้งหมด สิ่งที่คาใจคือ
* หากเกิดจากผมเติมน้ำกลั่นเกินจริง ผมควรรับผิดชอบเพียงผู้เดียวจริงเหรอ เพราะไม่ได้ทำโดยพละการ โทรไปปรึกษา Ford ประเทศไทยแล้ว
* เจ้าหน้าที่ของ Ford ทำไมให้ข้อมูลลูกค้าไม่ตรงกัน
* ทำไมถึงโยนกันไปมา เหมือนพวกคุณอยู่คนละองค์กร ลูกค้าขอให้ประสานให้คุณก็ไม่ทำ
* ทำไมไม่รีบหาข้อสรุปแล้วคุยกับลูกค้าให้รู้เรื่อง ปล่อยให้ลูกค้าโทรตามเองตลอด และใช้เวลาถึง 6-7 วัน
สุดท้าย...หากคุณจะบอกว่าเติมน้ำกลั่นได้ แต่ห้ามเติมเกิน ผมมองว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีปัญหา
เพราะการเติมน้ำกลั่น มีโอกาสที่จะเกินหรือขาดได้ง่ายมาก
แล้วถ้ามันส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า โดยที่คุณไม่ป้องกันอะไรเลย แสดงว่าคุณบกพร่อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของคุณควรให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วนกว่านี้ ว่าการเติมน้ำกลั่น จะต้องมีข้อควรระวังอย่างไร เพราะขั้วสายไฟทั้งหมดที่ไปอยู่ตรงรูระบายน้ำกลั่นก็เท่ากับเอาน้ำมันไปวางไว้ข้างกองไฟ
สุดท้ายของสุดท้าย...เตือนเพื่อนๆ ผู้บริโภคอย่างพวกเรา...
- ดูจากความล่าช้าของอะไหล่
- การให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและถูกต้องตรงกัน
- การทำงานขององค์กรที่ปัดความรับผิดชอบ โยนกันไปมา
- จัดหารถใช้ระหว่างซ่อม (ซ่อมนาน) ให้จ่ายค่าเช่าเองวันละ 2,500 ไม่รวม vat สมควรโฆษณาตัวเองไหม
หากมีญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องสอบถามหาข้อมูลในการเลือกซื้อรถ
***เราควรให้ข้อมูลเขาว่า หายี่ห้อที่รับผิดชอบต่อการทำงาน และรับผิดชอบต่อสินค้าตัวเองที่ดีกว่านี้***
ผิดหวังกับบริการหลังการขายของ Ford ranger จริงๆ ครับ
รถผมจอดที่ศูนย์ตั้งแต่วันที่ 6-15 ส.ค. ยังไม่ได้อะไหล่ ทั้งที่นัดหมายกันไว้แล้ว
ผมใช้ Ford ranger wildtrak 2.2 AT ใช้มา 2 ปีกว่า
วันที่ 6 ที่ผ่านมา รถผมเกือบแหกโค้งไปชนรถอีกฝั่งหนึ่งที่ติดไฟแดงอยู่ จากอาการพวงมาลัยไม่ทำงาน หักเลี้ยวไม่ได้
ก่อนหน้านี้ วันที่ 27 รถผมสตาร์ทไม่ติด เข้าใจว่าเกิดจากแบ็ตเตอรี่อ่อน เพราะเผลอเปิดไฟในห้องโดยสาร ให้น้องที่รู้จักใช้ที่ชาร์ตแบตมาชาร์ตให้โดยไม่ถอดขั้ว แบ็ตก็ใช้ได้ปกติ แต่ดูที่ตาแมวแล้ว คิดว่าควรเติมน้ำกลั่น
ถ้าจะเติมน้ำกลั่นให้ครบทุกช่อง ต้องถอดขั้วบวกออก ***ผมเลยโทรถาม Ford hotline ว่า ผมสามารถถอดขั้วแบ็ตเติมน้ำกลั่นได้ไหม***
เจ้าหน้าที่มีการโอนสายให้ช่างตอบคำถามว่า ***ได้*** แต่อาจมีไฟโชว์ กระจกออโต้ไม่ทำงาน แต่ไปเซ็ตใหม่ที่ศูนย์ได้ ผมจึงถอดขั้วแบ็ตเติมน้ำกลั่น รถมีปัญหากระจกออโต้ใช้ไม่ได้ตามที่ช่างบอก แต่ไฟอื่นไม่โชว์ รถใช้งานได้ปกติ สตาร์ตติดตลอด
ใช้รถต่อมา 5-6 วัน หน้าจอเตือน
Hill start assist not available แต่รถก็ใช้ได้ปกติ จนก่อนวันเกิดเหตุ 1-2 วัน มีอาการเป็นบางจังหวะที่พวงมาลัยติดๆ วันเกิดเหตุ ผมตั้งใจว่าจะเข้าไปเช็คที่ศูนย์ แต่ไปยังไม่ถึงศูนย์ในอำเภอ ก็เกิดเหตุก่อน
ผมเดินหน้าถอยหลัง พวงมาลัยขยับได้ ประคองรถมาศูนย์ในอำเภอ ที่ห่างออกมาประมาณ 3 กิโล แต่ทำอะไรให้ไม่ได้ และพวงมาลัยรถผมก็ไม่ทำงานแล้ว
ผมต้องขึ้นรถสไลด์มาที่ศูนย์ในจังหวัด ช่างเช็คแล้วแจ้งว่า ***เกิดจากไอน้ำกรดจากแบ็ตไปโดนสายไฟที่ออกจากขั้วแบ็ตไปเลี้ยงพวงมาลัยช็อต***
ช่างศูนย์ถามผมว่า *พี่เติมน้ำกลั่นมาเหรอ*
ผมบอกว่า *ใช่*
ช่างศูนย์บอกว่า *พี่ไม่ควรเติมน้ำกลั่นหรอก แบตรุ่นนี้ พอมันเสื่อมก็เปลี่ยนเลย*
พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีกคนที่แจ้งว่า *ผมต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด*
รถผมต้องรีบใช้งาน ทั้งที่รู้ว่าไม่น่าจะถูกต้อง แต่ก็บอกให้ศูนย์ซ่อมไปเลย แล้วผมจะคุยกับทาง Ford hotline เอง
ผมติดต่อในวันนั้นเลย เจ้าหน้าที่บอกว่าจะติดต่อกลับ แต่เงียบหาย
วันรุ่งขึ้นโทรตามอีก คราวนี้ Ford hotline กลายเป็น 2 บริษัทแยกจากกัน
คือศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์โยนว่าเราไม่มีช่าง ส่วนที่แนะนำว่าเติมน้ำกลั่นได้ เป็น roadside ต้องติดต่อทาง roadside เราขอให้ประสานงานให้ก็ไม่ช่วย ต้องให้เราเป็นคนไปคุยเอง
ผมโทรไปส่วน roadside บอกว่า
ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แบ็ตมันต้องเติมน้ำกลั่นได้ แนะนำถูกแล้ว ทางศูนย์พูดแบบนี้ไม่ถูก
ผมโทรกลับไปที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์อีกครั้งตั้งแต่วันที่ 7 แจ้งว่าจะติดต่อกลับมา แต่ไม่เคยโทรมา
วันที่ 8 ผมเหมารถจากบ้านไปที่ศูนย์ คิดว่าจะได้รับรถแล้ว ตามที่ศูนย์แจ้งไว้ ถ้าจะต้องจ่ายเงินเองก็จะจ่ายไปก่อน แล้วค่อยร้องเรียนต่อ เพราะต้องรีบใช้รถ ผลปรากฏว่า ทางศูนย์บอกต้องรออะไหล่ สายไฟเข้าปั้มพวงมาลัย ที่ตอนนี้ไม่มีแม้แต่ในคลังใหญ่ของฟอร์ดประเทศไทย โดยไม่ทราบว่าจะได้วันไหน
ผมต้องใช้รถส่งของทุกวัน เลยถามทางศูนย์ถึงรถใช้ระหว่างซ่อม ศูนย์ให้ติดต่อ Ford hotline เอง คำตอบที่ได้ จัดหารถให้ แต่เราต้องจ่ายเงินเอง วันละ 2,500 ไม่รวม vat (ตลกไหมครับ)
ระหว่างนี้ ผมโทรไปสอบถามที่ hotline ถึงความคืบหน้าเรื่องเคลมและอะไหล่เกือบทุกวัน แต่ไม่มีอะไรคืบหน้า
จนเย็นวันที่ 11 ถึงมีโทรมาแจ้งว่า
อะไหล่ที่รอ จะได้มาวันที่ 15 ส.ค. นี้
(สุดท้าย วันนี้ 15 ส.ค. ผมต้องติดตามเอง ได้คำตอบว่าอะไหล่ยังไม่มา)
และเรื่องเคลม รถผมเคลมไม่ได้ ต้องจ่ายเอง เพราะเติมน้ำกลั่นเกิน ทำให้เกิดปัญหา
ผมรอดชีวิตมาได้ถือว่ากำไรแล้ว ถ้า Ford ประเทศไทยคิดว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมควรเป็นคนรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ผมยินดีจ่าย
แต่ขอระบายและให้ข้อมูลเป็นอุทาหรณ์กับเพื่อนๆ จะได้ระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีปัญหานี้
ถ้าแค่เติมน้ำกลั่นเกินแล้วเกิดเหตุขนาดนี้ ขั้วแบตของคุณที่มีสายไฟมากมายมาอยู่ตรงกับรูระบายอากาศของแบ็ตเตอรี่ แล้วสามารถส่งผลรุนแรงขนาดเสียชีวิตได้ และเราก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของคุณก่อนทำ หากมันสามารถเกิดเหตุรุนแรงขนาดนี้ได้ ทำไมไม่แนะนำอะไรเราเลยว่าควรทำอย่างไร อาจเกิดผลเสียอย่างไร หรือทำไมไม่ทำแผ่นกั้นระหว่างขั้วกับแบตเตอร์รี่ หรือมีข้อความเตือนบอกไว้บริเวณแบตเตอรี่ หรือมีข้อความห้ามเติมน้ำกลั่นไปเลย อย่างที่ช่างศูนย์ของคุณบอก
ยังบอกเรากลับมาว่า ทาง roadside แนะนำให้เติมน้ำกลั่น ให้เราคุยกับ roadside เอง โยนกลับไปอีก
จากเรื่องทั้งหมด สิ่งที่คาใจคือ
* หากเกิดจากผมเติมน้ำกลั่นเกินจริง ผมควรรับผิดชอบเพียงผู้เดียวจริงเหรอ เพราะไม่ได้ทำโดยพละการ โทรไปปรึกษา Ford ประเทศไทยแล้ว
* เจ้าหน้าที่ของ Ford ทำไมให้ข้อมูลลูกค้าไม่ตรงกัน
* ทำไมถึงโยนกันไปมา เหมือนพวกคุณอยู่คนละองค์กร ลูกค้าขอให้ประสานให้คุณก็ไม่ทำ
* ทำไมไม่รีบหาข้อสรุปแล้วคุยกับลูกค้าให้รู้เรื่อง ปล่อยให้ลูกค้าโทรตามเองตลอด และใช้เวลาถึง 6-7 วัน
สุดท้าย...หากคุณจะบอกว่าเติมน้ำกลั่นได้ แต่ห้ามเติมเกิน ผมมองว่าผลิตภัณฑ์ของคุณมีปัญหา
เพราะการเติมน้ำกลั่น มีโอกาสที่จะเกินหรือขาดได้ง่ายมาก
แล้วถ้ามันส่งผลร้ายแรงถึงชีวิตและทรัพย์สินของลูกค้า โดยที่คุณไม่ป้องกันอะไรเลย แสดงว่าคุณบกพร่อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของคุณควรให้ข้อมูลลูกค้าได้อย่างครบถ้วนกว่านี้ ว่าการเติมน้ำกลั่น จะต้องมีข้อควรระวังอย่างไร เพราะขั้วสายไฟทั้งหมดที่ไปอยู่ตรงรูระบายน้ำกลั่นก็เท่ากับเอาน้ำมันไปวางไว้ข้างกองไฟ
สุดท้ายของสุดท้าย...เตือนเพื่อนๆ ผู้บริโภคอย่างพวกเรา...
- ดูจากความล่าช้าของอะไหล่
- การให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและถูกต้องตรงกัน
- การทำงานขององค์กรที่ปัดความรับผิดชอบ โยนกันไปมา
- จัดหารถใช้ระหว่างซ่อม (ซ่อมนาน) ให้จ่ายค่าเช่าเองวันละ 2,500 ไม่รวม vat สมควรโฆษณาตัวเองไหม
หากมีญาติพี่น้อง เพื่อนพ้องสอบถามหาข้อมูลในการเลือกซื้อรถ
***เราควรให้ข้อมูลเขาว่า หายี่ห้อที่รับผิดชอบต่อการทำงาน และรับผิดชอบต่อสินค้าตัวเองที่ดีกว่านี้***