จขกท.ทำงานเป็นครูโรงเรียนเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งที่มีสาขาทั่วประเทศ
คราวนี้ช่วงเกิดกระแสสังคมบนโลกโซเชี่ยลเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ จขกท.ได้ให้คำปรึกษากับลูกศิษย์ที่ได้รับผลกระทบ
แต่คำปรึกษามีการถูกส่งต่อ และครูโดนเรียนไปปรับทัศนคติให้เห็นตรงกับองค์กร
ซึ่งจขกท. มองว่านโยบายขององค์กรกับอุดมการณ์ของ จขกท.เอง ค่อนข้างไม่ตรงกัน
จึงตัดสินใจกับทางครอบครัวว่าขอลาออก ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2563
แต่ปรากฎว่าทางผู้อำนวยการไม่ยอมให้ลาออก และพูดถึงว่าให้ช่วยรร.ก่อน
โดยตอนแรกจะให้ช่วย ถึง สิ้นเดือน กรกฎาคม
แต่ทางครอบครัว จขกท. ไม่ยินยอม และตัวจขกท.เองก็รู้สึกหมดใจไปแล้ว
เนื่องจากต้องขับรถไป-กลับ ในระยะทางรวม 100km ทุกวัน ไหนจะเรื่องของรถติดที่บ้างครั้งสูงสุดถึง 2-3 ชม./รอบ
และตอนนั้นจขกท.มีอารอ่อนเพลีย(ซึ่งเกิดจากการตั้งครรภ์แล้ว จขกท.ยังไม่รู้ตัว)
จึงขอต่อรองว่าทำถึงวันที่ 10 ก.ค. หรือ 2 สัปดาห์ เท่านั้น ซึ่งทางโรงเรียนยืนยันว่าให้แค่ช่วยสอนเท่านั้น
ซึ่ง จขกท.สอบถามทางโรงเรียน เรื่องของเงินเดือน ทางโรงเรียนก็แจ้งว่าจะเฉลี่ยให้ตามวันที่ทำงาน
จริงๆ จขกท.ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินอะไร เพียงแต่การเดินทางแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ที่ผ่านมา จขกท.อยากไปทำงานด้วยใจ
มีความสุขกับการสอน และดูแลเด็กจึงไม่เคยคิดมาก
แต่เมื่อวันที่ 31 กค ที่ผ่านมา จขกท.ฝากเพื่อนอาจารย์ไปรับเงินเดือนเพื่อที่จะให้เพื่อนโอนมาแทน จะได้ไม่ต้องเดินทางไปรับ
เพราะรู้ว่าต้นเองตั้งครรภ์เรียบร้อย จึงไม่อยากเดินทางไกลไปไหนคนเดียว
แต่ปรากฏว่าทางโรงเรียนแจ้งว่า ให้จขกท.ส่งงานที่ค้างมาเสียก่อนถึงจะสามารถให้เงินที่เหลือได้
ซึ่งประกอบไปด้วยเงินเดือน +เงินสะสม (หักไปเดือนละ200 ตลอด1ปี) +เงิน__ยูเนี่ยน (หักเดือนละ 100) ซึ่งจะต้องได้รับคืนในตอนที่ออก
ซึ่งจขกท.เลยสอบถามไปว่าคืองานค้างอะไร ปรากฎว่าเป็นแผนการสอนรายเทอม ที่ครูผู้สอนจะต้องทำ (แต่จขกท.ลาออกก่อนทำการสอน และก่อนเปิดภาคเรียน อยู่ช่วยสอนเพียง 10วัน) ซึ่งจขกท. เลยถามกลับไปว่า ไม่ใช่หน้าที่ของครูผู้สอนเหรอคะ ที่จะต้องทำแผนดังกล่าวให้ตรงกับการสอนของครู และปรับให้เหมาะกับผู้เรียนในแต่ละสัปดาห์ จขกท.จึงแจ้งอีกว่าได้ส่งไฟล์แผนการสอนที่ทำไว้ให้กับครูคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่ครูคนใหม่จะนำไปปรับใช้ได้เป็นของผู้สอนอย่างแท้จริงเรียบร้อยแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบจากทางโรงเรียนว่า ครูที่มาสอนเป็นครูใหม่ ทำนองว่าไม่อยากให้ครูใหม่ทำ
จขกท.เลยงง กับทางโรงเรียน เพราะตอน จขกท.มาเป็นครูใหม่ ก็ไม่เคยมีใครมาทำแผนการสอนให้แต่อย่างใด ครูทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะทำเพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้เรียน
ซึ่ง จขกท.เหมือนโดนแกล้งเสียมากกว่า เพราะจริงๆถ้า จขกท.ออกตั้งแต่วันที่ขอลาออก ก็ไม่น่าจะต้องมาเสียความรู้สึกกับทางโรงเรียนขนาดนี้
จขกท.ไม่แน่ใจว่าครูที่ออกไปเคยโดนการเรียกร้องแบบนี้หรือไม่
หากในกรณีนี้ จขกท.สามารถทำอะไรได้บ้างคะ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินที่จะได้รับ แต่ซีเรียสเรื่องของการให้ความโปร่งใสในเรื่องนี้เสียมากกว่า ..
เพราะตามความคิด จขกท. คือองค์กรไม่มีสิทธิที่จะมากั๊กการจ่ายหรือให้เงินแบบนี้หรือเปล่าคะ
จึงขอมาสอบถามความคิดเห็นในสิ่งที่ จขกท.ควรดำเนินการต่อไปค่ะ
ทำงานเกินไป 10 วัน แต่ไม่ได้รับค่าจ้าง ทำอย่างไรได้บ้างคะ
คราวนี้ช่วงเกิดกระแสสังคมบนโลกโซเชี่ยลเกี่ยวกับโรงเรียนนี้ จขกท.ได้ให้คำปรึกษากับลูกศิษย์ที่ได้รับผลกระทบ
แต่คำปรึกษามีการถูกส่งต่อ และครูโดนเรียนไปปรับทัศนคติให้เห็นตรงกับองค์กร
ซึ่งจขกท. มองว่านโยบายขององค์กรกับอุดมการณ์ของ จขกท.เอง ค่อนข้างไม่ตรงกัน
จึงตัดสินใจกับทางครอบครัวว่าขอลาออก ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.2563
แต่ปรากฎว่าทางผู้อำนวยการไม่ยอมให้ลาออก และพูดถึงว่าให้ช่วยรร.ก่อน
โดยตอนแรกจะให้ช่วย ถึง สิ้นเดือน กรกฎาคม
แต่ทางครอบครัว จขกท. ไม่ยินยอม และตัวจขกท.เองก็รู้สึกหมดใจไปแล้ว
เนื่องจากต้องขับรถไป-กลับ ในระยะทางรวม 100km ทุกวัน ไหนจะเรื่องของรถติดที่บ้างครั้งสูงสุดถึง 2-3 ชม./รอบ
และตอนนั้นจขกท.มีอารอ่อนเพลีย(ซึ่งเกิดจากการตั้งครรภ์แล้ว จขกท.ยังไม่รู้ตัว)
จึงขอต่อรองว่าทำถึงวันที่ 10 ก.ค. หรือ 2 สัปดาห์ เท่านั้น ซึ่งทางโรงเรียนยืนยันว่าให้แค่ช่วยสอนเท่านั้น
ซึ่ง จขกท.สอบถามทางโรงเรียน เรื่องของเงินเดือน ทางโรงเรียนก็แจ้งว่าจะเฉลี่ยให้ตามวันที่ทำงาน
จริงๆ จขกท.ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินอะไร เพียงแต่การเดินทางแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูง ที่ผ่านมา จขกท.อยากไปทำงานด้วยใจ
มีความสุขกับการสอน และดูแลเด็กจึงไม่เคยคิดมาก
แต่เมื่อวันที่ 31 กค ที่ผ่านมา จขกท.ฝากเพื่อนอาจารย์ไปรับเงินเดือนเพื่อที่จะให้เพื่อนโอนมาแทน จะได้ไม่ต้องเดินทางไปรับ
เพราะรู้ว่าต้นเองตั้งครรภ์เรียบร้อย จึงไม่อยากเดินทางไกลไปไหนคนเดียว
แต่ปรากฏว่าทางโรงเรียนแจ้งว่า ให้จขกท.ส่งงานที่ค้างมาเสียก่อนถึงจะสามารถให้เงินที่เหลือได้
ซึ่งประกอบไปด้วยเงินเดือน +เงินสะสม (หักไปเดือนละ200 ตลอด1ปี) +เงิน__ยูเนี่ยน (หักเดือนละ 100) ซึ่งจะต้องได้รับคืนในตอนที่ออก
ซึ่งจขกท.เลยสอบถามไปว่าคืองานค้างอะไร ปรากฎว่าเป็นแผนการสอนรายเทอม ที่ครูผู้สอนจะต้องทำ (แต่จขกท.ลาออกก่อนทำการสอน และก่อนเปิดภาคเรียน อยู่ช่วยสอนเพียง 10วัน) ซึ่งจขกท. เลยถามกลับไปว่า ไม่ใช่หน้าที่ของครูผู้สอนเหรอคะ ที่จะต้องทำแผนดังกล่าวให้ตรงกับการสอนของครู และปรับให้เหมาะกับผู้เรียนในแต่ละสัปดาห์ จขกท.จึงแจ้งอีกว่าได้ส่งไฟล์แผนการสอนที่ทำไว้ให้กับครูคนใหม่เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่ครูคนใหม่จะนำไปปรับใช้ได้เป็นของผู้สอนอย่างแท้จริงเรียบร้อยแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบจากทางโรงเรียนว่า ครูที่มาสอนเป็นครูใหม่ ทำนองว่าไม่อยากให้ครูใหม่ทำ
จขกท.เลยงง กับทางโรงเรียน เพราะตอน จขกท.มาเป็นครูใหม่ ก็ไม่เคยมีใครมาทำแผนการสอนให้แต่อย่างใด ครูทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะทำเพื่อให้เป็นประโยชน์กับผู้เรียน
ซึ่ง จขกท.เหมือนโดนแกล้งเสียมากกว่า เพราะจริงๆถ้า จขกท.ออกตั้งแต่วันที่ขอลาออก ก็ไม่น่าจะต้องมาเสียความรู้สึกกับทางโรงเรียนขนาดนี้
จขกท.ไม่แน่ใจว่าครูที่ออกไปเคยโดนการเรียกร้องแบบนี้หรือไม่
หากในกรณีนี้ จขกท.สามารถทำอะไรได้บ้างคะ ไม่ได้ซีเรียสเรื่องเงินที่จะได้รับ แต่ซีเรียสเรื่องของการให้ความโปร่งใสในเรื่องนี้เสียมากกว่า ..
เพราะตามความคิด จขกท. คือองค์กรไม่มีสิทธิที่จะมากั๊กการจ่ายหรือให้เงินแบบนี้หรือเปล่าคะ
จึงขอมาสอบถามความคิดเห็นในสิ่งที่ จขกท.ควรดำเนินการต่อไปค่ะ