สวัสดีค่าทุกคน >_< ช่วงนี้นอกจากงานหลักแล้ว หลายต่อหลายคนยังหันมาทำอาชีพเสริม เพื่อหารายได้พิเศษ และหนึ่งในอาชีพสุดฮิตนั่นก็คือ ขายของออนไลน์ เพราะเป็นอาชีพที่ดูเริ่มต้นไม่ยาก แต่จะขายอย่างไรให้ยอดขายปังที่สำคัญคือขายได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหานี่แหละค่ะน่าจะเป็นอะไรที่ยากที่สุด
เพราะการขายของออนไลน์นั้น เราต้องดูแลและจัดการหลายอย่าง นอกจากต้องวางแผนเลือกสินค้าที่จะขาย แผนการตลาด ช่องทางการจำหน่ายแล้ว ฯลฯ สิ่งที่น่าปวดหัวของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เรื่องบริหารจัดการหลังร้าน หากร้านของเรามีการจัดการที่ไม่ดี ก็จะทำให้ธุรกิจไม่คล่องตัว เกิดปัญหาจุกจิก เช่น สินค้าขาดสต๊อกจนทำให้เสียโอกาสในการขาย, ต้องออกไปส่งของเองวันละหลายสิบกล่อง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับเพื่อน ๆ ที่วางแผนเปิดร้านค้าออนไลน์ คงอยากรู้แล้วว่า เอ๊ะ ปัญหาเหล่านั้นมีอะไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมปัญหาน่าปวดหัวที่คนขายของออนไลน์น่าจะต้องเจอมาฝากกันอีกด้วย
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
1. จัดการออเดอร์ไม่ทัน
เดี๋ยวนี้การขายของออนไลน์ นั้นต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อดึงลูกค้า ทั้ง Facebook, Instragram , Line Official ไหนจะเว็บไซต์ในการฝากขายของอื่น ๆ อีก ทำให้เราต้องคอยเช็คคำสั่งซื้อจากทุก ๆ ช่องทางอย่างสม่ำเสมอ หากร้านเราไม่มีการจัดระบบการขายที่ดี บางครั้งก็อาจจะทำให้เราพลาดออเดอร์สำคัญ ๆ ของลูกค้าได้หากเราเช็คออเดอร์ได้ไม่ละเอียดพอ หรืออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ เช่น ส่งออเดอร์ได้ล่าช้า, ออเดอร์ผิดพลาด, ออเดอร์ซ้ำ หรือแพ็คออเดอร์เกินจำนวน ซึ่งหากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นบ่อย ๆ แล้วก็จะทำให้ร้านขาดทุน และเสียโอกาสในการขายไปได้อีกด้วยนะคะ
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
2. สินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
ปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนพบเจอ ก็คือเรื่องของสินค้าในสต๊อกไม่พอกับยอดสั่งซื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนยังไม่มีระบบจัดการสินค้าคงคลังที่ดีพอ ทำให้บางครั้งลืมตรวจสอบภาพรวมของสต๊อกสินค้าที่มีอยู่ เช่น จำนวนสินค้าคงเหลือ สินค้าที่ใกล้หมด หรือมีสินค้าใดค้างสต๊อกหรือขาดสต๊อกไปแล้วบ้าง หากเกิดกรณีแบบนี้บ่อย ๆ ก็จะทำให้ร้านเราเสียโอกาสในการขายได้นะคะ
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
3. เงินจมไปกับสต๊อก
นอกจากจะต้องรู้ว่าสินค้าไหนขาดสต๊อกแล้ว บางครั้งหากเราไม่มีระบบสต๊อกของที่เป็นระบบ อาจจะเกิดกรณีที่ “เงินจม” เพราะมีสินค้าที่ตกค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้ถูกสั่งซื้อมานาน หรือสั่งสินค้ามาเกินจำนวน ทำให้เงินลงทุนของเราจมไปกับสต๊อกพวกนี้ได้เช่นกัน
4. ลุ้นทุกครั้งที่ส่งออเดอร์
อีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็คือ เรื่องของการจัดส่งสินค้า เช่น ปัญหาการติดตามออเดอร์ที่ล่าช้า ซึ่งอาจจะมาจากการที่เราไม่มีช่องทางการตรวจสอบสถานะสินค้าที่ดี ไม่มีระบบที่สามารถตรวจเช็คสินค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือต้องรอระบบขนส่งออกเลข Tracking ให้ หากเราปล่อยให้ลูกค้าทวงถามสถานะสินค้าอยู่บ่อย ๆ ลูกค้าอาจจะไม่ประทับใจ และไม่กลับมาซื้อของ ๆ ร้านเราอีกได้ค่ะ
Business photo created by jannoon028 -
www.freepik.com
5. เสียเวลาออกไปส่งของวันละหลายรอบ
นอกจากที่เราจะต้องคอยจัดการกับออเดอร์ต่าง ๆ แล้ว หากมีสินค้าที่เราต้องส่งให้ลูกค้าจำนวนหลายร้อยชิ้น พ่อค้าแม่ค้ายังต้องเสียเวลากับการปริ้นท์ใบปะหน้าออเดอร์จนมือหงิก แถมยังต้องขนกล่องสินค้าจำนวนมากฝ่ารถติดเพื่อไปส่งของเองบ่อย ๆ อีกด้วย
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
6. จัดการเอกสารไม่เป็นระบบ
บิลต่าง ๆ ทั้งเอกสารคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือเอกสารค่าขนส่งสินค้าเป็นตั้ง ๆ หากเราไม่มีการจัดการกับเอกสารเหล่านี้อย่างเป็นระบบ แยกไฟล์ไว้ไม่เป็นที่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการใช้หลักฐาน หรือเรียกดูบิลย้อนหลัง ก็อาจจะต้องเสียเวลาในค้นหา ทำให้การทำงานเกิดความยุ่งยาก และไม่คล่องตัวได้
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
7. มองไม่เห็นภาพรวมของธุรกิจ
ปัญหาของคนขายออนไลน์คือต้องจัดการหลายอย่างพร้อมกัน ไหนจะต้องจัดการออเดอร์ แพ็คสินค้า ออกไปส่งของ จนทำให้ไม่มีเวลาหรือขาดการวางแผนดูแลการขาย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่งเปิดร้าน หากธุรกิจของเพื่อน ๆ ขาดแนวทางการบริหารธุรกิจที่ดี ก็จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพรวม หรือปัญหาของธุรกิจได้ เช่น ปริมาณกำไรหรือสินค้าขาดทุนในเดือนต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถสรุปและตั้งเป้าหมายยอดขายได้ตามที่ต้องการ, บริหารสต๊อกสินค้าในแต่ละช่องทางการขายที่ไม่เหมาะสม หรือในกรณีที่เป็นร้านที่มีพนักงานช่วยดูแล ก็จะไม่สามารถประเมินหรือตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานแต่ละคนได้ค่ะ
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
8. ขายของผ่าน LIVE ทีไรปวดหัวทุกที
เดี๋ยวนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต่างพากันหาช่องทางในการขายที่รวดเร็ว ทำให้เราต้องปวดหัวกับการจัดการออเดอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างการ LIVE ขายของในเพจ Facebook นั้นก็ถือว่าเป็นช่องทางการขายที่สะดวก ปิดการขายง่าย แต่สำหรับคนขายของออนไลน์มือใหม่ ก็อาจจะเจอปัญหาในการสร้างและรับออเดอร์ต่าง ๆ เช่น ไม่ได้สร้างรหัสสินค้าที่แน่นอนเอาไว้ ทำให้เกิดความสับสนในการสั่งซื้อ, ลูกค้าต้องพิมพ์จองสินค้าชื่อยาว ๆ, หรือต้องเสียเวลาในการ Capture หน้าจอทักหากันเพื่อโอนจองสินค้า ซึ่งกลายเป็นการเพิ่มความยุ่งยากในการซื้อไปอีกค่ะ
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
9. ลูกจ้างไม่ได้ดั่งใจ
บางร้านค้าที่มีพนักงานในการช่วยดูแล อาจจะมีปัญหากับการจัดการบทบาทและหน้าที่การทำงานของพนักงาน หากร้านค้าไม่มีการจัดระบบพนักงานที่ดี หากเกิดปัญหาการแพ็คออเดอร์ที่ผิดพลาด และไม่สามารถควบคุมการทำงานที่เหมาะสม
10. ขายของจนไม่มีเวลา
สำหรับร้านค้าที่ขายดีมาก ๆ ออเดอร์เข้าทุกวัน เรียกได้ว่าวัน ๆ หนึ่ง หมดไปกับการขายทั้งตอบแชทลูกค้า บันทึกและเตรียมจัดส่งออเดอร์ไม่หยุด ข้อดีก็คือกำไรมหาศาล แต่ปัญหาน่ากังวลใจก็คือเราจะไม่มีเวลาไปหาลูกค้าใหม่ ๆ หรือหาเวลาไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อีก และที่สำคัญหากเราบริหารจัดการเวลาไม่ดี ก็ทำให้เราไม่มีเวลาออกไปใช้ชีวิต หรือแบ่งเวลาไปทำงานอดิเรกอื่น ๆ ที่ชอบได้เลย
ไม่ง่ายเลยจริง ๆ นะคะสำหรับการเปิดร้านขายของออนไลน์ในยุคนี้ นอกจากจะต้องมีทักษะในการทำธุรกิจ มองตลาดเป็นแล้ว ยังต้องมีทักษะในการบริหารจัดการสินค้าอีกด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเพื่อน ๆ ก็อาจจะต้องเจอปัญหาน่าปวดหัวเหมือนด้านบนแน่นอน
แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ อยากมองหาตัวช่วยเพื่อมาใช้กับร้านของเรา แนะนำให้ลองใช้
Fiilgoods ระบบช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์ ตัวช่วยดี ๆ ที่จะมาช่วย
ยกระดับธุรกิจแบบไม่ต้องควักกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์มือใหม่ หรือร้านออนไลน์ใหญ่ ๆ แบบมือโปรก็สามารถใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการระบบหลังบ้าน ได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
ข้อดีของ
Fiilgoods คือ เป็นระบบที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการขายของร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถบริหารจัดการได้ตั้งแต่ ขั้นตอนการขาย สร้างออเดอร์ รวมไปถึงการขนส่งสินค้า ลดปัญหาน่าปวดหัวในการขายของออนไลน์ที่จะต้องเจอให้น้อยลง ขายของได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญคือ Fillgoods เป็นระบบที่เราสามารถใช้งานได้ฟรีทุกฟังก์ชัน แถมยังรองรับทั้งการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ PC และ แอปพลิเคชันบน Android, iOS แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อน ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริหารจัดการธุรกิจได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา
ทำไมพ่อค้า & แม่ค้าออนไลน์ถึงต้องใช้ Fillgoods ?
- ช่วยให้ร้านค้ามียอดขายเพิ่มมากขึ้น
- คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ง่าย
- ทำงานง่าย มีประสิทธิภาพ
- ประหยัดเวลาได้มากกว่า
Business photo created by jcomp -
www.freepik.com
ทีนี้เราลองมาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Fillgoods ที่จะมาช่วยลดปัญหากวนใจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันค่ะ
[BR] ขายของออนไลน์ไม่ง่ายเลย ! 10 ปัญหาเจ็บ ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องเจอ
เพราะการขายของออนไลน์นั้น เราต้องดูแลและจัดการหลายอย่าง นอกจากต้องวางแผนเลือกสินค้าที่จะขาย แผนการตลาด ช่องทางการจำหน่ายแล้ว ฯลฯ สิ่งที่น่าปวดหัวของเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อีกอย่างหนึ่ง ก็คือ เรื่องบริหารจัดการหลังร้าน หากร้านของเรามีการจัดการที่ไม่ดี ก็จะทำให้ธุรกิจไม่คล่องตัว เกิดปัญหาจุกจิก เช่น สินค้าขาดสต๊อกจนทำให้เสียโอกาสในการขาย, ต้องออกไปส่งของเองวันละหลายสิบกล่อง และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับเพื่อน ๆ ที่วางแผนเปิดร้านค้าออนไลน์ คงอยากรู้แล้วว่า เอ๊ะ ปัญหาเหล่านั้นมีอะไรบ้าง วันนี้เราก็ได้รวบรวมปัญหาน่าปวดหัวที่คนขายของออนไลน์น่าจะต้องเจอมาฝากกันอีกด้วย
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
1. จัดการออเดอร์ไม่ทัน
เดี๋ยวนี้การขายของออนไลน์ นั้นต้องอาศัยแพลตฟอร์มที่หลากหลายเพื่อดึงลูกค้า ทั้ง Facebook, Instragram , Line Official ไหนจะเว็บไซต์ในการฝากขายของอื่น ๆ อีก ทำให้เราต้องคอยเช็คคำสั่งซื้อจากทุก ๆ ช่องทางอย่างสม่ำเสมอ หากร้านเราไม่มีการจัดระบบการขายที่ดี บางครั้งก็อาจจะทำให้เราพลาดออเดอร์สำคัญ ๆ ของลูกค้าได้หากเราเช็คออเดอร์ได้ไม่ละเอียดพอ หรืออาจจะมีปัญหาอื่น ๆ เช่น ส่งออเดอร์ได้ล่าช้า, ออเดอร์ผิดพลาด, ออเดอร์ซ้ำ หรือแพ็คออเดอร์เกินจำนวน ซึ่งหากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นบ่อย ๆ แล้วก็จะทำให้ร้านขาดทุน และเสียโอกาสในการขายไปได้อีกด้วยนะคะ
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
2. สินค้าไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า
ปัญหาที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนพบเจอ ก็คือเรื่องของสินค้าในสต๊อกไม่พอกับยอดสั่งซื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการที่พ่อค้าแม่ค้าหลายคนยังไม่มีระบบจัดการสินค้าคงคลังที่ดีพอ ทำให้บางครั้งลืมตรวจสอบภาพรวมของสต๊อกสินค้าที่มีอยู่ เช่น จำนวนสินค้าคงเหลือ สินค้าที่ใกล้หมด หรือมีสินค้าใดค้างสต๊อกหรือขาดสต๊อกไปแล้วบ้าง หากเกิดกรณีแบบนี้บ่อย ๆ ก็จะทำให้ร้านเราเสียโอกาสในการขายได้นะคะ
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
3. เงินจมไปกับสต๊อก
นอกจากจะต้องรู้ว่าสินค้าไหนขาดสต๊อกแล้ว บางครั้งหากเราไม่มีระบบสต๊อกของที่เป็นระบบ อาจจะเกิดกรณีที่ “เงินจม” เพราะมีสินค้าที่ตกค้างอยู่ในสต๊อกจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นสินค้าที่ไม่ได้ถูกสั่งซื้อมานาน หรือสั่งสินค้ามาเกินจำนวน ทำให้เงินลงทุนของเราจมไปกับสต๊อกพวกนี้ได้เช่นกัน
4. ลุ้นทุกครั้งที่ส่งออเดอร์
อีกหนึ่งปัญหาที่น่าปวดหัวของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็คือ เรื่องของการจัดส่งสินค้า เช่น ปัญหาการติดตามออเดอร์ที่ล่าช้า ซึ่งอาจจะมาจากการที่เราไม่มีช่องทางการตรวจสอบสถานะสินค้าที่ดี ไม่มีระบบที่สามารถตรวจเช็คสินค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือต้องรอระบบขนส่งออกเลข Tracking ให้ หากเราปล่อยให้ลูกค้าทวงถามสถานะสินค้าอยู่บ่อย ๆ ลูกค้าอาจจะไม่ประทับใจ และไม่กลับมาซื้อของ ๆ ร้านเราอีกได้ค่ะ
Business photo created by jannoon028 - www.freepik.com
5. เสียเวลาออกไปส่งของวันละหลายรอบ
นอกจากที่เราจะต้องคอยจัดการกับออเดอร์ต่าง ๆ แล้ว หากมีสินค้าที่เราต้องส่งให้ลูกค้าจำนวนหลายร้อยชิ้น พ่อค้าแม่ค้ายังต้องเสียเวลากับการปริ้นท์ใบปะหน้าออเดอร์จนมือหงิก แถมยังต้องขนกล่องสินค้าจำนวนมากฝ่ารถติดเพื่อไปส่งของเองบ่อย ๆ อีกด้วย
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
6. จัดการเอกสารไม่เป็นระบบ
บิลต่าง ๆ ทั้งเอกสารคำสั่งซื้อจากลูกค้า หรือเอกสารค่าขนส่งสินค้าเป็นตั้ง ๆ หากเราไม่มีการจัดการกับเอกสารเหล่านี้อย่างเป็นระบบ แยกไฟล์ไว้ไม่เป็นที่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราต้องการใช้หลักฐาน หรือเรียกดูบิลย้อนหลัง ก็อาจจะต้องเสียเวลาในค้นหา ทำให้การทำงานเกิดความยุ่งยาก และไม่คล่องตัวได้
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
7. มองไม่เห็นภาพรวมของธุรกิจ
ปัญหาของคนขายออนไลน์คือต้องจัดการหลายอย่างพร้อมกัน ไหนจะต้องจัดการออเดอร์ แพ็คสินค้า ออกไปส่งของ จนทำให้ไม่มีเวลาหรือขาดการวางแผนดูแลการขาย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่เพิ่งเปิดร้าน หากธุรกิจของเพื่อน ๆ ขาดแนวทางการบริหารธุรกิจที่ดี ก็จะทำให้ไม่สามารถมองเห็นภาพรวม หรือปัญหาของธุรกิจได้ เช่น ปริมาณกำไรหรือสินค้าขาดทุนในเดือนต่าง ๆ ทำให้ไม่สามารถสรุปและตั้งเป้าหมายยอดขายได้ตามที่ต้องการ, บริหารสต๊อกสินค้าในแต่ละช่องทางการขายที่ไม่เหมาะสม หรือในกรณีที่เป็นร้านที่มีพนักงานช่วยดูแล ก็จะไม่สามารถประเมินหรือตรวจสอบประวัติการทำงานของพนักงานแต่ละคนได้ค่ะ
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
8. ขายของผ่าน LIVE ทีไรปวดหัวทุกที
เดี๋ยวนี้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต่างพากันหาช่องทางในการขายที่รวดเร็ว ทำให้เราต้องปวดหัวกับการจัดการออเดอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างการ LIVE ขายของในเพจ Facebook นั้นก็ถือว่าเป็นช่องทางการขายที่สะดวก ปิดการขายง่าย แต่สำหรับคนขายของออนไลน์มือใหม่ ก็อาจจะเจอปัญหาในการสร้างและรับออเดอร์ต่าง ๆ เช่น ไม่ได้สร้างรหัสสินค้าที่แน่นอนเอาไว้ ทำให้เกิดความสับสนในการสั่งซื้อ, ลูกค้าต้องพิมพ์จองสินค้าชื่อยาว ๆ, หรือต้องเสียเวลาในการ Capture หน้าจอทักหากันเพื่อโอนจองสินค้า ซึ่งกลายเป็นการเพิ่มความยุ่งยากในการซื้อไปอีกค่ะ
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
9. ลูกจ้างไม่ได้ดั่งใจ
บางร้านค้าที่มีพนักงานในการช่วยดูแล อาจจะมีปัญหากับการจัดการบทบาทและหน้าที่การทำงานของพนักงาน หากร้านค้าไม่มีการจัดระบบพนักงานที่ดี หากเกิดปัญหาการแพ็คออเดอร์ที่ผิดพลาด และไม่สามารถควบคุมการทำงานที่เหมาะสม
10. ขายของจนไม่มีเวลา
สำหรับร้านค้าที่ขายดีมาก ๆ ออเดอร์เข้าทุกวัน เรียกได้ว่าวัน ๆ หนึ่ง หมดไปกับการขายทั้งตอบแชทลูกค้า บันทึกและเตรียมจัดส่งออเดอร์ไม่หยุด ข้อดีก็คือกำไรมหาศาล แต่ปัญหาน่ากังวลใจก็คือเราจะไม่มีเวลาไปหาลูกค้าใหม่ ๆ หรือหาเวลาไปต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อีก และที่สำคัญหากเราบริหารจัดการเวลาไม่ดี ก็ทำให้เราไม่มีเวลาออกไปใช้ชีวิต หรือแบ่งเวลาไปทำงานอดิเรกอื่น ๆ ที่ชอบได้เลย
ไม่ง่ายเลยจริง ๆ นะคะสำหรับการเปิดร้านขายของออนไลน์ในยุคนี้ นอกจากจะต้องมีทักษะในการทำธุรกิจ มองตลาดเป็นแล้ว ยังต้องมีทักษะในการบริหารจัดการสินค้าอีกด้วย เพราะไม่อย่างนั้นเพื่อน ๆ ก็อาจจะต้องเจอปัญหาน่าปวดหัวเหมือนด้านบนแน่นอน
แต่สำหรับใครที่ไม่ถนัดในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ อยากมองหาตัวช่วยเพื่อมาใช้กับร้านของเรา แนะนำให้ลองใช้ Fiilgoods ระบบช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์ ตัวช่วยดี ๆ ที่จะมาช่วยยกระดับธุรกิจแบบไม่ต้องควักกระเป๋า ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์มือใหม่ หรือร้านออนไลน์ใหญ่ ๆ แบบมือโปรก็สามารถใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการระบบหลังบ้าน ได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
ข้อดีของ Fiilgoods คือ เป็นระบบที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกการขายของร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถบริหารจัดการได้ตั้งแต่ ขั้นตอนการขาย สร้างออเดอร์ รวมไปถึงการขนส่งสินค้า ลดปัญหาน่าปวดหัวในการขายของออนไลน์ที่จะต้องเจอให้น้อยลง ขายของได้อย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม
ที่สำคัญคือ Fillgoods เป็นระบบที่เราสามารถใช้งานได้ฟรีทุกฟังก์ชัน แถมยังรองรับทั้งการใช้งานบนคอมพิวเตอร์ PC และ แอปพลิเคชันบน Android, iOS แบบไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อน ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและบริหารจัดการธุรกิจได้ตลอดทุกที่ ทุกเวลา
ทำไมพ่อค้า & แม่ค้าออนไลน์ถึงต้องใช้ Fillgoods ?
- ช่วยให้ร้านค้ามียอดขายเพิ่มมากขึ้น
- คำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ง่าย
- ทำงานง่าย มีประสิทธิภาพ
- ประหยัดเวลาได้มากกว่า
Business photo created by jcomp - www.freepik.com
ทีนี้เราลองมาดูฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Fillgoods ที่จะมาช่วยลดปัญหากวนใจของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันค่ะ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน