สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะว่าเราแค่อยากจะมาระบายความในใจของเราเอง มันอาจจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยของคนอื่นๆ แต่กับตัวเรา... เราอึดอัดจริงๆค่ะ
เราอายุ20กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และปัญหาที่เราอยากจะมาระบายนั้นหลักๆมีอยู่ไม่กี่อย่างค่ะ อย่างแรกเลยคือเรื่องของการดูแลน้อง และการเข้าใจกันของครอบครัว
เราเป็นลูกคนโต เรากำลังขึ้นปีสองและเราก็มีน้องสาวอายุราวๆ6ขวบ ตลอดเวลาที่เราทำหน้าที่การเป็นพี่สาวมา ตั้งแต่น้องคลอดเราทำหน้าที่ดูแลน้องมาตลอด คอยอาบน้ำ คอยหานม คอยเอานอน ล้างก้น เราทำสารพัดเลยค่ะ กลับจากเรียน(ช่วงที่น้องเกิดเราอยู่ช่วงประมาณม.3ค่ะ)เราก็ต้องกลับมาดูแลน้อง จนบางทีเราเองที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเราก็อยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แค่สักครั้งก็ยังดี แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ไป ซึ่งเราก็โอเค เราก็ไม่ไปเพราะคิดว่าช่วงนั้นแม่อาจจะกำลังวุ่นเพราะน้องก็พึ่งคลอดออกมาไม่นาน การจัดสรรค์เวลาบางทีเราก็ต้องคอยช่วย และเราค่อยเอาเวลาเที่ยวไปตอนน้องเริ่มโตก็ได้ แต่พอเราอายุช่วง20 เราเห็นว่าน้องก็6ขวบแล้ว เริ่มโตเริ่มเชื่อฟังแม่แล้ว เราก็อยากจะไปเที่ยวหรือมีเวลาส่วนตัวของเราบ้างแล้ว(ขอบอกก่อนนะคะว่าเราไม่เที่ยวกลางคืนค่ะ) เราเลยขอแม่ไปเที่ยวค่ะ แค่ไปเที่ยวห้างใกล้ๆบ้าน ไปพบปะกับเพื่อนบ้าง แม่ก็ให้เราไปนะคะ แต่เราไปด้วยความประชดประชันของแม่ แม่จะชอบพูดกับเราประมาณว่า "ไปสิ ไปเที่ยวเลย วันๆไม่ทำอะไร ไม่ช่วยดูน้อง เออไม่ต้องทำอะไรกันพอดี!" ซึ่งคำพูดเหล่านี้เราจะได้ยินตอนแม่โทรตามให้กลับบ้านค่ะ บางทีเราก็อึดอัดนะคะ มันเหมือนกับว่าช่วงวัยรุ่นเราเองก็ไม่ได้เที่ยวเหมือนคนอื่นเขา พอเรา20เราก็อยากจะไปเที่ยวตามประสาของเราบ้าง บอกตามตรงเลยบางทีเราก็อิจฉาเพื่อนๆในกลุ่มของเราที่ได้ไปเที่ยวกัน ได้ไปนอนพักผ่อนทะเลกันสองวัน1คืน แต่เรากลับเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ได้ไปเพราะต้องอยู่เลี้ยงน้อง จนหลังๆเพื่อนแทบไม่มาชวนเราเที่ยวแล้วค่ะเพราะเรามักจะปฎิเสธ จนตอนนี้เราเริ่มเป็นคนที่ตัดสินใจเองไม่เป็นเพราะทางครอบครัวจะตัดสินใจแทนเราหมด ทำให้เราขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยค่ะ ยิ่งในเรื่องของความรักเราไม่กล้ามีมากๆ เพราะกลัวว่าที่บ้านจะไม่อยากให้มี เราเลยกลายเป็นคนที่มีกำแพงหนาๆ ไม่กล้ารักใคร ไม่กล้าเปิดใจให้ใครเพราะกลัวที่บ้านจะไม่โอเค
ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องของความไม่เข้าใจกัน เรากับแม่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ค่ะ หลายต่อหลายครั้งที่เรากับแม่ไม่เข้าใจกัน เราเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเถียง แต่มาหลังๆเราเริ่มเถียงเพราะบางทีแม่เราก็พูดเกินจริง(กรณีแม่บ่นให้พ่อฟัง แล้วพ่อมาถามเหตุผลจากเรา *ซึ่งพ่อเป็นคนเดียวที่ฟังเหตุผลของเราค่ะ) ทำให้เราต้องเถียงกลับไปค่ะ ซึ่งแน่นอนเราโดนคำว่า "โตแล้วหรอ เลี้ยงตัวเองเป็นแล้วหรอถึงมาเถียง" ก็นั่นแหละค่ะทำให้เราต้องเงียบกลับไปตามเดิม หากถามว่าทำไมแม่พูดกับเราแบบนี้ เพราะว่าเรายังไม่เคยทำงานค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทำนะคะ เราหางานมาตลอด เพราะเราอยากเก็บตัง อยากเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว เราก็ไปปรึกษากับที่บ้านว่าช่วงปิดเทอมเราขอไปทำงานได้มั้ย ที่บ้านก็จะบอกไม่ให้ทำ เพราะเป็นห่วง มันเลิกดึก ต้องเดินทางนั่นนี่ แต่พอทะเลาะกันทีไร เราก็มักจะโดนว่าๆไม่ทำงาน อยู่บ้านก็ไม่ช่วยเลี้ยงน้อง ทั้งๆที่เราเนี่ยตัวติดกับน้อง24ชม.เลย จนน้องเรียกเราว่าแม่อีกคนแล้ว ส่วนอีกเรื่องที่เรารับไม่ได้คือแม่จะชอบไปบ่นเราให้คนบ้านข้างๆฟัง บ่นเราไม่ว่าหรอกแต่แม่ชอบเพิ่มเติมเรื่องเข้าไปด้วย ซึ่งเราเองก็ต้องทำใจกับตรงนี้ค่ะ
อ่านๆไปอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรดีนะคะ แต่สิ่งๆหนึ่งที่ทำให้เราคิดมาตลอด หากไม่นับกับปัญหาด้านบนคือครอบครัวเลี้ยงดูเราดีค่ะ รักกันดี อาจจะมีปัญหาที่ทำให้ตัวเราอึดอัดไปบ้าง แต่เราก็ขอบคุณครอบครัวเราที่เลี้ยงดูเรามาจนโต แต่เราก็ไม่กล้านำความอึดอัดนี้ไปคุยกับที่บ้านตรงๆหรอกค่ะ เรากลัวคำตอบที่จะได้มา เราถึงเลือกมาระบายในนี้ ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หากจะแนะนำ หรือกล่าวเตือนอะไร จขกท ยินดีรับฟังและน้อมรับค่ะ ขอบคุณค่ะ
มีใครเคยอึดอัดครอบครัวบ้างไหมคะ...
เราอายุ20กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย และปัญหาที่เราอยากจะมาระบายนั้นหลักๆมีอยู่ไม่กี่อย่างค่ะ อย่างแรกเลยคือเรื่องของการดูแลน้อง และการเข้าใจกันของครอบครัว
เราเป็นลูกคนโต เรากำลังขึ้นปีสองและเราก็มีน้องสาวอายุราวๆ6ขวบ ตลอดเวลาที่เราทำหน้าที่การเป็นพี่สาวมา ตั้งแต่น้องคลอดเราทำหน้าที่ดูแลน้องมาตลอด คอยอาบน้ำ คอยหานม คอยเอานอน ล้างก้น เราทำสารพัดเลยค่ะ กลับจากเรียน(ช่วงที่น้องเกิดเราอยู่ช่วงประมาณม.3ค่ะ)เราก็ต้องกลับมาดูแลน้อง จนบางทีเราเองที่อยู่ในช่วงวัยรุ่นเราก็อยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง แค่สักครั้งก็ยังดี แต่เราไม่ได้รับอนุญาตให้ไป ซึ่งเราก็โอเค เราก็ไม่ไปเพราะคิดว่าช่วงนั้นแม่อาจจะกำลังวุ่นเพราะน้องก็พึ่งคลอดออกมาไม่นาน การจัดสรรค์เวลาบางทีเราก็ต้องคอยช่วย และเราค่อยเอาเวลาเที่ยวไปตอนน้องเริ่มโตก็ได้ แต่พอเราอายุช่วง20 เราเห็นว่าน้องก็6ขวบแล้ว เริ่มโตเริ่มเชื่อฟังแม่แล้ว เราก็อยากจะไปเที่ยวหรือมีเวลาส่วนตัวของเราบ้างแล้ว(ขอบอกก่อนนะคะว่าเราไม่เที่ยวกลางคืนค่ะ) เราเลยขอแม่ไปเที่ยวค่ะ แค่ไปเที่ยวห้างใกล้ๆบ้าน ไปพบปะกับเพื่อนบ้าง แม่ก็ให้เราไปนะคะ แต่เราไปด้วยความประชดประชันของแม่ แม่จะชอบพูดกับเราประมาณว่า "ไปสิ ไปเที่ยวเลย วันๆไม่ทำอะไร ไม่ช่วยดูน้อง เออไม่ต้องทำอะไรกันพอดี!" ซึ่งคำพูดเหล่านี้เราจะได้ยินตอนแม่โทรตามให้กลับบ้านค่ะ บางทีเราก็อึดอัดนะคะ มันเหมือนกับว่าช่วงวัยรุ่นเราเองก็ไม่ได้เที่ยวเหมือนคนอื่นเขา พอเรา20เราก็อยากจะไปเที่ยวตามประสาของเราบ้าง บอกตามตรงเลยบางทีเราก็อิจฉาเพื่อนๆในกลุ่มของเราที่ได้ไปเที่ยวกัน ได้ไปนอนพักผ่อนทะเลกันสองวัน1คืน แต่เรากลับเป็นคนเดียวในกลุ่มที่ไม่ได้ไปเพราะต้องอยู่เลี้ยงน้อง จนหลังๆเพื่อนแทบไม่มาชวนเราเที่ยวแล้วค่ะเพราะเรามักจะปฎิเสธ จนตอนนี้เราเริ่มเป็นคนที่ตัดสินใจเองไม่เป็นเพราะทางครอบครัวจะตัดสินใจแทนเราหมด ทำให้เราขาดความมั่นใจในตัวเองไปเลยค่ะ ยิ่งในเรื่องของความรักเราไม่กล้ามีมากๆ เพราะกลัวว่าที่บ้านจะไม่อยากให้มี เราเลยกลายเป็นคนที่มีกำแพงหนาๆ ไม่กล้ารักใคร ไม่กล้าเปิดใจให้ใครเพราะกลัวที่บ้านจะไม่โอเค
ส่วนอีกเรื่องคือเรื่องของความไม่เข้าใจกัน เรากับแม่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ค่ะ หลายต่อหลายครั้งที่เรากับแม่ไม่เข้าใจกัน เราเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยเถียง แต่มาหลังๆเราเริ่มเถียงเพราะบางทีแม่เราก็พูดเกินจริง(กรณีแม่บ่นให้พ่อฟัง แล้วพ่อมาถามเหตุผลจากเรา *ซึ่งพ่อเป็นคนเดียวที่ฟังเหตุผลของเราค่ะ) ทำให้เราต้องเถียงกลับไปค่ะ ซึ่งแน่นอนเราโดนคำว่า "โตแล้วหรอ เลี้ยงตัวเองเป็นแล้วหรอถึงมาเถียง" ก็นั่นแหละค่ะทำให้เราต้องเงียบกลับไปตามเดิม หากถามว่าทำไมแม่พูดกับเราแบบนี้ เพราะว่าเรายังไม่เคยทำงานค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทำนะคะ เราหางานมาตลอด เพราะเราอยากเก็บตัง อยากเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว เราก็ไปปรึกษากับที่บ้านว่าช่วงปิดเทอมเราขอไปทำงานได้มั้ย ที่บ้านก็จะบอกไม่ให้ทำ เพราะเป็นห่วง มันเลิกดึก ต้องเดินทางนั่นนี่ แต่พอทะเลาะกันทีไร เราก็มักจะโดนว่าๆไม่ทำงาน อยู่บ้านก็ไม่ช่วยเลี้ยงน้อง ทั้งๆที่เราเนี่ยตัวติดกับน้อง24ชม.เลย จนน้องเรียกเราว่าแม่อีกคนแล้ว ส่วนอีกเรื่องที่เรารับไม่ได้คือแม่จะชอบไปบ่นเราให้คนบ้านข้างๆฟัง บ่นเราไม่ว่าหรอกแต่แม่ชอบเพิ่มเติมเรื่องเข้าไปด้วย ซึ่งเราเองก็ต้องทำใจกับตรงนี้ค่ะ
อ่านๆไปอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรดีนะคะ แต่สิ่งๆหนึ่งที่ทำให้เราคิดมาตลอด หากไม่นับกับปัญหาด้านบนคือครอบครัวเลี้ยงดูเราดีค่ะ รักกันดี อาจจะมีปัญหาที่ทำให้ตัวเราอึดอัดไปบ้าง แต่เราก็ขอบคุณครอบครัวเราที่เลี้ยงดูเรามาจนโต แต่เราก็ไม่กล้านำความอึดอัดนี้ไปคุยกับที่บ้านตรงๆหรอกค่ะ เรากลัวคำตอบที่จะได้มา เราถึงเลือกมาระบายในนี้ ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ หากจะแนะนำ หรือกล่าวเตือนอะไร จขกท ยินดีรับฟังและน้อมรับค่ะ ขอบคุณค่ะ