“ช่อ” ย้อน “หมอวรงค์” แสดงหลักฐานหรือยัง กล่าวหาคนรับเงินเป็นอวตาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_2258357
“ช่อ” ย้อนถาม “หมอวรงค์” แสดงหลักฐานหรือยังว่าคนรับเงินเป็นอวตาร อัด ไม่ว่าใครก็ไม่ควรถูกกล่าวหาด้วยเกมการเมืองราคาต่ำ
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.
พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่นพ.
วรงค์ เดชวิกรม อดีตผู้บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงว่า คณะก้าวหน้าได้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการโอนเงินและจำนวนเงินไปทั้งหมดแล้ว และหลักฐานทุกอย่างพร้อมให้ถูกตรวจสอบ แต่อยากให้สังคมตั้งคำถามว่าบุคคลที่กล่าวหาว่าเราเอาคนอวตารมารับเงินนั้นเป็นกล่าวหาลอยๆทั้งสิ้น และปล่อยให้ภาระการพิสูจน์เป็นของเรา ดังนั้น เรื่องนี้ต้องสอบถามทางธนาคารพาณิชย์ว่า ทำไมถึงให้บุคคลที่ไม่มีข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ตามที่นพ.
วรงค์อ้างนั้นเปิดบัญชีธนาคารได้
“อยากถามคุณได้แสดงหลักฐานหรือยังว่า บุคคลที่รับเงินเป็นคนอวตาร มีแต่การพูดลอยๆและโกหกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมไม่ควรถูกกล่าวหาด้วยเกมการเมืองราคาต่ำเช่นนี้โดยไม่มีต้นทุนอะไรเลย เพราะมีการกล่าวหาเราแต่กลับไม่มีหลักฐานมาแสดงและปล่อยให้ภาระการพิสูจน์เป็นของอีกฝ่าย ดังนั้น เมื่อเราแสดงหลักฐานแล้ว ขอให้ไปช่วยดูด้วยและพิจารณาข่าวสารด้วยใจเป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดจะมีการฟ้องและจะมีการพิสูจน์กันในชั้นศาล” น.ส.
พรรณิการ์ กล่าว
น.ส.
พรรณิการ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องร้องนพ.วรงค์ต่อไป ส่วนกรณีการกล่าวหาของว่าที่ร้อยตรี
บุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทยนั้นทางคณะก้าวหน้าได้ดำเนินการฟ้องร้องแล้ว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.
พรรณิการ์ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ด้วยว่า
“แจงสเตทเมนต์หมดแล้วก็ยังจะขอดูของ 15 คน เชิญคุณหมอวรงค์ตรวจสอบ และกล่าวขอโทษช่อและคณะก้าวหน้าให้ปรากฏต่อสาธารณะภายใน 24 ชั่วโมง มิฉะนั้นขอดำเนินการตามกฎหมาย เราแสดงหลักฐานทั้งหมด คุณไม่เคยแสดงอะไรเลยนอกจากกล่าวหาลอยๆ”
“กมธ.กฎหมาย”เดินหน้าดันกม.ป้องกันและต่อต้านการอุ้มหาย ให้สภาพิจารณา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2258325
“กมธ.กฎหมาย” เตรียมชง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการอุ้มหายให้ที่ประชุมสภาพิจารณา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำโดย นายสิระ เจนจาคะ ประธานกมธ. และนายรังสิมันต์ โรม ร่วมแถลงถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการทรมาน และการอุ้มหาย
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ.พิจารณาเห็นชอบจากความเห็นของพรรคการเมืองทุกพรรคทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรับบาล โดยมีผู้ลงชื่อในการสนับสนุนร่างนี้จำนวนกว่า 100 คน แสดงให้เห็นว่า สภาให้ความสำคัญกับเรื่องทรมาน และการบังคับบุคคลสูญหาย โดยวันนี้จะทำการยื่นกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรผ่าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกมธ.มีมติตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องร้องเรียนการกู้เงินจากสหกรณ์อาชีพครู จังหวัดอำนาจเจริญ อีกทั้งยังมีมติจัดตั้งคณะกมธ.กลั่นกรองเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา เนื่องจากที่ผ่านมากมธ.กฎหมายได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนหลายร้อยเรื่อง และเรายังมีข้อจำกัดของเวลาในการทำหน้าที่ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาไตร่ตรองแก้ปัญหาได้ครบทุกเรื่อง จึงต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องที่ประชาชนร้องเข้ามาได้รับคำตอบ นอกจากนี้ ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ กมธ.จะเชิญรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และผบ.ตร.มาชี้แจงในเรื่องกรณีใบกระท่อม เนื่องจากมีการจับกุมประชาชนจำนวนไม่น้อย ซึ่งได้รับผลกระทรบจากเรื่องนี้ และทางกมธ. ได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอด เราต้องกการทราบว่า ตกลงแล้วรัฐบาลมีท่าที่อย่างไรต่อเรื่องใบกระท่อม และในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ทางกมธ. จะเดินทางไปที่สภาทนายความ เพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน ถือเป็นโอกาสดีในการทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อยกระดับในการแก้ปัญหาด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้มีข้อเสนอให้ยกเลิกประวัติอาชญากรรมหลังจากคดัสิ้นสุดแล้ว หรือได้รับการยกฟ้อง เนื่องจากหลายคดีที่คดีสิ้นสุดแล้ แต่ประวัติอาชญากรรมยังคงอยู่ ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการทำงาน
ด้านนายสิระ กล่าวว่า จากนี้ไป เมื่อสภามีมติส่งถึงรัฐบาล หากรัฐบาลไม่ทำตามมติของสภา ตนจะทวงถามความเป็นสภาที่มาจากประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาตนเข้าใจว่าเราไม่สภาผู้แทนราษฎรมาเป็นเวลานานอาจทำให้รัฐบาลเคยชินกับการออกกฎหมาย หรือออกระเบียบเอง แต่ตอนนี้มีสภาแล้วตนจะตามเรื่องให้ถึงที่สุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำตามเสียงประชาชน
JJNY : ช่อย้อนวรงค์ แสดงหลักฐานกล่าวหา/กมธ.กฎหมายเดินหน้าดันกม.อุ้มหาย/เพนกวินไม่รับทราบข้อหา/หวั่น"ผิดนัดชำระหนี้"พุ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_2258357
เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ที่รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า กล่าวถึงกรณีที่นพ.วรงค์ เดชวิกรม อดีตผู้บริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงว่า คณะก้าวหน้าได้เปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับการโอนเงินและจำนวนเงินไปทั้งหมดแล้ว และหลักฐานทุกอย่างพร้อมให้ถูกตรวจสอบ แต่อยากให้สังคมตั้งคำถามว่าบุคคลที่กล่าวหาว่าเราเอาคนอวตารมารับเงินนั้นเป็นกล่าวหาลอยๆทั้งสิ้น และปล่อยให้ภาระการพิสูจน์เป็นของเรา ดังนั้น เรื่องนี้ต้องสอบถามทางธนาคารพาณิชย์ว่า ทำไมถึงให้บุคคลที่ไม่มีข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ตามที่นพ.วรงค์อ้างนั้นเปิดบัญชีธนาคารได้
“อยากถามคุณได้แสดงหลักฐานหรือยังว่า บุคคลที่รับเงินเป็นคนอวตาร มีแต่การพูดลอยๆและโกหกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นใครย่อมไม่ควรถูกกล่าวหาด้วยเกมการเมืองราคาต่ำเช่นนี้โดยไม่มีต้นทุนอะไรเลย เพราะมีการกล่าวหาเราแต่กลับไม่มีหลักฐานมาแสดงและปล่อยให้ภาระการพิสูจน์เป็นของอีกฝ่าย ดังนั้น เมื่อเราแสดงหลักฐานแล้ว ขอให้ไปช่วยดูด้วยและพิจารณาข่าวสารด้วยใจเป็นธรรม ซึ่งทั้งหมดจะมีการฟ้องและจะมีการพิสูจน์กันในชั้นศาล” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทนายความรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการฟ้องร้องนพ.วรงค์ต่อไป ส่วนกรณีการกล่าวหาของว่าที่ร้อยตรีบุญเกื้อ ปุสสเทโว อดีตผู้ช่วย ส.ส.พรรคภูมิใจไทยนั้นทางคณะก้าวหน้าได้ดำเนินการฟ้องร้องแล้ว
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.พรรณิการ์ ได้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ด้วยว่า
“แจงสเตทเมนต์หมดแล้วก็ยังจะขอดูของ 15 คน เชิญคุณหมอวรงค์ตรวจสอบ และกล่าวขอโทษช่อและคณะก้าวหน้าให้ปรากฏต่อสาธารณะภายใน 24 ชั่วโมง มิฉะนั้นขอดำเนินการตามกฎหมาย เราแสดงหลักฐานทั้งหมด คุณไม่เคยแสดงอะไรเลยนอกจากกล่าวหาลอยๆ”
“กมธ.กฎหมาย”เดินหน้าดันกม.ป้องกันและต่อต้านการอุ้มหาย ให้สภาพิจารณา
https://www.matichon.co.th/politics/news_2258325
“กมธ.กฎหมาย” เตรียมชง พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการอุ้มหายให้ที่ประชุมสภาพิจารณา
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 8 กรกฎาคม ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน นำโดย นายสิระ เจนจาคะ ประธานกมธ. และนายรังสิมันต์ โรม ร่วมแถลงถึงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการทรมาน และการอุ้มหาย
โดยนายรังสิมันต์ กล่าวว่า กมธ.พิจารณาเห็นชอบจากความเห็นของพรรคการเมืองทุกพรรคทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรับบาล โดยมีผู้ลงชื่อในการสนับสนุนร่างนี้จำนวนกว่า 100 คน แสดงให้เห็นว่า สภาให้ความสำคัญกับเรื่องทรมาน และการบังคับบุคคลสูญหาย โดยวันนี้จะทำการยื่นกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรผ่าน นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร
นายรังสิมันต์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีกมธ.มีมติตั้งคณะทำงานศึกษาเรื่องร้องเรียนการกู้เงินจากสหกรณ์อาชีพครู จังหวัดอำนาจเจริญ อีกทั้งยังมีมติจัดตั้งคณะกมธ.กลั่นกรองเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามา เนื่องจากที่ผ่านมากมธ.กฎหมายได้รับเรื่องร้องเรียนจำนวนหลายร้อยเรื่อง และเรายังมีข้อจำกัดของเวลาในการทำหน้าที่ ทำให้ไม่สามารถพิจารณาไตร่ตรองแก้ปัญหาได้ครบทุกเรื่อง จึงต้องหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรให้เรื่องที่ประชาชนร้องเข้ามาได้รับคำตอบ นอกจากนี้ ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ กมธ.จะเชิญรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กระทรวงสาธารณสุข และผบ.ตร.มาชี้แจงในเรื่องกรณีใบกระท่อม เนื่องจากมีการจับกุมประชาชนจำนวนไม่น้อย ซึ่งได้รับผลกระทรบจากเรื่องนี้ และทางกมธ. ได้รับการร้องเรียนมาโดยตลอด เราต้องกการทราบว่า ตกลงแล้วรัฐบาลมีท่าที่อย่างไรต่อเรื่องใบกระท่อม และในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้ ทางกมธ. จะเดินทางไปที่สภาทนายความ เพื่อหาแนวทางในการทำงานร่วมกัน ถือเป็นโอกาสดีในการทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อยกระดับในการแก้ปัญหาด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังได้มีข้อเสนอให้ยกเลิกประวัติอาชญากรรมหลังจากคดัสิ้นสุดแล้ว หรือได้รับการยกฟ้อง เนื่องจากหลายคดีที่คดีสิ้นสุดแล้ แต่ประวัติอาชญากรรมยังคงอยู่ ทำให้หลายคนพลาดโอกาสในการทำงาน
ด้านนายสิระ กล่าวว่า จากนี้ไป เมื่อสภามีมติส่งถึงรัฐบาล หากรัฐบาลไม่ทำตามมติของสภา ตนจะทวงถามความเป็นสภาที่มาจากประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาตนเข้าใจว่าเราไม่สภาผู้แทนราษฎรมาเป็นเวลานานอาจทำให้รัฐบาลเคยชินกับการออกกฎหมาย หรือออกระเบียบเอง แต่ตอนนี้มีสภาแล้วตนจะตามเรื่องให้ถึงที่สุด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำตามเสียงประชาชน