💓/มาลาริน/5 ก.ค.ไทยป่วยโควิด 5 ราย มาจากตปท. ปชช.วิตกลดลง คาดจะปกติสิ้นปี 63 โตเกียวพบผู้ติดเชื้อเกิน 100 รายต่อเนื่อง

5 ก.ค.ยังเหมือนเดิม! โควิดนำเข้า 5 ราย



เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2563 ศบค. รายงงานสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 5กรกฎาคม 2563 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิดวันนี้ 5 ราย จากที่กักกัน หรือ State Quarantine ป่วยรวมสะสม 3,190 ราย รักษาหายรวม 3,071 ราย โดยผู้ติดเชื้อมาจากประเทศ อินเดีย1ราย คูเวต2ราย สหรัฐอเมริกา1ราย และญี่ปุ่น1ราย
สวนดุสิตโพล ชี้คนกว่า 52% กังวลโควิด-19 ลดลง หวังคลี่คลายสิ้นปี 63
 
สถานการณ์โควิด-19 ของไทย ณ วันนี้ ยังไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศเป็นเวลากว่า 30 วันติดต่อกัน ในขณะที่รัฐบาลได้มีการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 อนุญาตให้เปิดกิจการและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดยาว คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากที่เดินทางกลับบ้าน รวมถึงการท่องเที่ยว จึงขอให้ระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด 

เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,109 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
         
1. ความวิตกกังวลของประชาชน กับ สถานการณ์โควิด-19 ณ วันนี้ที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศกว่า 30 วัน
          อันดับ 1 กังวลลดลง 52.93% อันดับ 2 กังวลเหมือนเดิม 29.94% อันดับ 3 ไม่กังวล 12.44% อันดับ 4 กังวลมากขึ้น 4.69%
          
2. ประชาชนคาดหวังอยากจะให้โควิด-19 ของไทยเข้าสู่สถานการณ์ปกติเมื่อใด?
          อันดับ 1 ภายในสิ้นปี 2563 39.40% อันดับ 2 กลางปี 2564 27.95% อันดับ 3 ปลายปี 2564 23.90% อันดับ 4 ไม่แน่ใจ คาดเดายาก /อาจดีขึ้นเมื่อค้นพบวัคซีน 8.75%
         
 3. ประชาชนมีส่วนช่วยในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้อย่างไรบ้าง?
          อันดับ 1 สวมหน้ากากอนามัย 94.77% อันดับ 2 ล้างมือบ่อยๆ 88.19% อันดับ 3 เว้นระยะห่างทางสังคม 81.24% อันดับ 4 ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง 79.80% อันดับ 5 ไม่ไปในสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก 76.92%
          
4. หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ประชาชนอยากให้รัฐบาลดำเนินการฟื้นฟูอย่างไรบ้าง?
          อันดับ 1 ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างเข้มงวด 77.55% อันดับ 2 มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง 71.78% อันดับ 3 เน้นการสร้างงาน สร้างอาชีพ 69.43% อันดับ 4 ช่วยเหลือคนตกงาน 65.64% อันดับ 5 ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ 57.26%
          
สรุปผลการสำรวจ การใช้ชีวิตของประชาชน หลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง “การใช้ชีวิตของประชาชน หลังผ่อนคลายมาตรการโควิด-19” กลุ่มตัวอย่าง 1,109 คน สำรวจระหว่างวันที่ 1 – 4 กรกฎาคม 2563 สรุปผลได้ ดังนี้
          
ความวิตกกังวลของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์โควิด-19 ณ วันนี้ พบว่า ส่วนใหญ่กังวลลดลง ร้อยละ 52.93 โดยประชาชนคาดหวังว่า สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติภายในสิ้นปี 2563 ร้อยละ 39.40 คิดว่า ตนเองมีส่วนช่วยในการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้โดยสวมหน้ากากอนามัย ร้อยละ 94.77 รองลงมาคือ ล้างมือ บ่อยๆ ร้อยละ 88.19 หากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น ประชาชนอยากให้รัฐบาลยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ อย่างเข้มงวด ร้อยละ 77.55 และมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 71.78 กล่าวโดยสรุป ประชาชนถึงแม้จะมีความกังวลต่อสถานการณ์โควิด-19 ลดลง แต่ก็ยังอยากให้เฝ้าระวังกันอย่างเข้มงวด ยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รวมถึงปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขของไทยอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ยังอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องด้วย

https://www.banmuang.co.th/news/politic/198096

วันอาทิตย์ยังพักผ่อนกันสบายๆนะคะ

ไม่มีติดเชื้อโควิดในประเทศอีกตามเคย 

แต่ชีวิตวิถีใหม่ยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น

พร้อมออกจากบ้านอย่างปลอดภัย

ประชาชนคลายกังวลลงไปบ้างแล้วค่ะ และคาดหวังว่าภัยจากโควิดจะจบไปในสิ้นปีนี้

แต่ต่างประเทศยิ่งทวีจำนวนคนติดเชื้อ

ญี่ปุ่นกลับมีจำนวนคนป่วยเพิ่ม...ในโตเกียววันละ 100 รายติดต่อกันต่อเนื่อง

ไทยคงไม่มีอยากมีอย่างนี้นะคะ  จึงต้องตั้งการ์ดไว้สูงๆ

รอเวลาที่กำลังเดินไป รอเฟส 5 ที่ผ่อนปรนอยู่  จะมีอะไรให้แก้ปัญหาอีกไหม

มีความสุขในการทำบุญวันสำคัญทางศาสนากันนะคะ....⚘

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5

เปิดช่องทาง “Thai Silk Online” รวมสินค้าหม่อนไหม ขายใน Lazada และ Shoppee
----------------------------------

กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพิ่มทางเลือกจัดจำหน่ายสินค้าหม่อนไหมในระบบออนไลน์ ต้านภัยโควิด-19 ขึ้น โดยเปิดเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม “Thai Silk Online” เพื่อเป็นแหล่งรวมสินค้าหม่อนไหมทั่วประเทศ ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ผู้ทอผ้าไหมและผู้ประกอบการด้านหม่อนไหม มีช่องทางการตลาดมากขึ้น ตอบสนองพฤติกรรมในการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในยุค New Normal และช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงโควิด-19

สำหรับช่องทางการจำหน่ายสินค้าหม่อนไหมในระบบออนไลน์ ได้ดำเนินการ 2 ช่องทาง  👉 ได้แก่ การจำหน่ายสินค้าโดยตรงตามช่องทางของกรมหม่อนไหม ทั้งทาง Website www.thaisilkonline.com, Facebook Thai Silk Online และ Instagram thai.silk.online

นอกจากนี้ ยังเป็นการจำหน่ายด้วยวิธีการฝากขายผ่าน Marketplace ที่กำลังได้รับความนิยมคือ Lazada และ Shopee โดยการสร้างและจัดการ Lazada store : rmi next และ  Shopee store : Thai Silk Online ซึ่งจะแสดงรายละเอียดสินค้าหม่อนไหม เช่น รูปภาพ ราคา จำนวน คุณลักษณะของสินค้าไว้อย่างละเอียด
https://www.facebook.com/realnewsthailand/posts/717866695712730


รัฐบาลเชิญชวนปลูก “ไม้มีค่า” ในที่ดินของตนเอง เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพปลูกป่าเศรษฐกิจ ใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจ เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ ขอสินเชื่อ หรือ เก็บไว้เป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลาน เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้กับเกษตรกรไทย ส่งผลให้เศรษฐกิจของไทยดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ สร้างพื้นที่สีเขียวให้โลกอีกด้วย
https://www.facebook.com/PMOCNEWS/posts/309579297094066


เร่งผลิต “เมล็ดพันธุ์ข้าว” ให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา

#ไทยคู่ฟ้า ประเทศไทยมีพื้นที่ปลูกข้าวมากปีละกว่า 70 ล้านไร่ มีจำนวนเกษตรกรกว่า 4.3 ล้านครัวเรือน รัฐบาลมุ่งหวังให้สินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าวเป็นสินค้าที่มีศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งผลผลิตที่ดีได้นั้นต้องมาจากเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี อีกทั้งท่านนายกรัฐมนตรีได้เข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องชาวนา และได้ให้ความสำคัญต่อศูนย์ข้าวชุมชนว่ามีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ให้คำแนะนำเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ดี

กรมการข้าว จะเร่งรวบรวมเมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพให้เพียงพอเพื่อส่งมอบให้ชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ และมีความต้องการเมล็ดพันธุ์เพื่อให้ชาวนาได้มีเมล็ดพันธุ์ดีใช้ จากเดิมตั้งเป้าผลิตเมล็ดพันธุ์ 85,000 ตันต่อปีนั้น จะต้องเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 ตันต่อปีรวมถึงการเปิดรับสมาชิกแปลงนาให้มากขึ้นเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้เพียงพอส่งศูนย์เมล็ดพันธุ์ในแต่ละจังหวัด

สำหรับสถานการณ์การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ฤดูนาปี 2563/2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 ศูนย์มีเป้าหมายพื้นที่ปลูก 115,580 ไร่ โดยปลูกแล้ว 94,681 ไร่ ยังไม่ได้ปลูก 20,903 ไร่ ทั้งนี้ จ.อุบลราชธานีถือเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ทำนามากที่สุดในประเทศไทย โดยพื้นที่ปลูกข้าวส่วนใหญ่เป็นข้าวหอมมะลิ มีคุณภาพดีเป็นพิเศษ จนได้รับการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI

Cr. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/posts/950786038720536

รอกดเงินได้เลย! ดีเดย์ 4 ก.ค. รัฐโอน 3,000 รวดเดียวเข้าบัตรคนจน 1.14 ล้านคน
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ผู้ถือบัตรคนจน ที่ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐในช่วง โควิด-19 จำนวน 1.14 ล้านคน วันนี้(4 ก.ค.) กรมบัญชีกลางโอนเงินเยียวยาให้แล้ว 3,000 บาท

กรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3,000 บาท ซึ่งผู้ถือบัตรสามารถถอนเป็นเงินสดออกมาใช้ได้ ผ่านตู้ ATM ของธนาคารกรุงไทย

น.ส.วิลาวรรณ พยาน้อย รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เผยว่า ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า มีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิ์จากโครงการช่วยเหลือใดๆ ของรัฐฐาล ได้แก่ โครงการเราไม่ทิ้งกัน, โครงการช่วยเหลือเกษตรกร โครงการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง และต้องไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มีจำนวนทั้งสิ้น 1.14 ล้านคน ที่มีสิทธิ์จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา เดือนละ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน (พฤษภาคม-กรกฎาคม)

รวมเป็นเงินจำนวน 3,000 บาทต่อคน โดยกรมบัญชีกลางจะทยอยโอนให้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ จนครบ 1.14 ล้านคน ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 63
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่