JJNY : สวนดุสิตโพลชี้5ปัจจัยคนไทยเข้มแข็ง/NIDAโพลคนกลัวโควิดใส่แมสตลอด/สมชัยข้องใจส่งออกหน้ากาก/ตายไวรัสทั่วโลกใกล้6,000

สวนดุสิตโพล ชี้ “5 ปัจจัย” ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ในปัจจุบัน
https://www.thairath.co.th/news/politic/1795296
 
 
 
สวนดุสิตโพล ชี้ “5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง ในสถานการณ์ประเทศปัจจุบัน กว่า 55% กำลังใจจากครอบครัว สำคัญสุด ขณะ 48% ตัวเราเอง รองลงมา ขณะเรื่อง "ปากท้อง-มีเพื่อนดี- ศาสนา คำสอน" รองลงมาตามลำดับ   
 
ในสถานการณ์ปัจจุบันมีปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง โรคระบาด ภัยแล้ง ตลอดจนปัญหาทางการเมืองที่มีแต่ความแตกแยก ล้วนส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทย เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน 
 
“5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง
 
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจ ความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,164 คน ระหว่างวันที่ 10-14 มีนาคม 2563 สรุปผลได้ดังนี้ 
 
“5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง
 
อันดับ 1 กำลังใจจากคนในครอบครัว 55.50% สาเหตุ ครอบครัวเป็นรากฐานสำคัญ ความรักความเข้าใจเป็นกำลังใจที่ดีเป็นแรงผลักดันให้ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ได้ คนในครอบครัว พร้อมรับฟัง ช่วยเหลือ และให้อภัยได้เสมอ ต้องการให้พ่อ/แม่ ลูกสุขสบาย มีความเป็นอยู่ที่ดี ฯลฯ
 
อันดับ 2 ตัวเราเอง 48.97% สาเหตุ ในปัจจุบันไม่สามารถพึ่งใครได้นอกจากตัวเอง ต้องอดทน ยอมรับ ปรับตัว พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทำจิตใจให้เบิกบาน จะสามารถต่อสู้กับทุกปัญหาได้ ฯลฯ
 
อันดับ 3 มีเงินใช้ 39.69% สาเหตุ เงินเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นปัจจัยสำคัญ ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิต แก้ปัญหาต่างๆ ได้ การไม่มีเงิน เป็นหนี้ ทำให้เป็นทุกข์ ไม่มีความสุข เครียด ฯลฯ
 
อันดับ 4 การมีเพื่อนที่ดี มีที่ปรึกษา 22.85% สาเหตุ เพื่อนช่วยเป็นกำลังใจ คอยให้คำแนะนำ เป็นที่ปรึกษา ช่วยดึงสติ ทำให้จิตใจเข้มแข็ง มีน้ำใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ทำให้ต่อสู้กับปัญหาต่อไปได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ฯลฯ
 
อันดับ 5 ศาสนา หลักธรรมคำสอน 21.99% สาเหตุ ศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ หลักธรรมคำสอนช่วยให้มีสติในการแก้ปัญหา ช่วยให้ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ไม่หลงผิด ดำเนินชีวิตด้วยความพอเพียง บริหารจัดการการเงินให้ดี ประหยัด อดออม ไม่ฟุ่มเฟือย ฯลฯ
 
**************************************
กระทู้ผลสำรวจอย่างเป็นทางการของสวนดุสิตโพลครับ
 
“5 ปัจจัย” ที่ทำให้คนไทยอยู่ได้อย่างเข้มแข็ง
https://ppantip.com/topic/39716032
 

 
NIDAโพลคนกลัวโควิดใส่แมสตลอดจี้รบ.ลงโทษคนไม่กักตัว
https://www.innnews.co.th/social/news_621296/
 

 
นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เผยผลสำรวจของประชาชนทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น จำนวน 1,260 หน่วยตัวอย่าง เรื่อง “COVID-19” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 11 – 12 มีนาคม 2563 
 
เมื่อถามประชาชนถึงความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย พบว่า 
ร้อยละ 32.86 ระบุว่า มีความกังวลมาก 
ร้อยละ 35.32 ระบุว่า ค่อนข้างมีความกังวล 
ร้อยละ 18.33 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกังวล 
และร้อยละ 13.49 ระบุว่า ไม่มีความกังวลเลย 
 
ด้านความกลัวที่จะติดเชื้อไวรัส COVID-19 พบว่า 
ร้อยละ 23.97 ระบุว่า มีความกลัวมาก 
ร้อยละ 36.67 ระบุว่า ค่อนข้างมีความกลัว 
ร้อยละ 22.14 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความกลัว 
และร้อยละ 17.22 ระบุว่า ไม่มีความกลัวเลย
 
สำหรับความถี่ในการใส่หน้ากาก (ทุกชนิด) เพื่อป้องกันตัวเอง พบว่า 
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 32.54 ระบุว่า ใส่หน้ากากในทุกที่ ตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้าน 
รองลงมา ร้อยละ 25.71 ระบุว่า ใส่หน้ากากเฉพาะเวลาอยู่ในที่ชุมชน 
ร้อยละ 20.56 ระบุว่า ไม่ใส่หน้ากากเลย 
ร้อยละ 13.02 ระบุว่า ใส่หน้ากากเป็นบางครั้ง
 
ทั้งนี้ เมื่อถามถึงสิ่งที่ทำให้หงุดหงิดใจมากเมื่ออ่านข่าวเกี่ยวกับ COVID-19 พบว่า 
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.43 ระบุว่า คนที่กลับจากประเทศเสี่ยงไม่กักตนเอง 
รองลงมา ร้อยละ 28.41 ระบุว่า การขาดแคลน และ/หรือ มีการกักตุนหน้ากากอนามัย 
ร้อยละ 21.75 ระบุว่า จำนวนคน ติดไวรัส COVID-19 ในไทยเพิ่มขึ้น 
ร้อยละ 21.11 ระบุว่า ภาครัฐไม่ตัดสินใจเด็ดขาด มีแต่มาตรการรายวันในการแก้ไขปัญหา 
ร้อยละ 17.14 ระบุว่า ภาครัฐไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ไม่ยอมกักตนเอง
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงมาตรการที่รัฐบาลควรมีเพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ในประเทศไทย พบว่า 
ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 35.95 ระบุว่า รัฐบาลควรสั่งไม่ให้คนต่างชาติจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้าประเทศ 
รองลงมา ร้อยละ 32.70 ระบุว่า ลงโทษจริงจังและหนักขึ้นสำหรับคนที่กลับจากประเทศเสี่ยงแต่ไม่กักตนเอง 
ร้อยละ 28.02 ระบุว่า ลงโทษจริงจังและหนักขึ้นสำหรับคนที่กักตุนหน้ากากอนามัย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่