เดือนแห่งความบ้าคลั่ง ของซูซานนาห์ คาฮาลาน



รับฟังได้ที่ลิ๊งก์นี้เลยครับ

 https://www.youtube.com/watch?v=CwyO3ILS2zo

ไสยศาสตร์ มนต์ดำ หรือภูตผีปีศาจ อะไรกันที่ทำให้ภายในหนึ่งเดือน คุณ ซูซานนาห์ คาฮาลาน

ถึงได้เปลี่ยนจากคนปกติอยู่ดีๆ ให้กลายเป็นคนบ้า และเธอก็เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด

สวัสดีครับมีเรื่องไร เล่าวันนี้มาในตอนพิเศษ ที่มีชื่อว่า เดือนแห่งความบ้าคลั่ง ของซูซานนาห์ คาฮาลาน

 

เรื่องมันเริ่มต้นตอนที่ คุณ ซูซานนาห์ เพิ่งเรียนจบจากมหาลัยเธอมีความมุ่งมั่นและความฝันที่อยากจะเป็นนักข่าว

และในปี นั้นเอง เธอก็ได้ รับโอกาสเข้าไปทำงานเป็นนักเขียนข่าวฝึกหัดให้กับหนังสือพิมพ์ NEW YORK POST

เธอเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี มีจิตใจที่ดี จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆ ร่วมงาน

และหัวหน้ากองบรรณาธิการก็ให้การยอมรับในฝีมือการทำงานของเธอ จนเธอได้รับโอกาสครั้งสำคัญในชีวิต

ให้ไปทำข่าวและเขียนข่าว ลงในหนังสือพิมพ์ เป็นครั้งแรก ในช่วงเวลานั้น คุณ ซูซานนาห์ ก็คบหาอยู่กับแฟนหนุ่มนักดนตรี

ความสัมพันธ์ ก็เป็นไปได้ด้วยดี ดูเหมือนว่าช่วงชีวิตในเวลานั้นของเธอกำลังรุ่งทั้งด้านงานและความรัก

แต่แล้วในวันครบรอบวันเกิด21ปีของเธอ ไม่รู้ว่ามันเป็นคำสาปสิ่งลี้ลับอะไรถึงมาทำให้เธอเริ่มมีอาการแปลกๆ

เริ่มจากเธอมีอาการไข้อ่อนๆ หลงๆ ลืมๆ อย่างเช่น เธอลืมวันเกิดของตัวเองทั้งๆ ที่ตัวเธอนั้นก็กำลังอยู่ในงานวันเกิดของตัวเธออยู่

หรือแม้แต่เวลาที่เธอเลิกงาน กำลังจะเดินทางกลับบ้านจู่เธอจะลืมเส้นทางที่จะกลับบ้านไปเลยสะอย่างนั้น

จนเธอต้องพยายามนั่งนึกถึงเส้นทางกลับบ้านของตัวเอง จากอาการที่เป็นดังกล่าวจึงส่งผลทำให้เธอทำงานผิดพลาดบ่อยขึ้น

และเริ่มส่งงานเขียนไม่ตรงเวลา อาการผิดปกติของเธอก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เธอเริ่มมีอาการเห็นภาพหลอน

เห็นภาพซ้อนมองเห็นบางสิ่งบางอย่างที่คนอื่นๆ มองไม่เห็น เธอมีอาการหูแว่ว ได้เริ่มได้ยินเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน

มันส่งผลให้เธอทะเลาะกับแฟนและเพื่อนร่วมงานอยู่บ่อยๆ ครั้งเพราะเธอคิดว่าคนเหล่านั้นพูดคุยและกำลังนินทาตัวเธออยู่

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วไม่ได้มีใครพูดคุยอยู่กับเธอเลย และอาการของเธอเริ่มหนักขึ้นไปอีก

เมื่อกลางดึกคืนหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาละเมอพูดจาไม่เป็นภาษา แล้วหลังจากนั้นเธอก็มีอาการชักกระตุกอย่างรุนแรง

จนแฟนหนุ่มของเธอต้องรีบพาส่งโรงพยาบาลในคืนนั้น หลังจากที่แพทย์ได้ดูอาการ

และได้ทำการตรวจเธอทั้งการ CT สแกนสมอง ตรวจเลือด ตรวจร่างกาย อย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบ

สิ่งผิดปกติทางร่างกายแต่อย่างใดๆ ทางแพทย์จึงวินิจฉัยว่าสาเหตุของเธอน่าจะเกิดมาจากความเครียดของการทำงาน

แต่หลังจากที่ได้เข้ารักษาไปไม่กี่วัน อาการของเธอก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย เธอเริ่มมีสภาวะอารมณ์ที่แปรปรวนมากยิ่งขึ้น

อย่างเช่นบางครั้งเธอก็ดีใจอย่างสุดๆ หัวเราะออกมาอย่างสนุกสนานแต่ไม่ถึงหนึ่งนาที่เธอก็กลับรู้สึกหดหู่

หรือไม่ก็คุ้มคลัง ด่าทอผู้อื่นๆ อย่างไม่มีเหตุผล และนอกจากนี้เธอก็ยังมีอาการหวาดระแวง เกรงกลัวผู้อื่นที่จะเข้ามาทำร้าย

ดูเหมือนเธอจะค่อยๆ สูญเสียการควบคุมตัวเองไปทีละน้อย และ อาการ ชักกระตุกอย่างรุนแรง ก็กลับมาเล่นงานเธอบ่อยครั้งขึ้น

จนเธอไม่สามารถไปทำงานได้อีก เธอจึงได้กลับไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านแม่ของเธอ แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลยอาการ

อารมณ์แปรปรวนยิ่งส่งผลให้เธอทะเลาะเสียงดังโวยวายกับแม่ของเธออยู่บ่อยครั้ง จนถึงขนาดที่ว่าแม่ของเธอเองก็ชักจะกลัวกับ

อาการของลูกสาวตัวเอง และเริ่มสงสัยแล้วว่า คุณซูซานนาห์ในตอนนี้อาจจะไม่ใช่ลูกสาวคนเดิมของเธออีกต่อไปแล้ว

ดูๆ ไปแล้วในตอนนี้อาการของเธอก็คล้ายๆ กับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตเวช โรคไบโพล่า

เธอก็ได้ลองเข้าไปรักษากับจิตแพทย์ แต่ทางจิตแพทย์เองก็กลับมองว่ามันน่าจะเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาเสพติด

หรือดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป แต่ซึงในความเป็นจริงแล้ว คุณซูซานนาห์เธอไม่ใช้นักดื่มหรือใช้สารเสพติดแต่อย่างใด

เธอก็ยังคงใช้วิธีการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน ในตอนนั้น ทางทีมแพทย์ที่ดูแลรักษาอาการของเธอก็ได้ใช้ทั้ง

การสแกนสมอง การตรวจคลื่นสมอง ตรวจการติดเชื้อ ตรวจระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

ใช้เทคโนโลยี่ความรู้ความสามารถที่ดีที่สุดในเวลานั้นมาวินิจฉัยอาการของเธอ แต่ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุได้เลย

เพราะผลตรวจทุกอย่างมันบ่งบอกว่าร่างกายของเธอนั้นเป็นปกติดี แต่ทว่าสภาพ ร่างกายของเธอในตอนนั้นมันกลับเป็นสิ่งที่ตรง

กันข้ามกับผลตรวจ เธอกินอาหารได้น้อยลง ร่างกายของเธอเริ่มอ่อนเพลียไม่เรี่ยวแรง ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้เอง

ระบบประสาทการรับรู้ของเธอก็ไม่สามารถที่จะตอบสนองอะไรได้อีกทั้งการพูดคุย เธอได้แต่นั่งเหม่อลอยและกลายเป็นผู้ป่วย

นอนติดเตียงไปในที่สุด

เมื่อหาสาเหตุไม่พบ ก็ไม่สามารถที่จะทำการรักษาเธอได้ และทางแพทย์เองก็คิดว่าเธอน่าจะป่วยจากอาการทางจิต

และควรจะต้องส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช

ซึงทางครอบครัวของคุณซูซานนาห์ เองก็ยังรับไม่ได้ กับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นใครจะไปรับได้ละครับ แค่เพียงหนึ่งเดือนจากคนที่กำลังมี

อนาคตสดใส่แต่ไม่รู้ว่าไสยศาสตร์หรือสิ่งลี้ลับอะไรมาทำให้คุณซูซานา ต้องกำลังกลายไปเป็นคนบ้า!!!!

และอาจจะต้องตายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ

แต่แล้วก็มีแสงสว่างแห่งความหวังมาจากกระดาษแผ่นหนึ่ง โดยที่กระดาษแผ่นนี้จะมาคลี่คลายปมปัญหาทั้งหมดที่

เกิดขึ้นกับตัวเธอ กระดาษแผ่นนั้นหน้าตาเป็นแบบนี้ครับ





 

 

ตามภาพที่ผมเอาให้ดูเลยครับ

เราจะเห็นได้ว่าเธอเขียนตัวเลขเรียงกัน 1ถึง12ชิดขอบทางด้านขวามือ

ใช่ครับที่ทุกคนกำลังเห็นรูปนี้ มันคือรูปนาฬิกาทีคุณ ซูซาน่า เธอวาดครับวาดครับ ภาพนี้มันเป็นการทดสอบสมองของ

คุณหมอนาจา ให้คุณซูซานนาห์ ลองวาดรูปนาฬิกา และรูปนั้นมันทำให้คุณหมอ นาจารู้ว่า อาการทั้งหมดที่คุณ ซูซานนาห์เป็น

 เธอไม่ได้ป่วยหรือมีอาการทางจิตเวรแต่อย่างใด เพราะว่าผู้ป่วยทางจิตเวชจะไม่วาดรูปนาฬิกาออกมาเป็นแบบของคุณซูซาน่า

คนที่วาดรูปนาฬิกาออกมาได้ในลักษณะนี้คุณหมอนาจาเชื่อว่า สมองซีคขวา ของคุณซูซานนาห์ กำลังบกพร่องและอักเสพ

อย่างรุนแรง และเมื่อสมองซีคใดซีคหนึ่งของเธอทำงานได้ไม่เป็นปกติมันก็จะส่งผลทำให้เธอมีอาการแปลกๆ

โดยที่แนวทางในการรักษาจะต้องหาสาเหตุการอักเสพของสมองให้ได้ว่าเกิดขึ้นมาจากอะไร

คุณหมอ นาจาจึงต้องผ่าตัดเอาชิ้นเนื้อสมองของคุณซูซานนาห์ไปตรวจ

และผลตรวจก็ได้ออกมา แล้วพบว่า เธอโรคเป็นไข้สมองอักเสพ มันเกิดมาจาก ภูมิคุ้มกันตัวเองไปทำลายสื่อประสาทของสมอง

โดยที่มัน จะมุ่งไปโจมตีสารรับสื่อสำคัญๆ ในสมอง หรือถ้าจะมองให้เห็นเป็นภาพง่ายๆ นะครับ ในตอนนี้

สมองซีคขวาของคุณ ซูซานนาห์กำลังค่อยๆ เหมือนถูกไฟเผาไหมลามไปอย่างช้าๆ

 



ถ้าหากทำการรักษาไม่ทันนั้นอาจจะทำให้เธอนั้นเสียชีวิตลงได้ การที่จะตรวจพบผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ได้นั้นทำได้ค่อนข้างยาก

อยู่นั้นก็เป็นเพราะว่าอาการต่างๆ ของโรคนี้เมื่อวินิจฉัยๆ ไปแล้วมันจะไปคล้ายๆ กับผู้ป่วยทางด้านจิตเวช เสียมากกว่า

คุณซูซานนาห์ ถูกวินิจฉัยว่าเป็น ภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ ประสาท คนที่ 217ของโลก

เธอใช้เวลาอยู่6เดือนในการรักษาฟื้นฟูตัวเองให้กลับมาเป็นคนปกติได้อีกครั้ง

หลังจากที่เธอได้หายกลับมาเป็นปกติแล้ว เธอได้เขียนหนังสือ ที่เกี่ยวกับอาการของโรคตัวเอง

มีชื่อว่า

Brain on Fire: My Month of Madness ในปี 2012

 

 



 

หนังสือเล่มนี้ได้ช่วยให้เข้าใจอาการของโรคไข้สมองอักเสพ และใด้ช่วยชีวิต ผู้ป่วยหลายๆ

คนให้ได้รับการวินิจฉัยแล้วรักษาโรค ได้อย่างเหมาะสม

ส่วนข้อมูลหลักๆ ที่มาเล่าผมนำมาจากภาพยนตร์เรื่อง Brain on Fire ถ้าคุณผู้อ่านอยากเห็นว่าอาการป่วยของคุณ ซูซานนาห์

เป็นยังไงก็ลองหาภาพยนต์มารับชมกันได้เลยครับ



 

ส่วนอาการไข้สมองอักเสพนั้นไม่ใช่แค่เกิดได้จากภูมิคุ้มกันตัวเองไปทำลายเซลประสาทนะครับ

ทั้งนี้สาเหตุของการ เกิดโรค ก็ยังมาจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียบางตัวที่เข้าไปทำลายเซลประสาทในสมองได้เหมือนกันครับ

 

ก็ไม่รู้ว่าถ้าเหตุการแบบนี้เกิดขึ้นกับคนรอบๆ ข้างตัวเรา เราจะตีความสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไปในทางไหน

จะเป็นสิ่งลี้ลับ ไสยสาตร์ คุณไสย์ หรือมลต์ดำ ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล ผมหวังว่าถ้าใครได้อ่านและกำลังเจอ

กับเหตุการณ์คล้ายๆ กับซูซานนาห์ ก็ขอให้ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อศึกษาเพื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ให้กับตัวท่านนะครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่