เชื่อว่าหลายๆ คนคงสงสัยว่าทำไมอาหารไทยของเรานั้นถึงมีตั้งชื่อไม่ตรงกับที่มา เช่น ทำไมซีอิ๊วขาวถึงมีสีดำ? ขนมโตเกียวมาจากญี่ปุ่นอย่างนั้นหรือ? หรือขนมจีนเป็นของจีนใช่ไหม? ถ้าคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับชื่ออาหารทั้งหลายมาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะก็ วันนี้เราจะพาทุกคนมาพบกับคำตอบกัน
#1 ซีอิ๊วขาว ทำไมสีดำ
ตามปกติของการหมักถั่วเหลือง น้ำซีอิ๊วที่ได้จะเป็นสีดำ แต่น้ำซีอิ๊วขาวจะมีความใสกว่าซีอิ๊วดำ และเวลาเหยาะใส่อาหารต่างๆ จะไม่ค่อยทำให้อาหารเปลี่ยนสีไปมากนัก ต่างจากซีอิ๊วดำที่ใส่ไปแล้วจะเป็นสีดำทันที และนั่นคือสาเหตุของชื่อซีอิ๊วขาว
#2 ขนมจีน ไม่ใช่ขนม และก็ไม่ใช่ของประเทศจีน
แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นขนมจีนไปได้ ข้อสันนิษฐานที่ชัดเจนที่สุดคือ ขนมจีน น่าจะมาจากภาษามอญ โดยคนมอญเรียกขนมจีนว่า “คนอมจิน” เพราะขนมจีนถือเป็นอาหารของคนมอญ โดยคำว่า คนอม แปลว่าจับเป็นกลุ่มก้อน ก่อตัว สร้าง ส่วนจิน แปลว่า ทำให้สุก 2 ครั้ง คือเส้นที่ทำจากแป้งที่ทำให้สุก 2 หน (สุกครั้งที่ 1 ตอนต้มแป้ง สุกครั้งที่ 2 ตอนโรยเส้นในน้ำเดือด)
#3 ขนมโตเกียว ไม่มีขายในโตเกียว
เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนต้องเชื่อว่ามันเป็นขนมของญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย ข้อสันนิษฐานคือ ขนมโตเกียวน่าจะมีรากฐานมาจากขนมดั้งเดิมในญี่ปุ่น และเมื่อถูกนำมาเผยแพร่ในไทย กลายเป็นว่าได้มีการดัดแปลงไปเรื่อยๆ และมีการตั้งชื่อว่า ขนมโตเกียว ให้มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนั่นเอง (ซึ่งแน่นอนว่าญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียวขาย)
#4 ข้าวซอย ไม่ใช่ข้าว
มี 2 ข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อข้าวซอย ข้อแรกคือมาจากกรรมวิธีในการทำเส้น ด้วยการนำแป้งข้าวสาลี ไข่ เกลือ น้ำ มาผสมกันและนวดจนเข้ากันดี แล้วกดรีดให้เป็นแผ่น จากนั้นก็เอามีดมาซอยแผ่นแป้งให้เป็นเส้นๆ เหมือนเอาข้าว (แป้ง) มาซอยจนกลายเป็นข้าวซอย ส่วนอีกข้อคือข้าวซอยเป็นอาหารของชาวเมียนมาร์ที่เรียกว่า “เค่าซแว” และถูกเรียกเพี้ยนกันมาจนเป็น “ข้าวซอย” ในที่สุด
#5 ส้มตำ แต่ไม่ได้เอาส้มมาตำ ทำไมเป็นมะละกอ
ส้มตำถือเป็นอาหารยอดฮิตที่เติบโตมาจากทางภาคอีสาน ซึ่งคำว่า “ส้ม” เป็นภาษาถิ่นที่หมายถึงรสเปรี้ยว ส่วน “ตำ” ก็คือการตำแบบที่เราเข้าใจ ดังนั้นคำว่าส้มตำ จึงหมายถึง การตำอาหารรสเปรี้ยว ซึ่งมะละกอดิบ ถือเป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับในการหยิบมาตำให้มีรสเปรี้ยวนั่นเอง ส่วนอาหารชนิดอื่นที่เชื่อมโยงคำว่าส้มกับรสเปรี้ยวก็ได้แก่ แกงส้ม ปลาส้ม หมูส้ม และน้ำส้มสายชู
#6 ข้าวผัดอเมริกัน ไม่ใช่ของอเมริกา
ข้าวผัดอเมริกันถูกคิดค้นโดยคุณหญิง สุรีพันธ์ มณีวัต เจ้าของนามปากกา “นิตยา นาฎยะสุนทร” ตั้งแต่ที่เธอทำงานเป็นผู้จัดการภัตตาคารในสนามบินดอนเมือง โดยวันดังกล่าวได้มีสายการบินหนึ่งยกเลิกอาหารที่สั่งจองเอาไว้ ทำให้มีอาหารเช้าแบบอเมริกันที่ประกอบด้วย ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก เหลือเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียของ คุณหญิงจึงได้นำอาหารเหล่านั้นมาประกอบกับข้าวผัดที่เตรียมไว้ จนมีนายทหารอเมริกันมาเห็นและถามถึงเมนูข้าวผัดนั้น เธอจึงได้ตั้งชื่อว่า “ข้าวผัดอเมริกัน (American Fried Rice)”
#7 ทำไมเรียกพริกเกลือ ทั้งๆ ที่มีน้ำตาลเพียบ
ในสมัยก่อน เครื่องจิ้มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีแต่พริกกะเกลือเท่านั้น ไม่ได้ใส่น้ำตาลเพราะการผลิตน้ำตาลทรายได้เกิดขึ้นมาภายหลัง และเมื่อน้ำตาลแพร่หลายมากขึ้น คนยุคใหม่ก็ติดน้ำตาล จึงมีการใส่น้ำตาลลงไปในพริกกะเกลือ เพื่อให้รสหวานเป็นตัวนำ แต่ก็ยังคงเรียกว่าพริกเกลือเหมือนเดิม
#8 ลอดช่องสิงคโปร์ แต่ไม่ใช่ของสิงคโปร์
ลอดช่องถือเป็นขนมไทยแท้มาแต่โบราณ ซึ่งมีความแตกต่างจากลอดช่องสิงคโปร์เล็กน้อยในเรื่องของวัตถุดิบและกรรมวิธีทำ แต่ถึงอย่างนั้นลอดช่องสิงคโปร์ ก็ไม่ได้มาจากสิงคโปร์แต่อย่างใด เพราะมันมาจากสถานที่ๆ ร้านขายลอดช่องตั้งอยู่ นั่นคือหน้าโรงภาพยนตร์สิงคโปร์ หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราชนั่นเอง
#9 ไข่เยี่ยวม้า แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเยี่ยวม้า
บางที่ก็อ้างอิงไปถึงตำนานเรื่องเล่าของจีน เกี่ยวกับชาวนาที่พบไข่เป็ดถูกฝังอยู่ในแกลบและฟางที่ใช้กลบมูลม้านานหลายเดือนโดยไม่เน่าเสีย แถมยังมีรสชาติดีอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงชาวจีนก็ไม่ได้เรียกมันว่าไข่เยี่ยวม้า ส่วนคนไทยที่เรียกแบบนี้ อาจเพราะสีของไข่แดงเป็นสีขี้ม้า และมีกลิ่นของแอมโมเนียที่เหมือนฉี่ เพราเหตุนี้จึงเรียกไข่นี้ว่า ไข่เยี่ยวม้า
เครดิต : WTF In The World
เคยสงสัยชื่ออาหารไทยกันไหม? ทำไมชื่อไม่ตรงกับที่มา
#1 ซีอิ๊วขาว ทำไมสีดำ
ตามปกติของการหมักถั่วเหลือง น้ำซีอิ๊วที่ได้จะเป็นสีดำ แต่น้ำซีอิ๊วขาวจะมีความใสกว่าซีอิ๊วดำ และเวลาเหยาะใส่อาหารต่างๆ จะไม่ค่อยทำให้อาหารเปลี่ยนสีไปมากนัก ต่างจากซีอิ๊วดำที่ใส่ไปแล้วจะเป็นสีดำทันที และนั่นคือสาเหตุของชื่อซีอิ๊วขาว
#2 ขนมจีน ไม่ใช่ขนม และก็ไม่ใช่ของประเทศจีน
แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นขนมจีนไปได้ ข้อสันนิษฐานที่ชัดเจนที่สุดคือ ขนมจีน น่าจะมาจากภาษามอญ โดยคนมอญเรียกขนมจีนว่า “คนอมจิน” เพราะขนมจีนถือเป็นอาหารของคนมอญ โดยคำว่า คนอม แปลว่าจับเป็นกลุ่มก้อน ก่อตัว สร้าง ส่วนจิน แปลว่า ทำให้สุก 2 ครั้ง คือเส้นที่ทำจากแป้งที่ทำให้สุก 2 หน (สุกครั้งที่ 1 ตอนต้มแป้ง สุกครั้งที่ 2 ตอนโรยเส้นในน้ำเดือด)
#3 ขนมโตเกียว ไม่มีขายในโตเกียว
เชื่อว่าตอนเด็กๆ หลายคนต้องเชื่อว่ามันเป็นขนมของญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่เลย ข้อสันนิษฐานคือ ขนมโตเกียวน่าจะมีรากฐานมาจากขนมดั้งเดิมในญี่ปุ่น และเมื่อถูกนำมาเผยแพร่ในไทย กลายเป็นว่าได้มีการดัดแปลงไปเรื่อยๆ และมีการตั้งชื่อว่า ขนมโตเกียว ให้มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นนั่นเอง (ซึ่งแน่นอนว่าญี่ปุ่นไม่มีขนมโตเกียวขาย)
#4 ข้าวซอย ไม่ใช่ข้าว
มี 2 ข้อสันนิษฐานถึงที่มาของชื่อข้าวซอย ข้อแรกคือมาจากกรรมวิธีในการทำเส้น ด้วยการนำแป้งข้าวสาลี ไข่ เกลือ น้ำ มาผสมกันและนวดจนเข้ากันดี แล้วกดรีดให้เป็นแผ่น จากนั้นก็เอามีดมาซอยแผ่นแป้งให้เป็นเส้นๆ เหมือนเอาข้าว (แป้ง) มาซอยจนกลายเป็นข้าวซอย ส่วนอีกข้อคือข้าวซอยเป็นอาหารของชาวเมียนมาร์ที่เรียกว่า “เค่าซแว” และถูกเรียกเพี้ยนกันมาจนเป็น “ข้าวซอย” ในที่สุด
#5 ส้มตำ แต่ไม่ได้เอาส้มมาตำ ทำไมเป็นมะละกอ
ส้มตำถือเป็นอาหารยอดฮิตที่เติบโตมาจากทางภาคอีสาน ซึ่งคำว่า “ส้ม” เป็นภาษาถิ่นที่หมายถึงรสเปรี้ยว ส่วน “ตำ” ก็คือการตำแบบที่เราเข้าใจ ดังนั้นคำว่าส้มตำ จึงหมายถึง การตำอาหารรสเปรี้ยว ซึ่งมะละกอดิบ ถือเป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับในการหยิบมาตำให้มีรสเปรี้ยวนั่นเอง ส่วนอาหารชนิดอื่นที่เชื่อมโยงคำว่าส้มกับรสเปรี้ยวก็ได้แก่ แกงส้ม ปลาส้ม หมูส้ม และน้ำส้มสายชู
#6 ข้าวผัดอเมริกัน ไม่ใช่ของอเมริกา
ข้าวผัดอเมริกันถูกคิดค้นโดยคุณหญิง สุรีพันธ์ มณีวัต เจ้าของนามปากกา “นิตยา นาฎยะสุนทร” ตั้งแต่ที่เธอทำงานเป็นผู้จัดการภัตตาคารในสนามบินดอนเมือง โดยวันดังกล่าวได้มีสายการบินหนึ่งยกเลิกอาหารที่สั่งจองเอาไว้ ทำให้มีอาหารเช้าแบบอเมริกันที่ประกอบด้วย ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก เหลือเป็นจำนวนมาก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียของ คุณหญิงจึงได้นำอาหารเหล่านั้นมาประกอบกับข้าวผัดที่เตรียมไว้ จนมีนายทหารอเมริกันมาเห็นและถามถึงเมนูข้าวผัดนั้น เธอจึงได้ตั้งชื่อว่า “ข้าวผัดอเมริกัน (American Fried Rice)”
#7 ทำไมเรียกพริกเกลือ ทั้งๆ ที่มีน้ำตาลเพียบ
ในสมัยก่อน เครื่องจิ้มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีแต่พริกกะเกลือเท่านั้น ไม่ได้ใส่น้ำตาลเพราะการผลิตน้ำตาลทรายได้เกิดขึ้นมาภายหลัง และเมื่อน้ำตาลแพร่หลายมากขึ้น คนยุคใหม่ก็ติดน้ำตาล จึงมีการใส่น้ำตาลลงไปในพริกกะเกลือ เพื่อให้รสหวานเป็นตัวนำ แต่ก็ยังคงเรียกว่าพริกเกลือเหมือนเดิม
#8 ลอดช่องสิงคโปร์ แต่ไม่ใช่ของสิงคโปร์
ลอดช่องถือเป็นขนมไทยแท้มาแต่โบราณ ซึ่งมีความแตกต่างจากลอดช่องสิงคโปร์เล็กน้อยในเรื่องของวัตถุดิบและกรรมวิธีทำ แต่ถึงอย่างนั้นลอดช่องสิงคโปร์ ก็ไม่ได้มาจากสิงคโปร์แต่อย่างใด เพราะมันมาจากสถานที่ๆ ร้านขายลอดช่องตั้งอยู่ นั่นคือหน้าโรงภาพยนตร์สิงคโปร์ หรือโรงหนังเฉลิมบุรี บนถนนเยาวราชนั่นเอง
#9 ไข่เยี่ยวม้า แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเยี่ยวม้า
บางที่ก็อ้างอิงไปถึงตำนานเรื่องเล่าของจีน เกี่ยวกับชาวนาที่พบไข่เป็ดถูกฝังอยู่ในแกลบและฟางที่ใช้กลบมูลม้านานหลายเดือนโดยไม่เน่าเสีย แถมยังมีรสชาติดีอีกด้วย แต่ในความเป็นจริงชาวจีนก็ไม่ได้เรียกมันว่าไข่เยี่ยวม้า ส่วนคนไทยที่เรียกแบบนี้ อาจเพราะสีของไข่แดงเป็นสีขี้ม้า และมีกลิ่นของแอมโมเนียที่เหมือนฉี่ เพราเหตุนี้จึงเรียกไข่นี้ว่า ไข่เยี่ยวม้า
เครดิต : WTF In The World