คือผมมีพี่สาวเป็นคนที่เรียนเก่งครับ พ่อก็ภูมิใจในเรื่องนี้มาก อาจจะเพราะเขาเป็นลูกคนแรกด้วยมั้งครับ พ่อก็เลยรักมาก
พ่อไม่เคยดุด่าว่ากล่าวเขาเลยครับ จากอนุบาล ประถม มัธยมปลาย ปตรี ปโท พ่อเลี้ยงพี่ผมโดยไม่เคย สอนเรื่องผิดชอบชั่วดี อารมณ์ลูกชั้นเป็นคนดี แต่เขาไม่เคยพูดประโยคนี้ แค่พี่สาวผมทำผิด แต่ไม่เคยว่าไม่เคยสอนครับ
เลยกลายเป็น
พ่อรังแกฉัน ยิ่งโตไม้แก่ยิ่งดัดยากครับ คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย พอออกไปเจอสังคมภายนอก ก็เลยเอาตัวเองเป็นใหญ่
กลายเป็นคนที่ อยู่ตรงไหนก็ไปสร้างปัญหา ไม่ว่าจะทำงาน อยู่บ้าน ร้านอาหาร ไปเที่ยว และไม่เว้นแต่ครอบครัวตัวเอง
ในที่สุด จนพ่อเองทนไม่ได้ต้องหนีออกไป พ่อเองก็เคยมาบอกทั้งผมและแม่ว่า
เขาเอาพี่ไม่อยู่
และเขาเคยไปเที่ยวตปท.แบบทัวร์ด้วยกัน
ก็เลยเห็นอะไรหลายอย่าง เหมือนตาสว่าง ครับ
ที่นี้บ้านผมเลยเหลือพี่ ผมและแม่ แน่นอนครับว่าคนที่ให้ท้ายยังเอาไม่อยู่ ถามว่าใครเอาอยู่
พี่ผมไปทำงานก็ทะเลาะกับคนในที่ทำงาน ทุกที่ครับ ขนาดโดนบังคับย้ายโต๊ะให้ไปนั่งคนเดียว
ส่วนตอนอยู่ที่บ้านเขาก็จะหาเรื่องทะเลาะกับทุกคนตลอด ส่วนตัวผมเองเชื่อว่า เขาน่าจะมีอาการทางประสาทครับ อาจจะเพราะเขาทำถูกมาทั้งชีวิต
เลยกลายเป็นคนที่อยู่ตรงไหน ตรงนั้นก็เป็นไฟ หาความสงบไม่ได้เลย ขึ้นโรงขึ้นศาล เข้าโรงพัก
ขับรถปาดหน้าคนอื่น ขับแล้วไปเบรกรอให้คนอื่นมาชน
แบบนี้ผมคิดว่าไม่ใช่คนปกติครับ ก็เป็นแบบนี้มาตลอดหลายๆปีครับ ไม่เคยเปลี่ยน
จนผมทนไม่ไหว เพราะเขาทะเลาะและสร้างปัญหาทั้งนอกบ้าน
และในบ้าน
ผมไม่อยากพิมพ์เยอะเพราะอาจจะเยอะไปสำหรับคนอ่าน
ในที่สุด ผมหนีครับ ภาษาวัยรุ่นหน่อยเขาเรียกว่า
เกินต้าน แล้วผมก็พาแม่หนีมาด้วย มาเช่าอยู่กัน วันนี้เพิ่งสองเดือนครับ
แต่เป็นสองเดือนที่ทั้งผมและแม่ มีความสุขมาก คือสุขภาพจิตทั้งคู่ดีขึ้นเยอะมากครับ โอเคว่ามาเจอโควิท แต่เรื่องโควิทเราเจอกันทั้งโลก
ผมอยากบอกทุกคนนะครับว่า ถ้าใครกำลังเจอคนที่มีอาการทางประสาทแค่ยังไม่ได้ไปตรวจ
ผมแนะนำให้หนี ดีกว่าไปอยู่ร่วมกับเขาครับ ผมจำได้แม่นนะครับว่า จิตแพทย์ยังบอกเลยครับว่า ถ้าเราไม่ไหวที่จะอยู่กับผู้ป่วยทางประสาทจริงๆเราต้องเอาตัวเองออกมา เพราะเราจะแย่ไปด้วย ซึ่งผมได้ทำตามและพิสูจน์แล้วว่า การหนีจากผู้ที่มีอาการทางประสาท คุมตัวเองไม่ได้ ชอบใช้กำลัง ความรุนแรงเพื่อเอาชนะ คือการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดครับ
ขอ Tag มนุษย์เงินเดือน ด้วยเพราะสุขภาพจิตในที่ทำงานก็เริ่มจากที่บ้านนี้แหละครับ ไม่ใช่ไปทำงานก็เจอคนที่มีอาการทางประสาท
กลับบ้านก็เจอคนที่มีอาการทางประสาทอีก แบบนั้นผมว่าจิตแพทย์ระดับปริญญาเอกก็เอาไม่อยู่ครับ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ก็เป็นการแบ่งปันประสบการณ์เผื่อใครกำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่นะครับ
ผมบอกเลยสุขภาพจิตเราสำคัญมากครับ
รู้สึกตัดสินใจถูกจริงๆครับที่พาแม่หนีจากพี่ ที่มีอาการทางประสาทมาได้ (แชร์ปสก.เผื่อใครกำลังเจอครับ)
พ่อไม่เคยดุด่าว่ากล่าวเขาเลยครับ จากอนุบาล ประถม มัธยมปลาย ปตรี ปโท พ่อเลี้ยงพี่ผมโดยไม่เคย สอนเรื่องผิดชอบชั่วดี อารมณ์ลูกชั้นเป็นคนดี แต่เขาไม่เคยพูดประโยคนี้ แค่พี่สาวผมทำผิด แต่ไม่เคยว่าไม่เคยสอนครับ
เลยกลายเป็น พ่อรังแกฉัน ยิ่งโตไม้แก่ยิ่งดัดยากครับ คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย พอออกไปเจอสังคมภายนอก ก็เลยเอาตัวเองเป็นใหญ่
กลายเป็นคนที่ อยู่ตรงไหนก็ไปสร้างปัญหา ไม่ว่าจะทำงาน อยู่บ้าน ร้านอาหาร ไปเที่ยว และไม่เว้นแต่ครอบครัวตัวเอง
ในที่สุด จนพ่อเองทนไม่ได้ต้องหนีออกไป พ่อเองก็เคยมาบอกทั้งผมและแม่ว่า เขาเอาพี่ไม่อยู่
และเขาเคยไปเที่ยวตปท.แบบทัวร์ด้วยกัน ก็เลยเห็นอะไรหลายอย่าง เหมือนตาสว่าง ครับ
ที่นี้บ้านผมเลยเหลือพี่ ผมและแม่ แน่นอนครับว่าคนที่ให้ท้ายยังเอาไม่อยู่ ถามว่าใครเอาอยู่
พี่ผมไปทำงานก็ทะเลาะกับคนในที่ทำงาน ทุกที่ครับ ขนาดโดนบังคับย้ายโต๊ะให้ไปนั่งคนเดียว
ส่วนตอนอยู่ที่บ้านเขาก็จะหาเรื่องทะเลาะกับทุกคนตลอด ส่วนตัวผมเองเชื่อว่า เขาน่าจะมีอาการทางประสาทครับ อาจจะเพราะเขาทำถูกมาทั้งชีวิต
เลยกลายเป็นคนที่อยู่ตรงไหน ตรงนั้นก็เป็นไฟ หาความสงบไม่ได้เลย ขึ้นโรงขึ้นศาล เข้าโรงพัก
ขับรถปาดหน้าคนอื่น ขับแล้วไปเบรกรอให้คนอื่นมาชน
แบบนี้ผมคิดว่าไม่ใช่คนปกติครับ ก็เป็นแบบนี้มาตลอดหลายๆปีครับ ไม่เคยเปลี่ยน
จนผมทนไม่ไหว เพราะเขาทะเลาะและสร้างปัญหาทั้งนอกบ้านและในบ้าน
ผมไม่อยากพิมพ์เยอะเพราะอาจจะเยอะไปสำหรับคนอ่าน
ในที่สุด ผมหนีครับ ภาษาวัยรุ่นหน่อยเขาเรียกว่า เกินต้าน แล้วผมก็พาแม่หนีมาด้วย มาเช่าอยู่กัน วันนี้เพิ่งสองเดือนครับ
แต่เป็นสองเดือนที่ทั้งผมและแม่ มีความสุขมาก คือสุขภาพจิตทั้งคู่ดีขึ้นเยอะมากครับ โอเคว่ามาเจอโควิท แต่เรื่องโควิทเราเจอกันทั้งโลก
ผมอยากบอกทุกคนนะครับว่า ถ้าใครกำลังเจอคนที่มีอาการทางประสาทแค่ยังไม่ได้ไปตรวจ
ผมแนะนำให้หนี ดีกว่าไปอยู่ร่วมกับเขาครับ ผมจำได้แม่นนะครับว่า จิตแพทย์ยังบอกเลยครับว่า ถ้าเราไม่ไหวที่จะอยู่กับผู้ป่วยทางประสาทจริงๆเราต้องเอาตัวเองออกมา เพราะเราจะแย่ไปด้วย ซึ่งผมได้ทำตามและพิสูจน์แล้วว่า การหนีจากผู้ที่มีอาการทางประสาท คุมตัวเองไม่ได้ ชอบใช้กำลัง ความรุนแรงเพื่อเอาชนะ คือการแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดครับ
ขอ Tag มนุษย์เงินเดือน ด้วยเพราะสุขภาพจิตในที่ทำงานก็เริ่มจากที่บ้านนี้แหละครับ ไม่ใช่ไปทำงานก็เจอคนที่มีอาการทางประสาท
กลับบ้านก็เจอคนที่มีอาการทางประสาทอีก แบบนั้นผมว่าจิตแพทย์ระดับปริญญาเอกก็เอาไม่อยู่ครับ
ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ก็เป็นการแบ่งปันประสบการณ์เผื่อใครกำลังเจอเรื่องแบบนี้อยู่นะครับ
ผมบอกเลยสุขภาพจิตเราสำคัญมากครับ