การเจริญอสุภกรรมฐานกับอานาปานสติ

จากที่ผมอ่านเจอในพระไตรปิฎก
มีข้อความนี้
พระผู้มีพระภาคตรัสสอนอสุภกัมมัฏฐาน  ทรงพรรณนาคุณอสุภกัมมัฏฐาน    ตรัสสรรเสริญการเจริญอสุภกัมมัฏฐาน    ตรัสพรรณนาคุณอสุภสมาบัติเนือง ๆ  แก่ภิกษุทั้งหลาย

จนภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นเจริญอสุภกัมมัฏฐานเกิดความเบื่อหน่ายในกาย เห็นตัวเองเหม็นเน่า ที่เกิดความสลดสังเวช จนไปฆ่าตัวตายกัน

มาในภายหลัง ก่อนที่พระพุทธเจ้าท่านจะสอนให้ทำอานาปานสติก่อน ให้เกิดมีปิติ มีสุขก่อนแล้วค่อยไปทำกรรมฐานอื่นๆ
ทรงให้อานาปานสติเป็นแม่ของทั้งหมด
ในกรรมฐานทุกกอง

จากข้อความนี้ที่แสดงในพระไตรปิกฎ แสดงว่าในสมัยพระพุทธเจ้า การทำกรรมฐานอสุภะ หรือกายคตาสติ ในหมวดกรรมฐาน40กอง การพิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง สามารถทำเป็นกรรมฐานได้เลย ไม่ต้องทำอานาปานสติหรือพุธโธ ให้จิตสงบก่อนก็สามารถทำได้ ผมอ่านเจอว่าการเจริญกายคตาสติ หรือ อสุภะ สามารถทำให้ถึงปฐมฌาณได้เหมือนกัน
แต่การทำแบบนั้นอาจเป็นความเสี่ยงของจิตที่ยังไม่พร้อมจะเห็น
พระพุทธเจ้าท่านยังบอกให้พระอุปัชฌาย์สอนให้ภิกษุ ที่เข้ามาบวชใหม่ ให้พิจารณา ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง
ถ้าไม่สอนก็จะถือว่าอาบัติ แสดงว่าไม่ใช่ของเล่นๆ

ถ้าผมเจริญกายคตาสติก่อนค่อยไปเจริญอานาปานสติในภายหลัง
ถ้าคิดแบบนี้ผมเข้าใจถูกไหมครับ
ถ้าผิดหรือถูกขออภัยด้วยครับ
ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่