"ประเทศญี่ปุ่น" นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องแหล่งท่องเที่ยวตามภูมิภาคต่างๆ แล้ว "สนามบิน" ก็ยังเป็นหน้าเป็นตา และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของประเทศนี้ก็ว่าได้ ใครที่เคยมาลองสัมผัสจะต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า...ทันทีที่เท้าแตะพื้นสนามบิน "เราก็ได้เริ่มเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว"

สนามบินนิวชิโตเสะ (New Chitose Airport) หรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่า "ชินชิโตเสะ" (Shin-Chitose) มีตัวย่อว่า "CTS" เป็นท่าอากาศยานนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเกาะฮอกไกโด อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรประมาณ 40 นาที (โดยรถไฟ Rapid Airport) ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็น "สนามบินแห่งความบันเทิง" (Entertainment Airport) เพราะมีครบทุกอย่างให้คุณได้ชิม ช้อป ชิล แชะ จนอาจลืมเวลาขึ้นเครื่องไปเลยก็ได้ !

ความบันเทิงของสนามบินแห่งนี้ ตั้งอยู่ในส่วนของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ (Domestic Terminal Building) บนชั้น 3 และ 4 โดยชั้น 4 หรือที่เรียกว่า Oasis Park จะมีทั้งออนเซ็น, โรงภาพยนตร์, Apina (แหล่งรวมตู้เกมและตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์) และจุดชมรันเวย์เครื่องบิน (Observation Deck)

สำหรับรีวิวนี้ เราจะพาทัวร์ชั้น 3 กันค่ะ

เริ่มกันที่ Hokkaido Noodle Hall แหล่งรวบรวมร้านราเมงชื่อดังจากทั่วทั้งเกาะฮอกไกโดมาไว้ที่นี่

ที่เห็นคิวยาวๆ นี่คือร้าน Ebisoba Ichigen (เปิด 10 โมง - 3 ทุ่ม)

ด้านในลูกค้าเพียบบบบบบ

ด้านใน Hokkaido Noodle Hall ยังมีอีกหลายร้าน ทั้ง SAPPORO HIENN, Baikoken, Shirakaba-Sansou ฯลฯ ชอบร้านไหนก็จัดโลดดด ส่วนเราขอผ่าน เพราะเล็งไว้แล้วว่าจะไปทานมื้อเย็นกันที่ Food Court ค่ะ

ต่อกันที่ร้านขนมชื่อดัง Royce' Chocolate World มีน้องหมีช็อกโกแลตตัวยักษ์รอต้อนรับอยู่หน้าร้าน


สาขานี้นอกจากจะมีร้านขายช็อกโกแลตและขนมหวานแสนอร่อยแล้ว ด้านในยังมีโรงงานช็อกโกแลตที่เราสามารถชมขั้นตอนการผลิตผ่านกระจกใสได้อีกด้วย (ขออภัยลืมถ่ายมาค่ะ)

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ที่นี่ยังมี Royce' Bakery ที่หายากมากๆ ในเมืองซัปโปโร แบบนี้ต้องลองซะหน่อยแล้ว เราเลือกอันดับ 1-3 ของร้านมาลองอย่างละชิ้น

เริ่มกันที่อันดับ 1 "นามะช็อกโก้ครัวซอง" (Nama Choco Croissant "Au Lait") ชิ้นละ 270 เยน เป็นเมนูขายดีและขายหมดอย่างรวดเร็วจนทำแทบไม่ทัน ตัวแป้งครัวซองค่อนข้างบาง แต่ไส้ช็อกโกแลตด้านในล้นทะลัก ตัวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด!

เมนูอันดับ 2 เราตั้งชื่อให้มันว่า "ขนมปังเขมือบช็อกโกแลต" จริงๆ มันคือ "ขนมปังสอดไส้แผ่นช็อกโกแลต" (Gouter) ราคา 303 เยน เห็นแว้บแรกถึงกับร้องเฮ้ย! เค้าให้ช็อกโกแลตทั้งแผ่นกันแบบนี้เลยหรอ?!? และไม่พอยังมีไส้ช็อกโกแลตราดอยู่ด้านล่างแผ่นช็อกโกแลตเข้าไปอีก สาวก Royce รับรองว่าต้องฟินแน่นอน

ปิดท้ายด้วยเมนูอันดับ 3 "ช็อกโก้เมล่อนปัง" (Choco Melon Bun) ราคา 200 เยน แป้งเมล่อนปังกรอบนอกนุ่มใน ส่วนไส้ไม่ต้องพูดถึง ครีมช็อกโกแลตเข้มข้นและเยอะสะใจมาก

ตอนนี้ระดับน้ำตาลพุ่งปรี๊ดดดดด ต้องไปเดินย่อยกันหน่อย ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก Royce Bakery คือโซน "Smile Road" ที่อยู่ตรงทางเชื่อมระหว่าง Domestic และ International Terminal เข้ามาแล้วจะเจอกับ "Hello Kitty Happy Flight" ธีมพาร์คที่มาในคอนเซ็ปของ "สายการบินคิตตี้ที่ออกเดินทางไปรอบโลก" เรามาถึงช้า เค้าปิดซะแล้ว (เปิด 10.00 -18.00) ค่าเข้าผู้ใหญ่ 800 เยน เด็กประถม 400 เยน ส่วนเด็กต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรีค่ะ

ส่วนตรงนี้เป็น Free Space ให้เด็กๆ วิ่งเล่นกันค่ะ

จุดหมายต่อไปคือ "Doraemon Wakuwaku Sky Park" ระหว่างทางมีคาเฟ่น่ารักสีหว๊านหวาน "Cinnamoroll Cafe"


เดินผ่านคาเฟ่ ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นเจ้าแมวอ้วนตัวสีฟ้าอยู่ไกลๆ

ถึงแล้ว "Doraemon Wakuwaku Sky Park" สวรรค์ของสาวก "โดราเอม่อน"

ตรงนี้เป็น Kids Zone เปิดตลอดค่ะ (เข้าฟรี)

และแน่นอนว่า Park Zone ปิดแล้วเรียบร้อย (เวลาทำการ 10.00-18.00 เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 17.30 น.)

ด้านในมีการจำลองฉากต่างๆ ที่เราเห็นในการ์ตูนโดราเอม่อน ทั้งห้องโนบิตะ ไทม์แมชชีน สนามเด็กเล่น ฯลฯ และถ่ายรูปกับพี่ม่อนตัวเป็นๆ

ค่าเข้า 800 เยน (ผู้ใหญ่) 500 เยน (เด็ก 13-18 ปี) 400 เยน (เด็ก 3-12 ปี) และเด็กต่ำกว่า 3 ปี เข้าฟรีค่ะ

โซน Workshop ปิดแล้วเช่นเดียวกัน (เวลาทำการ 10.00-18.00 เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 17.00 น.) 

โซน Library เหมือนจะยังเปิดอยู่แต่ไม่ได้เข้าไป มีหนังสือการ์ตูนเพียบเลย

โซนคาเฟ่ ปิดแล้วเช่นกัน อดชิมขนมเลย T_T (เวลาทำการ 10.00-18.00 เปิดรับออเดอร์สุดท้าย 17.30 น.)

โซน Photo Studio และ Amusement Park ปิดแล้วเช่นกัน (เวลาทำการ 10.00-18.00) 

มาถึงโซนสุดท้าย "Gift Shop" ยังเปิดอยู่จ้า (เวลาทำการ 10.00-18.30) ของสะสมโดราเอม่อนน่ารักๆ เพียบบบ ใครเป็นสาวกรับรองได้กระเป๋าแฟ่บแน่ๆ
 
อย่างที่บอกไปตอนแรก เราตั้งใจมาทานมื้อเย็นกันที่ Food Court ที่อยู่บนชั้น 3 นี้ค่ะ

ไฮไลท์ของฟู้ดคอร์ทที่นี่ คือมีหน้าต่างสำหรับชมวิวรันเวย์สนามบินได้แบบเต็มตา

ส่วนร้านอาหารก็มีให้เลือกมากมาย

ประทับใจอีกอย่างตรงที่มีอ่างล้างมือ และจุดกดน้ำดื่มฟรี ไม่ได้มีแค่จุดเดียวด้วยนะ มีกระจายตามมุมต่างๆ ทั่ว Food Court เลย เริ่ดมากกกกก
 
หลังจากรับประทานเสร็จแล้ว ให้นำถาดภาชนะไปคืนตรงจุดรับคืนภาชนะที่ร้านค้าที่เราซื้ออาหาร ซื้อร้านไหน ก็คืนร้านนั้นเลยค่ะ และนำผ้าสะอาดในตะกร้าสีฟ้าไปเช็ดทำความสะอาดโต๊ะที่เรานั่งรับประทานด้วยนะคะ จากนั้นเอาผ้าที่ใช้แล้วมาคืนลงในตะกร้าสีแดงค่ะ ไอเดียดี น่ารักมากๆ ฟู้ดคอร์ทบ้านเราน่าจะเอาไปใช้บ้างเนอะ

สั่งอาหารมาทาน ชมวิวเครื่องบินเพลินๆ

เสร็จแล้วเราไปต่อกันที่ "จุดชมรันเวย์" (Observation Deck) ข้างๆ Food Court จะมีบันไดเดินขึ้นไปด้านบนนี้ค่ะ ที่นี่เปิดให้ชมเฉพาะเดือนเมษายน-พฤศจิกายนเท่านั้น ตั้งแต่เวลา 8.00-20.00 น. (ปิดในฤดูหนาวระหว่างเดือนธันวาคม-มีนาคม)

จากจุดนี้สามารถชมเครื่องบินได้อย่างใกล้ชิด

ตามธรรมเนียม (ของเราเอง) ก่อนขึ้นเครื่องกลับ เราต้องจัดไอศกรีม Cremia ทุกครั้ง (ราคา 500 เยน) ติดใจตั้งแต่ทานครั้งแรกที่โตเกียว ^_^ ขอปิดกระทู้ด้วยภาพนี้นะคะ สำหรับใครที่มีโอกาสมาลงหรือขึ้นเครื่องที่สนามบิน New Chitose แห่งนี้ อยากให้เผื่อเวลากันเยอะๆ เลยค่ะ เพราะที่นี่มีครบทุกอย่างจริงๆ ทั้งชิม ช้อป ชิล แชะ รีวิวนี้เป็นเพียงแค่ส่วนนึงเท่านั้นนะคะ เรายังเดินไม่ทั่วเลยค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรับชม "ทริปฮอกไกโดหน้าร้อน" ทั้ง 5 วันของเรานะคะ รับชมย้อนหลังได้ที่นี่เลยจ้าาาาา
<Day 1> https://ppantip.com/topic/39887675
<Day 2> https://ppantip.com/topic/39894187
<Day 3: Part 1> https://ppantip.com/topic/39903217
<Day 3: Part 2> https://ppantip.com/topic/39905918
<Day 4> https://ppantip.com/topic/39914667
<Day 5> https://ppantip.com/topic/39925606