อากาศร้อนๆ พร้อมฝนพรำๆ แบบนี้ ชวนให้นึกถึง "ทริปฮอกไกโด" เมื่อปีที่แล้ว เราเดินทางกันในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็น "หน้าร้อนของฮอกไกโด" แต่มีสายฝนและลมเย็นๆ มาทักทายเป็นระยะๆ ตลอดทั้งทริป
เราออกเดินทางกันในคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ด้วยสายการบิน "Japan Airlines"
รายละเอียดของสายการบิน การต่อเครื่อง อาหารการกินบนเครื่อง และที่นั่ง เราทำรีวิวแยกไว้ให้แล้วค่ะ
สามารถดูได้ที่กระทู้นี้ >>>
https://ppantip.com/topic/39157535
---- Day 1: วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2562 ----
*** รับชมรีวิวทริปวันที่ 2 ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ >>>
https://ppantip.com/topic/39894187 ***
ทันทีที่เท้าแตะแผ่นดินญี่ปุ่นที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport เมืองนาโกย่า เพื่อรอต่อเครื่องไปลงซัปโปโร (รอต่อเครื่อง 3 ชั่วโมง)
เราก็เริ่มเที่ยวกันตั้งแต่ที่สนามบินนี้แล้วค่ะ เพราะภายในสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์แห่งนี้ มีกิจกรรมให้เราทำระหว่างรอต่อเครื่อง
นั่นคือการชมเครื่องบินและรันเวย์ของสนามบินแบบใกล้ชิด ชนิดที่ห่างจากรันเวย์เพียงแค่ 300 เมตร เท่านั้น!!! น่าตื่นเต้นมากๆ
โดยจุดชมเครื่องบินนี้ มีชื่อเรียกว่า "Sky Deck" หรือ Observation Deck ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของอาคารผู้โดยสาร
ซึ่งบนชั้น 4 นี้ยังเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารชื่อดังของนาโกย่า อย่างหมูทอดมิโซะคัตสึ ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมาบุชิ อุด้งแกงกะหรี่ ฯลฯ อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 7 โมง - 4 ทุ่มครึ่ง
คำว่า "ฟ้าหลังฝน ย่อมสวยงามเสมอ" คำนี้เห็นจะจริง พิสูจน์ได้จากภาพตรงหน้าเรานี่เอง ตอนที่เราไปฝนเพิ่งหยุดตกได้ไม่นาน ตามทางเดินยังมีแอ่งน้ำฝนอยู่ตลอดทาง ท้องฟ้าใสและสวยมากๆ
เราเพลิดเพลินกับการชมเครื่องบินที่จอดอยู่นิ่งๆ ทั้งด้านซ้ายและขวา
และตื่นตาตื่นใจกับเครื่องบินที่ค่อยๆ ร่อนลง
บ้างก็เตรียมที่จะโบยบิน
และนกเหล็กที่ทะยานสู่ท้องฟ้า
เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานมาก รอกะจังหวะให้เครื่องบินอยู่ตรงศีรษะพอดี แล้วตั้งกล้องถ่ายรูป พลาดมั่ง เบลอมั่ง ขำๆ กันไป ใครมาลงเครื่องที่นี่ แนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาดจ้า
เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลาไปต่อเครื่องเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเรานั่นคือ "ซัปโปโร"
ถึงสนามบิน New Chitose เมืองซัปโปโร เรานั่งรถไฟมาลงสถานี JR Sapporo แล้วต่อรถไฟใต้ดิน Sapporo มาลงที่สถานี Susukino
ซึ่งเราจองที่พักไว้ในย่านนี้ นั่นคือ "โรงแรม The b Sapporo Susukino" ซึ่งรายละเอียดของโรงแรม เราทำรีวิวแยกไว้ให้แล้วค่ะ
สามารถดูได้ที่กระทู้นี้จ้า >>>
https://ppantip.com/topic/39881865
หลังจากเช็คอิน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แน่นอนสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ "หาของกิน"
มื้อแรกเราจะฝากท้องกันที่ Ganso Ramen Yokocho หรือ "ตรอกราเม็ง" นั่นเอง จากโรงแรมเดินไปประมาณ 5 นาทีค่ะ ฝนตกปรอยๆ เลยต้องขอยืมร่มของโรงแรมมา
เราหาข้อมูลดูรีวิวมาแล้วว่าร้านนี้อร่อย ร้านนี้ชื่อว่า "Tenhou Ramen"
มีเมนูพร้อมราคาติดอยู่หน้าร้านชัดเจนค่ะ และแน่นอน เรามีเมนูมาแล้วในใจ ลุยกันเล้ยยยยยยยย
ชามแรกมาแล้ว มีชื่อว่า "Spicy Miso Ramen" (900 เยน) มิโสะราเม็งเส้นเหนียวนุ่ม เนื้อหมูมาเป็นแบบหั่นเต๋า นุ่มกำลังดีเลยค่ะ และชอบตรงที่โรยงาขาวมาด้วย ส่วนรสชาติไม่สไปซี่อย่างที่คิด เราต้องเติมพริกป่นเข้าไปอีกเพื่อเพิ่มรสชาติค่ะ
ชามต่อมาเป็น "Soy Sauce (Shoyu) Ramen" (750 เยน) โชยุราเม็งเส้นแบบเดียวกับชามแรก น้ำซุปกลมกล่อม เนื้อหมูมาเป็นแผ่น นุ่มอีกแล้วจ้าาาา
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ออกมาเดินย่อยชมเมืองซัปโปโรยามเย็น ฝนก็ยังคงตกอยู่เรื่อยๆ
จุดหมายต่อไปของเราคือ "Former Hokkaido Government Office Building" (Red Brick Office) หรือ ศาลาว่าการเก่าฮอกไกโด
บรรยากาศยามเย็น ท่ามกลางสายฝน ก็ดูสวยไปอีกแบบ
เดินวนถ่ายรูปรอบๆ สักพักเราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป นั่นคือ "Sapporo Clock Tower" หรือ หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร เราไม่ได้เข้าไปชมด้านใน เพราะเค้าปิดแล้วค่ะ
เจอฝาท่อรูปหอนาฬิกา ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย
เดินทางสู่จุดหมายต่อไปนั่นคือ "Sapporo TV Tower" เราไม่ได้ขึ้นไปอีกเช่นเคย เพราะฝนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เลยตัดสินใจกลับที่พัก เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้า และออกนอกเมืองด้วย เลยอยากเก็บแรงไว้ค่ะ
ระหว่างทางกลับที่พัก เราเจอร้านบะหมี่ร้านนี้โดยบังเอิญ (จริงๆ คือหลงทาง เดินวนไปวนมาอยู่ในนั้น ><") ร้านอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน Sapporo แต่เราจำไม่ได้ว่าอยู่ทางออกไหน เพราะ 2 วันให้หลัง มาเดินหาร้านนี้อีกครั้ง ปรากฏว่าไม่เจอแล้ว 555 งงมาก
*** อัพเดทข้อมูลจากคุณ [[[tes]]] (ความคิดเห็นที่ 3) แจ้งมาว่าร้าน Hinode นี้ อยู่ในสถานี Odori ทางออกที่ 10 ค่ะ ต้องขอบคุณคุณ [[[tes]]] มา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ ไม่งั้นเราคงเข้าใจผิดไปตลอด ***
ร้านเป็นแบบยืนกิน มีเมนูและราคาบอกชัดเจน แต่...เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ !!! เอาล่ะสิ แต่ด้วยความอยากกินต้องได้กิน เลยชี้ๆ ไปที่ชามของคนข้างๆ บอกว่าเอาแบบนี้ เจ๊บอกโอเคๆ จัดให้ (อันนี้คือเดา)
ในที่สุด เราก็ได้กินโซบะของเจ๊แล้ว น้ำตาจะไหล T_T
บอกเลยว่าเดินตากฝนมาหนาวๆ แล้วได้ซดอะไรร้อนๆ แบบนี้ มันคือที่สุดของที่สุดจริงๆ แถมราคาไม่แพงด้วย เริ่ดดดดดดดด
จบทริปฮอกไกโดวันแรกของเราแล้ว ได้เวลาพักผ่อนเตรียมแรงไว้วันพรุ่งนี้ เราจะออกนอกเมืองไปเที่ยวแนวธรรมชาติกันบ้าง
ติดตามทริปวันที่ 2 (ชมบ่อน้ำสีฟ้า นั่งกระเช้าห้อยขาดูทุ่งลาเวนเดอร์ ชิมเมล่อนที่ฟาร์มโทมิตะ)
ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ >>>
https://ppantip.com/topic/39894187
[CR] รีวิวเที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน เดือนกรกฎาคม <Day 1> พาชมจุดชมเครื่องบิน"สนามบินนาโกย่า" เดินเล่นซัปโปโร ตบท้ายด้วยโซบะร้อนๆ
อากาศร้อนๆ พร้อมฝนพรำๆ แบบนี้ ชวนให้นึกถึง "ทริปฮอกไกโด" เมื่อปีที่แล้ว เราเดินทางกันในเดือนกรกฎาคม ซึ่งเป็น "หน้าร้อนของฮอกไกโด" แต่มีสายฝนและลมเย็นๆ มาทักทายเป็นระยะๆ ตลอดทั้งทริป
เราออกเดินทางกันในคืนวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 ด้วยสายการบิน "Japan Airlines"
รายละเอียดของสายการบิน การต่อเครื่อง อาหารการกินบนเครื่อง และที่นั่ง เราทำรีวิวแยกไว้ให้แล้วค่ะ
สามารถดูได้ที่กระทู้นี้ >>> https://ppantip.com/topic/39157535
---- Day 1: วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2562 ----
*** รับชมรีวิวทริปวันที่ 2 ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ >>> https://ppantip.com/topic/39894187 ***
ทันทีที่เท้าแตะแผ่นดินญี่ปุ่นที่สนามบิน Chubu Centrair International Airport เมืองนาโกย่า เพื่อรอต่อเครื่องไปลงซัปโปโร (รอต่อเครื่อง 3 ชั่วโมง)
เราก็เริ่มเที่ยวกันตั้งแต่ที่สนามบินนี้แล้วค่ะ เพราะภายในสนามบินชูบุ เซ็นแทรร์แห่งนี้ มีกิจกรรมให้เราทำระหว่างรอต่อเครื่อง
นั่นคือการชมเครื่องบินและรันเวย์ของสนามบินแบบใกล้ชิด ชนิดที่ห่างจากรันเวย์เพียงแค่ 300 เมตร เท่านั้น!!! น่าตื่นเต้นมากๆ
โดยจุดชมเครื่องบินนี้ มีชื่อเรียกว่า "Sky Deck" หรือ Observation Deck ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของอาคารผู้โดยสาร
ซึ่งบนชั้น 4 นี้ยังเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารชื่อดังของนาโกย่า อย่างหมูทอดมิโซะคัตสึ ข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมาบุชิ อุด้งแกงกะหรี่ ฯลฯ อีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด: 7 โมง - 4 ทุ่มครึ่ง
คำว่า "ฟ้าหลังฝน ย่อมสวยงามเสมอ" คำนี้เห็นจะจริง พิสูจน์ได้จากภาพตรงหน้าเรานี่เอง ตอนที่เราไปฝนเพิ่งหยุดตกได้ไม่นาน ตามทางเดินยังมีแอ่งน้ำฝนอยู่ตลอดทาง ท้องฟ้าใสและสวยมากๆ
เราเพลิดเพลินกับการชมเครื่องบินที่จอดอยู่นิ่งๆ ทั้งด้านซ้ายและขวา
และตื่นตาตื่นใจกับเครื่องบินที่ค่อยๆ ร่อนลง
บ้างก็เตรียมที่จะโบยบิน
และนกเหล็กที่ทะยานสู่ท้องฟ้า
เราใช้เวลาอยู่ตรงนี้นานมาก รอกะจังหวะให้เครื่องบินอยู่ตรงศีรษะพอดี แล้วตั้งกล้องถ่ายรูป พลาดมั่ง เบลอมั่ง ขำๆ กันไป ใครมาลงเครื่องที่นี่ แนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาดจ้า
เผลอแป๊บเดียวก็ได้เวลาไปต่อเครื่องเพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางของเรานั่นคือ "ซัปโปโร"
ถึงสนามบิน New Chitose เมืองซัปโปโร เรานั่งรถไฟมาลงสถานี JR Sapporo แล้วต่อรถไฟใต้ดิน Sapporo มาลงที่สถานี Susukino
ซึ่งเราจองที่พักไว้ในย่านนี้ นั่นคือ "โรงแรม The b Sapporo Susukino" ซึ่งรายละเอียดของโรงแรม เราทำรีวิวแยกไว้ให้แล้วค่ะ
สามารถดูได้ที่กระทู้นี้จ้า >>> https://ppantip.com/topic/39881865
หลังจากเช็คอิน เก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว แน่นอนสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ "หาของกิน"
มื้อแรกเราจะฝากท้องกันที่ Ganso Ramen Yokocho หรือ "ตรอกราเม็ง" นั่นเอง จากโรงแรมเดินไปประมาณ 5 นาทีค่ะ ฝนตกปรอยๆ เลยต้องขอยืมร่มของโรงแรมมา
เราหาข้อมูลดูรีวิวมาแล้วว่าร้านนี้อร่อย ร้านนี้ชื่อว่า "Tenhou Ramen"
มีเมนูพร้อมราคาติดอยู่หน้าร้านชัดเจนค่ะ และแน่นอน เรามีเมนูมาแล้วในใจ ลุยกันเล้ยยยยยยยย
ชามแรกมาแล้ว มีชื่อว่า "Spicy Miso Ramen" (900 เยน) มิโสะราเม็งเส้นเหนียวนุ่ม เนื้อหมูมาเป็นแบบหั่นเต๋า นุ่มกำลังดีเลยค่ะ และชอบตรงที่โรยงาขาวมาด้วย ส่วนรสชาติไม่สไปซี่อย่างที่คิด เราต้องเติมพริกป่นเข้าไปอีกเพื่อเพิ่มรสชาติค่ะ
ชามต่อมาเป็น "Soy Sauce (Shoyu) Ramen" (750 เยน) โชยุราเม็งเส้นแบบเดียวกับชามแรก น้ำซุปกลมกล่อม เนื้อหมูมาเป็นแผ่น นุ่มอีกแล้วจ้าาาา
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ออกมาเดินย่อยชมเมืองซัปโปโรยามเย็น ฝนก็ยังคงตกอยู่เรื่อยๆ
จุดหมายต่อไปของเราคือ "Former Hokkaido Government Office Building" (Red Brick Office) หรือ ศาลาว่าการเก่าฮอกไกโด
บรรยากาศยามเย็น ท่ามกลางสายฝน ก็ดูสวยไปอีกแบบ
เดินวนถ่ายรูปรอบๆ สักพักเราก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป นั่นคือ "Sapporo Clock Tower" หรือ หอนาฬิกาเมืองซัปโปโร เราไม่ได้เข้าไปชมด้านใน เพราะเค้าปิดแล้วค่ะ
เจอฝาท่อรูปหอนาฬิกา ขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซะหน่อย
เดินทางสู่จุดหมายต่อไปนั่นคือ "Sapporo TV Tower" เราไม่ได้ขึ้นไปอีกเช่นเคย เพราะฝนเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เลยตัดสินใจกลับที่พัก เพราะพรุ่งนี้เราต้องเดินทางกันแต่เช้า และออกนอกเมืองด้วย เลยอยากเก็บแรงไว้ค่ะ
ระหว่างทางกลับที่พัก เราเจอร้านบะหมี่ร้านนี้โดยบังเอิญ (จริงๆ คือหลงทาง เดินวนไปวนมาอยู่ในนั้น ><") ร้านอยู่ในสถานีรถไฟใต้ดิน Sapporo แต่เราจำไม่ได้ว่าอยู่ทางออกไหน เพราะ 2 วันให้หลัง มาเดินหาร้านนี้อีกครั้ง ปรากฏว่าไม่เจอแล้ว 555 งงมาก
*** อัพเดทข้อมูลจากคุณ [[[tes]]] (ความคิดเห็นที่ 3) แจ้งมาว่าร้าน Hinode นี้ อยู่ในสถานี Odori ทางออกที่ 10 ค่ะ ต้องขอบคุณคุณ [[[tes]]] มา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ ไม่งั้นเราคงเข้าใจผิดไปตลอด ***
ร้านเป็นแบบยืนกิน มีเมนูและราคาบอกชัดเจน แต่...เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ !!! เอาล่ะสิ แต่ด้วยความอยากกินต้องได้กิน เลยชี้ๆ ไปที่ชามของคนข้างๆ บอกว่าเอาแบบนี้ เจ๊บอกโอเคๆ จัดให้ (อันนี้คือเดา)
ในที่สุด เราก็ได้กินโซบะของเจ๊แล้ว น้ำตาจะไหล T_T
บอกเลยว่าเดินตากฝนมาหนาวๆ แล้วได้ซดอะไรร้อนๆ แบบนี้ มันคือที่สุดของที่สุดจริงๆ แถมราคาไม่แพงด้วย เริ่ดดดดดดดด
จบทริปฮอกไกโดวันแรกของเราแล้ว ได้เวลาพักผ่อนเตรียมแรงไว้วันพรุ่งนี้ เราจะออกนอกเมืองไปเที่ยวแนวธรรมชาติกันบ้าง
ติดตามทริปวันที่ 2 (ชมบ่อน้ำสีฟ้า นั่งกระเช้าห้อยขาดูทุ่งลาเวนเดอร์ ชิมเมล่อนที่ฟาร์มโทมิตะ)
ได้ที่กระทู้นี้ค่ะ >>> https://ppantip.com/topic/39894187
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้