สวัสดีเพื่อนห้องบลูอีกครั้งครับ รีวิวมากันเรื่อยๆ
จากครั้งแรกที่ได้ไปญี่ปุ่นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Hakkaido ก็เป็นถิ่นที่ใฝ่ฝันว่าจะไปให้ได้ แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ผมเดินทางไปฮอกไกโดช่วงหน้าร้อน ปลายเดือนกรกฎา วันที่ 24 ก.ค.-4 สิงหา 2012 ลงที่สนามบินคันไซ แล้วเที่ยวโดยใช้ชินคังเซน และรถไฟอื่นๆไล่จาก โอซาก้า-โตเกียว-อาโอโมริ-ฮาโกดาเตะ-ซัปโปโร-โอตารุ-ฟุราโนะ แล้วไล่กลับลงมาตามทางครับ ถือว่าเป็นทริปที่ได้ใช้ JR pass อย่างคุ้มค่ามากๆ
จะบอกว่าเป็นการเดินทางที่หลายคนอาจคิดว่าทรหดเกินไปนิด อัดแน่นเกินไปหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทริปนี้เป็นทริปที่ดีและผมประทับใจมากที่สุดครั้งนึงในการไปญี่ปุ่นเลยครับ
ผมมีเพื่อนอยู่ที่ญี่ปุ่นพอสมควรและมีที่สนิทๆไปมาหาสู่กันอยู่ 3-4 คน ครั้งนี้ที่ไปได้ไปเห็นหลานตัวน้อย 2 คนครับ
ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเพื่อนอยู่ 2 วัน และอะไรอีกหลายๆอย่างที่ทำให้ทริปนี้เป็นทริปที่น่าจดจำเกินกว่าที่วางแผนไว้
ลองมาตามกันดู กระทู้นี้รูปเยอะนะ จัดเต็มจบใน 1 กระทู้ครับ
ใครสนใจวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นมาหาข้อมูลได้ที่
https://www.facebook.com/Gonipponbydrjame
เปิดกระทู้กันด้วยของกิน ข้าวหน้าทะเลต่างๆจากฮาโกะดาเตะครับ ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องปูปลา อาหารทะเลสดๆ
เรามาเริ่มการเดินทางทริปนี้ด้วยการตัดไปที่การเดินทางขึ้น Hakodate เลยจาก Tokyo ครับ
ตามนี้นะ นั่งยิงยาวไปเลย 6 ช.ม. ถึง ฮาโกะดาเตะครับ
เจ้า Hayate ขบวนนี้จะพาเราไป Shin-Aomori
เบาะม่วง เจ้า Hayate นี่ผมว่านั่งสบายน้อยกว่า Hikari ครับ แต่ก็ยัง OK อยู่มาก
Bento ข้าวผัด ไก่ทอดคะระอะเกะ นั่งรถไฟ เบนโตะต้องมาครับ
เดินทางไกลงานขนมก็ต้องมา baumkushen หรือเค้กขอนไม้อร่อยๆ
ที่ Shin-Aomori ก็เปลี่ยนมานั่งเจ้า Super Hakucho ขบวนนี้ครับ
Hakucho/super Hakucho จะวิ่งในอุโมงค์ใต้ดินอยู่ช่วงนึงระยะทางประมาณ 23 km เป็นอุโมงค์เชื่อมเกาะ Honshu กับเกาะ Hokkaidoชื่ออุโมงค์เซคัง นะครับเท่ชะมัดเลย วิ่งในอุโมงค์ใต้ทะเล
จะมี monitor แสดงว่าตอนนี้เราอยู่ประมาณไหนของอุโมงค์เซคังแล้ว
เพื่อระงับความตื่นเต้นในการเยือน Hokkaido ครั้งแรกในไม่กี่อึดใจข้างหน้า
ก็ควรจะเติมชอคโกแลตกันนะครับ ขนมญี่ปุ่นนี่มีให้เลือกกินได้ไม่เบื่อเลย
ในที่สุดก็ถึงแล้วคร้าบ Hakodate เย้ๆๆๆ ดินแดนที่ใฝ่ฝันมาแสนนาน
วิวข้างหลังนั่นเราจะไปดูของจริงกันค่ำนี้
ออกมาหน้าสถานีรถไฟฮาโกะดาเตะ ไปหาโรงแรมที่พักกันก่อนเลย
เริ่มการเดินทางในฮอกไกโดวันแรก ผมพักที่ Toyoko INN Hakodate Ekimae As-ichi นะครับ เพราะสะดวกที่สุดแล้วใกล้ตลาดเช้า ใกล้สถานีรถไฟ เดินออกจากสถานี เลี้ยวขวา 3 นาทีถึงโรงแรมเลย ใกล้สถานีรถราง ราคาก็ถูกมากครับ ประมาณ 4000 กว่าเยน ผมสมัคร member เลยได้ส่วนลดทันที 10% แนะนำเลยครับ
เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วไปตะลุย Hakodate กันครับ ห้องพักสะอาดหมดจดสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆใน Hakodate ที่สะดวกที่สุดก็คือรถรางหรือ Tram นี่แหละครับ ซื้อ One day pass ราคา 600 Yen ได้เลยใช้คุ้มแน่ๆ
หน้าตา tram 1 day pass 600 yen Creditภาพจาก internet
จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ ป้อมรูปดาว Goryokaku นั่งรถรางสาย 5 ลงสถานี Goryakaku-Koen mae นะครับแล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาที จะมีป้ายบอกตลอดทาง ระหว่างทางจะมีเจ้ารูปปั้นน่ารักๆให้ดูเพลินๆ
มีรูปปั้นแบบนี้อยู่ข้างทางหลายจุด
ถึงแล้วจริงๆ Hakodate มีฝาท่อน่ารักๆยืนยันด้วย
เดินมาไม่นานก็เห็นหอคอยแล้วละครับ
ตีตั๋วขึ้นไปกันเลย ในลิฟท์จะมีเจ้าหน้าที่เล่าประวัติอะไรต่างๆของป้อมแห่งนี้ครับ แต่ผมฟังไม่ออก อิอิ ญี่ปุ่นล้วน แล้วก็จะมีถาพเรื่องแสงฉายอยู่ที่ผนัง lift ด้วย เจ๋งมาก
โกเรียวคาคุ (Goryokaku) ป้อมรูปดาว 5 แฉกแบบรัสเซีย อนุสรณ์สถานสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮาโกดาเตะ สร้างเมื่อปี 1857 โดยโชกุนในตระกูลโทกุงาวะ เพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างชาติ ใช้เวลาในการสร้างรวม 7 ปี
ในปี 1869 โกเรียวคาคุถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการสุดท้ายของตระกูลโทกุงาวะ ก่อนจะปราชัยต่อกองทัพจักรพรรดิเมจิ เป็นการสิ้นสุดการปกครองระบอบโชกุน ปัจจุบันถูกปรับแต่งเป็นสวนสาธารณะโดยยังรักษารูปแบบเดิมของป้อมเอาไว้
มันเป็นดาวจริงๆครับ
จากบนหอคอยนี้สามารถเห็นวิวเมือง Hakodae ได้ 360 องศาเช่นกัน
รอบๆบริเวณทางเดินชั้นชมวิวจะมีหุ่นจำลองเล็กๆบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของป้อมแห่งนี้
คาดว่าน่าจะเป็นรูปปั้นของท่านซักคนในตระกูลโทกุงาวะ
ออกจาก Goryokaku นั่งรถรางไปลงที่สถานี Jujaigi ไปดู
ท่าเรือเก่า Red brick ware house และบริเวณรอบๆกันครับ
บรรยากาศดีมากๆ อากาศบริสุทธิจริงๆ
เป็นเมืองที่ผมหลงรักไปเต็มๆครับ
Red brick warehouse อาคารโกดังที่ก่อด้วยอิฐแดงเก่า
ที่ถูกเอามาทำเป็นห้างขายของปัจจุบัน
ดอกไม้สีสดประดับอยู่ตามเสาไฟรอบเมือง
บริเวณรอบๆที่สวยงาม น่านั่งเล่น
บรรยากาศแสนผ่อนคลาย เป่าฟองกันดีกว่า
บริเวณท่าเรืออากาศสดใสมีนกบินไปมา
Starbucks สาขานี้เท่มากอยู่ตรงท่าเรือเก่านี่แหละครับ
บรรยากาศสบายๆไม่เร่งรีบ
มี Super market ให้เข้าไปเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆกันด้วย
ข้างในมีของจัดวางอย่างดีสดๆใหม่ๆน่าซื้อทั้งนั้น เอ๊ะเราได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากไหนนะ
อ่อ ที่แท้ก็เจ้าปลาหมึกอบแล้วเอามาใส่เครื่องฉีกเป็นเส้นๆนี่เอง มีให้ชิมด้วยนะครับ
เห็นสะพานระหว่างสองอาคารนั่นมั้ยครับ มีนักดนตรีไปนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงให้ฟังด้วย
จากจุดนี้เดินต่อไปเพื่อหาเนิน Motomachi ครับ เห็นในรูปแล้วสวยเหลือเกิน ต้องหาให้เจอ
เดินตามทางไปเรื่อยๆตามผู้คนจนในที่สุดก็ได้มาป๊ะกับวิวนี้ของ Motomachi สวยจนลืมหายใจ
เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งน่ารักๆ บ้านน่ารักๆ
ดอกหญ้าดอกไม่ริมทางยังน่ารัก
จากนั้นเราไปขึ้น Mt.Hakodate ไปดูวิวที่สวยติด 1/3 ของโลกกัน
นั่ง Tram ไปลง Jujaigi แล้วเดินต่อขึ้นเนินไปประมาณ 2-300 เมตรซื้อ cable car round trip 1100 yen แล้วไปกันเลย
ขึ้นไปพระอาทิตย์กำลังจะตกเลย
วันนี้มีหมอกลงวิวเลยไม่ค่อยใสเท่าไหร่ แต่คนก็เยอะเลยล่ะ
ตอนมืดสุดก็ออกมาเป็นอย่างนี้ครับหลังจากนั้นหมอกมาหนาบังวิวหมดเลย
ค่ำแล้วหมกมาแล้วกลับห้องพักดีกว่าครับ พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาเดิน Asa-ichi กัน
เช้าแล้วออกไปเดินตลาดเช้ากันนะครับอยู่ใกล้โรงแรมเลยเดินออกมานิดเดียวก็เจอเลยครับ มีของสดมากมายเลยครับ
ปู ปลา ปลาหมึกตัวใหญ่ๆ
ปูทาราบะตัวใหญ่มากกกกก King crab เผาให้กินกันตรงนั้น
บริเวณตลาด
ปลาหมึกแหวกว่าย
อาหารทะเลมาแบบเป็น set ให้เลือกซื้อ
เมลอนหวานฉ่ำชิ้นละ100เยนนนนน
เดินกันจนหิว ทางโรงแรมของเราจัดอาหารไว้ให้ ต้องกลับไปทานละครับ
[CR] [Summer in Hokkaido] ฮอกไกโดหน้าร้อนจัดเต็ม 4 เมือง Hakodate-Sapporo-Otaru-Furano
จากครั้งแรกที่ได้ไปญี่ปุ่นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว Hakkaido ก็เป็นถิ่นที่ใฝ่ฝันว่าจะไปให้ได้ แล้วในที่สุดวันนั้นก็มาถึง ผมเดินทางไปฮอกไกโดช่วงหน้าร้อน ปลายเดือนกรกฎา วันที่ 24 ก.ค.-4 สิงหา 2012 ลงที่สนามบินคันไซ แล้วเที่ยวโดยใช้ชินคังเซน และรถไฟอื่นๆไล่จาก โอซาก้า-โตเกียว-อาโอโมริ-ฮาโกดาเตะ-ซัปโปโร-โอตารุ-ฟุราโนะ แล้วไล่กลับลงมาตามทางครับ ถือว่าเป็นทริปที่ได้ใช้ JR pass อย่างคุ้มค่ามากๆ
จะบอกว่าเป็นการเดินทางที่หลายคนอาจคิดว่าทรหดเกินไปนิด อัดแน่นเกินไปหน่อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทริปนี้เป็นทริปที่ดีและผมประทับใจมากที่สุดครั้งนึงในการไปญี่ปุ่นเลยครับ
ผมมีเพื่อนอยู่ที่ญี่ปุ่นพอสมควรและมีที่สนิทๆไปมาหาสู่กันอยู่ 3-4 คน ครั้งนี้ที่ไปได้ไปเห็นหลานตัวน้อย 2 คนครับ
ได้เข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวของเพื่อนอยู่ 2 วัน และอะไรอีกหลายๆอย่างที่ทำให้ทริปนี้เป็นทริปที่น่าจดจำเกินกว่าที่วางแผนไว้
ลองมาตามกันดู กระทู้นี้รูปเยอะนะ จัดเต็มจบใน 1 กระทู้ครับ
ใครสนใจวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นมาหาข้อมูลได้ที่ https://www.facebook.com/Gonipponbydrjame
เปิดกระทู้กันด้วยของกิน ข้าวหน้าทะเลต่างๆจากฮาโกะดาเตะครับ ขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องปูปลา อาหารทะเลสดๆ
เรามาเริ่มการเดินทางทริปนี้ด้วยการตัดไปที่การเดินทางขึ้น Hakodate เลยจาก Tokyo ครับ
ตามนี้นะ นั่งยิงยาวไปเลย 6 ช.ม. ถึง ฮาโกะดาเตะครับ
เจ้า Hayate ขบวนนี้จะพาเราไป Shin-Aomori
เบาะม่วง เจ้า Hayate นี่ผมว่านั่งสบายน้อยกว่า Hikari ครับ แต่ก็ยัง OK อยู่มาก
Bento ข้าวผัด ไก่ทอดคะระอะเกะ นั่งรถไฟ เบนโตะต้องมาครับ
เดินทางไกลงานขนมก็ต้องมา baumkushen หรือเค้กขอนไม้อร่อยๆ
ที่ Shin-Aomori ก็เปลี่ยนมานั่งเจ้า Super Hakucho ขบวนนี้ครับ
Hakucho/super Hakucho จะวิ่งในอุโมงค์ใต้ดินอยู่ช่วงนึงระยะทางประมาณ 23 km เป็นอุโมงค์เชื่อมเกาะ Honshu กับเกาะ Hokkaidoชื่ออุโมงค์เซคัง นะครับเท่ชะมัดเลย วิ่งในอุโมงค์ใต้ทะเล
จะมี monitor แสดงว่าตอนนี้เราอยู่ประมาณไหนของอุโมงค์เซคังแล้ว
เพื่อระงับความตื่นเต้นในการเยือน Hokkaido ครั้งแรกในไม่กี่อึดใจข้างหน้า
ก็ควรจะเติมชอคโกแลตกันนะครับ ขนมญี่ปุ่นนี่มีให้เลือกกินได้ไม่เบื่อเลย
ในที่สุดก็ถึงแล้วคร้าบ Hakodate เย้ๆๆๆ ดินแดนที่ใฝ่ฝันมาแสนนาน
วิวข้างหลังนั่นเราจะไปดูของจริงกันค่ำนี้
ออกมาหน้าสถานีรถไฟฮาโกะดาเตะ ไปหาโรงแรมที่พักกันก่อนเลย
เริ่มการเดินทางในฮอกไกโดวันแรก ผมพักที่ Toyoko INN Hakodate Ekimae As-ichi นะครับ เพราะสะดวกที่สุดแล้วใกล้ตลาดเช้า ใกล้สถานีรถไฟ เดินออกจากสถานี เลี้ยวขวา 3 นาทีถึงโรงแรมเลย ใกล้สถานีรถราง ราคาก็ถูกมากครับ ประมาณ 4000 กว่าเยน ผมสมัคร member เลยได้ส่วนลดทันที 10% แนะนำเลยครับ
เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วไปตะลุย Hakodate กันครับ ห้องพักสะอาดหมดจดสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม
การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆใน Hakodate ที่สะดวกที่สุดก็คือรถรางหรือ Tram นี่แหละครับ ซื้อ One day pass ราคา 600 Yen ได้เลยใช้คุ้มแน่ๆ
หน้าตา tram 1 day pass 600 yen Creditภาพจาก internet
จุดหมายแรกที่เราจะไปคือ ป้อมรูปดาว Goryokaku นั่งรถรางสาย 5 ลงสถานี Goryakaku-Koen mae นะครับแล้วเดินต่อไปประมาณ 10 นาที จะมีป้ายบอกตลอดทาง ระหว่างทางจะมีเจ้ารูปปั้นน่ารักๆให้ดูเพลินๆ
มีรูปปั้นแบบนี้อยู่ข้างทางหลายจุด
ถึงแล้วจริงๆ Hakodate มีฝาท่อน่ารักๆยืนยันด้วย
เดินมาไม่นานก็เห็นหอคอยแล้วละครับ
ตีตั๋วขึ้นไปกันเลย ในลิฟท์จะมีเจ้าหน้าที่เล่าประวัติอะไรต่างๆของป้อมแห่งนี้ครับ แต่ผมฟังไม่ออก อิอิ ญี่ปุ่นล้วน แล้วก็จะมีถาพเรื่องแสงฉายอยู่ที่ผนัง lift ด้วย เจ๋งมาก
โกเรียวคาคุ (Goryokaku) ป้อมรูปดาว 5 แฉกแบบรัสเซีย อนุสรณ์สถานสำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฮาโกดาเตะ สร้างเมื่อปี 1857 โดยโชกุนในตระกูลโทกุงาวะ เพื่อป้องกันการรุกรานจากต่างชาติ ใช้เวลาในการสร้างรวม 7 ปี
ในปี 1869 โกเรียวคาคุถูกใช้เป็นศูนย์บัญชาการสุดท้ายของตระกูลโทกุงาวะ ก่อนจะปราชัยต่อกองทัพจักรพรรดิเมจิ เป็นการสิ้นสุดการปกครองระบอบโชกุน ปัจจุบันถูกปรับแต่งเป็นสวนสาธารณะโดยยังรักษารูปแบบเดิมของป้อมเอาไว้
มันเป็นดาวจริงๆครับ
จากบนหอคอยนี้สามารถเห็นวิวเมือง Hakodae ได้ 360 องศาเช่นกัน
รอบๆบริเวณทางเดินชั้นชมวิวจะมีหุ่นจำลองเล็กๆบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของป้อมแห่งนี้
คาดว่าน่าจะเป็นรูปปั้นของท่านซักคนในตระกูลโทกุงาวะ
ออกจาก Goryokaku นั่งรถรางไปลงที่สถานี Jujaigi ไปดู
ท่าเรือเก่า Red brick ware house และบริเวณรอบๆกันครับ
บรรยากาศดีมากๆ อากาศบริสุทธิจริงๆ
เป็นเมืองที่ผมหลงรักไปเต็มๆครับ
Red brick warehouse อาคารโกดังที่ก่อด้วยอิฐแดงเก่า
ที่ถูกเอามาทำเป็นห้างขายของปัจจุบัน
ดอกไม้สีสดประดับอยู่ตามเสาไฟรอบเมือง
บริเวณรอบๆที่สวยงาม น่านั่งเล่น
บรรยากาศแสนผ่อนคลาย เป่าฟองกันดีกว่า
บริเวณท่าเรืออากาศสดใสมีนกบินไปมา
Starbucks สาขานี้เท่มากอยู่ตรงท่าเรือเก่านี่แหละครับ
บรรยากาศสบายๆไม่เร่งรีบ
มี Super market ให้เข้าไปเลือกซื้ออาหารทะเลสดๆกันด้วย
ข้างในมีของจัดวางอย่างดีสดๆใหม่ๆน่าซื้อทั้งนั้น เอ๊ะเราได้กลิ่นหอมๆลอยมาจากไหนนะ
อ่อ ที่แท้ก็เจ้าปลาหมึกอบแล้วเอามาใส่เครื่องฉีกเป็นเส้นๆนี่เอง มีให้ชิมด้วยนะครับ
เห็นสะพานระหว่างสองอาคารนั่นมั้ยครับ มีนักดนตรีไปนั่งเล่นกีตาร์ร้องเพลงให้ฟังด้วย
จากจุดนี้เดินต่อไปเพื่อหาเนิน Motomachi ครับ เห็นในรูปแล้วสวยเหลือเกิน ต้องหาให้เจอ
เดินตามทางไปเรื่อยๆตามผู้คนจนในที่สุดก็ได้มาป๊ะกับวิวนี้ของ Motomachi สวยจนลืมหายใจ
เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งน่ารักๆ บ้านน่ารักๆ
ดอกหญ้าดอกไม่ริมทางยังน่ารัก
จากนั้นเราไปขึ้น Mt.Hakodate ไปดูวิวที่สวยติด 1/3 ของโลกกัน
นั่ง Tram ไปลง Jujaigi แล้วเดินต่อขึ้นเนินไปประมาณ 2-300 เมตรซื้อ cable car round trip 1100 yen แล้วไปกันเลย
ขึ้นไปพระอาทิตย์กำลังจะตกเลย
วันนี้มีหมอกลงวิวเลยไม่ค่อยใสเท่าไหร่ แต่คนก็เยอะเลยล่ะ
ตอนมืดสุดก็ออกมาเป็นอย่างนี้ครับหลังจากนั้นหมอกมาหนาบังวิวหมดเลย
ค่ำแล้วหมกมาแล้วกลับห้องพักดีกว่าครับ พรุ่งนี้ตื่นเช้ามาเดิน Asa-ichi กัน
เช้าแล้วออกไปเดินตลาดเช้ากันนะครับอยู่ใกล้โรงแรมเลยเดินออกมานิดเดียวก็เจอเลยครับ มีของสดมากมายเลยครับ
ปู ปลา ปลาหมึกตัวใหญ่ๆ
ปูทาราบะตัวใหญ่มากกกกก King crab เผาให้กินกันตรงนั้น
บริเวณตลาด
ปลาหมึกแหวกว่าย
อาหารทะเลมาแบบเป็น set ให้เลือกซื้อ
เมลอนหวานฉ่ำชิ้นละ100เยนนนนน
เดินกันจนหิว ทางโรงแรมของเราจัดอาหารไว้ให้ ต้องกลับไปทานละครับ