สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกคน คือหนูอายุจะ 17 แล้ว ตอนนี้อยู่ ม.5 อยากจะย้ายออกไปอยู่หอพักคนเดียวมาก แต่ไม่รู้ว่าควรไหม แล้วจะบอกแม่ยังไง
ส่วนสาเหตุที่อยากย้ายออกไปอยู่คนเดียวอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่ช่วยรับฟังหนูหน่อยไม่รู้จะไปคุยกับใครดี ช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคะ คือบ้านที่หนูอยู่ตอนนี้ไม่ใช่บ้านของตัวเอง เป็นบ้านของแฟนใหม่แม่ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน มี หนู แม่ แฟนใหม่แม่ ขอใช้นามสมมติเป็น พี่เท่ แม่ของพี่เท่ (หนูขอเรียกว่ายายนะคะ) พ่อของพี่เท่ (ตา) และหลานของพี่เท่ (ลูกของพี่ชายพี่เท่)
ปัญหาหลักๆเลยคือหนูต้องนอนรวมกับแม่และพี่เท่ค่ะ คือหนูอยู่ ม.5 แล้วก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ทุกคนก็คงคิดว่า บ้านตั้ง 2 ชั้นทำไมต้องไปนอนรวมกันด้วยใช่มั้ยคะ หนูขออธิบายบ้านคร่าวๆนะคะ คือตาเนี่ยจะนอนกระท่อมหน้าบ้าน ส่วนชั้นล่างของบ้านมีห้องนอน 2 ห้อง เป็นห้องของยายกับหลาน และห้องของแม่ หนู และพี่เท่ ส่วนชั้น 2 เนี่ยไม่มีใครค่ะ ทุกคนก็จะแบบ ก็ขึ้นไปอยู่สิ่ ขอบอกเลยค่ะว่าไม่เด็ดขาด เหตุผลก็เพราะชั้นบนนั้นมีกุมารที่ยายเขาเลี้ยงไว้อยู่ และหนูไม่ไหวกับเรื่องแบบนี้จริงๆค่ะ บางคนอาจคิดว่างมงาย แต่ถ้าหนูขึ้นไปอยู่ก็คงอยู่แบบกลัวๆแน่ๆค่ะ คงนอนแบบไม่สบายใจ หนูเคยคุยกับแม่แล้วว่าอยากนอนคนเดียวนะ เพราะว่า ม.5 แล้ว อยากมีความเป็นส่วนตัว เวลาจะทำอะไรก็คือเกรงใจแม่กับพี่เท่ ยิ่งช่วงปิดเทอม หนูก็นอนดึก อยากฟังเพลง ดูหนัง ก็ทำไม่ได้เต็มที่ คือใช้เวลาของตัวเองไม่ได้เต็มที่ เพราะแม่กับพี่เท่หลับไปแล้ว บางทีหนูอยากอ่านหนังสือ ทำการบ้านก็ต้องทำในเวลาจำกัด และไม่สะดวกค่ะ เพราะห้องมันแคบมากๆ ก็คือในห้องก็มีโต๊ะคอมของพี่เท่ และพวกกล่องพระ ลิ้นชักใส่ของบลาๆ เยอะมาก เตียงแม่ประมาณ 5 ฟุต ส่วนเตียงหนู .... กว้างไม่ถึงเมตรค่ะ เป็นเตียงไม้พาเลท หนูก็เอาฟูกมาปูนอนคือปวดหลังมาก อึดอัด นอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่สบาย โต๊ะเขียนหนังสือก็มีโต๊ะตรงหัวเตียงหนู ค่อนข้างเล็กนะคะ คือเวลาใช้โต๊ะหนูจะนั่งบนที่นอน แต่โต๊ะมันต่ำมาก เพราะเป็นโต๊ะญี่ปุ่นหนูเอามาวางบนชั้นเก็บหนังสืออีกที (วางชั้นแนวนอนแล้วเอาโต๊ะวางแบบไม่กางขาโต๊ะออก) และหนูก็จะนอนสลับกับแม่ค่ะ คือหันหัวกันคนละด้าน หนูอึดอัดมากๆค่ะแต่ก็ทำอะไรเพราะไม่ใช่บ้านเรา
หนูบอกแม่เรื่องนี้หลายรอบแล้ว พี่เท่ก็เคยคุยกับแม่ว่าจะย้ายไปนอนข้างบนมั้ย แต่แม่ก็ไม่ไปเพราะแม่ก็กลัว ตอนนั้นหนูพูดว่าแม่หนูอยากนอนคนเดียว แม่ก็ตอบหนูมาแบบประชดและน้ำเสียงไม่พอใจเหมือนรำคาญว่างั้นเดี๋ยวแม่ไปนอนนอกห้องเอง นอนให้ยุงกัดตายไปเลย หนูคงพูดเรื่องนี้บ่อยไปแม่คงรำคาญตอนนั้นหนูก็ไม่ได้พูดอะไรกับไปเพราะเฟลอยู่เล็กน้อย หนูแค่อยากได้ความเป็นส่วนตัวเอง อยู่แบบนี้อึดอัดจะบ้า จนหนูคิดว่าอยากได้บ้านใหม่ไปเลย หนูก็รู้ค่ะว่าฐานะทางการเงินของแม่มันไม่ได้ดีมาก ยิ่งช่วงโควิดยิ่งไม่ค่อยดี หนูก็นอนหาข้อมูลบ้านที่เขาขายในจังหวัดอยู่พักนึง หนูอยากได้ที่แบบเราซื้อเเล้วเราจะได้อยู่อย่างแฮปปี้ ก็เลยพูดกับแม่ไปว่าเราซื้อบ้านใหม่กันเถอะ แม่ก็ตอบกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่าถ้ามีเงินก็ซื้อไปแล้ว หนูก็เข้าใจค่ะว่าบ้านหลังนึงมันไม่ใช่ร้อยสองร้อย หนูก็ไม่ได้แค่วันๆเอาแต่อยากจะเรียกร้องในสิ่งทีตัวเองอยากได้นะคะ หนูก็คิดหาวิธีหาเงินอยากเอาเงินมาช่วยแม่ผ่อนบ้าน จากเมื่อก่อนคือเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก แต่เพราะความอยากได้จริงๆมั้งคะเลยตัดสินใจแบบนี้
และอีกปัญหา อันนี้มีผลกระทบต่อจิตใจสะมากกว่าค่ะ คือ พี่เท่เนี่ยชอบว่า ชอบตำหนิหนูอยู่เรื่อยเลยค่ะ หนูเป็นคนที่ชอบดูหนังไปกินขนม กินข้าวไป และส่วนใหญ่หนูก็ชอบกินของเราคนเดียว หนูจะชอบเอาขนมมากินในห้องมากค่ะ แบบมันได้ฟิลสบายใจ แอร์เย็นๆ ขนมอร่อยๆ แล้วดูหนังไปด้วย ความสุขอย่างนึงของชีวิตเลยค่ะ แต่พี่เท่ชอบว่า ว่ากลิ่นมันเหม็นห้อง หนูก็เข้าใจนะอันนี้ แต่พี่เท่ก็เอาขนมเอาของกินเข้ามากินในห้อง หนูสงสัยมากๆ ว่าทำไมตัวเองทำได้ แล้วทำไมหนูทำไม่ได้ หนูก็คิดโยงไปเรื่องห้องอีกแล้วว่า ถ้าหนูอยู่ของหนูคนเดียวในห้องคงสบายใจกว่านี้ อีกเรื่องก็คือเรื่องโน๊ตบุ๊ค เรื่องคอม คือบางทีหนูดูหนังในโน๊ตบุ๊คแล้วหลับก็เลยลืมปิด และโน๊ตบุ๊คมันเป็นของพี่เท่ เขาเลยว่า ว่าแบบทำแบบนี้เดี๋ยวไม่ต้องเล่น แต่เขาก็เคยทำ เรื่องคอมบางทีหนูเปิดไว้และแค่ขับรถไปเซเว่นไม่ได้ปิด เขาก็ด่าก็ว่า แต่ตัวเองทำได้ไม่เป็นอะไร บางทีหนูก็แบบเหมือนเราทำอะไรก็ผิดไปสะหมด มันหงุดหงิดใจอ่ะค่ะ อาจจะดูเป็นเด็กเอาแต่ใจนะคะแต่คือหนูหงุดหงิดมากๆ
และสภาพบ้านคือรกมากๆ ของนู่นนี่นั่นเยอะไปหมด ตู้เสื้อผ้าตู้เดียวแต่ใช้กัน 3 คน หนูก็ต้องเอาเสื้อผ้าตัวที่ไม่ได้ใส่ไปทิ้งไปขาย แต่บางทีหนูก็อยากเก็บไว้เพราะอาจจะได้ใส่มันในอนาคต และพี่เท่ก็เคยว่าเราว่าแบบอยู่บ้านไม่ทำความสะอาดบ้าน เป็นคนสกปรก แต่สภาพมันแบบทำให้ตายมันก็ไม่สะอาด และด้วยนิสัยคนแก่ของยายก็ชอบเก็บนู่นเก็บนี่เยอะแยะขวางหูขวางตาไปหมด จนหนูแบบไม่อยากอยู่บ้านนี้ มันอึดอัดใจไปหมด สภาพบ้านมันไม่สบายใจที่จะอยู่ แต่เราก็ฌรื่องเยอะไม่ได้เพราะเเค่เขาให้อยู่ก็บุญแล้ว
จริงๆหนูคิดว่าจะย้ายไปอยู่บ้านยายที่ห่างจากโรงเรียนพอสมควรไม่ได้ไกลมาก แต่ไกลกว่าบ้านที่หนูอยู่ตอนนี้ บ้านที่อยู่ตอนนี้ขี่รถไป 2 นาทีก็ถึงโรงเรียนแล้วคือใกล้มากๆ และอยู่ในตัวเมืองด้วย แต่มันติดตรงที่การเดินทาง คือทางนั้นมันไม่มีรถรับส่งที่ไปส่ง รร หนู และหนูก็เอารถจักรยานยนตร์ที่อยู่ที่นี่ไปไม่ได้เพราะแม่ต้องใช้ไปทำงาน
หนูเลยอยากออกไปอยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะหนูไม่อยากอยุ่กับแม่ แต่หนูแค่อยากมีชีวิตส่วนตัว มีโต๊ะทำการบ้าน อ่านหนังสือ ที่จดเลกเชอร์ อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ถ้าออกไปก็ต้องเสียค่าที่พักอย่างต่ำเดือนละ 2000 ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ หนูควรทำไงดีคะ แต่ใจจริงอยากให้แม่ไปซื้อบ้านใหม่มากกว่า ถ้ามันไม่ได้ก็อยากออกไปอยู่หอคนเดียวค่ะ
กท. นี้ขอใช้เป็นที่ระบายหน่อยนะคะ คือหนูอึดอัดแต่ถ้าใครพอจะให้คำปรึกษาได้ก็รบกวนช่วยให้คำปรึกษาหน่อยนะคะ
อายุ 17 อยากย้ายออกไปอยู่หอคนเดียว
ส่วนสาเหตุที่อยากย้ายออกไปอยู่คนเดียวอาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่ช่วยรับฟังหนูหน่อยไม่รู้จะไปคุยกับใครดี ช่วยให้คำปรึกษาด้วยนะคะ คือบ้านที่หนูอยู่ตอนนี้ไม่ใช่บ้านของตัวเอง เป็นบ้านของแฟนใหม่แม่ เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีสมาชิกทั้งหมด 6 คน มี หนู แม่ แฟนใหม่แม่ ขอใช้นามสมมติเป็น พี่เท่ แม่ของพี่เท่ (หนูขอเรียกว่ายายนะคะ) พ่อของพี่เท่ (ตา) และหลานของพี่เท่ (ลูกของพี่ชายพี่เท่)
ปัญหาหลักๆเลยคือหนูต้องนอนรวมกับแม่และพี่เท่ค่ะ คือหนูอยู่ ม.5 แล้วก็อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ทุกคนก็คงคิดว่า บ้านตั้ง 2 ชั้นทำไมต้องไปนอนรวมกันด้วยใช่มั้ยคะ หนูขออธิบายบ้านคร่าวๆนะคะ คือตาเนี่ยจะนอนกระท่อมหน้าบ้าน ส่วนชั้นล่างของบ้านมีห้องนอน 2 ห้อง เป็นห้องของยายกับหลาน และห้องของแม่ หนู และพี่เท่ ส่วนชั้น 2 เนี่ยไม่มีใครค่ะ ทุกคนก็จะแบบ ก็ขึ้นไปอยู่สิ่ ขอบอกเลยค่ะว่าไม่เด็ดขาด เหตุผลก็เพราะชั้นบนนั้นมีกุมารที่ยายเขาเลี้ยงไว้อยู่ และหนูไม่ไหวกับเรื่องแบบนี้จริงๆค่ะ บางคนอาจคิดว่างมงาย แต่ถ้าหนูขึ้นไปอยู่ก็คงอยู่แบบกลัวๆแน่ๆค่ะ คงนอนแบบไม่สบายใจ หนูเคยคุยกับแม่แล้วว่าอยากนอนคนเดียวนะ เพราะว่า ม.5 แล้ว อยากมีความเป็นส่วนตัว เวลาจะทำอะไรก็คือเกรงใจแม่กับพี่เท่ ยิ่งช่วงปิดเทอม หนูก็นอนดึก อยากฟังเพลง ดูหนัง ก็ทำไม่ได้เต็มที่ คือใช้เวลาของตัวเองไม่ได้เต็มที่ เพราะแม่กับพี่เท่หลับไปแล้ว บางทีหนูอยากอ่านหนังสือ ทำการบ้านก็ต้องทำในเวลาจำกัด และไม่สะดวกค่ะ เพราะห้องมันแคบมากๆ ก็คือในห้องก็มีโต๊ะคอมของพี่เท่ และพวกกล่องพระ ลิ้นชักใส่ของบลาๆ เยอะมาก เตียงแม่ประมาณ 5 ฟุต ส่วนเตียงหนู .... กว้างไม่ถึงเมตรค่ะ เป็นเตียงไม้พาเลท หนูก็เอาฟูกมาปูนอนคือปวดหลังมาก อึดอัด นอนไม่ค่อยหลับ นอนไม่สบาย โต๊ะเขียนหนังสือก็มีโต๊ะตรงหัวเตียงหนู ค่อนข้างเล็กนะคะ คือเวลาใช้โต๊ะหนูจะนั่งบนที่นอน แต่โต๊ะมันต่ำมาก เพราะเป็นโต๊ะญี่ปุ่นหนูเอามาวางบนชั้นเก็บหนังสืออีกที (วางชั้นแนวนอนแล้วเอาโต๊ะวางแบบไม่กางขาโต๊ะออก) และหนูก็จะนอนสลับกับแม่ค่ะ คือหันหัวกันคนละด้าน หนูอึดอัดมากๆค่ะแต่ก็ทำอะไรเพราะไม่ใช่บ้านเรา
หนูบอกแม่เรื่องนี้หลายรอบแล้ว พี่เท่ก็เคยคุยกับแม่ว่าจะย้ายไปนอนข้างบนมั้ย แต่แม่ก็ไม่ไปเพราะแม่ก็กลัว ตอนนั้นหนูพูดว่าแม่หนูอยากนอนคนเดียว แม่ก็ตอบหนูมาแบบประชดและน้ำเสียงไม่พอใจเหมือนรำคาญว่างั้นเดี๋ยวแม่ไปนอนนอกห้องเอง นอนให้ยุงกัดตายไปเลย หนูคงพูดเรื่องนี้บ่อยไปแม่คงรำคาญตอนนั้นหนูก็ไม่ได้พูดอะไรกับไปเพราะเฟลอยู่เล็กน้อย หนูแค่อยากได้ความเป็นส่วนตัวเอง อยู่แบบนี้อึดอัดจะบ้า จนหนูคิดว่าอยากได้บ้านใหม่ไปเลย หนูก็รู้ค่ะว่าฐานะทางการเงินของแม่มันไม่ได้ดีมาก ยิ่งช่วงโควิดยิ่งไม่ค่อยดี หนูก็นอนหาข้อมูลบ้านที่เขาขายในจังหวัดอยู่พักนึง หนูอยากได้ที่แบบเราซื้อเเล้วเราจะได้อยู่อย่างแฮปปี้ ก็เลยพูดกับแม่ไปว่าเราซื้อบ้านใหม่กันเถอะ แม่ก็ตอบกลับมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดว่าถ้ามีเงินก็ซื้อไปแล้ว หนูก็เข้าใจค่ะว่าบ้านหลังนึงมันไม่ใช่ร้อยสองร้อย หนูก็ไม่ได้แค่วันๆเอาแต่อยากจะเรียกร้องในสิ่งทีตัวเองอยากได้นะคะ หนูก็คิดหาวิธีหาเงินอยากเอาเงินมาช่วยแม่ผ่อนบ้าน จากเมื่อก่อนคือเป็นคนใช้เงินฟุ่มเฟือยมาก แต่เพราะความอยากได้จริงๆมั้งคะเลยตัดสินใจแบบนี้
และอีกปัญหา อันนี้มีผลกระทบต่อจิตใจสะมากกว่าค่ะ คือ พี่เท่เนี่ยชอบว่า ชอบตำหนิหนูอยู่เรื่อยเลยค่ะ หนูเป็นคนที่ชอบดูหนังไปกินขนม กินข้าวไป และส่วนใหญ่หนูก็ชอบกินของเราคนเดียว หนูจะชอบเอาขนมมากินในห้องมากค่ะ แบบมันได้ฟิลสบายใจ แอร์เย็นๆ ขนมอร่อยๆ แล้วดูหนังไปด้วย ความสุขอย่างนึงของชีวิตเลยค่ะ แต่พี่เท่ชอบว่า ว่ากลิ่นมันเหม็นห้อง หนูก็เข้าใจนะอันนี้ แต่พี่เท่ก็เอาขนมเอาของกินเข้ามากินในห้อง หนูสงสัยมากๆ ว่าทำไมตัวเองทำได้ แล้วทำไมหนูทำไม่ได้ หนูก็คิดโยงไปเรื่องห้องอีกแล้วว่า ถ้าหนูอยู่ของหนูคนเดียวในห้องคงสบายใจกว่านี้ อีกเรื่องก็คือเรื่องโน๊ตบุ๊ค เรื่องคอม คือบางทีหนูดูหนังในโน๊ตบุ๊คแล้วหลับก็เลยลืมปิด และโน๊ตบุ๊คมันเป็นของพี่เท่ เขาเลยว่า ว่าแบบทำแบบนี้เดี๋ยวไม่ต้องเล่น แต่เขาก็เคยทำ เรื่องคอมบางทีหนูเปิดไว้และแค่ขับรถไปเซเว่นไม่ได้ปิด เขาก็ด่าก็ว่า แต่ตัวเองทำได้ไม่เป็นอะไร บางทีหนูก็แบบเหมือนเราทำอะไรก็ผิดไปสะหมด มันหงุดหงิดใจอ่ะค่ะ อาจจะดูเป็นเด็กเอาแต่ใจนะคะแต่คือหนูหงุดหงิดมากๆ
และสภาพบ้านคือรกมากๆ ของนู่นนี่นั่นเยอะไปหมด ตู้เสื้อผ้าตู้เดียวแต่ใช้กัน 3 คน หนูก็ต้องเอาเสื้อผ้าตัวที่ไม่ได้ใส่ไปทิ้งไปขาย แต่บางทีหนูก็อยากเก็บไว้เพราะอาจจะได้ใส่มันในอนาคต และพี่เท่ก็เคยว่าเราว่าแบบอยู่บ้านไม่ทำความสะอาดบ้าน เป็นคนสกปรก แต่สภาพมันแบบทำให้ตายมันก็ไม่สะอาด และด้วยนิสัยคนแก่ของยายก็ชอบเก็บนู่นเก็บนี่เยอะแยะขวางหูขวางตาไปหมด จนหนูแบบไม่อยากอยู่บ้านนี้ มันอึดอัดใจไปหมด สภาพบ้านมันไม่สบายใจที่จะอยู่ แต่เราก็ฌรื่องเยอะไม่ได้เพราะเเค่เขาให้อยู่ก็บุญแล้ว
จริงๆหนูคิดว่าจะย้ายไปอยู่บ้านยายที่ห่างจากโรงเรียนพอสมควรไม่ได้ไกลมาก แต่ไกลกว่าบ้านที่หนูอยู่ตอนนี้ บ้านที่อยู่ตอนนี้ขี่รถไป 2 นาทีก็ถึงโรงเรียนแล้วคือใกล้มากๆ และอยู่ในตัวเมืองด้วย แต่มันติดตรงที่การเดินทาง คือทางนั้นมันไม่มีรถรับส่งที่ไปส่ง รร หนู และหนูก็เอารถจักรยานยนตร์ที่อยู่ที่นี่ไปไม่ได้เพราะแม่ต้องใช้ไปทำงาน
หนูเลยอยากออกไปอยู่คนเดียว ไม่ใช่เพราะหนูไม่อยากอยุ่กับแม่ แต่หนูแค่อยากมีชีวิตส่วนตัว มีโต๊ะทำการบ้าน อ่านหนังสือ ที่จดเลกเชอร์ อยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง แต่ถ้าออกไปก็ต้องเสียค่าที่พักอย่างต่ำเดือนละ 2000 ไม่รวมค่าน้ำค่าไฟ หนูควรทำไงดีคะ แต่ใจจริงอยากให้แม่ไปซื้อบ้านใหม่มากกว่า ถ้ามันไม่ได้ก็อยากออกไปอยู่หอคนเดียวค่ะ
กท. นี้ขอใช้เป็นที่ระบายหน่อยนะคะ คือหนูอึดอัดแต่ถ้าใครพอจะให้คำปรึกษาได้ก็รบกวนช่วยให้คำปรึกษาหน่อยนะคะ