มหาสติปัฏฐานสูตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก. เป็นที่น่าเชื่อถือได้ว่า เรากำลังเข้าสู่ขบวนการของมหาสติปัฏฐานแบบไหลริน ชนิดที่เราไม่ค่อยรู้สึกตัวก็ตาม ผมมั่นใจว่า วิธีนี้น่าจะเป็นวิธีที่ตรงและถูกต้อง เป็นวิธีที่เราจะค่อยๆ เติม แล้วมันจะเต็มในที่สุด เป็นวิธีที่สามารถจะทำให้เราได้เข้าใจบ้าง ถึงแม้ว่าหลายท่านยังค่อนข้างจะงงอยู่บ้าง ตอนนี้เปิดโอกาสให้ท่านอาจารย์ได้นำพาเราเข้าสู่มหาสติปัฏฐานสูตรที่เป็นความเข้าใจล้วนๆ ที่ความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งไม่มีคำว่าตัวตนของเราอยู่ในขบวนการศึกษานั้นอีกครั้งหนึ่ง
อ. เพราะว่าพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ทำให้ผู้ฟัง ผู้ที่ศึกษา ผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชน ผู้ที่เป็นพุทธบริษัท เกิดปัญญาของตนเอง นี่คือประโยชน์สูงสุดที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมอบให้ ไม่ได้ทรงมอบทรัพย์สินเงินทอง เพราะว่าทรัพย์สินเงินทอง ก็มีวันหมดสิ้นไป แต่สิ่งซึ่งกว่าจะได้มาแสนยาก คือ ปัญญา
ซึ่งกว่าพระองค์จะได้ทรงบำเพ็ญพระบารมี จนกระทั่งได้ตรัสรู้ ก็ถึง ๔ อสงไขยแสนกัป สำหรับผู้ที่ยิ่งด้วยปัญญาถ้าสำหรับผู้ที่ยิ่งด้วย ศรัทธา ก็ถึง ๘ อสงไขยแสนกัป ถ้าเป็นผู้ที่ยิ่งด้วยวิริยะ ก็ถึง ๑๖ อสงไขยแสนกัป เพราะฉะนั้น ปัญญาเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด ซึ่งผู้ที่เป็นพุทธศาสนิกชนต้องทราบว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสมบูรณ์ด้วยพระปัญญาระดับเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่จะทรงแสดงพระธรรมให้ผู้ฟัง ได้ฟัง ได้พิจารณา จนเป็นปัญญาของตนเอง
เพราะฉะนั้น ที่ใช้คำว่า เริ่มเข้าสู่ขบวนการสติปัฏฐาน ก็หมายความว่า เริ่มมีความเข้าใจ มีความเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรม ในเรื่องราวของธรรมแต่ว่าไม่มีใครทำ ไม่มีใครจะปฏิบัติ ต้องค่อยๆ แม้แต่ในขั้นฟังให้ถูกต้องว่า ไม่มีเรา แต่มีสภาพธรรม
การที่จะรู้ว่าเป็นธรรม จะเป็นการเตือนเป็นสัญญาความจำที่จะทำให้สติปัฏฐานระลึกลักษณะของสภาพธรรม เพราะว่า คำว่าสติปัฏฐาน หมายความถึง สิ่งที่มีจริงซึ่งสติกำลังระลึก เพื่อรู้ความจริงของสิ่งนั้น อย่างเช่นในขณะนี้ กำลังเห็น สติปัฏฐานต้องหมายความว่า ระลึกที่ลักษณะของนามธรรม หรือ ระลึกที่ลักษณะของรูปธรรม แต่แม้แต่คำว่า ระลึก ก็ไม่ใช่ว่า พอพูดแล้วก็จะระลึกได้ ไม่มีเราจะทำ ปัญญาเป็นสังขารขันธ์ขณะที่ฟังเข้าใจ เริ่มที่จะสะสม ปรุงแต่ง ที่จะให้มีการระลึกได้ รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
เพราะฉะนั้น สติปัฏฐานเป็นเรื่องเฉพาะตัว ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ใครคนหนึ่งคนใดจะบอกหรือจะทำ แต่ว่าผู้นั้นจะเข้าใจได้ถูกต้องว่า มีความเข้าใจในสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ พอที่จะรู้ว่า เป็นธรรมจริงๆ หรือเปล่าในขั้นการศึกษา ในขั้นการศึกษา เมื่อรู้ว่าเป็นธรรมจริงๆ จากการฟังโดยละเอียด ก็มีปัจจัยที่จะทำให้สติระลึกที่ลักษณะของนามธรรมหรือรูปธรรมเมื่อไร สตินั้นจึงเป็นสติปัฏฐาน ซึ่งก็จำแนกเป็น กาย เวทนา จิต ธรรมซึ่งก็ ได้แก่ จิต เจตสิก รูป นั่นเอง
MP3
รวมสติปัฎฐาน แผ่นที่ ๑
รวมสติปัฎฐาน แผ่นที่ ๒
โดย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
คลิกเพื่ออ่านประวัติ
มหาสติปัฏฐานสูตร บรรยายโดย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
MP3
รวมสติปัฎฐาน แผ่นที่ ๑
รวมสติปัฎฐาน แผ่นที่ ๒
โดย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์
คลิกเพื่ออ่านประวัติ