เราจะเห็นบ่อยมากที่นักวิชาการ ฮาดีษ มักจะอ้างว่า อัลลอฮ์ทรงมีบัญชาให้มุสลิมรับทุกๆอย่างที่ท่านรอซูลอนุมัติ และละเว้น
ทุกๆอย่างที่ท่านรอซูลห้าม ข้อความนั้นคือ: “จงรับเอาสิ่งที่รอซูลให้แก่ท่าน, และ จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม” ทั้งนี้เพื่อ
ให้มุสลิมยอมเชื่อฟังฮาดีษทุกๆบทโดยไม่คำนึงว่า ฮาดีษเหล่านั้นจะขัดกับบทบัญญัติในอัลกุรอานหรือไม่ ซึ่งไม่ถูกต้อง, อะไร
ก็ตามที่ขัดกับอัลกุรอานแล้ว มุสลิมไม่อาจจะนำมาปฏิบัติได้
ข้อความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบัญญัติเต็ม ที่ถูกนำไปอ้างในความหมายที่อยู่นอกบริบทของความหมายในบัญญัติ ที่ 59:7
{59:7} และสิ่งใดที่อัลลอฮฺทรงให้ศาสนทูตของพระองค์ยึดมาได้จากชาวเมืองนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และศาสนทูต และ
ญาติสนิท และเด็กกำพร้า และผู้ขัดสน และผู้เดินทาง เพื่อมันจะไม่ได้หมุนเวียนอยู่ในระหว่างผู้มั่งมีของพวกเธอเท่านั้น และ
อันใดที่ศาสนทูตได้นำมาให้แก่พวกเธอ ก็จงรับเอาไว้ และอันใดที่เขาได้ห้ามเกี่ยวกับมัน พวกเธอก็จงละเว้นเสีย พวกเธอจง
ยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ
จากบริบทของบัญญัตินี้ เป็นถ้อยคำที่เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า:
“พวกท่านจงรับเอาสิ่งที่ท่านรอซูลแบ่งให้ จากทรัพย์สินที่ยึดได้จากการทำสงคราม และจงละเว้นจากการเอาทรัพย์สินส่วนที่
ท่านรอซูลห้ามไม่ให้เอา” ในบัญญัตินี้หมายถึง ทรัพย์สินที่ยึดจากการที่มีชัยชนะข้าศึกในการทำสงครามซึ่งท่านรอซูลจะแจก
จ่ายให้กับผู้ขัดสน
แต่นักวิชาบางคนตัดเอาข้อความส่วนที่ว่า: “จงรับเอาสิ่งที่ท่านรอซูลให้แก่ท่าน, และ จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม” นำมา
ใช้ในความหมายนอกบริบทของอัลกุรอาน เพื่อหมายที่จะหลอกมุสลิมว่า ถ้าสิ่งใดที่รอซูลกล่าวอนุมัติหรือห้ามที่นอกเหนือไป
จากที่ระบุไว้ในอัลกุร อาน แล้วมุสลิมสามารถปฏิบัติตามได้
อัลลอฮ์ทรงรอบรู้เรื่องที่จะมีผู้คนเบี่ยงเบนดัดแปลงความหมายของถ้อยคำในอัลกุรอาน เพื่อไปใช้ในการหลอกลวงผู้คนให้หลง
ไปจาก แนวทางของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงได้บัญญัติไว้ว่า;
{3:78} และแท้จริงในหมู่พวกเขานั้น มีกลุ่มหนึ่งที่บิดลิ้นของตนในการอ่านคัมภีร์ เพื่อพวกเธอจะได้คิดว่ามันมาจากคัมภีร์ ทั้งที่
มันไม่ได้มาจากคัมภีร์ และพวกเขากล่าวว่า "มันมาจากที่อัลลอฮฺ" ทั้งที่มันไม่ได้มาจากอัลลอฮฺ และพวกเขากล่าวความเท็จให้
แก่อัลลอฮฺ ทั้งที่พวกเขาก็รู้กันดีอยู่
แม้กระนั้นก็ตามถ้าผู้ใดเข้าใจว่า ข้อความนี้ (“จงรับเอาสิ่งที่รอซูลให้แก่ท่าน, จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม”)สามารถที่นำมา
ใช้ในความหมายกับเรื่องราวทั่วๆไปได้แล้ว
เขาจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ท่านรอซูลจะไม่ห้ามหรืออนุมัติสิ่งใดที่นอกเหนือ
ไปจากข้อห้าม และข้ออนุมัติ ที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอานเท่านั้น, และสิ่งใดก็ตามที่ขัดกับอัลกุรอานแล้ว, สิ่งนั้นย่อมขัด
กับคำสอนของท่านรอซูลด้วยเช่นกัน
อัลลอฮ์ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอานให้แก่ท่านรอซูล เพื่อที่จะได้นำมาสั่งสอนบรรดาผู้ศรัทธา พระองทรงกำชับท่านรอซูลอย่าง
เฉียบขาดว่าอัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่ส่งมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก และหากว่าท่านรอซูลเสกสรรคําเท็จบางคําว่าเป็นคำของอัล
ลอฮ์ สอดแทรกเข้าไปแล้ว พระองค์ก็จะจับท่านรอซูลให้มั่นแล้ว ก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไป และก็จะไม่มีผู้ใดในพรรคพวกของ
ท่านรอซูลเป็นผู้คุ้มกันท่านได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ {7:2} นี่คือคัมภีร์ฉบับหนึ่งที่ถูกประทานลงมาแก่เธอ ดังนั้นจงอย่าให้ความอึดอัดต่อคัมภีร์นั้นมีอยู่ในหัวอกของเธอ ทั้งนี้เพื่อเธอ
จะได้ใช้คัมภีร์นั้นตักเตือน และเพื่อเป็นข้อเตือนใจแก่บรรดาศรัทธาชน
{69:43} เป็นการประทานมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก
{69:44} และหากเขาเสกสรรคําเท็จบางคําแก่เราแล้ว
{69:45} เราก็จะจับเขาให้มั่น
{69:46} แล้วเราก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไปจากเขา
{69:47} ดังนั้นก็จะไม่มีผู้ใดในหมู่พวกเธอเป็นผู้คุ้มกันเขาได้
ในกรณีที่บางครั้งท่านรอซูลมีคำสั่งห้ามตัวเองหรือผู้อื่น ถ้ามันเป็นคำสั่งห้าม ที่นอกเหนือไปจากข้อห้ามในอัลกุรอาน ท่านก็จะถูก
อัลลอฮ์ตำหนิเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้{66:1}โอ้ นบี! เหตุใดเธอจึงห้ามสิ่งที่อัลลอฮฺทรงอนุมัติแก่เธอ เพื่อแสวงหาความพึงพอใจของบรรดาภริยาของเธอเล่า? และอัล
ลอฮฺคือพระผู้ทรงอภัย พระผู้ทรงปรานี
{80:1} เขาหน้าบึ้ง และผินหน้า{80:2} เพราะชายตาบอดนั้นมาหาเขา{80:3} และเธอไม่รู้ดอก? บางทีเขามาเพื่อขัดเกลาจิตใจ
{80:4} หรือเพื่อรับคําตักเตือน เพื่อที่คําตักเตือนนั้นจะเป็นประโยชน์แก่เขา{80:5} ส่วนผู้ที่พอเพียงแล้ว{80:6} เธอกลับต้อนรับ
{80:7} ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ต้องรับผิดชอบต่อการที่เขาไม่ขัดเกลา{80:8} ส่วนผู้ที่มาหาเธอด้วยความพยายาม{80:9} โดยที่เขามีความ
กลัวเกรง{80:10} เธอกลับเมินเฉยต่อเขา{80:11} ไม่ใช่เช่นนั้นดอก! แท้จริงมันเป็นข้อเตือนใจ{80:12} ดังนั้นผู้ใดประสงค์ก็ให้รำ
ลึกถึงข้อเตือนใจนั้น{80:13} ซึ่งมีอยู่ในคัมภีร์อันทรงเกียรติ
“จงรับเอาสิ่งที่รอซูลให้แก่ท่าน, และ จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม”
ทุกๆอย่างที่ท่านรอซูลห้าม ข้อความนั้นคือ: “จงรับเอาสิ่งที่รอซูลให้แก่ท่าน, และ จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม” ทั้งนี้เพื่อ
ให้มุสลิมยอมเชื่อฟังฮาดีษทุกๆบทโดยไม่คำนึงว่า ฮาดีษเหล่านั้นจะขัดกับบทบัญญัติในอัลกุรอานหรือไม่ ซึ่งไม่ถูกต้อง, อะไร
ก็ตามที่ขัดกับอัลกุรอานแล้ว มุสลิมไม่อาจจะนำมาปฏิบัติได้
ข้อความนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบัญญัติเต็ม ที่ถูกนำไปอ้างในความหมายที่อยู่นอกบริบทของความหมายในบัญญัติ ที่ 59:7
{59:7} และสิ่งใดที่อัลลอฮฺทรงให้ศาสนทูตของพระองค์ยึดมาได้จากชาวเมืองนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ และศาสนทูต และ
ญาติสนิท และเด็กกำพร้า และผู้ขัดสน และผู้เดินทาง เพื่อมันจะไม่ได้หมุนเวียนอยู่ในระหว่างผู้มั่งมีของพวกเธอเท่านั้น และ
อันใดที่ศาสนทูตได้นำมาให้แก่พวกเธอ ก็จงรับเอาไว้ และอันใดที่เขาได้ห้ามเกี่ยวกับมัน พวกเธอก็จงละเว้นเสีย พวกเธอจง
ยำเกรงอัลลอฮฺเถิด แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเข้มงวดในการลงโทษ
จากบริบทของบัญญัตินี้ เป็นถ้อยคำที่เข้าใจได้อย่างชัดเจนว่า:
“พวกท่านจงรับเอาสิ่งที่ท่านรอซูลแบ่งให้ จากทรัพย์สินที่ยึดได้จากการทำสงคราม และจงละเว้นจากการเอาทรัพย์สินส่วนที่
ท่านรอซูลห้ามไม่ให้เอา” ในบัญญัตินี้หมายถึง ทรัพย์สินที่ยึดจากการที่มีชัยชนะข้าศึกในการทำสงครามซึ่งท่านรอซูลจะแจก
จ่ายให้กับผู้ขัดสน
แต่นักวิชาบางคนตัดเอาข้อความส่วนที่ว่า: “จงรับเอาสิ่งที่ท่านรอซูลให้แก่ท่าน, และ จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม” นำมา
ใช้ในความหมายนอกบริบทของอัลกุรอาน เพื่อหมายที่จะหลอกมุสลิมว่า ถ้าสิ่งใดที่รอซูลกล่าวอนุมัติหรือห้ามที่นอกเหนือไป
จากที่ระบุไว้ในอัลกุร อาน แล้วมุสลิมสามารถปฏิบัติตามได้
อัลลอฮ์ทรงรอบรู้เรื่องที่จะมีผู้คนเบี่ยงเบนดัดแปลงความหมายของถ้อยคำในอัลกุรอาน เพื่อไปใช้ในการหลอกลวงผู้คนให้หลง
ไปจาก แนวทางของอัลลอฮ์ พระองค์ทรงได้บัญญัติไว้ว่า;
{3:78} และแท้จริงในหมู่พวกเขานั้น มีกลุ่มหนึ่งที่บิดลิ้นของตนในการอ่านคัมภีร์ เพื่อพวกเธอจะได้คิดว่ามันมาจากคัมภีร์ ทั้งที่
มันไม่ได้มาจากคัมภีร์ และพวกเขากล่าวว่า "มันมาจากที่อัลลอฮฺ" ทั้งที่มันไม่ได้มาจากอัลลอฮฺ และพวกเขากล่าวความเท็จให้
แก่อัลลอฮฺ ทั้งที่พวกเขาก็รู้กันดีอยู่
แม้กระนั้นก็ตามถ้าผู้ใดเข้าใจว่า ข้อความนี้ (“จงรับเอาสิ่งที่รอซูลให้แก่ท่าน, จงละเว้นจากสิ่งที่ท่านรอซูลห้าม”)สามารถที่นำมา
ใช้ในความหมายกับเรื่องราวทั่วๆไปได้แล้ว เขาจะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า ท่านรอซูลจะไม่ห้ามหรืออนุมัติสิ่งใดที่นอกเหนือ
ไปจากข้อห้าม และข้ออนุมัติ ที่บัญญัติไว้ในอัลกุรอานเท่านั้น, และสิ่งใดก็ตามที่ขัดกับอัลกุรอานแล้ว, สิ่งนั้นย่อมขัด
กับคำสอนของท่านรอซูลด้วยเช่นกัน
อัลลอฮ์ทรงประทานคัมภีร์อัลกุรอานให้แก่ท่านรอซูล เพื่อที่จะได้นำมาสั่งสอนบรรดาผู้ศรัทธา พระองทรงกำชับท่านรอซูลอย่าง
เฉียบขาดว่าอัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่ส่งมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก และหากว่าท่านรอซูลเสกสรรคําเท็จบางคําว่าเป็นคำของอัล
ลอฮ์ สอดแทรกเข้าไปแล้ว พระองค์ก็จะจับท่านรอซูลให้มั่นแล้ว ก็จะตัดเส้นชีวิตให้ขาดไป และก็จะไม่มีผู้ใดในพรรคพวกของ
ท่านรอซูลเป็นผู้คุ้มกันท่านได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในกรณีที่บางครั้งท่านรอซูลมีคำสั่งห้ามตัวเองหรือผู้อื่น ถ้ามันเป็นคำสั่งห้าม ที่นอกเหนือไปจากข้อห้ามในอัลกุรอาน ท่านก็จะถูก
อัลลอฮ์ตำหนิเช่นกัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้