แบบนี้เรียกว่าบีบให้ออก หรือ ผมคิดมากไป

ผมเป็นพนักงาน Office เอกชนแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง (ธุรกิจเกี่ยวกับ Logistic) ทำงานแผนกบัญชีด้าน Senior GL and Finance มาเกือบ 10 ปี ในแผนกบัญชีส่วนใหญ่เป็นพนักงานผู้หญิง มีพนักงานชายเพียงแค่ 6 คน แต่ละคนทำตำแหน่งแตกต่างกันไป ซึ่งในโซนที่ผมนั่งมีเพื่อนพนักงานที่เป็นผู้ชายด้วยกันแค่  2 คนเท่านั้น (นั่งคนละแผนก และเนื้องานมีความแตกต่างกัน) เรื่องมีอยู่วันหนึ่งระหว่างทำงานอยู่มีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สำนักงานเข้ามาใน Office ปกติมีพนักงานส่งของคอยยกของเข้ามาให้อยู่แล้ว โดยเพื่อนรุ่นน้องอีกคนคอยอาสาไปช่วยยกของเสมอ ซึ่งทุกครั้งที่มีการยกของผมเองไม่ได้ไปช่วย เพราะติดงานสำคัญที่ต้องส่ง Head และเสนอ MD ให้ทันภายในกำหนด ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ในสายตาคนอื่นในแผนกมองผมว่าเป็นคนเห็นแก่ตัว ผมเลยมานั่งคิดว่าสิ่งที่ผมทำมันอาจเป็นความเห็นแก่ตัวของผมก็ได้นะที่ไม่ได้สละเวลาตรงนั้นไปคอยช่วยเหลือครับ และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่นโยบายบริษัทขัดต่อความรู้สึกผมอย่างมาก เพราะปฏิบัติอย่างแบบ 2 บรรทัดฐาน หรือเลือกปฏิบัติอย่างเห็นเด่นชัด หรือกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ปลูกฝังกันมาผิด ๆ ครับเช่น
          1.) บริษัทกำหนดการแต่งกายพนักชายให้ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาว กางเกงสแล็กดำ (ห้ามยีนส์) รองเท้าหุ้มส้นทรงสุภาพ ผลลัพธ์ที่ได้ พนักงานคนอื่นใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ได้ไม่โดนตำหนิครับ ส่วนผมใส่กางเกงสแล็กสีน้ำตาล รองเท้าผ้าใบกับโดนตำหนิเต็มๆ 
          2.) กำหนดเรื่องการเบิกสลิปเงินเดือนให้กับพนักงานโดยปัจจุบันเป็นระบบ Paperless (โดยไม่มีนโยบายปริ้นให้กับพนักงานแล้ว) ผลลัพธ์ที่ได้ผมเห็นฝ่ายบุคคลยังปริ้นสลิปเงินเดือนให้พนักงานท่านอื่น ๆ ที่ขออยู่ พอผมเอ่ยปากขอบ้างอ้างว่าเป็นระบบ Paperless หรือขอได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
          3.) กำหนดหลักเกณฑ์เรื่องการเรียนต่อโดย Without pay และกำหนดการใช้สิทธ์ลาตามข้อกำหนดบริษัท [ผมเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ทำงานเก็บประสบการณ์มาสักพักใหญ่อยากพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นเลยได้ตัดสินใจเรียนต่อป.โท (ม.เอกชนย่านพญาไท เพราะคิดว่ายืดหยุ่นทั้งการเรียนและการทำงาน) เพราะตอนนั้นอายุย่างเข้า 35 ปีแล้วครับ] ผลลัพธ์ที่ได้ คือฝ่ายบุคคลเรียกคุยเกือบทุกวันอ้างว่าผมทำงานบกพร่อง หากให้ทำการ self-assessment ผมว่าการเรียนกับการทำงานของผมไม่ส่งผลกระทบต่องานที่ทำประจำ เพราะก่อนตัดสินใจเรียนต่อได้คิดแล้วว่างานที่ทำนั้นผมสามารถเอาอยู่ได้แล้วครับ
          4.) กำหนดหลักเกณฑ์การปรับเงินเดือนเพิ่มให้สำหรับพนักงานที่ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น (ฝ่ายบุคคลประกาศปรับให้ต่อเมื่อเรียนจบเท่านั้น และต้องแจ้งยื่นเรื่องเพื่อขอปรับเงินเดือนหลังเรียนจบเอาเอง) ผลลัพธ์ที่ได้ หลังผมจบการศึกษาประมาณกลางปี ผมได้ยื่นเรื่องฝ่ายบุคคลแล้ว แต่กลับได้รับคำตอบว่าจะมีการปรับให้ต้นปีหน้า ซึ่งใน Office มีคนที่เรียนต่อเหมือนกันกับผมแต่ยังเรียนไม่จบ กับได้ปรับเงินเดือนตอนต้นปีพร้อมกัน
         อยากทราบว่าแบบนี้เรียกว่าบีบให้ออก หรือ ผมคิดมากไปครับ ?????????
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่