‘
นพ.ยง’ไขข้อข้องใจ‘โควิด-19 กับเสียงเรียกร้องเปิดเทอม’ ชี้ถ้าคุมไม่ได้เกิดผลเสียใหญ่หลวง
วันอังคาร ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 09.16 น.
12 พฤษภาคม 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” มีเนื้อหาดังนี้
โควิด-19 เสียงเรียกร้องจากผู้ปกครอง และครู เรื่องการเปิดเทอม
ต้องยอมรับว่า โควิด-19 มีผลต่อการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนทั่วโลก โรงเรียนต่างๆทั่วโลกได้ปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เกือบทั้งหมด ขณะนี้มีบางประเทศกำลังจะทดลอง เริ่มเปิดเทอมหรือได้มีการเปิดเทอมบ้างแล้วในขั้นแรก
สิ่งที่สำคัญจะต้องเข้าใจว่า โควิด-19 เป็นกับเด็ก ความรุนแรงจะน้อยมาก แต่เด็กนักเรียนจะเอาเชื้อกลับบ้าน และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว superspread ไปยังบุคคลในบ้าน โดยเฉพาะถ้ามีผู้สูงอายุ ก็จะมีผลกระทบมาก
มาตรการในการเปิดเทอม จึงมีความสำคัญมาก ในการควบคุมโรคระบาด เมื่อเกิดการระบาดของโรค ก็มีความสำคัญกับประชาชนทั่วไป
การศึกษาเองก็มีความสำคัญกับเด็กนักเรียน ทุกอย่างจะต้องอยู่บนความสมดุล
ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้ ถ้ามีผู้ป่วยจำนวนมาก ระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้จะมีความสูญเสียมาก
การวางแผนเปิดเทอม จะต้องมั่นใจว่า ควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดของโรคในเด็กนักเรียนได้
ในเด็กโต การเรียนสามารถเรียนที่บ้าน ทางออนไลน์ และไปทำการบ้านที่โรงเรียน เป็นครั้งคราวจึงมีความเป็นไปได้สูง
ในเด็กเล็ก จำเป็นจะต้อง แบ่งกลุ่มเด็ก เรียนเป็นวัน เป็นผลัด เพราะถ้ามีการระบาดของโรค ก็จะกระทบเป็นกลุ่มหรือ ผลัด ที่มีจำนวนคนน้อยกว่า และควบคุมได้
ควรมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และกระจายอำนาจให้แต่ละท้องถิ่นดูแลตามความเหมาะสม
แต่ทุกคนทั้งครู ผู้ปกครองและนักเรียน จะต้องเข้าใจ และตระหนักในผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ขณะนี้เข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วงเรื่องการศึกษาของเด็ก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นห่วงเรื่องผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรค ถ้าไม่สามารถควบคุมได้จะเกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวงตามมา
https://www.naewna.com/local/492212
ป่วยโควิดเพิ่ม 2 ราย จาก กทม.-นราธิวาส ศบค.ห่วงผ่อนปรนระยะ 2 ดูบทเรียน "คลับอิแทวอน" คนเดียวทำติดเชื้อพุ่งร่วม 100 คน
เจอผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ 2 ราย จาก กทม.ติดในครอบครัว และนราธิวาส เป็นพี่เลี้ยงเด็กวัย 6 ขวบที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ป่วยสะสม 3,017 ราย กลับบ้านรวม 2,798 ราย เหลือรักษา 163 ราย เผยติดเชื้อจากการไปชุมชนแม้จะน้อย แต่ห่วงผ่อนปรนระยะ 2 อาจทำให้ป่วยพุ่งขึ้นได้ แบบเกาหลีใต้คนเดียวจากคลับอิแทวอน ทำให้ติดเชื้อไปแล้ว 94 ราย
วันนี้ (12 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 2 ราย กลับบ้านเพิ่ม 2 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยรวม 3,017 ราย กลับบ้านรวม 2,798 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 163 ราย กทม.ยังมีผู้ป่วยสูงสุดที่ ตามด้วยภาคใต้ และภาคกลาง
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มาจาก การสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 2 ราย ได้แก่
1.หญิงไทยอายุ 19 ปี อยู่ กทม. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว 3 คน คือ พี่เขย พี่สาว และหลานสาว ป่วยไข้ถ่ายเหลววันที่ 5 พ.ค. และตรวจพบเชื้อ และ
2.หญิงไทยอายุ 51 ปี จ.นราธิวาส มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย โดยเป็นพี่เลี้ยงเด็กอายุ 6 ขวบที่รายงานติดเชื้อเมื่อวันก่อน
จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันเพิ่มขึ้น 4 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช พังงา สตูล และเลย รวมเป็น 50 จังหวัด
ส่วนจังหวัดที่ยังมีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน คงเหลือ 18 จังหวัด
ทั้งนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์ ปัจจัยที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ
1.พบในศูนย์กักกัน และผู้ต้องกัก
2.ค้นหาเชิงรุก
3.สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า
4.กลับจากต่างประเทศเข้าสถานกักกัน และ
5ไปสถานที่ชุมชน ซึ่งแม้ปัจจัยนี้จะเจอน้อยเป็นอันดับ 5 แต่ก็ต้องระวัง เพราะเราจะขยายผ่อนปรนระยะ 2 แม้ตัวเลขหลักเดียวก็เพิ่มขึ้นได้ เช่น กรณีเกาหลีใต้ แค่คนเดียวที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอิแทวอน ทำให้การระบาดรอบ 2 เพิ่มขึ้นถึง 94 ราย
"ทางเกาหลีใต้ระบุว่าผู้ป่วย 24 ราย จาก 34 รายที่เพิ่มขึ้นวันที่ 10 พ.ค. เป็นยอดที่พบใหม่และเกี่ยวข้องกับคลับในอิแทวอน โดย 18 คนเป็นผู้ไปเที่ยวคลับ อีก 6 คนคือติดต่อกับคนเที่ยวคลับ และมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอีก 11 ราย แต่ทั้งหมดตอนนี้รวมเป็น 94 ราย นี่คือตัวอย่างของต่างประเทศมีมาตรการผ่อนปรนไปมีตัวเลขกลับมาเป็นซ้ำ อยากให้พี่น้องรับทราบเราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่เจอกับเรื่องอย่างนี้ มีประเทศให้เราเรียนรู้มากมาย แล้วแต่เราว่าจะเลือกเดินไปอย่างไร เชื่อว่าคงไม่อยากเห็นตัวเลขกลับมาติดแบบสองหลัก การเลือกเปิดกิจการกิจกรรมกับการเลือกเรื่องการติดเชื้อก็ต้องสมดุลทั้งสองอย่าง ไม่มีการ์ดตก จะมีการติดเชื้อตามมา" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่บอกกันว่าเจอผู้ป่วยน้อย 2-3 ราย ตรวจน้อยหรือไม่ ข้อมูลขากกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตอนนี้เราตรวจตัวอย่างไปแล้ว 286,008 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ตอนนั้นมีติดเชื้อ 3,000 ราย เท่ากับอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 1.05% จำนวนที่ตรวจถามว่าน้อยหรือไม่ เอามาเรียงกันตรวจมากที่สุดวันนั้นคือ อิตาลีตรวจ 41,558 รายต่อ 1 ล้านประชากร สิงคโปร์ 29,765 รายต่อ 1 ล้านประชากร สหรัฐอเมริกา 27,025 รายต่อล้านประชากร
ไทยตรวจที่ 4,294 รายต่อล้านประชากร ก็ถือว่าไม่น้อย มากกว่าไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เมื่อเทียบต่อจำนวนประชากร
https://mgronline.com/qol/detail/9630000049349
ไม่มีอะไรเพียบพร้อมไปทั้งหมดในยามวิกฤต
เด็กๆไม่ได้เรียนที่โรงเรียน เพราะโควิด แต่ผู้ปกครองได้มีเวลาอบรมบ่มนิสัย ให้มีความดีติดตัวไว้ ความรู้นั้นเรียนทันกันหมด ถ้าใฝ่รู้ใฝ่เรียน
การที่เราต้องเสียอะไรไปในชีวิต ทรัพย์สินเงินทองหายไป แต่มีชีวิตอยู่ได้ นี่คือทางเลือกของเราเอง ที่ควรเลือกรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน
ได้อย่างเสียอย่าง ไม่มีความสมบูรณ์แบบในเวลานี้นะคะ
มีสติและคิดใคร่ครวญให้ดีค่ะ
🎁🎁มาลาริน/ความรู้อาจเรียนทันกันหมด แต่โควิดติดแล้วไซร้ หมอแก้ บ่ไหว...เย้ๆๆ ไทยติดเชื้อวันนี้แค่ 2 รายค่ะ
วันอังคาร ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 09.16 น.
12 พฤษภาคม 2563 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” มีเนื้อหาดังนี้
โควิด-19 เสียงเรียกร้องจากผู้ปกครอง และครู เรื่องการเปิดเทอม
ต้องยอมรับว่า โควิด-19 มีผลต่อการเรียนการสอนของเด็กนักเรียนทั่วโลก โรงเรียนต่างๆทั่วโลกได้ปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เกือบทั้งหมด ขณะนี้มีบางประเทศกำลังจะทดลอง เริ่มเปิดเทอมหรือได้มีการเปิดเทอมบ้างแล้วในขั้นแรก
สิ่งที่สำคัญจะต้องเข้าใจว่า โควิด-19 เป็นกับเด็ก ความรุนแรงจะน้อยมาก แต่เด็กนักเรียนจะเอาเชื้อกลับบ้าน และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว superspread ไปยังบุคคลในบ้าน โดยเฉพาะถ้ามีผู้สูงอายุ ก็จะมีผลกระทบมาก
มาตรการในการเปิดเทอม จึงมีความสำคัญมาก ในการควบคุมโรคระบาด เมื่อเกิดการระบาดของโรค ก็มีความสำคัญกับประชาชนทั่วไป
การศึกษาเองก็มีความสำคัญกับเด็กนักเรียน ทุกอย่างจะต้องอยู่บนความสมดุล
ระบบสาธารณสุขจะต้องรองรับได้ ถ้ามีผู้ป่วยจำนวนมาก ระบบสาธารณสุขรองรับไม่ได้จะมีความสูญเสียมาก
การวางแผนเปิดเทอม จะต้องมั่นใจว่า ควบคุมไม่ให้เกิดการระบาดของโรคในเด็กนักเรียนได้
ในเด็กโต การเรียนสามารถเรียนที่บ้าน ทางออนไลน์ และไปทำการบ้านที่โรงเรียน เป็นครั้งคราวจึงมีความเป็นไปได้สูง
ในเด็กเล็ก จำเป็นจะต้อง แบ่งกลุ่มเด็ก เรียนเป็นวัน เป็นผลัด เพราะถ้ามีการระบาดของโรค ก็จะกระทบเป็นกลุ่มหรือ ผลัด ที่มีจำนวนคนน้อยกว่า และควบคุมได้
ควรมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และกระจายอำนาจให้แต่ละท้องถิ่นดูแลตามความเหมาะสม
แต่ทุกคนทั้งครู ผู้ปกครองและนักเรียน จะต้องเข้าใจ และตระหนักในผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
ขณะนี้เข้าใจว่าทุกคนเป็นห่วงเรื่องการศึกษาของเด็ก แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นห่วงเรื่องผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับการระบาดของโรค ถ้าไม่สามารถควบคุมได้จะเกิดผลเสียอย่างใหญ่หลวงตามมา
https://www.naewna.com/local/492212
ป่วยโควิดเพิ่ม 2 ราย จาก กทม.-นราธิวาส ศบค.ห่วงผ่อนปรนระยะ 2 ดูบทเรียน "คลับอิแทวอน" คนเดียวทำติดเชื้อพุ่งร่วม 100 คน
เจอผู้ป่วยโควิด-19 ใหม่ 2 ราย จาก กทม.ติดในครอบครัว และนราธิวาส เป็นพี่เลี้ยงเด็กวัย 6 ขวบที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้ ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ป่วยสะสม 3,017 ราย กลับบ้านรวม 2,798 ราย เหลือรักษา 163 ราย เผยติดเชื้อจากการไปชุมชนแม้จะน้อย แต่ห่วงผ่อนปรนระยะ 2 อาจทำให้ป่วยพุ่งขึ้นได้ แบบเกาหลีใต้คนเดียวจากคลับอิแทวอน ทำให้ติดเชื้อไปแล้ว 94 ราย
วันนี้ (12 พ.ค.) นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 2 ราย กลับบ้านเพิ่ม 2 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยรวม 3,017 ราย กลับบ้านรวม 2,798 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 163 ราย กทม.ยังมีผู้ป่วยสูงสุดที่ ตามด้วยภาคใต้ และภาคกลาง
สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ มาจาก การสัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า 2 ราย ได้แก่
1.หญิงไทยอายุ 19 ปี อยู่ กทม. มีประวัติสัมผัสผู้ป่วยในครอบครัว 3 คน คือ พี่เขย พี่สาว และหลานสาว ป่วยไข้ถ่ายเหลววันที่ 5 พ.ค. และตรวจพบเชื้อ และ
2.หญิงไทยอายุ 51 ปี จ.นราธิวาส มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย โดยเป็นพี่เลี้ยงเด็กอายุ 6 ขวบที่รายงานติดเชื้อเมื่อวันก่อน
จังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วันเพิ่มขึ้น 4 จังหวัด คือ นครศรีธรรมราช พังงา สตูล และเลย รวมเป็น 50 จังหวัด
ส่วนจังหวัดที่ยังมีรายงานผู้ป่วยในช่วง 28 วัน คงเหลือ 18 จังหวัด
ทั้งนี้ ในช่วง 2 สัปดาห์ ปัจจัยที่พบผู้ป่วยสูงสุด คือ
1.พบในศูนย์กักกัน และผู้ต้องกัก
2.ค้นหาเชิงรุก
3.สัมผัสผู้ป่วยรายก่อนหน้า
4.กลับจากต่างประเทศเข้าสถานกักกัน และ
5ไปสถานที่ชุมชน ซึ่งแม้ปัจจัยนี้จะเจอน้อยเป็นอันดับ 5 แต่ก็ต้องระวัง เพราะเราจะขยายผ่อนปรนระยะ 2 แม้ตัวเลขหลักเดียวก็เพิ่มขึ้นได้ เช่น กรณีเกาหลีใต้ แค่คนเดียวที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านอิแทวอน ทำให้การระบาดรอบ 2 เพิ่มขึ้นถึง 94 ราย
"ทางเกาหลีใต้ระบุว่าผู้ป่วย 24 ราย จาก 34 รายที่เพิ่มขึ้นวันที่ 10 พ.ค. เป็นยอดที่พบใหม่และเกี่ยวข้องกับคลับในอิแทวอน โดย 18 คนเป็นผู้ไปเที่ยวคลับ อีก 6 คนคือติดต่อกับคนเที่ยวคลับ และมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอีก 11 ราย แต่ทั้งหมดตอนนี้รวมเป็น 94 ราย นี่คือตัวอย่างของต่างประเทศมีมาตรการผ่อนปรนไปมีตัวเลขกลับมาเป็นซ้ำ อยากให้พี่น้องรับทราบเราไม่ได้เป็นประเทศเดียวที่เจอกับเรื่องอย่างนี้ มีประเทศให้เราเรียนรู้มากมาย แล้วแต่เราว่าจะเลือกเดินไปอย่างไร เชื่อว่าคงไม่อยากเห็นตัวเลขกลับมาติดแบบสองหลัก การเลือกเปิดกิจการกิจกรรมกับการเลือกเรื่องการติดเชื้อก็ต้องสมดุลทั้งสองอย่าง ไม่มีการ์ดตก จะมีการติดเชื้อตามมา" นพ.ทวีศิลป์กล่าว
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่บอกกันว่าเจอผู้ป่วยน้อย 2-3 ราย ตรวจน้อยหรือไม่ ข้อมูลขากกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตอนนี้เราตรวจตัวอย่างไปแล้ว 286,008 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ตอนนั้นมีติดเชื้อ 3,000 ราย เท่ากับอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ 1.05% จำนวนที่ตรวจถามว่าน้อยหรือไม่ เอามาเรียงกันตรวจมากที่สุดวันนั้นคือ อิตาลีตรวจ 41,558 รายต่อ 1 ล้านประชากร สิงคโปร์ 29,765 รายต่อ 1 ล้านประชากร สหรัฐอเมริกา 27,025 รายต่อล้านประชากร ไทยตรวจที่ 4,294 รายต่อล้านประชากร ก็ถือว่าไม่น้อย มากกว่าไต้หวัน เวียดนาม ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เมื่อเทียบต่อจำนวนประชากร
https://mgronline.com/qol/detail/9630000049349
ไม่มีอะไรเพียบพร้อมไปทั้งหมดในยามวิกฤต
เด็กๆไม่ได้เรียนที่โรงเรียน เพราะโควิด แต่ผู้ปกครองได้มีเวลาอบรมบ่มนิสัย ให้มีความดีติดตัวไว้ ความรู้นั้นเรียนทันกันหมด ถ้าใฝ่รู้ใฝ่เรียน
การที่เราต้องเสียอะไรไปในชีวิต ทรัพย์สินเงินทองหายไป แต่มีชีวิตอยู่ได้ นี่คือทางเลือกของเราเอง ที่ควรเลือกรักษาชีวิตเอาไว้ก่อน
ได้อย่างเสียอย่าง ไม่มีความสมบูรณ์แบบในเวลานี้นะคะ
มีสติและคิดใคร่ครวญให้ดีค่ะ