..
พิศวาสโอบเล่ห์สิเนหา
๐ เสียงขลุ่ยหวิวหวีดกรีดจิต หวานราวนิรมิต
แนบชิดกองฟอนนอนหนุน
๐ กลิ่นแก้วแผ่วหลังพิรุณ ก่อคุรติคุณ
นวลอุ่นแม่งามอร่ามทิว
๐ พระพายพัดโรยโชยผิว เกศาปล่อยปลิว
เย็นฉิวชื่นระรื่นงาม
๐ สำเนียงเสียงไพรใจหวาม เปลี่ยวกายชายตาม
เรืองยามย้อนสะท้อนดาว
๐ กระซิบรักสักขีสาว ตระกองกอดราว
แนบน้าวจุมพิตทันใด
๐ บังอรครางสรรพางค์ไหว อุ่นนุ่มละไม
มิ่งหทัยเคลื่อนคล้อยลอยครัน
๐ สัมผัสแผ่วอ้อนวอนฝัน ได้โปรดอย่าผัน
เผินหันห่างร้างแดนกลาย
๐ อนงค์คงห่วงว่าล่วงหาย ท่วงท่าวจีคลาย
คาดหมายขอคำมั่นแทน
๐ ศศิแจ้งหล้ากรานว่าแสน หนาหนักเท่าแดน
น้าวแอ่นโอ้โลมนางกลาย
๐ ขลุ่ยบรรเลงเร่งเร้าหมาย จิตรุ่มร้อนราย
เร่งคล้ายรัวยั่วเย้าพลาง
๐ เริงรุกเข้าพระเข้านาง พิรุณพรมจาง
สว่างพึงสังวรจรไกล ฯ
................
เสียงขลุ่ยผิวหวิวหวีดหวานกรีดจิต
ราวนิรมิตแม้นนอนกองฟอนหนุน
หอมกลิ่นแก้วแผ่วผลิหลังพิรุณ
รติกรุ่นก่อคุในอุรา
ใต้นวลแขแม่งามอร่ามผิว
พระพายพลิ้วพัดเหปลิวเกศา
เย็นฉวีพี่ชื่นระรื่นตา
วจีว่าแน่งน้องดั่งทองวาว
ยินสำเนียงเสียงไพรหทัยหวาม
เปลี่ยวชลยามยลย้อนสะท้อนหาว
กระซิบรักสักขีฤดีดาว
ตระกองน้าวแนบสนิทจุมพิตพลัน
แม้นบังอรผ่อนครางสรรพางค์ไหว
นุ่มละไมมิ่งคล้อยเลื่อนลอยฝัน
สัมผัสแล้วแผ่วอ้อนวิงวอนครัน
โปรดอย่าผันเผินจางยามห่างแดน
โอ้อนงค์คงห่วงว่าล่วงหาย
วจีคล้ายคาดคั้นคำมั่นแสน
ศศิแสงแจ้งหล้ากรานว่าแทน
จะหนักแน่นน้าวโน้มโอ้โลมนาง
ขลุ่ยบรรเลงเร่งเร้ากระเซ้าหมาย
รุ่มร้อนร่ายเร่งรัวเย้ายั่วร่าง
สุขเริงเร่าเข้าพระแลสะอาง
พิรุณพร่างพรมพุ่มโกสุมบานฯ
................
..
มิแน่ใจว่าจะใช่
มธุรสวาที ห่อ ฉบัง ๑๖ หรือไม่
ซุกซนเล่นพิเรนไป
ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณา ครับ
สิงห์ ริมถนนฯ
..
ลืมแปะภาพนายสิงห์
..
พิศวาสโอบเล่ห์สิเนหา
มิแน่ใจว่าจะใช่ มธุรสวาที ห่อ ฉบัง ๑๖ หรือไม่
ซุกซนเล่นพิเรนไป
ควรมิควรแล้วแต่จะกรุณา ครับ
สิงห์ ริมถนนฯ
..