ถ้าใครยังจำได้ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราเคยตั้งกระทู้ “การไปอเมริกาครั้งแรกทำให้ฉันได้เจอกับผู้ชายในฝัน” (
https://ppantip.com/topic/34918913 )
ตั้งแต่ที่ตั้งกระทู้ไปครั้งนั้นคนติดตามเยอะมาก และก็มีแต่อยากให้เขียนต่อว่าเรื่องราวหลังจากนั้นเป็นบ้าง ยังติดต่อกันอยู่มั้ย
ก็จากในกระทู้มันจบลงด้วยการที่แพรวกับกัสเป็นเพื่อนกันไม่มีไรคืบหน้า เพราะเพื่อนรักของแพรวได้ไปกินจ้า
ถ้าใครที่ไม่เคยอ่านกระทู้ หรืออ่านไม่จบ หรืออ่านแล้วแต่จำไม่ได้ แนะนำให้กลับไปอ่านก่อน จะได้ไม่งง มี 20กว่า part ได้มั้ง
*เรื่องที่เคยเล่าไปและเรื่องที่กำลังจะเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ได้แต่งขึ้นมา ไม่ได้มโนไปเอง และได้รับคำอนุญาติจากกัสแล้วว่าให้ลงพันทิปได้*
คือหลังจากนั้นที่เขียนกระทู้ไปเมื่อ 5 ปีก่อน แพรว พี่พี ตะวัน แจน ก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน มีกรุ๊ปไลน์เอาไว้คุยกันตลอด มีนัดกันเที่ยวบ้างนานๆที ทุกวันนี้เราสี่คนยังติดต่อกันอยู่ //กับโอล่า ก็ยังมีติดต่อกันบ้างนานๆที มีคอมเม้นกันบ้าง กดไลค์กันบ้าง //ส่วนโอก้าก็ไม่ค่อยได้ติดต่อเลย เขาไม่ค่อยได้อัพเดทอะไรในเฟสบุคด้วยแหละ // กับกัสก็ติดต่อกันบ้างตามเทศกาลต่างๆเช่นวันปีใหม่ วันเกิด // ส่วนกับพ่อแม่กัสนี่กดไลค์กันประจำเลย
(หลังจากที่แพรวกลับไทยเมื่อ 5 ปีก่อน กัสกับโอก้าก็คุยกันและคบกัน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังว่าคบกันได้ยังไง)
Part1
เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปประมาณ 3 ปี ได้มั้ง...จนแพรวได้มีโอกาสมาเป็น Au Pair(พี่เลี้ยงเด็ก) ที่ California, USA พอรู้ว่าจะได้มาเมกาก็มีทักกัสและแม่กัสไปบ้างว่า แพรวจะไปเมกานะ ไว้ถ้ามีโอกาสหวังว่าเราคงจะได้เจอกัน เอาจริงที่แพรวมาเป็นออแพร์ที่เมกาได้ส่วนนึงก็มีกัสเป็นแรงบันดาลใจนะ แบบอยากเจอกัสและครอบครัวเขาอีก อยากไปเมือง Durango, Colorado อีก เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาเมกา แพรวมาเมกาวันที่ 26 มีนาคม 2018 พอแพรวมาทำงานที่เมกาได้ 6 เดือน ก็ได้มีโอกาสเจอกัส นับได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่2 ที่ได้เจอกัสหลังจากไม่ได้เจอกันมาประมาณ 3ปี เรื่องมันมีอยู่ว่า... กัสจะขับรถไปหาโอก้าที่แคนาดา คือเขานัดเจอกันที่แคนาดาแต่โอก้าวีซ่าไม่ผ่านเลยมาเจอไม่ได้(อันนี้เท่าที่แพรวเข้าใจนะ) กัสเลยไปเที่ยวแคนาดาคนเดียว อยู่แคนาดาแค่ไม่กี่วันเพราะมันหนาวมากๆ แล้วกัสก็ขับรถมาเที่ยวที่แคลิฟอเนียต่อซึ่งแพรวอยู่แคลิฟอเนียพอดี (แพรวอยู่เมือง Angwin มันใกล้ๆกับเมือง Napa ซึ่งเป็นเมืองที่ดังมากๆเรื่องไร่องุ่นและไวน์) กัสเลยทักแชทมาหาแพรวว่าแพรวยังอยู่แถว Napa มั้ย กัสจะแวะไป แพรวก็บอกว่ายังอยู่ๆ แวะมาได้ ก็นัดวันเวลาและสถานที่กันเรียบร้อย แพรวจำได้แม่นเลย
12 ตุลาคม 2018
นัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนึงใน Napa ชื่อห้างว่า Target (คล้ายๆโลตัสบ้านเราแหละ) คือวันนั้นแพรวทำงาน แพรวต้องเลี้ยงน้องช่วงเช้า เพราะโฮสมัมไปทำธุระข้างนอก แพรวเลยตกลงกับโฮสมัมไว้ว่าแพรวจะนัดเจอกับโฮสมัมที่ Target เพื่อที่จะเอาน้องให้โฮสมัมดูต่อแล้วแพรวก็จะได้ไปเที่ยวกับกัสต่อเลย พอถึงเวลานัด กัสก็มารอที่ห้างแล้ว แพรวสายไปครึ่งชั่วโมง คือแพรวตื่นเต้นมาก แบบตอนระหว่างทางขับรถไปหากัส แพรวคิดคำพูดต่างๆนานาว่าแพรวจะทักกัสยังไงดี จะคุยไรดี จะยิ้มแบบไหนดี จะต้องกอดทักทายมั้ย จะทำตัวยังไงดี คือตื่นเต้นมาก พอไปถึงห้างแพรวก็อุ้มน้องไปด้วยเพราะนัดเจอโฮสมัมที่ห้างพอดี พอแพรวเจอกัสก็ทักทายปกติ เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย ดีใจที่ได้เจอนะ คิดถึงมาก แล้วก็แนะนำน้องที่แพรวเลี้ยงให้กัสรู้จัก เราก็เดินเล่นคุยกันไป แต่ไม่ค่อยได้คุยอะไรเยอะเพราะแพรวต้องคอยวิ่งตามน้อง พอโฮสมัมมาถึงแพรวก็แนะนำให้กัสรู้จักโฮสมัม แพรวเอาน้องส่งต่อให้โฮสมัมดูแลต่อ แล้วแพรวก็ไปเที่ยวกับกัสต่อ กัสจอดรถไว้ที่ Target แล้วก็นั่งรถแพรวไปเที่ยวในเมือง Napa กัสไปชิมไวน์แต่แพรวนั่งดูเฉยๆ เพราะแพรวเมาง่าย กินไวน์ไม่เป็น เลยนั่งเป็นเพื่อน แล้วคือพนักงานในร้านเป็นแฟนเก่าของเพื่อนสนิทแพรว ก็เลยทักทายกัน คุยกัน กัสก็เล่าให้เขาฟังว่าเราสองคนรู้จักกันได้ไง กัสเล่าเรื่องตอนที่พวกแพรวไป rock climbing กับกัสครั้งแรกแล้วพวกแพรวแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มมาก เขาก็ขำกัน พอชิมไวน์เสร็จก็ไปกินไอติมกันต่อ หลังจากกินไอติมเสร็จ เราก็เดินเล่นกันใน Napa ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกัน
แพรว : เป็นไงบ้าง
กัส : สบายดี ชีวิตทั่วๆไปก็ดีนะ เรียนจบแล้ว
แพรว : แล้วกับโอก้าอ่ะ
กัส : ก็ยังคบกันอยู่ แล้วยูมีแฟนมั้ย
แพรว : มีแต่เลิกไปแล้ว (แล้วก็เล่าให้กัสฟังว่าเรื่องราวมันเป็นไงทำไมถึงเลิกกัน)
แพรว : แล้วกับโอก้าอยู่ไกลกันไม่คิดถึงแย่เลยหรอ
กัส : ก็คิดถึงแหละ แต่เราตกลงกันว่าถ้าเรามีใครอีกคนเข้ามาจะต้องบอกให้อีกฝ่ายรู้ (อารมณ์แบบ คือมีแฟนแล้วแต่คุยกับคนอื่นได้ ต่างฝ่ายต่างรับรู้เรื่องของกันและกัน และก็โอเคกับเรื่องนี้)
แพรว : ได้อ่อ มันเป็นยังไงอ่า ยูสามารถรักคนสองคนได้ในเวลาเดียวกันหรอ
กัส : ไม่ๆ คือไอรักโอก้า แต่ไม่ได้รักคนคุยอีกคน
แพรว : แบบนี้ก็ได้ด้วยอ่อ ถ้าเป็นไอ ไอไม่โอเคนะแบบนี้อ่ะ ไอทำไม่ได้
ก็นั้นแหละพอได้ยินเขาบอกว่าเขารักโอก้าเราก็จี๊ดไปเลย (ทุกคนนนนนนน อ่านมาถึงตรงนี้อย่าพึ่งเกลียดกัสกับโอก้านะที่เขามีความสัมพันค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนนิดนึง อ่านไปเรื่อยๆจะเข้าใจหรืออาจจะไม่เข้าใจเลยก็ได้55555)
หลังจากนั้นเรานัดกันไปเที่ยวแถบ San Jose ไปหาเพื่อนๆคนไทยของแพรว ตั้งใจจะไปเดินเล่นในสวนสาธารณะกัน ซึ่งแพรวกับกัสขับรถกันไปคนละคัน แพรวต้องขับรถไปรับเพื่อนชื่อ พี่ฝน ที่อีกเมืองนึงก่อน ปรากฏว่ากัสขับไปถึง San Jose ก่อนละกัสก็นั่งรอที่สวนสาธารณะนานมาก รอจนมืด พอแพรวไปถึง สวนสาธารณะก็ปิดพอดีเลยอดเดินเล่นในสวนสาธาณะเลย พวกเราสามคน(กัส แพรว พี่ฝน)เลยไปกินซูชิกันแทน พอตกกลางคืนแพรวกับเพื่อนๆอีกหลายคนก็นัดตี้กันที่ผับแห่งนึงซึ่งกัสไปด้วย กัสไม่ชอบเข้าผับไม่ชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่แพรวอยากเต้น อยากเจอเพื่อน กัสเลยต้องเข้าไปด้วย พวกแพรวก็ยืนเต้นกัน ละคนมันเยอะมาก เบียดกันจนจะได้กันอยู่ละ กัสก็คอยกันให้ไม่ให้คนมาชนไม่ให้ใครมาเบียด แบบโคตรน่ารักเลยเหมือนมีคนมาคุม พอเต้นๆไปซักพักรู้เลยว่ากัสไม่โอเค กัสเหนื่อยและง่วงด้วยแหละ นางขับรถมาทั้งวันอ่าเนาะ นี่เลยบอกว่างั้นเรากลับกันก่อนมั้ย คือแพรวก็ขับรถกลับไปบ้านเพื่อนเพราะแพรวต้องนอนบ้านเพื่อน แล้วรถกัสก็จอดอยู่หน้าบ้านเพื่อน พอไปถึงบ้านเพื่อนก็ต้องรอเพื่อนไง เพื่อนยังไม่กลับจากผับเลย แล้วมันดึกมาก ง่วงทั้งคู่ กัสเลยถามว่าไปนอนในรถกัสมั้ย นี่ก็งงว่าจะนอนยังไง พอเห็นรถเลยเข้าใจ คือกัสพับเบาะหลังหมดเลยแล้วเอาฟูกมาใส่หลังรถแล้วทำเป็นที่นอน มีหมอนมีผ้าห่ม มีทุกอย่างเหมือนเตียงนอนเลย กัสไป roadtrip มานางเลยมีทุกอย่างบนรถ แพรวก็เลยได้นอนบนรถกัส คือเข้าใจมะว่านอนบนที่นอนเดียวกันห่มผ้าห่มเดียวกัน คือนี่ต้องใจแข็งมากๆนะ55555 เพราะกัสก็ยังคบกับโอก้าอยู่ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะกัสมีโอก้าอยู่แล้ว แพรวก็นอนของแพรว กัสก็นอนของกัส แต่มันหนาวไง แพรวเลยถามนางว่ามีผ้าห่มอีกมั้ย ไอหนาวเท้า นางตอบว่าไม่มีอ่า มีแค่ผืนเดียว แล้วนางก็เอาเท้านางมาประกบเท้าเรา แบบนางเอาตีนนางมาก่ายตีนแพรวเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตีนแพรว 55555 นึกภาพออกมะ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้
13 ตุลาคม 2018
เรานอนจนถึงเช้า ตื่นเช้ามาเลยโทรหาเพื่อนว่าอยู่ไหนกัน เพื่อนบอกอยู่ในบ้าน คือเพื่อนก็นอนสบายกันอยู่ในบ้าน แพรวเลยถามเพื่อนว่าเมื่อคืนกลับถึงบ้านละทำไมมาไม่ปลุก เพื่อนบอกว่าก็มาส่องรถดูเห็นนอนหลับกันสบายเลยไม่อยากปลุก ดูเพื่อนดิ เหมือนรู้ใจ555555 พอตื่นเช้ามา แพรวกับกัสก็ขับรถไปหาข้าวเช้ากินกัน ตอนกินข้าวเช้าอยู่ก็เห็นกัสเล่นโทสับ กัสบอกว่าโอก้าทักมา แพรวเลยบอกนางไปว่าฝากทักทายโอก้าด้วย ฝากบอกด้วยว่าคิดถึง เอาจริงๆก็คิดถึงโอก้าเหมือนกันนะ ไม่ได้คุยกันนานมาก แล้วเรื่องสมัยก่อนก็ลืมไปหมดแล้ววววว พอเรากินข้าวเช้าเสร็จก็ขับรถกลับไปบ้านเพื่อน นัดกันไปปีนเขากับพวกเพื่อนๆ ขับไปถึงที่ปีนเขาละแต่หาที่จอดไม่ได้ซักทีเลยไม่ปีนมันละเขาอ่ะ เลยแวะเที่ยวตามทางเอา แล้วเพื่อนๆอยากกินปิ้งย่าง แพรวก็อยากกินนะแต่กัสกินมังสวิรัติไง จะให้แพรวทิ้งนางไปกินปิ้งย่างกับเพื่อนก็คงไม่สมควรเพราะกัสนางอุส่าขับรถมาหาทั้งที แพรวเลยไปส่งเพื่อนกินปิ้งย่าง ละแพรวก็ไปขับรถเล่นกับกัส เราแวะไปกิน starbucks กัน ละก็เดินเล่นกันนิดหน่อย แพรวก็เล่นมุขต่างๆนานา เพราะ เห็นกัสดูนิ่งๆเลยพยายามจะเอนเตอร์เทน แพรวก็แบบจี้เอว จับไหล่จับแขนนางบ้าง แต่แพรวรู้สึกได้ว่ากัสพยายามตีตัวออกห่างคือแพรวเสียใจมาก มีตอนนึงที่แพรวจับแขนกัส แล้วแพรวรู้สึกได้ว่ากัสพยายามบิดแขนและเดินออกห่าง เพื่อให้แขนนางหลุดออกจากมือแพรว แต่กัสทำถูกแล้วแหละ เพราะนางมีแฟนไงแล้วจะให้แพรวมาโดนเนื้อต้องตัวได้ไงล่ะเนาะ นี่ก็เลยไม่โดนตัวเลย เว้นระยะห่างให้มากที่สุด แต่ก็พยายามพูดคุยให้เป็นปกติที่สุด กินกาแฟเดินเล่นกันซักพักก็ไปรับเพื่อนที่พึ่งกินปิ้งย่างเสร็จ หลังจากนั้นแพรว กัสและเพื่อนๆก็ไปถีบเรือเป็ดกันต่อ เป็นเรือที่นั่งได้4คนพอดี เราไปกัน4คน นั่งเรือลำเดียวกัน ผลัดกันถีบ ก็สนุกแหละ สนุกแบบหน่วงๆ55555
พอถีบเรือเป็ดเสร็จเราไปกินไอติมกันต่อ ก็นั่งกินด้วยกัน 4 คน แล้วเพื่อนก็แบบถ่ายรูปกัสกับแพรว แบบแอบถ่ายอ่ะ แล้วแพรวรู้สึกได้ว่ากัสไม่ค่อยพอใจ คือนางไม่ได้แสดงพฤติกรรมไม่พอใจหรอก แต่แพรวรู้สึกได้ กัสถามว่าทำไมถึงชอบถ่ายรูปตลอดเลย จำประโยคที่กัสพูดไม่ได้แต่อะไรประมาณนี้แหละ แพรวก็เลยเงิบเลย คือบอกตรงๆว่าทริปนี้เป็นทริปหน่วงๆ มันรู้สึกแปลกๆ รู้สึกไม่เหมือนเดิม คือความรู้สึกแพรวที่มีต่อกัสยังเหมือนเดิม แต่แพรวรู้สึกว่ากัสไม่เหมือนเดิม รู้สึกว่าเขาพยายามเว้นระยะห่าง ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะเขามีโอก้าอยู่ หลังจากกินไอติมเสร็จเราก็กลับบ้านเพื่อนกัน ซึ่งคืนนี้แพรวนอนในบ้านกับเพื่อนๆแล้วให้กัสนอนในรถ (คือเพื่อนเป็นออแพร์เหมือนแพรว แล้วโฮสไม่ให้ผู้ชายเข้าบ้าน) ก่อนที่จะเข้านอนแพรวก็มานั่งคุยกับกัสในรถ จริงๆก็ไม่อยากคุยอะไรเยอะ อยากจะเข้าไปนอนในบ้านกับเพื่อนเลย เพราะมันหน่วงมาก แต่เพราะกัสจะต้องขับรถกลับพรุ่งนี้แล้ว เลยนั่งคุยเป็นเพื่อนซักแปปก่อนเข้าไปนอนในบ้านเพื่อน ก็ตั้งใจจะคุยแค่แปปเดียวแหละ แต่พอได้เริ่มคุยมันเลยยาวเลย นึกภาพตามนะ...กัสนอนอยู่บนฟูกของนางที่อยู่ในรถ แพรวเลยเคาะกระจกให้นางunlockรถ พอนางunlock แพรวนั่งเบาะข้างคนขับ แล้วกัสก็เปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำบนฟูกหลังรถแล้วหันหัวมาทางแพรว เพื่อที่จะคุยกับแพรว **ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่ที่มีเรื่องโอก้าเข้ามาแพรวไม่เคยคุยกับกัส ไม่เคยถามกัสเรื่องนี้แบบจริงๆจังๆเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น** วันนี้แหละจะต้องรู้ให้ได้ว่าที่ผ่านมาคืออะไร มันเกิดอะไรขึ้น นี่คือบทสนทนาระหว่างแพรวกับกัส (คร่าวๆเท่าที่แพรวจำได้)
แพรว : ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ คิดว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้ว นี่ยูเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ไอได้มาเมกาเลยนะ ยูเป็นเหมือนแรงผลักดันให้ไอมาอยู่ที่นี่ ไออยากมาเมกามาก อยากมาเจอยู อยากเจอพ่อแม่ของยู อยากไปเที่ยว Durango เพราะ 3 ปีที่แล้วที่ไอไป Durango มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเลย ไอดีใจมากๆที่วันนี้ได้กลับมาเจอยูอีกครั้ง ยูรู้มั้ยว่าไอยังจำครั้งแรกที่เจอกันได้อยู่เลย เราเจอกันที่ห้องสแกนนิ้ว ไอคิดว่ายูเป็นเกย์ แล้วเราก็ไปเที่ยวกันเกือบทุกวันเลย (แล้วก็รื้อฟื้นความหลังกันว่าเราไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง) ไอยังจำความรู้สึกนั้นได้และไอก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่
กัส : มันเป็นซัมเมอร์ที่ดีที่สุดของไอเหมือนกัน ไอดีใจที่ได้เจอพวกยูนะ
แพรว : ไอถามอะไรหน่อยได้มั้ย
กัส : ได้สิ
แพรว : ยูกับโอก้านี่ยังไงหรอ เล่าให้ฟังได้มั้ย
กัส : ก็พอพวกยูกลับไทยกันไปหมดเมื่อ 3 ปีก่อน ไอก็เริ่มแฮ้งเอ้าท์กับโอก้า ก็เริ่มสนิทกันเพราะมีช่วงนึงที่โอก้ามีปัญหากับที่โรงแรม(ที่พวกแพรวเคยทำงาน) เหมือนหัวหน้านิสัยไม่ดีอ่ะ โอก้าเลยลาออกก่อนจบโครงการ โอก้าเลยมานอนบ้านไอประมาณ2อาทิตย์ พอโอก้ากลับประเทศไปซักพัก ไอก็เริ่ม
การไปอเมริกาครั้งที่สอง ทำให้ฉันได้เจอกับผู้ชายในฝันที่ฉันเคยเจอเมื่อหลายปีก่อน ( ภาคต่อ #ทีมแพรวกัส )
ตั้งแต่ที่ตั้งกระทู้ไปครั้งนั้นคนติดตามเยอะมาก และก็มีแต่อยากให้เขียนต่อว่าเรื่องราวหลังจากนั้นเป็นบ้าง ยังติดต่อกันอยู่มั้ย
ก็จากในกระทู้มันจบลงด้วยการที่แพรวกับกัสเป็นเพื่อนกันไม่มีไรคืบหน้า เพราะเพื่อนรักของแพรวได้ไปกินจ้า
ถ้าใครที่ไม่เคยอ่านกระทู้ หรืออ่านไม่จบ หรืออ่านแล้วแต่จำไม่ได้ แนะนำให้กลับไปอ่านก่อน จะได้ไม่งง มี 20กว่า part ได้มั้ง
*เรื่องที่เคยเล่าไปและเรื่องที่กำลังจะเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องจริงทั้งหมด ไม่ได้แต่งขึ้นมา ไม่ได้มโนไปเอง และได้รับคำอนุญาติจากกัสแล้วว่าให้ลงพันทิปได้*
คือหลังจากนั้นที่เขียนกระทู้ไปเมื่อ 5 ปีก่อน แพรว พี่พี ตะวัน แจน ก็ยังคงเป็นเพื่อนกัน มีกรุ๊ปไลน์เอาไว้คุยกันตลอด มีนัดกันเที่ยวบ้างนานๆที ทุกวันนี้เราสี่คนยังติดต่อกันอยู่ //กับโอล่า ก็ยังมีติดต่อกันบ้างนานๆที มีคอมเม้นกันบ้าง กดไลค์กันบ้าง //ส่วนโอก้าก็ไม่ค่อยได้ติดต่อเลย เขาไม่ค่อยได้อัพเดทอะไรในเฟสบุคด้วยแหละ // กับกัสก็ติดต่อกันบ้างตามเทศกาลต่างๆเช่นวันปีใหม่ วันเกิด // ส่วนกับพ่อแม่กัสนี่กดไลค์กันประจำเลย
(หลังจากที่แพรวกลับไทยเมื่อ 5 ปีก่อน กัสกับโอก้าก็คุยกันและคบกัน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังทีหลังว่าคบกันได้ยังไง)
Part1
เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปประมาณ 3 ปี ได้มั้ง...จนแพรวได้มีโอกาสมาเป็น Au Pair(พี่เลี้ยงเด็ก) ที่ California, USA พอรู้ว่าจะได้มาเมกาก็มีทักกัสและแม่กัสไปบ้างว่า แพรวจะไปเมกานะ ไว้ถ้ามีโอกาสหวังว่าเราคงจะได้เจอกัน เอาจริงที่แพรวมาเป็นออแพร์ที่เมกาได้ส่วนนึงก็มีกัสเป็นแรงบันดาลใจนะ แบบอยากเจอกัสและครอบครัวเขาอีก อยากไปเมือง Durango, Colorado อีก เลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาเมกา แพรวมาเมกาวันที่ 26 มีนาคม 2018 พอแพรวมาทำงานที่เมกาได้ 6 เดือน ก็ได้มีโอกาสเจอกัส นับได้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่2 ที่ได้เจอกัสหลังจากไม่ได้เจอกันมาประมาณ 3ปี เรื่องมันมีอยู่ว่า... กัสจะขับรถไปหาโอก้าที่แคนาดา คือเขานัดเจอกันที่แคนาดาแต่โอก้าวีซ่าไม่ผ่านเลยมาเจอไม่ได้(อันนี้เท่าที่แพรวเข้าใจนะ) กัสเลยไปเที่ยวแคนาดาคนเดียว อยู่แคนาดาแค่ไม่กี่วันเพราะมันหนาวมากๆ แล้วกัสก็ขับรถมาเที่ยวที่แคลิฟอเนียต่อซึ่งแพรวอยู่แคลิฟอเนียพอดี (แพรวอยู่เมือง Angwin มันใกล้ๆกับเมือง Napa ซึ่งเป็นเมืองที่ดังมากๆเรื่องไร่องุ่นและไวน์) กัสเลยทักแชทมาหาแพรวว่าแพรวยังอยู่แถว Napa มั้ย กัสจะแวะไป แพรวก็บอกว่ายังอยู่ๆ แวะมาได้ ก็นัดวันเวลาและสถานที่กันเรียบร้อย แพรวจำได้แม่นเลย
12 ตุลาคม 2018
นัดเจอกันที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนึงใน Napa ชื่อห้างว่า Target (คล้ายๆโลตัสบ้านเราแหละ) คือวันนั้นแพรวทำงาน แพรวต้องเลี้ยงน้องช่วงเช้า เพราะโฮสมัมไปทำธุระข้างนอก แพรวเลยตกลงกับโฮสมัมไว้ว่าแพรวจะนัดเจอกับโฮสมัมที่ Target เพื่อที่จะเอาน้องให้โฮสมัมดูต่อแล้วแพรวก็จะได้ไปเที่ยวกับกัสต่อเลย พอถึงเวลานัด กัสก็มารอที่ห้างแล้ว แพรวสายไปครึ่งชั่วโมง คือแพรวตื่นเต้นมาก แบบตอนระหว่างทางขับรถไปหากัส แพรวคิดคำพูดต่างๆนานาว่าแพรวจะทักกัสยังไงดี จะคุยไรดี จะยิ้มแบบไหนดี จะต้องกอดทักทายมั้ย จะทำตัวยังไงดี คือตื่นเต้นมาก พอไปถึงห้างแพรวก็อุ้มน้องไปด้วยเพราะนัดเจอโฮสมัมที่ห้างพอดี พอแพรวเจอกัสก็ทักทายปกติ เป็นไงบ้าง สบายดีมั้ย ดีใจที่ได้เจอนะ คิดถึงมาก แล้วก็แนะนำน้องที่แพรวเลี้ยงให้กัสรู้จัก เราก็เดินเล่นคุยกันไป แต่ไม่ค่อยได้คุยอะไรเยอะเพราะแพรวต้องคอยวิ่งตามน้อง พอโฮสมัมมาถึงแพรวก็แนะนำให้กัสรู้จักโฮสมัม แพรวเอาน้องส่งต่อให้โฮสมัมดูแลต่อ แล้วแพรวก็ไปเที่ยวกับกัสต่อ กัสจอดรถไว้ที่ Target แล้วก็นั่งรถแพรวไปเที่ยวในเมือง Napa กัสไปชิมไวน์แต่แพรวนั่งดูเฉยๆ เพราะแพรวเมาง่าย กินไวน์ไม่เป็น เลยนั่งเป็นเพื่อน แล้วคือพนักงานในร้านเป็นแฟนเก่าของเพื่อนสนิทแพรว ก็เลยทักทายกัน คุยกัน กัสก็เล่าให้เขาฟังว่าเราสองคนรู้จักกันได้ไง กัสเล่าเรื่องตอนที่พวกแพรวไป rock climbing กับกัสครั้งแรกแล้วพวกแพรวแต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มมาก เขาก็ขำกัน พอชิมไวน์เสร็จก็ไปกินไอติมกันต่อ หลังจากกินไอติมเสร็จ เราก็เดินเล่นกันใน Napa ก็ถามสารทุกข์สุขดิบกัน
แพรว : เป็นไงบ้าง
กัส : สบายดี ชีวิตทั่วๆไปก็ดีนะ เรียนจบแล้ว
แพรว : แล้วกับโอก้าอ่ะ
กัส : ก็ยังคบกันอยู่ แล้วยูมีแฟนมั้ย
แพรว : มีแต่เลิกไปแล้ว (แล้วก็เล่าให้กัสฟังว่าเรื่องราวมันเป็นไงทำไมถึงเลิกกัน)
แพรว : แล้วกับโอก้าอยู่ไกลกันไม่คิดถึงแย่เลยหรอ
กัส : ก็คิดถึงแหละ แต่เราตกลงกันว่าถ้าเรามีใครอีกคนเข้ามาจะต้องบอกให้อีกฝ่ายรู้ (อารมณ์แบบ คือมีแฟนแล้วแต่คุยกับคนอื่นได้ ต่างฝ่ายต่างรับรู้เรื่องของกันและกัน และก็โอเคกับเรื่องนี้)
แพรว : ได้อ่อ มันเป็นยังไงอ่า ยูสามารถรักคนสองคนได้ในเวลาเดียวกันหรอ
กัส : ไม่ๆ คือไอรักโอก้า แต่ไม่ได้รักคนคุยอีกคน
แพรว : แบบนี้ก็ได้ด้วยอ่อ ถ้าเป็นไอ ไอไม่โอเคนะแบบนี้อ่ะ ไอทำไม่ได้
ก็นั้นแหละพอได้ยินเขาบอกว่าเขารักโอก้าเราก็จี๊ดไปเลย (ทุกคนนนนนนน อ่านมาถึงตรงนี้อย่าพึ่งเกลียดกัสกับโอก้านะที่เขามีความสัมพันค่อนข้างซับซ้อนซ่อนเงื่อนนิดนึง อ่านไปเรื่อยๆจะเข้าใจหรืออาจจะไม่เข้าใจเลยก็ได้55555)
หลังจากนั้นเรานัดกันไปเที่ยวแถบ San Jose ไปหาเพื่อนๆคนไทยของแพรว ตั้งใจจะไปเดินเล่นในสวนสาธารณะกัน ซึ่งแพรวกับกัสขับรถกันไปคนละคัน แพรวต้องขับรถไปรับเพื่อนชื่อ พี่ฝน ที่อีกเมืองนึงก่อน ปรากฏว่ากัสขับไปถึง San Jose ก่อนละกัสก็นั่งรอที่สวนสาธารณะนานมาก รอจนมืด พอแพรวไปถึง สวนสาธารณะก็ปิดพอดีเลยอดเดินเล่นในสวนสาธาณะเลย พวกเราสามคน(กัส แพรว พี่ฝน)เลยไปกินซูชิกันแทน พอตกกลางคืนแพรวกับเพื่อนๆอีกหลายคนก็นัดตี้กันที่ผับแห่งนึงซึ่งกัสไปด้วย กัสไม่ชอบเข้าผับไม่ชอบอะไรพวกนี้อยู่แล้ว แต่แพรวอยากเต้น อยากเจอเพื่อน กัสเลยต้องเข้าไปด้วย พวกแพรวก็ยืนเต้นกัน ละคนมันเยอะมาก เบียดกันจนจะได้กันอยู่ละ กัสก็คอยกันให้ไม่ให้คนมาชนไม่ให้ใครมาเบียด แบบโคตรน่ารักเลยเหมือนมีคนมาคุม พอเต้นๆไปซักพักรู้เลยว่ากัสไม่โอเค กัสเหนื่อยและง่วงด้วยแหละ นางขับรถมาทั้งวันอ่าเนาะ นี่เลยบอกว่างั้นเรากลับกันก่อนมั้ย คือแพรวก็ขับรถกลับไปบ้านเพื่อนเพราะแพรวต้องนอนบ้านเพื่อน แล้วรถกัสก็จอดอยู่หน้าบ้านเพื่อน พอไปถึงบ้านเพื่อนก็ต้องรอเพื่อนไง เพื่อนยังไม่กลับจากผับเลย แล้วมันดึกมาก ง่วงทั้งคู่ กัสเลยถามว่าไปนอนในรถกัสมั้ย นี่ก็งงว่าจะนอนยังไง พอเห็นรถเลยเข้าใจ คือกัสพับเบาะหลังหมดเลยแล้วเอาฟูกมาใส่หลังรถแล้วทำเป็นที่นอน มีหมอนมีผ้าห่ม มีทุกอย่างเหมือนเตียงนอนเลย กัสไป roadtrip มานางเลยมีทุกอย่างบนรถ แพรวก็เลยได้นอนบนรถกัส คือเข้าใจมะว่านอนบนที่นอนเดียวกันห่มผ้าห่มเดียวกัน คือนี่ต้องใจแข็งมากๆนะ55555 เพราะกัสก็ยังคบกับโอก้าอยู่ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะกัสมีโอก้าอยู่แล้ว แพรวก็นอนของแพรว กัสก็นอนของกัส แต่มันหนาวไง แพรวเลยถามนางว่ามีผ้าห่มอีกมั้ย ไอหนาวเท้า นางตอบว่าไม่มีอ่า มีแค่ผืนเดียว แล้วนางก็เอาเท้านางมาประกบเท้าเรา แบบนางเอาตีนนางมาก่ายตีนแพรวเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ตีนแพรว 55555 นึกภาพออกมะ แล้วก็หลับไปตอนไหนไม่รู้
13 ตุลาคม 2018
เรานอนจนถึงเช้า ตื่นเช้ามาเลยโทรหาเพื่อนว่าอยู่ไหนกัน เพื่อนบอกอยู่ในบ้าน คือเพื่อนก็นอนสบายกันอยู่ในบ้าน แพรวเลยถามเพื่อนว่าเมื่อคืนกลับถึงบ้านละทำไมมาไม่ปลุก เพื่อนบอกว่าก็มาส่องรถดูเห็นนอนหลับกันสบายเลยไม่อยากปลุก ดูเพื่อนดิ เหมือนรู้ใจ555555 พอตื่นเช้ามา แพรวกับกัสก็ขับรถไปหาข้าวเช้ากินกัน ตอนกินข้าวเช้าอยู่ก็เห็นกัสเล่นโทสับ กัสบอกว่าโอก้าทักมา แพรวเลยบอกนางไปว่าฝากทักทายโอก้าด้วย ฝากบอกด้วยว่าคิดถึง เอาจริงๆก็คิดถึงโอก้าเหมือนกันนะ ไม่ได้คุยกันนานมาก แล้วเรื่องสมัยก่อนก็ลืมไปหมดแล้ววววว พอเรากินข้าวเช้าเสร็จก็ขับรถกลับไปบ้านเพื่อน นัดกันไปปีนเขากับพวกเพื่อนๆ ขับไปถึงที่ปีนเขาละแต่หาที่จอดไม่ได้ซักทีเลยไม่ปีนมันละเขาอ่ะ เลยแวะเที่ยวตามทางเอา แล้วเพื่อนๆอยากกินปิ้งย่าง แพรวก็อยากกินนะแต่กัสกินมังสวิรัติไง จะให้แพรวทิ้งนางไปกินปิ้งย่างกับเพื่อนก็คงไม่สมควรเพราะกัสนางอุส่าขับรถมาหาทั้งที แพรวเลยไปส่งเพื่อนกินปิ้งย่าง ละแพรวก็ไปขับรถเล่นกับกัส เราแวะไปกิน starbucks กัน ละก็เดินเล่นกันนิดหน่อย แพรวก็เล่นมุขต่างๆนานา เพราะ เห็นกัสดูนิ่งๆเลยพยายามจะเอนเตอร์เทน แพรวก็แบบจี้เอว จับไหล่จับแขนนางบ้าง แต่แพรวรู้สึกได้ว่ากัสพยายามตีตัวออกห่างคือแพรวเสียใจมาก มีตอนนึงที่แพรวจับแขนกัส แล้วแพรวรู้สึกได้ว่ากัสพยายามบิดแขนและเดินออกห่าง เพื่อให้แขนนางหลุดออกจากมือแพรว แต่กัสทำถูกแล้วแหละ เพราะนางมีแฟนไงแล้วจะให้แพรวมาโดนเนื้อต้องตัวได้ไงล่ะเนาะ นี่ก็เลยไม่โดนตัวเลย เว้นระยะห่างให้มากที่สุด แต่ก็พยายามพูดคุยให้เป็นปกติที่สุด กินกาแฟเดินเล่นกันซักพักก็ไปรับเพื่อนที่พึ่งกินปิ้งย่างเสร็จ หลังจากนั้นแพรว กัสและเพื่อนๆก็ไปถีบเรือเป็ดกันต่อ เป็นเรือที่นั่งได้4คนพอดี เราไปกัน4คน นั่งเรือลำเดียวกัน ผลัดกันถีบ ก็สนุกแหละ สนุกแบบหน่วงๆ55555
พอถีบเรือเป็ดเสร็จเราไปกินไอติมกันต่อ ก็นั่งกินด้วยกัน 4 คน แล้วเพื่อนก็แบบถ่ายรูปกัสกับแพรว แบบแอบถ่ายอ่ะ แล้วแพรวรู้สึกได้ว่ากัสไม่ค่อยพอใจ คือนางไม่ได้แสดงพฤติกรรมไม่พอใจหรอก แต่แพรวรู้สึกได้ กัสถามว่าทำไมถึงชอบถ่ายรูปตลอดเลย จำประโยคที่กัสพูดไม่ได้แต่อะไรประมาณนี้แหละ แพรวก็เลยเงิบเลย คือบอกตรงๆว่าทริปนี้เป็นทริปหน่วงๆ มันรู้สึกแปลกๆ รู้สึกไม่เหมือนเดิม คือความรู้สึกแพรวที่มีต่อกัสยังเหมือนเดิม แต่แพรวรู้สึกว่ากัสไม่เหมือนเดิม รู้สึกว่าเขาพยายามเว้นระยะห่าง ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะเขามีโอก้าอยู่ หลังจากกินไอติมเสร็จเราก็กลับบ้านเพื่อนกัน ซึ่งคืนนี้แพรวนอนในบ้านกับเพื่อนๆแล้วให้กัสนอนในรถ (คือเพื่อนเป็นออแพร์เหมือนแพรว แล้วโฮสไม่ให้ผู้ชายเข้าบ้าน) ก่อนที่จะเข้านอนแพรวก็มานั่งคุยกับกัสในรถ จริงๆก็ไม่อยากคุยอะไรเยอะ อยากจะเข้าไปนอนในบ้านกับเพื่อนเลย เพราะมันหน่วงมาก แต่เพราะกัสจะต้องขับรถกลับพรุ่งนี้แล้ว เลยนั่งคุยเป็นเพื่อนซักแปปก่อนเข้าไปนอนในบ้านเพื่อน ก็ตั้งใจจะคุยแค่แปปเดียวแหละ แต่พอได้เริ่มคุยมันเลยยาวเลย นึกภาพตามนะ...กัสนอนอยู่บนฟูกของนางที่อยู่ในรถ แพรวเลยเคาะกระจกให้นางunlockรถ พอนางunlock แพรวนั่งเบาะข้างคนขับ แล้วกัสก็เปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำบนฟูกหลังรถแล้วหันหัวมาทางแพรว เพื่อที่จะคุยกับแพรว **ต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่ที่มีเรื่องโอก้าเข้ามาแพรวไม่เคยคุยกับกัส ไม่เคยถามกัสเรื่องนี้แบบจริงๆจังๆเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น** วันนี้แหละจะต้องรู้ให้ได้ว่าที่ผ่านมาคืออะไร มันเกิดอะไรขึ้น นี่คือบทสนทนาระหว่างแพรวกับกัส (คร่าวๆเท่าที่แพรวจำได้)
แพรว : ดีใจที่ได้เจอกันอีกนะ คิดว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้ว นี่ยูเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ไอได้มาเมกาเลยนะ ยูเป็นเหมือนแรงผลักดันให้ไอมาอยู่ที่นี่ ไออยากมาเมกามาก อยากมาเจอยู อยากเจอพ่อแม่ของยู อยากไปเที่ยว Durango เพราะ 3 ปีที่แล้วที่ไอไป Durango มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดเลย ไอดีใจมากๆที่วันนี้ได้กลับมาเจอยูอีกครั้ง ยูรู้มั้ยว่าไอยังจำครั้งแรกที่เจอกันได้อยู่เลย เราเจอกันที่ห้องสแกนนิ้ว ไอคิดว่ายูเป็นเกย์ แล้วเราก็ไปเที่ยวกันเกือบทุกวันเลย (แล้วก็รื้อฟื้นความหลังกันว่าเราไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง) ไอยังจำความรู้สึกนั้นได้และไอก็ยังรู้สึกแบบนั้นอยู่
กัส : มันเป็นซัมเมอร์ที่ดีที่สุดของไอเหมือนกัน ไอดีใจที่ได้เจอพวกยูนะ
แพรว : ไอถามอะไรหน่อยได้มั้ย
กัส : ได้สิ
แพรว : ยูกับโอก้านี่ยังไงหรอ เล่าให้ฟังได้มั้ย
กัส : ก็พอพวกยูกลับไทยกันไปหมดเมื่อ 3 ปีก่อน ไอก็เริ่มแฮ้งเอ้าท์กับโอก้า ก็เริ่มสนิทกันเพราะมีช่วงนึงที่โอก้ามีปัญหากับที่โรงแรม(ที่พวกแพรวเคยทำงาน) เหมือนหัวหน้านิสัยไม่ดีอ่ะ โอก้าเลยลาออกก่อนจบโครงการ โอก้าเลยมานอนบ้านไอประมาณ2อาทิตย์ พอโอก้ากลับประเทศไปซักพัก ไอก็เริ่ม