สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา ผิดพลาดอะไรก็ขอโทษด้วยนะคะ คือเราเคยอ่านพวกกระทู้ที่เอาประสบการณ์ความรักต่างแดนมาแชร์ เราเลยอยากแชร์เรื่องราวของเราบ้าง
เราฝันไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าโตขึ้นมาอยากไปเที่ยวอเมริกา อยากมีแฟนฝรั่งตาสีฟ้า แล้วความฝันนั้นก็เกือบจะเป็นจริง
คือเราได้มีโอกาสไปอเมริกา เมื่อพฤษภาคมปี 2558 ไปกับโครงการ Work and travel ไปกัน 3 เดือน มีเพื่อนคนไทยไปอีก 3 คน
1.มีพี่พี (พี่สาวแท้ๆของเราเอง เป็นทอม)
2.ตะวัน(เป็นทอมที่หน้าตาหน้ารักมาก)
3. แจน(ผู้หญิงสวยและนิสัยตรงข้ามกับหน้าตา) **รูปส่วนใหญ่ถ่ายโดยไอโฟน 6 ของแจน
4.ส่วนเราชื่อแพรว
ตามรูปเลย จากซ้ายไปขวา
พวกเราได้ไปรัฐ Colorado เมือง Durango พี่พี ตะวัน แพรว บินวันเดียวกัน แต่พี่พีกับตะวันได้ไปไฟท์เดียวกัน ส่วนแพรวบินคนเดียว แจนบินตามไปทีหลัง เรา 4 คนรู้จักกันตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว รู้จักกันตอนมาปฐมนิเทศก่อนจะบินไปอเมริกาแหละค่ะ แต่ไม่ค่อยสนิทกัน เอาเป็นว่าเริ่มเล่าตอนไปอยู่อเมริกาเลยละกัน
PART 1
พวกเราไปทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก็มีเพื่อนที่มาจากโปแลนด์ซึ่งมากับโครงการ Work and travel เหมือนกันแต่เป็นของโปแลนด์ นางชื่อว่าโอล่า (คนกลาง)
พวกเราได้นอนห้องเดียวกัน เอาจริงๆตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบนางเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วโอล่านิสัยดี โอล่าบอกว่าเดือนหน้าจะมีเพื่อนคนนึงมาทำงานด้วย ชื่อโอก้า มากับWork and travel โปแลนด์เหมือนกัน เราทำงานได้ซักพักก็ต้องแยกห้องกันเพราะหัวหน้าทำห้องให้พวกเราใหม่ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน(พวกเราพักที่โรงแรมที่เราทำงานเลย) แพรวนอนกับพี่พี ตะวันนอนกับแจน โอล่านอนกับโอก้าแต่โอก้ายังไม่ได้บินมาโอล่าเลยต้องนอนคนเดียว
เราทำงานกันไปได้เกือบ 1 เดือนก็มีผู้ชายคนนึงมาสมัครงาน วันนั้นพวกแพรวก็ไปทำงาน เข้าห้องสแกนนิ้วปกติ แล้วเจอผู้ชายฝรั่งคนนึงนั่งกรอกใบสมัครอยู่ หัวหน้าเลยแนะนำให้รู้จักบอกว่าเด็กใหม่จะมาทำอาหารเช้าให้โรงแรม ผู้ชายคนนั้นหันมายิ้มหวานให้ เขาชื่อกัสค่ะ พอเราเห็นรอยยิ้มแล้วแบบสะกิดแจนเลยค่ะ แต่อีแจนเคลิ้มไปแล้วค่ะ แหมมม เร็วกว่ากูอีก 555555 ก็แนะนำตัวอะไรกันไปเรียบร้อย พอเลิกงานเย็นวันนั้นก็มานั่งเม้ามอยกันเรื่องกัส คือพูดจริงๆนะตั้งแต่เท้าก้าวลงพื้นที่อเมริกายังไม่เคยเจอฝรั่งคนไหนน่ารักเท่ากัสมาก่อน จริงๆกัสไม่ใช่ผู้ชายหล่อ แต่กัสเป็นคนหน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้ม กัสเป็นคนที่ตาสีฟ้า ถ้าใส่เสื้อเขียวตาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ใส่เสื้อเทาตาก็ออกเทาๆ คือตาหวานมากกกกกกก ขนตางอน ปากเล็กๆ จมูกโด่งๆ สายตาเวลากัสมองนะ โอ้โหววววว ละลาย ตัวจริงหน้าตากัสจะคล้ายๆกับ กัปตันอเมริกา ตอนที่กล้ามยังไม่ใหญ่ แต่บุคลิกดูนิ่งๆไม่เหมือนฝรั่งคนอื่นๆ ดูขี้อาย เรา 4 คนเลยแอบเม้ากันว่านางเป็นเกย์ค่ะ หลังจากที่กัสมาสมัครงานก็ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะกัสมาทำงานตี 5 เราทำงาน 9โมง คิดว่ากัสลาออกแล้วด้วยซ้ำ อยู่มาวันนึงพี่พีกับตะวันต้องทำงานแต่แพรวกับแจนได้หยุด ก็เลยนัดกันไปธนาคาร กำลังเดินไปรอรถบัสก็เจอกัสเอาขยะออกมาทิ้ง ก็เลยทักกัน
แพรว : เอ้ากัส ยังไม่เลิกงานหรอ
กัส : ใกล้จะเสร็จแล้ว แล้วนี่พวกยูจะไปไหนกัน
แจน : ไปธนาคาร
กัส : แล้วเสร็จแล้วจะไปไหนต่อมั้ย
แพรว : (ด้วยความแรดและปลื้มกัสมากเลยอ่อยเบาๆ) อ่อ ก็ยังไม่รู้เลย อยากไปเที่ยวแต่ไม่มีรถยนต์ เลยไปไหนไม่ได้เลย ไปได้แค่ Walmart กับ Downtown
กัส : งั้นเย็นนี้ไปเที่ยวกันมั้ย รอเพื่อนๆยูเลิกงานละไปเที่ยวกัน
แพรว : โอเคเลย ไปไหนกันดี
กัส : ไป rock climbing มั้ย
แพรว : โอเคเลย งั้นเดี๋ยวขอเบอร์ไว้ได้มั้ย
กัส : ได้ๆ ถ้าพวกยูพร้อมแล้วโทรมาหาไอนะ เดี๋ยวไอมารับ
แพรว แจน : โอเค แต้งกิ้วโซมัชนะยู
หลังจากนั้นก็โทให้กัสมารับ ด้วยความที่เป็นครั้งแรกของพวกเราที่จะได้ออกไปเที่ยวไกลๆ แต่ละคนเลยแต่งตัวจัดเต็ม เรานี่ปากแดงกางเกงดิสโก้เลยจ้า เพื่อนคนอื่นก็ไม่เบา55555 พอกัสมารับที่โรงแรมกัสก็มองหัวจรดเท้าแล้วถามว่า
กัส : พวกยูจะใส่ชุดนี้ไป rock climbing จริงๆหรอ ไม่มีกางเกงขาสั้นหรอ มันจะสะดวกกว่านะ
เรา 4 คน : ไม่มีอ่ะ
กัส : งั้นเดี๋ยวไอพาไปเปลี่ยนชุดที่บ้านไปนะ
พอไปถึงบ้านกัส อู้หูววววว บ้านสวยจัง ดูรวย ก็เดินชมรอบๆบ้าน แม่กัสเพิ่งเดินเข้าบ้านมาก็ตกใจ ถามว่า เกิดไรขึ้น!?!? พวกเราเลยยกมือไหว้ สวัสดีค่ะ กัสเลยบอกว่านี่เพื่อนๆมาจากเมืองไทย กำลังจะพาไป rock climbing แม่กัสเลยเข้ามาทักทายและแนะนำตัว แล้วก็เอ็นดูพวกเรา บอกว่าคราวหลังมาเที่ยวบ้านเค้าอีกนะ
นี่เป็นส่วนนึงของบ้านกัส
แล้วเราก็เปลี่ยนกางเกงซึ่งเป็นกางเกงของกัสและพี่ชายกัสชื่อว่ากาย เปลี่ยนชุดเสร็จเราก็ไป rock climbing กัน กายกับกัสเอารถไปคนละคัน ซึ่งแน่นอนว่าแพรวกับแจนเลือกที่จะนั่งรถไปกับกัส ส่วนพี่พีกับตะวันนั่งรถไปกับกาย พอถึงที่หมายเราก็ปีนก้อนหินกัน ฟังดูแปลกเนอะ55555 กัสก็ยังคงนิ่งๆเหมือนเดิมส่วนใหญ่จะเป็นกายมากกว่าที่ชวนพวกเราคุย คือกัสกับกายพาไปปีนหินก้อนแรกซึ่งมันง่ายสำหรับพวกเขามาก แต่ยากสำหรับพวกเรา คือขึ้นได้แต่ลงไม่ได้ ตอนเราปีนขึ้นกำลังจะถึงยอดพอดีแต่ปีนขึ้นไม่ได้ กัสยื่นมือมาดึงขึ้นไป นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้จับมือกัส พอตอนลงมันต้องกระโดดลงมาแต่เราไม่กล้าอ่ะ กายก็แบบโดดลงมาเลยไม่ต้องกลัว กายก็เอาเท้าเขี่ยๆเศษกิ่งไม้ที่พื้นออกให้โดดลงมาจะได้ไม่เจ็บ แต่ระหว่างที่โดดลงมากิ่งไม้มันเกี่ยวแขนเราเลือดไหลซิบๆ ด้วยความแรดเดินไปหากัสซึ่งรู้อยู่ว่าเขาเป็นเกย์ แต่ก็อยากอ่อย เลยเดินไปบอกกัสว่า “ดูดิเลือดออกเลย เจ็บมาก” กัสหันมองแล้วกัสก็เปิดขากัสให้ดู โอ้โหววว เลือดออกเยอะกว่ากูอีก แผลใหญ่กว่าด้วย 5555555 เราได้แต่ยิ้มแล้วเดินออกมา
หินก้อนนี้ที่เค้าว่าปีนง่าย
ลองแล้ว ไม่ง่ายเลย
หลังจากได้แผล กัสกับกายก็เดินไปยังก้อนหินที่สูงที่สุดและปีนยากที่สุด แล้วให้ปีนอ่ะ เด็กไทยตัวเล็กๆจะทำได้ไง พวกเราปีนกันแบบไม่มีอุปกรณ์เซฟเลย ไม่มีสลิง ไม่มีรองเท้าปีนเขา มีแค่เบาะเล็กๆรองเวลาตกลงมา ช่วยได้เยอะเลยค่ะกัส (ประชด) กัสกับกายก็ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาหลังจากนั้นก็ถึงเวลาของพวกเราค่ะ คือต้องอธิบายก่อนว่าเวลาปีนอ่ะเราจะต้องเอามือกับเท้ายึดจับกับหินที่มันเป็นร่องเป็นปุ่ม คือยึดไว้ไม่ให้ตกแล้วหินก้อนนี้ที่เรามาปีนคือมันค่อนข้างเรียบอ่ะ แต่สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงยอดจนได้ ก็ถ่ายรูป กินลมชมวิวซักพัก ก็ถึงเวลาลง ทุกคนลงไปแล้วเหลือแพรวได้ลงคนสุดท้าย โหหหห คิดถึงหน้าพ่อแม่มาก สวดมนต์เลยค่ะ มันน่ากลัวมาก ระหว่างทางปีนลงเราก็ต้องควานหาปุ่นหาร่อง แต่ทางที่แพรวปีนลงมามันเรียบมากมันไม่มีร่องให้เหยียบเลย มือก็ลื่น ตอนนั้นคิดว่าอีกนิดนึงจะไม่ไหวแล้ว ถ้ามือลื่นคือตกลงไปพิการแน่นอน อยู่ๆกัสปีนขึ้นมาช่วยค่ะ กัสเอามือมารองเป็นฐานให้เราเหยียบลงไป ถ้าช่วงไหนมีร่องกัสก็จะจับขาเราให้ไปอยู่ในร่องเพราะเราไม่สามารถมองเห็นร่องได้ ถ้าช่วงไหนไม่มีร่องกัสก็เอามือมารองให้ยืนบนมือ จนลงมาถึงข้างล่างได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวกับกัสแล้วก็ประทับใจมาก ทำให้จากตอนแรกก็ชอบอยู่แล้วยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก
รูปคู่รูปแรก
กายคือคนที่ใส่เสื้อสีน้ำตาล ส่วนเกงเกงที่พวกเราใส่อยู่ก็ของกัสหมดเลย
พอเสร็จจากการ rock climbing เราก็พากัสไปกินร้านอาหารไทยที่เราเคยมากินตอนที่มาถึงอเมริกาวันแรกๆ เจ้าของร้านใจดีมากกกกก ไม่เคยคิดเงินพวกเราเลย แถมยังทำกับข้าวให้กลับไปกินที่โรงแรมด้วย วันนี้พากัสกับกายมากินข้าว ป้าที่ร้ายอาหารไทยก็แซวว่าพาแฟนมากินหรอ เราเลยบอกว่า อนาคตไม่แน่ค่ะ555555 แรดจังวะ ก็กินกันเสร็จกัสก็พาไปส่งที่โรงแรม ระหว่างทางด้วยความสงสัยว่านางเป็นเกย์รึป่าว เลยถามตรงๆเลยค่ะ แต่ก็ปรึกษากับแจนนะว่าจะถามดีมั้ย จะเสียมารยาทรึป่าว คือมันเสียมารยาทอยู่แล้วแหละ แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าเลยตัดสินใจถาม
แพรว : Do you have girlfriend?
กัส : ไม่มี
แพรว : Do you have boyfriend?
กัส : โนววววว แล้วนางก็ขำ นางก็ถามต่อว่าแล้วพวกยูล่ะ มีแฟนมั้ย
แจน : แจนมี พี่พีมี(ตอนนี้โสดละ) ตะวันไม่มี แพรวก็ไม่มี
พอรู้ว่าไม่มีแฟนนี่ยิ้มเลย
แล้วก็คุยกันเรื่อยๆจนมาถึงโรงแรม ก็แยกย้ายกันไปนอน คือตอนนั้นมือถือแพรวโปรหมดเลยโทรหรือส่งข้อความไม่ได้ ว่าจะส่งไปขอบคุณกัสซะหน่อย เฟสบุคกัสก็ไม่เล่น อินสตาแกรมก็ไม่เล่น เฮ้ออออ ตอนอยู่ที่โรงแรมก็ไม่เคยได้เจอกัสหรอก ต้องนัดกันทางมือถือ แต่คือเราโปรหมดทำไงล่ะคะโทรหากัสไม่ได้เลยไปเติมโปรจ้า คือก่อนหน้านี้กัสจะติดต่อผ่านมือถือแจน หึหึ อิจฉานางเลยต้องรีบเติมโปร เติมโปรเสร็จก็ไม่รอช้า นัดเที่ยวต่อเลย …….
ปล1. ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอเมริกา เรื่อง Work and travel ถามได้เน้อออ
ปล2. ยังมีต่ออีกหลาย Part โปรดติดตามตอนต่อไป
การไปอเมริกาครั้งแรก ทำให้ฉันได้เจอกับผู้ชายในฝัน
เราฝันไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่าโตขึ้นมาอยากไปเที่ยวอเมริกา อยากมีแฟนฝรั่งตาสีฟ้า แล้วความฝันนั้นก็เกือบจะเป็นจริง
คือเราได้มีโอกาสไปอเมริกา เมื่อพฤษภาคมปี 2558 ไปกับโครงการ Work and travel ไปกัน 3 เดือน มีเพื่อนคนไทยไปอีก 3 คน
1.มีพี่พี (พี่สาวแท้ๆของเราเอง เป็นทอม)
2.ตะวัน(เป็นทอมที่หน้าตาหน้ารักมาก)
3. แจน(ผู้หญิงสวยและนิสัยตรงข้ามกับหน้าตา) **รูปส่วนใหญ่ถ่ายโดยไอโฟน 6 ของแจน
4.ส่วนเราชื่อแพรว
ตามรูปเลย จากซ้ายไปขวา
พวกเราได้ไปรัฐ Colorado เมือง Durango พี่พี ตะวัน แพรว บินวันเดียวกัน แต่พี่พีกับตะวันได้ไปไฟท์เดียวกัน ส่วนแพรวบินคนเดียว แจนบินตามไปทีหลัง เรา 4 คนรู้จักกันตั้งแต่อยู่ที่ไทยแล้ว รู้จักกันตอนมาปฐมนิเทศก่อนจะบินไปอเมริกาแหละค่ะ แต่ไม่ค่อยสนิทกัน เอาเป็นว่าเริ่มเล่าตอนไปอยู่อเมริกาเลยละกัน
PART 1
พวกเราไปทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก็มีเพื่อนที่มาจากโปแลนด์ซึ่งมากับโครงการ Work and travel เหมือนกันแต่เป็นของโปแลนด์ นางชื่อว่าโอล่า (คนกลาง)
พวกเราได้นอนห้องเดียวกัน เอาจริงๆตอนแรกก็ไม่ค่อยชอบนางเท่าไหร่ แต่จริงๆแล้วโอล่านิสัยดี โอล่าบอกว่าเดือนหน้าจะมีเพื่อนคนนึงมาทำงานด้วย ชื่อโอก้า มากับWork and travel โปแลนด์เหมือนกัน เราทำงานได้ซักพักก็ต้องแยกห้องกันเพราะหัวหน้าทำห้องให้พวกเราใหม่ซึ่งอยู่ชั้นใต้ดิน(พวกเราพักที่โรงแรมที่เราทำงานเลย) แพรวนอนกับพี่พี ตะวันนอนกับแจน โอล่านอนกับโอก้าแต่โอก้ายังไม่ได้บินมาโอล่าเลยต้องนอนคนเดียว
เราทำงานกันไปได้เกือบ 1 เดือนก็มีผู้ชายคนนึงมาสมัครงาน วันนั้นพวกแพรวก็ไปทำงาน เข้าห้องสแกนนิ้วปกติ แล้วเจอผู้ชายฝรั่งคนนึงนั่งกรอกใบสมัครอยู่ หัวหน้าเลยแนะนำให้รู้จักบอกว่าเด็กใหม่จะมาทำอาหารเช้าให้โรงแรม ผู้ชายคนนั้นหันมายิ้มหวานให้ เขาชื่อกัสค่ะ พอเราเห็นรอยยิ้มแล้วแบบสะกิดแจนเลยค่ะ แต่อีแจนเคลิ้มไปแล้วค่ะ แหมมม เร็วกว่ากูอีก 555555 ก็แนะนำตัวอะไรกันไปเรียบร้อย พอเลิกงานเย็นวันนั้นก็มานั่งเม้ามอยกันเรื่องกัส คือพูดจริงๆนะตั้งแต่เท้าก้าวลงพื้นที่อเมริกายังไม่เคยเจอฝรั่งคนไหนน่ารักเท่ากัสมาก่อน จริงๆกัสไม่ใช่ผู้ชายหล่อ แต่กัสเป็นคนหน้าตาน่ารัก จิ้มลิ้ม กัสเป็นคนที่ตาสีฟ้า ถ้าใส่เสื้อเขียวตาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียว ใส่เสื้อเทาตาก็ออกเทาๆ คือตาหวานมากกกกกกก ขนตางอน ปากเล็กๆ จมูกโด่งๆ สายตาเวลากัสมองนะ โอ้โหววววว ละลาย ตัวจริงหน้าตากัสจะคล้ายๆกับ กัปตันอเมริกา ตอนที่กล้ามยังไม่ใหญ่ แต่บุคลิกดูนิ่งๆไม่เหมือนฝรั่งคนอื่นๆ ดูขี้อาย เรา 4 คนเลยแอบเม้ากันว่านางเป็นเกย์ค่ะ หลังจากที่กัสมาสมัครงานก็ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะกัสมาทำงานตี 5 เราทำงาน 9โมง คิดว่ากัสลาออกแล้วด้วยซ้ำ อยู่มาวันนึงพี่พีกับตะวันต้องทำงานแต่แพรวกับแจนได้หยุด ก็เลยนัดกันไปธนาคาร กำลังเดินไปรอรถบัสก็เจอกัสเอาขยะออกมาทิ้ง ก็เลยทักกัน
แพรว : เอ้ากัส ยังไม่เลิกงานหรอ
กัส : ใกล้จะเสร็จแล้ว แล้วนี่พวกยูจะไปไหนกัน
แจน : ไปธนาคาร
กัส : แล้วเสร็จแล้วจะไปไหนต่อมั้ย
แพรว : (ด้วยความแรดและปลื้มกัสมากเลยอ่อยเบาๆ) อ่อ ก็ยังไม่รู้เลย อยากไปเที่ยวแต่ไม่มีรถยนต์ เลยไปไหนไม่ได้เลย ไปได้แค่ Walmart กับ Downtown
กัส : งั้นเย็นนี้ไปเที่ยวกันมั้ย รอเพื่อนๆยูเลิกงานละไปเที่ยวกัน
แพรว : โอเคเลย ไปไหนกันดี
กัส : ไป rock climbing มั้ย
แพรว : โอเคเลย งั้นเดี๋ยวขอเบอร์ไว้ได้มั้ย
กัส : ได้ๆ ถ้าพวกยูพร้อมแล้วโทรมาหาไอนะ เดี๋ยวไอมารับ
แพรว แจน : โอเค แต้งกิ้วโซมัชนะยู
หลังจากนั้นก็โทให้กัสมารับ ด้วยความที่เป็นครั้งแรกของพวกเราที่จะได้ออกไปเที่ยวไกลๆ แต่ละคนเลยแต่งตัวจัดเต็ม เรานี่ปากแดงกางเกงดิสโก้เลยจ้า เพื่อนคนอื่นก็ไม่เบา55555 พอกัสมารับที่โรงแรมกัสก็มองหัวจรดเท้าแล้วถามว่า
กัส : พวกยูจะใส่ชุดนี้ไป rock climbing จริงๆหรอ ไม่มีกางเกงขาสั้นหรอ มันจะสะดวกกว่านะ
เรา 4 คน : ไม่มีอ่ะ
กัส : งั้นเดี๋ยวไอพาไปเปลี่ยนชุดที่บ้านไปนะ
พอไปถึงบ้านกัส อู้หูววววว บ้านสวยจัง ดูรวย ก็เดินชมรอบๆบ้าน แม่กัสเพิ่งเดินเข้าบ้านมาก็ตกใจ ถามว่า เกิดไรขึ้น!?!? พวกเราเลยยกมือไหว้ สวัสดีค่ะ กัสเลยบอกว่านี่เพื่อนๆมาจากเมืองไทย กำลังจะพาไป rock climbing แม่กัสเลยเข้ามาทักทายและแนะนำตัว แล้วก็เอ็นดูพวกเรา บอกว่าคราวหลังมาเที่ยวบ้านเค้าอีกนะ
นี่เป็นส่วนนึงของบ้านกัส
แล้วเราก็เปลี่ยนกางเกงซึ่งเป็นกางเกงของกัสและพี่ชายกัสชื่อว่ากาย เปลี่ยนชุดเสร็จเราก็ไป rock climbing กัน กายกับกัสเอารถไปคนละคัน ซึ่งแน่นอนว่าแพรวกับแจนเลือกที่จะนั่งรถไปกับกัส ส่วนพี่พีกับตะวันนั่งรถไปกับกาย พอถึงที่หมายเราก็ปีนก้อนหินกัน ฟังดูแปลกเนอะ55555 กัสก็ยังคงนิ่งๆเหมือนเดิมส่วนใหญ่จะเป็นกายมากกว่าที่ชวนพวกเราคุย คือกัสกับกายพาไปปีนหินก้อนแรกซึ่งมันง่ายสำหรับพวกเขามาก แต่ยากสำหรับพวกเรา คือขึ้นได้แต่ลงไม่ได้ ตอนเราปีนขึ้นกำลังจะถึงยอดพอดีแต่ปีนขึ้นไม่ได้ กัสยื่นมือมาดึงขึ้นไป นั่นเป็นครั้งแรกที่ได้จับมือกัส พอตอนลงมันต้องกระโดดลงมาแต่เราไม่กล้าอ่ะ กายก็แบบโดดลงมาเลยไม่ต้องกลัว กายก็เอาเท้าเขี่ยๆเศษกิ่งไม้ที่พื้นออกให้โดดลงมาจะได้ไม่เจ็บ แต่ระหว่างที่โดดลงมากิ่งไม้มันเกี่ยวแขนเราเลือดไหลซิบๆ ด้วยความแรดเดินไปหากัสซึ่งรู้อยู่ว่าเขาเป็นเกย์ แต่ก็อยากอ่อย เลยเดินไปบอกกัสว่า “ดูดิเลือดออกเลย เจ็บมาก” กัสหันมองแล้วกัสก็เปิดขากัสให้ดู โอ้โหววว เลือดออกเยอะกว่ากูอีก แผลใหญ่กว่าด้วย 5555555 เราได้แต่ยิ้มแล้วเดินออกมา
หินก้อนนี้ที่เค้าว่าปีนง่าย
ลองแล้ว ไม่ง่ายเลย
หลังจากได้แผล กัสกับกายก็เดินไปยังก้อนหินที่สูงที่สุดและปีนยากที่สุด แล้วให้ปีนอ่ะ เด็กไทยตัวเล็กๆจะทำได้ไง พวกเราปีนกันแบบไม่มีอุปกรณ์เซฟเลย ไม่มีสลิง ไม่มีรองเท้าปีนเขา มีแค่เบาะเล็กๆรองเวลาตกลงมา ช่วยได้เยอะเลยค่ะกัส (ประชด) กัสกับกายก็ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาหลังจากนั้นก็ถึงเวลาของพวกเราค่ะ คือต้องอธิบายก่อนว่าเวลาปีนอ่ะเราจะต้องเอามือกับเท้ายึดจับกับหินที่มันเป็นร่องเป็นปุ่ม คือยึดไว้ไม่ให้ตกแล้วหินก้อนนี้ที่เรามาปีนคือมันค่อนข้างเรียบอ่ะ แต่สุดท้ายก็ขึ้นไปถึงยอดจนได้ ก็ถ่ายรูป กินลมชมวิวซักพัก ก็ถึงเวลาลง ทุกคนลงไปแล้วเหลือแพรวได้ลงคนสุดท้าย โหหหห คิดถึงหน้าพ่อแม่มาก สวดมนต์เลยค่ะ มันน่ากลัวมาก ระหว่างทางปีนลงเราก็ต้องควานหาปุ่นหาร่อง แต่ทางที่แพรวปีนลงมามันเรียบมากมันไม่มีร่องให้เหยียบเลย มือก็ลื่น ตอนนั้นคิดว่าอีกนิดนึงจะไม่ไหวแล้ว ถ้ามือลื่นคือตกลงไปพิการแน่นอน อยู่ๆกัสปีนขึ้นมาช่วยค่ะ กัสเอามือมารองเป็นฐานให้เราเหยียบลงไป ถ้าช่วงไหนมีร่องกัสก็จะจับขาเราให้ไปอยู่ในร่องเพราะเราไม่สามารถมองเห็นร่องได้ ถ้าช่วงไหนไม่มีร่องกัสก็เอามือมารองให้ยืนบนมือ จนลงมาถึงข้างล่างได้อย่างปลอดภัย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวกับกัสแล้วก็ประทับใจมาก ทำให้จากตอนแรกก็ชอบอยู่แล้วยิ่งชอบมากขึ้นไปอีก
รูปคู่รูปแรก
กายคือคนที่ใส่เสื้อสีน้ำตาล ส่วนเกงเกงที่พวกเราใส่อยู่ก็ของกัสหมดเลย
พอเสร็จจากการ rock climbing เราก็พากัสไปกินร้านอาหารไทยที่เราเคยมากินตอนที่มาถึงอเมริกาวันแรกๆ เจ้าของร้านใจดีมากกกกก ไม่เคยคิดเงินพวกเราเลย แถมยังทำกับข้าวให้กลับไปกินที่โรงแรมด้วย วันนี้พากัสกับกายมากินข้าว ป้าที่ร้ายอาหารไทยก็แซวว่าพาแฟนมากินหรอ เราเลยบอกว่า อนาคตไม่แน่ค่ะ555555 แรดจังวะ ก็กินกันเสร็จกัสก็พาไปส่งที่โรงแรม ระหว่างทางด้วยความสงสัยว่านางเป็นเกย์รึป่าว เลยถามตรงๆเลยค่ะ แต่ก็ปรึกษากับแจนนะว่าจะถามดีมั้ย จะเสียมารยาทรึป่าว คือมันเสียมารยาทอยู่แล้วแหละ แต่ความอยากรู้อยากเห็นมันมีมากกว่าเลยตัดสินใจถาม
แพรว : Do you have girlfriend?
กัส : ไม่มี
แพรว : Do you have boyfriend?
กัส : โนววววว แล้วนางก็ขำ นางก็ถามต่อว่าแล้วพวกยูล่ะ มีแฟนมั้ย
แจน : แจนมี พี่พีมี(ตอนนี้โสดละ) ตะวันไม่มี แพรวก็ไม่มี
พอรู้ว่าไม่มีแฟนนี่ยิ้มเลย
แล้วก็คุยกันเรื่อยๆจนมาถึงโรงแรม ก็แยกย้ายกันไปนอน คือตอนนั้นมือถือแพรวโปรหมดเลยโทรหรือส่งข้อความไม่ได้ ว่าจะส่งไปขอบคุณกัสซะหน่อย เฟสบุคกัสก็ไม่เล่น อินสตาแกรมก็ไม่เล่น เฮ้ออออ ตอนอยู่ที่โรงแรมก็ไม่เคยได้เจอกัสหรอก ต้องนัดกันทางมือถือ แต่คือเราโปรหมดทำไงล่ะคะโทรหากัสไม่ได้เลยไปเติมโปรจ้า คือก่อนหน้านี้กัสจะติดต่อผ่านมือถือแจน หึหึ อิจฉานางเลยต้องรีบเติมโปร เติมโปรเสร็จก็ไม่รอช้า นัดเที่ยวต่อเลย …….
ปล1. ใครอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอเมริกา เรื่อง Work and travel ถามได้เน้อออ
ปล2. ยังมีต่ออีกหลาย Part โปรดติดตามตอนต่อไป