สามัคคีไทยเสนอ2ข้อให้รบ.หากต้องอุ้มบินไทย
https://www.innnews.co.th/politics/news_665406/
ดร.
รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวแสดงความเห็นถึงกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ว่า การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติที่มีกระทรวงการคลังหรือรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นหลักซึ่งสังคมต่างคาดหวังว่าการบินไทยจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่ให้ผลตอบแทนหรือสร้างกำไรสูงแก่ประเทศ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม การบินไทยขาดทุนต่อเนื่องกันหลายปี
ดังนั้น ตนเองและพรรคสามัคคีไทยจึงมีข้อเสนอแนะ หากรัฐบาลจำเป็นต้องอุ้มการบินไทยแม้จะขาดทุนเท่าฟ้าต่อไปดังนี้
1. ฝ่ายการเมืองต้องห้ามแทรกแซงกิจการ และการบริหารงานภายในของการบินไทย เพื่อให้บริษัทได้มีการดำเนินการด้วยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพด้วยตนเอง
2. รัฐจำต้องปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ภาคเอกชน และทำการเพิ่มทุน โดยให้ภาคเอกชนที่มีศักยภาพ เข้ามามีบทบาทในบริหารการบินไทย
อย่างไรก็ตาม หวังว่าปัญหาที่สั่งสมมายาวนาน ของการบินไทยคงได้รับการแก้ไข และหลังจากนี้ต้องมองภาพอนาคตข้างหน้า ภายใต้การบริหารของภาคเอกชนมืออาชีพที่จะช่วยฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติให้กลับมารักคุณเท่าฟ้าได้อีกครั้ง
'สมเจตน์' ป้อง 4 กุมาร เตือนเล่นเกมเขย่าเก้าอี้รมต.ทำรบ.แตก การเมืองถอยกลับระบอบน้ำเน่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2170491
“สมเจตน์” ชี้เล่นเกมเขย่าเก้าอี้รมต.เสี่ยงทำพรรคการเมืองแตก สุ่มเสี่ยงได้การเมืองกลับสู่ระบอบน้ำเน่า
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พล.อ.
สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก ส.ว. กล่าวว่า กระเเสข่าวการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ที่อยากให้มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ขณะที่บ้านเมืองกำลังมีการเเพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ไม่ว่าจะเป็นปล่อยข่าวของฝ่ายกลัวออกจากตำแหน่งหรือฝ่ายที่ต้องการตำแหน่ง ตนคิดว่าเกมการเมืองในภาวะแบบนี้อันตรายมาก สุ่มเสี่ยงทำให้พรรคที่เคลื่อนไหวสั่นคลอน แตกแยกโดยธรรมชาติของนักการเมืองส่วนใหญ่ เมื่อได้เป็น ส.ส.ก็ต้องจับกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจต่อรองตำแหน่งทางการเมือง ส่วนหัวหน้ากลุ่มก็ได้ผลตอบแทนด้วยตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเข้าไปหาผลประโยชน์ มาดูแล อุปถัมภ์ให้ลูกทีม
ทั้งนี้โดยความเห็นส่วนตัวมองว่า กลุ่มรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นส.ส. ที่สื่อมักเรียกว่ากลุ่ม 4 กุมาร เขามุ่งจะเข้ามาทำงาน เขาไม่ใช่นักการเมือง เขาไม่มีฐาน ส.ส. รองรับ จึงไม่ทราบธรรมชาติของนักการเมืองว่าต้องการอะไร ถึงทราบก็ทำไม่เป็นเพราะไม่เคยทำ เขาจึงไม่ค่อยสนใจ ส.ส. ซึ่งมีความสำคัญในระบบรัฐสภา และพวกเขาเองก็ไม่ได้เป็น ส.ส.เลยแม้แต่คนเดียว อันเป็นจุดอ่อนยิ่งของกลุ่มนี้ จึงมีโอกาสสูงอาจจะถูกผลักดันออกจากตำแหน่งเมื่อวิกฤตผ้านพ้นไป เว้นแต่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ยินยอม เพราะพล.อ.
ประยุทธ์ จะมีอำนาจต่อรองสูง ด้วยเหตุว่าในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น พล.อ.
ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯได้เพียงคนเดียว หากพล.อ.ประยุทธ์ เบื่อหน่าย ถอดใจลาออก ก็ต้องมีเฟ้นหานายกฯคนใหม่ ซึ่งตำแหน่งนายกฯต้องตกในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะภูมิใจไทย (ภท.) หรือหากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พปชร.ก็จะแตกเป็นเสี่ยง ในที่สุดการเมืองไทยก็กลับไปสู่ระบบน้ำเน่าเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปเพียงหัว เเต่ทุกสิ่ง ทุกอย่างเหมือนเดิม ซึ่งจะดูดีกว่าระบอบทักษิณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยสรุปเวลาผ่านเกือบ 20 ปี การเมืองเหมือนเดิม ไม่มีการปฏิรูปใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น
JJNY : สามัคคีไทยเสนอ2ข้อหากต้องอุ้มบินไทย/สมเจตน์ป้อง4กุมาร/นับพันบุกทวงสิทธิ์เยียวยา คิวแรก5 ทุ่ม/ไทยติดเชื้อเพิ่ม 1
https://www.innnews.co.th/politics/news_665406/
ดร.รยุศด์ บุญทัน ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสามัคคีไทย กล่าวแสดงความเห็นถึงกรณีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่อาจจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการการบินไทย ว่า การบินไทยในฐานะสายการบินแห่งชาติที่มีกระทรวงการคลังหรือรัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นหลักซึ่งสังคมต่างคาดหวังว่าการบินไทยจะเป็นรัฐวิสาหกิจที่ให้ผลตอบแทนหรือสร้างกำไรสูงแก่ประเทศ แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม การบินไทยขาดทุนต่อเนื่องกันหลายปี
ดังนั้น ตนเองและพรรคสามัคคีไทยจึงมีข้อเสนอแนะ หากรัฐบาลจำเป็นต้องอุ้มการบินไทยแม้จะขาดทุนเท่าฟ้าต่อไปดังนี้
1. ฝ่ายการเมืองต้องห้ามแทรกแซงกิจการ และการบริหารงานภายในของการบินไทย เพื่อให้บริษัทได้มีการดำเนินการด้วยบุคลากรที่มีประสิทธิภาพด้วยตนเอง
2. รัฐจำต้องปรับลดสัดส่วนการถือหุ้นให้ภาคเอกชน และทำการเพิ่มทุน โดยให้ภาคเอกชนที่มีศักยภาพ เข้ามามีบทบาทในบริหารการบินไทย
อย่างไรก็ตาม หวังว่าปัญหาที่สั่งสมมายาวนาน ของการบินไทยคงได้รับการแก้ไข และหลังจากนี้ต้องมองภาพอนาคตข้างหน้า ภายใต้การบริหารของภาคเอกชนมืออาชีพที่จะช่วยฟื้นฟูสายการบินแห่งชาติให้กลับมารักคุณเท่าฟ้าได้อีกครั้ง
'สมเจตน์' ป้อง 4 กุมาร เตือนเล่นเกมเขย่าเก้าอี้รมต.ทำรบ.แตก การเมืองถอยกลับระบอบน้ำเน่า
https://www.matichon.co.th/politics/news_2170491
“สมเจตน์” ชี้เล่นเกมเขย่าเก้าอี้รมต.เสี่ยงทำพรรคการเมืองแตก สุ่มเสี่ยงได้การเมืองกลับสู่ระบอบน้ำเน่า
เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิก ส.ว. กล่าวว่า กระเเสข่าวการเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ที่อยากให้มีการปรับเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ขณะที่บ้านเมืองกำลังมีการเเพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น ไม่ว่าจะเป็นปล่อยข่าวของฝ่ายกลัวออกจากตำแหน่งหรือฝ่ายที่ต้องการตำแหน่ง ตนคิดว่าเกมการเมืองในภาวะแบบนี้อันตรายมาก สุ่มเสี่ยงทำให้พรรคที่เคลื่อนไหวสั่นคลอน แตกแยกโดยธรรมชาติของนักการเมืองส่วนใหญ่ เมื่อได้เป็น ส.ส.ก็ต้องจับกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจต่อรองตำแหน่งทางการเมือง ส่วนหัวหน้ากลุ่มก็ได้ผลตอบแทนด้วยตำแหน่งทางการเมือง เพื่อเข้าไปหาผลประโยชน์ มาดูแล อุปถัมภ์ให้ลูกทีม
ทั้งนี้โดยความเห็นส่วนตัวมองว่า กลุ่มรัฐมนตรีที่ไม่ได้เป็นส.ส. ที่สื่อมักเรียกว่ากลุ่ม 4 กุมาร เขามุ่งจะเข้ามาทำงาน เขาไม่ใช่นักการเมือง เขาไม่มีฐาน ส.ส. รองรับ จึงไม่ทราบธรรมชาติของนักการเมืองว่าต้องการอะไร ถึงทราบก็ทำไม่เป็นเพราะไม่เคยทำ เขาจึงไม่ค่อยสนใจ ส.ส. ซึ่งมีความสำคัญในระบบรัฐสภา และพวกเขาเองก็ไม่ได้เป็น ส.ส.เลยแม้แต่คนเดียว อันเป็นจุดอ่อนยิ่งของกลุ่มนี้ จึงมีโอกาสสูงอาจจะถูกผลักดันออกจากตำแหน่งเมื่อวิกฤตผ้านพ้นไป เว้นแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไม่ยินยอม เพราะพล.อ.ประยุทธ์ จะมีอำนาจต่อรองสูง ด้วยเหตุว่าในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นั้น พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นนายกฯได้เพียงคนเดียว หากพล.อ.ประยุทธ์ เบื่อหน่าย ถอดใจลาออก ก็ต้องมีเฟ้นหานายกฯคนใหม่ ซึ่งตำแหน่งนายกฯต้องตกในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะภูมิใจไทย (ภท.) หรือหากยุบสภาเลือกตั้งใหม่ พปชร.ก็จะแตกเป็นเสี่ยง ในที่สุดการเมืองไทยก็กลับไปสู่ระบบน้ำเน่าเหมือนเดิม ที่เปลี่ยนไปเพียงหัว เเต่ทุกสิ่ง ทุกอย่างเหมือนเดิม ซึ่งจะดูดีกว่าระบอบทักษิณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยสรุปเวลาผ่านเกือบ 20 ปี การเมืองเหมือนเดิม ไม่มีการปฏิรูปใดๆ เกิดขึ้นทั้งสิ้น