เรื่อง….ต้นไม้วิเศษกับหญิงสาวผู้หลงทาง
บทนำ
เช้าวันสดใส เสียงนกร้องกระซิบกันไปมา แสงแดดอุ่นๆสาดส่องมายังห้องนอนผ่านหน้าต่างกระจกใสที่เปิดอ่าเล็กน้อย เป็นเหตุให้สาวน้อยร่างบางตื่นจากการหลับใหลบนเตียงหนานุ่มน่านอน เพราะแสงแดดดันส่องลงที่หน้าของเธอแบบพอดิบพอดี
“อ่า…..เช้าแล้วหรอ ไม่อยากตื่นเลย….” หญิงสาวพูดกับตัวเองแกมบ่นเล็กน้อย ก่อนจะลุกจากเตียงนอนและเดินตรงไปยังห้องน้ำในห้องนอนด้วยความงัยเงีย
เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ หญิงสาวได้เดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกตรงอ่างล้างมือ เผยให้เห็นหญิงสาวร่างบางในชุดนอนสีอ่อน ใบหน้าหวานรูปไข่ ผิวขาวใสอมชมพูเหมือนผิวเด็ก ในตาโตเป็นประกาย ริมฝีปากอิมได้รูป คำคอเรียวและรูปร่างเพียวระหง ผมสีดำแกมน้ำตาลยาวสวยถึงกลางหลัง
หญิงสาวมองตัวเองในกระจกและเผยรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อได้เห็นตัวเองที่เหมือนดั่งเทพีสร้างมาก็ไม่ปราน ชื่อของเธอคือ “ฮันนา” หญิงสาวที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา เงินทองชื่อเสียง แต่ของเหล่านั้นไม่เคยทำให้เธอพอใจได้เลย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งของที่เพียบพร้อม ย่อมต้องมาพร้อมกับผู้คนที่เห็นแก่ตัว เหล่าคนที่หวังในตัวเธอและเงินทองของเธอ นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอต้องหนีไปอยู่ในที่ไกลๆ แต่ไม่ได้ไกลมาก แค่ให้พ้นจากผู้คนเหล่านั้น ทำให้ฮันนาต้องมาอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวแต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาไปซะที่เดียว เป็นบ้านที่เธอคุ้นเคยตั้งแต่เด็กๆ และแอบหนี้มาที่นี้บ่อยเป็นบางครั้งบางคราว เพราะบ้านหลังนี้ล่อมรอบไปด้วยต้นไม้นาๆพันธุ์ ที่เป็นแหล่งดึงดูดเหล่านกน้อยใหญ่ให้มาทำลังและอยู่อาศัย จึงมีเสียงขับขานของนกน้อยร้องแทบจะตลอด
ฮันนาล้างหน้าล้างตาพร้อมกับน้ำล้างเนื้อตัวเสร็จ ก็ลงไปที่ชั้นข้างล่างของบ้าน ที่นี้เป็นบ้านหลังเล็กๆไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่ก็หลังใหญ่พอให้ครอบครัวนึงอยู่อาศัยได้สบาย ฮันนาได้บ้านหลังนี้มาจากคุณปู่อย่างลับๆก่อนที่ท่านจะเสีย เป็นบ้านในสมัยที่คุณปู่ของเธอสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ๆ ก่อนจะกลายเป็นผู้บริหารธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งต่อมาก็มีคุณพ่อและพี่ชายของเธอดูแลแทนคุณปู่ที่เสีย บ้านหลังนี้นอกจากคุณปู่คุณย่าแล้ว ก็มีเพียงเธอที่เป็นหลานสาวสุดที่รักเท่านั้นที่รู้ ที่นี้จึงกลายเป็นที่หลบภัยจากสังคมข้างนอกได้ดีที่เดียว นอกจากแม่บ้านกับคุณลุงคนดูแลสวนดอกไม้ต้นไม้แล้วก็ไม่มีใครเข้าออกอีก เพราะที่แห่งนี้อยู่ต่างจังหวัดในที่ห่างไกลความเจริญไม่ค่อยมีผู้คนรู้เส้นทางนอกจากคนในพื้นที่เท่านั้น
ฮันนาเดินตรงไปที่ครัวและเปิดตู้เย็นหาอะไรลองท้องก่อนจะออกไปเดินเล่นด้านนอกที่เติมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากมาย
เมื่อฮันนาอิ่มท้องแล้ว หญิงสาวก็ออกเดินทางไปตามเส้นทางถนนที่เป็นรอยรถวิ่งผ่านไปเรื่อยๆ โดยทางด้านข้างจะมีเหล่าต้นไม้ดอกไม้สวยๆให้ชื่นชมในธรรมชาติที่สวยงาม
“คุณหนูจะออกไปข้างนอกเหรอครับ ให้ผมนำรถออกมาให้คุณหนูดีไหมครับ..” เสียงของคุณลุงคนดูแลสวนพูดกับฮันนาเมื่อเห็นเธอเดินผ่าน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฮันไปเดินเล่นแถวนี้เดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวบอกกับผู้ดูแลเก่าแก่ของที่นี้ เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่นี้มานานแค่ไหน เพราะตั้งแต่ตอนเด็กที่คุณปู่แอบพาเธอมาที่นี้ ก็เห็นคุณลุงผู้ดูแลคนนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เธอจึงถือว่าคุณลุงคือคนเก่าแก่ของที่นี้ที่ตนต้องให้ความเคารพ
“ถ้างั้นก็…เดินทางดีๆนะครับ” คุณลุงพูดทิ้งท้ายพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะกลับไปทำงานของตนต่อ
ส่วนหญิงสาวก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปในป่าที่อยู่ในมุมมืด เดินเข้าไปเรื่อยๆตามทางที่คุ้นเคย และหยุดยืนตรงต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ ที่เธอไม่รู้ว่าต้นไม้อะไร ถึงจะถามใครต่อใครก็ไม่มีใครรู้ว่านี้คือต้นไม้อะไร “สวัสดี…” หญิงสาวกล่าวคำทักทาย ก่อนจะก้มลงนั่งเอาหลังพิงที่ต้นไม้พร้อมกับหลับตาฟังเพลงลมพัดไปมาให้บรรยากาศที่เงียบสงบ
“สวัสดีเช่นกัน…สาวน้อย” เสียงของผู้ชายที่คุ้นหูของหญิงสาวดังขึ้น เธอบอกไม่ได้ว่าชายคนนี้มีรู้ร่างหน้าตายังไง เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าเขา เธอเพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้น นอกจากน้ำเสียงที่ฟังแล้วเหมือนชายวัยประมาณ 20 ปลายๆ น้ำเสียงที่ฟังดูไพเราะชวนให้หลงใหล เธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลย แม้แต่ชื่อของเขา เธอก็ไม่รู้ เธอรู้เพียงแค่ว่าเขาคืออะไรบางอย่าง ที่อยู่ในต้นใหม่ใหญ่ต้นนี้ และอายุของเขาก็ไม่มีวันแก่ไปกว่านี้อีกเลย
“วันนี้เธอมาเช้านะ มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นหรือเปล่า” ชายหนุ่มกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“วันนี้คือวันเกิดอายุ 25 ปีของฉัน และเป็นวันที่คุณเคยให้สัญญากับฉัน ว่าคุณจะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณให้ฉันรู้” หญิงสาวกล่าวท่อยคำที่ตนคิดไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาทันที แต่ก็ยังคงหลับตาอยู่
“นี่ผ่านมา 15 ปีแล้วสินะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอเธอ ตอนนั้นเธอยังเป็นเพียงเด็กสาวที่เชื่อฟังคำสั่งของคุณตาอยู่เลย” ชายหนุ่มกล่าว
“คุณเคยบอก ว่าเมื่อฉันอายุครบ 25 ปี คุณจะตอบคำถามของฉันว่าคุณคือใคร และเป็นอะไรกันแน่ โดยระหว่างนั้น ถ้าเราสองคนติดต่อกัน คุณห้ามฉันบอกเรื่องคุณหรือต้นไม้ต้นนี้กับใคร และห้ามฉันลืมตาหากฉันจะคุยกับคุณ ฉันทำตามข้อตกลงทุกข้อของคุณแล้ว ถึงตาที่คุณจะต้องทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ได้แล้ว” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังว่าเธอจะร่วงรู้สิ่งที่ค้างคาใจเธอมาตลอดระยะเวลา 15ปี สิ่งที่ไม่ว่าเงินทองก็หาซื้อไม่ได้ นั่นคือความลับของชายผู้ที่อยู่ที่ต้นไม้ใหญ่แห่งนี้
“ได้สิ ฉันจะบอกเธอ แต่นั่นหมายถึง ถ้าเธอรู้ความลับของฉันแล้ว เธอจะต้องกลายมาเป็นเจ้าสาวของฉัน เธอตกลงไหม”
เมื่อฉันว่าง ฉันจึงแต่งนิยาย (1)
บทนำ
เช้าวันสดใส เสียงนกร้องกระซิบกันไปมา แสงแดดอุ่นๆสาดส่องมายังห้องนอนผ่านหน้าต่างกระจกใสที่เปิดอ่าเล็กน้อย เป็นเหตุให้สาวน้อยร่างบางตื่นจากการหลับใหลบนเตียงหนานุ่มน่านอน เพราะแสงแดดดันส่องลงที่หน้าของเธอแบบพอดิบพอดี
“อ่า…..เช้าแล้วหรอ ไม่อยากตื่นเลย….” หญิงสาวพูดกับตัวเองแกมบ่นเล็กน้อย ก่อนจะลุกจากเตียงนอนและเดินตรงไปยังห้องน้ำในห้องนอนด้วยความงัยเงีย
เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ หญิงสาวได้เดินไปหยุดอยู่ที่หน้ากระจกตรงอ่างล้างมือ เผยให้เห็นหญิงสาวร่างบางในชุดนอนสีอ่อน ใบหน้าหวานรูปไข่ ผิวขาวใสอมชมพูเหมือนผิวเด็ก ในตาโตเป็นประกาย ริมฝีปากอิมได้รูป คำคอเรียวและรูปร่างเพียวระหง ผมสีดำแกมน้ำตาลยาวสวยถึงกลางหลัง
หญิงสาวมองตัวเองในกระจกและเผยรอยยิ้มที่มุมปากเมื่อได้เห็นตัวเองที่เหมือนดั่งเทพีสร้างมาก็ไม่ปราน ชื่อของเธอคือ “ฮันนา” หญิงสาวที่มีพร้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา เงินทองชื่อเสียง แต่ของเหล่านั้นไม่เคยทำให้เธอพอใจได้เลย เพราะทุกอย่างที่เกี่ยวกับสิ่งของที่เพียบพร้อม ย่อมต้องมาพร้อมกับผู้คนที่เห็นแก่ตัว เหล่าคนที่หวังในตัวเธอและเงินทองของเธอ นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอต้องหนีไปอยู่ในที่ไกลๆ แต่ไม่ได้ไกลมาก แค่ให้พ้นจากผู้คนเหล่านั้น ทำให้ฮันนาต้องมาอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวแต่ก็ไม่ได้เงียบเหงาไปซะที่เดียว เป็นบ้านที่เธอคุ้นเคยตั้งแต่เด็กๆ และแอบหนี้มาที่นี้บ่อยเป็นบางครั้งบางคราว เพราะบ้านหลังนี้ล่อมรอบไปด้วยต้นไม้นาๆพันธุ์ ที่เป็นแหล่งดึงดูดเหล่านกน้อยใหญ่ให้มาทำลังและอยู่อาศัย จึงมีเสียงขับขานของนกน้อยร้องแทบจะตลอด
ฮันนาล้างหน้าล้างตาพร้อมกับน้ำล้างเนื้อตัวเสร็จ ก็ลงไปที่ชั้นข้างล่างของบ้าน ที่นี้เป็นบ้านหลังเล็กๆไม่ได้หรูหราอะไรมาก แต่ก็หลังใหญ่พอให้ครอบครัวนึงอยู่อาศัยได้สบาย ฮันนาได้บ้านหลังนี้มาจากคุณปู่อย่างลับๆก่อนที่ท่านจะเสีย เป็นบ้านในสมัยที่คุณปู่ของเธอสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ๆ ก่อนจะกลายเป็นผู้บริหารธุรกิจที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ซึ่งต่อมาก็มีคุณพ่อและพี่ชายของเธอดูแลแทนคุณปู่ที่เสีย บ้านหลังนี้นอกจากคุณปู่คุณย่าแล้ว ก็มีเพียงเธอที่เป็นหลานสาวสุดที่รักเท่านั้นที่รู้ ที่นี้จึงกลายเป็นที่หลบภัยจากสังคมข้างนอกได้ดีที่เดียว นอกจากแม่บ้านกับคุณลุงคนดูแลสวนดอกไม้ต้นไม้แล้วก็ไม่มีใครเข้าออกอีก เพราะที่แห่งนี้อยู่ต่างจังหวัดในที่ห่างไกลความเจริญไม่ค่อยมีผู้คนรู้เส้นทางนอกจากคนในพื้นที่เท่านั้น
ฮันนาเดินตรงไปที่ครัวและเปิดตู้เย็นหาอะไรลองท้องก่อนจะออกไปเดินเล่นด้านนอกที่เติมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามมากมาย
เมื่อฮันนาอิ่มท้องแล้ว หญิงสาวก็ออกเดินทางไปตามเส้นทางถนนที่เป็นรอยรถวิ่งผ่านไปเรื่อยๆ โดยทางด้านข้างจะมีเหล่าต้นไม้ดอกไม้สวยๆให้ชื่นชมในธรรมชาติที่สวยงาม
“คุณหนูจะออกไปข้างนอกเหรอครับ ให้ผมนำรถออกมาให้คุณหนูดีไหมครับ..” เสียงของคุณลุงคนดูแลสวนพูดกับฮันนาเมื่อเห็นเธอเดินผ่าน
“ไม่เป็นไรค่ะ ฮันไปเดินเล่นแถวนี้เดี๋ยวเดียวก็กลับแล้ว ขอบคุณนะคะ” หญิงสาวบอกกับผู้ดูแลเก่าแก่ของที่นี้ เธอไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่นี้มานานแค่ไหน เพราะตั้งแต่ตอนเด็กที่คุณปู่แอบพาเธอมาที่นี้ ก็เห็นคุณลุงผู้ดูแลคนนี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เธอจึงถือว่าคุณลุงคือคนเก่าแก่ของที่นี้ที่ตนต้องให้ความเคารพ
“ถ้างั้นก็…เดินทางดีๆนะครับ” คุณลุงพูดทิ้งท้ายพร้อมกับยิ้มให้หญิงสาว ก่อนจะกลับไปทำงานของตนต่อ
ส่วนหญิงสาวก็เดินไปตามทางเรื่อยๆ ก่อนจะเดินเลี้ยวเข้าไปในป่าที่อยู่ในมุมมืด เดินเข้าไปเรื่อยๆตามทางที่คุ้นเคย และหยุดยืนตรงต้นไม้ใหญ่เก่าแก่ ที่เธอไม่รู้ว่าต้นไม้อะไร ถึงจะถามใครต่อใครก็ไม่มีใครรู้ว่านี้คือต้นไม้อะไร “สวัสดี…” หญิงสาวกล่าวคำทักทาย ก่อนจะก้มลงนั่งเอาหลังพิงที่ต้นไม้พร้อมกับหลับตาฟังเพลงลมพัดไปมาให้บรรยากาศที่เงียบสงบ
“สวัสดีเช่นกัน…สาวน้อย” เสียงของผู้ชายที่คุ้นหูของหญิงสาวดังขึ้น เธอบอกไม่ได้ว่าชายคนนี้มีรู้ร่างหน้าตายังไง เพราะเธอไม่เคยเห็นหน้าเขา เธอเพียงแค่ได้ยินเสียงเท่านั้น นอกจากน้ำเสียงที่ฟังแล้วเหมือนชายวัยประมาณ 20 ปลายๆ น้ำเสียงที่ฟังดูไพเราะชวนให้หลงใหล เธอก็ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาอีกเลย แม้แต่ชื่อของเขา เธอก็ไม่รู้ เธอรู้เพียงแค่ว่าเขาคืออะไรบางอย่าง ที่อยู่ในต้นใหม่ใหญ่ต้นนี้ และอายุของเขาก็ไม่มีวันแก่ไปกว่านี้อีกเลย
“วันนี้เธอมาเช้านะ มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นหรือเปล่า” ชายหนุ่มกล่าวกับเธอด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“วันนี้คือวันเกิดอายุ 25 ปีของฉัน และเป็นวันที่คุณเคยให้สัญญากับฉัน ว่าคุณจะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณให้ฉันรู้” หญิงสาวกล่าวท่อยคำที่ตนคิดไว้ตั้งแต่เดินเข้ามาทันที แต่ก็ยังคงหลับตาอยู่
“นี่ผ่านมา 15 ปีแล้วสินะ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันได้เจอเธอ ตอนนั้นเธอยังเป็นเพียงเด็กสาวที่เชื่อฟังคำสั่งของคุณตาอยู่เลย” ชายหนุ่มกล่าว
“คุณเคยบอก ว่าเมื่อฉันอายุครบ 25 ปี คุณจะตอบคำถามของฉันว่าคุณคือใคร และเป็นอะไรกันแน่ โดยระหว่างนั้น ถ้าเราสองคนติดต่อกัน คุณห้ามฉันบอกเรื่องคุณหรือต้นไม้ต้นนี้กับใคร และห้ามฉันลืมตาหากฉันจะคุยกับคุณ ฉันทำตามข้อตกลงทุกข้อของคุณแล้ว ถึงตาที่คุณจะต้องทำตามคำสัญญาที่เคยให้ไว้ได้แล้ว” หญิงสาวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังว่าเธอจะร่วงรู้สิ่งที่ค้างคาใจเธอมาตลอดระยะเวลา 15ปี สิ่งที่ไม่ว่าเงินทองก็หาซื้อไม่ได้ นั่นคือความลับของชายผู้ที่อยู่ที่ต้นไม้ใหญ่แห่งนี้
“ได้สิ ฉันจะบอกเธอ แต่นั่นหมายถึง ถ้าเธอรู้ความลับของฉันแล้ว เธอจะต้องกลายมาเป็นเจ้าสาวของฉัน เธอตกลงไหม”