The Maze เขาวงกตที่น่าทึ่ง

เขาวงกตหิมะ



 Zakopane ซึ่งเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่สวยงามอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ ถึงแม้เมืองแห่งนี้จะมีพื้นที่เพียง 82 ตารางกิโลเมตร แต่มันกลับได้ฉายาว่า “เมืองหลวงฤดูหนาวแห่งโปแลนด์” และเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในช่วงฤดูหนาวของทวีปยุโรปอีกด้วย
จุดเด่นที่สุดของ Zakopane ก็คือการเป็นสถานที่ตั้งของเขาวงกตหิมะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีชื่อว่า Snowlandia

เขาวงกตแห่งนี้มีพื้นที่กว่า 2,500 ตารางเมตร หรือมีขนาดใหญ่กว่าสนามเทนนิสรวมกันถึง 10 สนาม และมีกำแพงสูงถึง 2 เมตรด้วยกัน โดยเขาวงกตทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากก้อนน้ำแข็งมากกว่า 60,000 ก้อน ใช้คนงานจำนวน 50 คนเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนกว่าจะเสร็จสิ้น นอกจากนั้น ภายในเขาวงกตหิมะแห่งนี้ยังมีปราสาทน้ำแข็งที่สูงกว่า 16 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ โดยภายในปราสาทจะมีห้อง และอุโมงค์ต่าง ๆ มากมาย  มีขุมทรัพย์ที่ถูกซ่อนอยู่ภายในปราสาทหิมะ รวมไปถึงรูปปั้นแกะสลักต่าง ๆ ที่สวยงามก็ถูกนำมาจัดแสดงเอาไว้ในปราสาทอีกด้วย

เขาวงกตหิมะถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกในฤดูหนาวปี พ.ศ. 2558/2559 ถือเป็นเขาวงกตหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปีพ.ศ.2561 ได้มีการปรับเพิ่มขนาดพื้นที่ทั้งหมดเป็น 3,000 ตารางเมตรเพื่อการรักษาตำแหน่งให้เป็นเขาวงกตหิมะที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่มา : boredpanda | เรียบเรียงโดย เพชรมายา
Cr.https://board.postjung.com/1212842




สวนหินเขาวงกตเชจู 



สวนหินเขาวงกตเชจู – Jeju Maze Land (메이즈랜드) ซึ่งเป็นสวนเขาวงกตที่สร้างจากหินและไม้มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ความยาวภายในสวนประมาณ 5.3 กิโลเมตร เมื่อมองจากมุมด้านบนก็จะเป็นรูปสัญลักษณ์ของเกาะเชจู การเข้าเล่นที่สวนเขาวงกตนั้นไม่เพียงแค่ได้รับความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนการออกกำลังกายอีกด้วย ครอบครัวที่มีเด็กๆจะชื่นชอบมาก
นอกจากเขาวงกตแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเขาวงกตด้วย ซึ่งมีเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเขาวงกตตั้งแต่เริ่มมีขึ้นบนโลกแห่งนี้
Cr.https://www.chilloutkorea.com/jeju-maze-land/





เขาวงกตพืชพันธุ์ไม้หายาก



ช่วงเริ่มต้นปี 1820 สวน Glendurgan ได้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความชัดเจนของการออกแบบที่มีมานานนับร้อยปี และได้กลายเป็นสถานที่ที่มีทัศนียภาพอันน่าทึ่ง ซึ่งกว่าจะเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ก็ใช้เวลาหลายสิบปี เริ่มต้นการการเป็นสวนในพื้นที่ส่วนตัวของ Alfred Fox และครอบครัวของเขาก็ยังคงรักษาสวนแห่งนี้ไว้หลังจากที่เขาได้จากโลกนี้ไป และได้กลายมาเป็นของ องค์การอนุรักษ์แห่งชาติ (National Trust) ในปี 1962


 ภายในสวน มีทั้งพืชพันธุ์ไม้หายากและบางพันธุ์ก็นำเข้ามาจากต่างประเทศที่ Fox ได้รับมาจากการทำงานในต่างประเทศ แต่สิ่งที่เป็นหัวใจของสวนแห่งนี้คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก เขาวงกตอันเก่าแก่ โดยใช้การปลูกต้นไม้พุ่มตระกูลเชอรี่ อย่าง cherry laurel ที่มีความหนาทึบของพุ่มที่หนาแน่น เส้นทางยาวกว่า 3 ใน 4 ส่วนไมล์ ตั้งแต่ทางเข้าจนถึงทางออก
    
 สวนแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจาก Falmouth ไปทางตะวันตกเฉียงได้ประมาณ 4 ไมล์ และจาก Mawnan Smith 0.5 ไมล์ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาใช้เวลาทั้งวันเพื่อหาทางออกจากเขาวงกต หรือจะกลายเป็นเดินงงในดงป่าก็ได้ แต่ในทางเดียวกันก็สามารถใช้ประโยชน์จากเนินเขาโดยให้เพื่อนคอยบอกทางออกให้ก็ได้เช่นกัน
เครดิต : atlasobscura.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/412929/




เขาวงกตทุ่งดอกคาโนลา



ทุ่งดอกคาโนลา ในเขตโหลวผิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลยูนนาน ประเทศจีน ถูกปลูกเป็นเขาวงกตครอบคลุมพื้นที่ 15,000 ตารางเมตร โดยออกแบบเป็นลวดลายสลับสับซ้อนสวยงามทีเดียว โดยสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เพิ่งได้รับการรับรองจากไชน่า เรคคอร์ดส ของจีน ว่าเป็นเขาวงกตทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ

นอกจากเขาวงกตแล้ว ยังสามารถขึ้นบนจุดชมวิว 5 แห่ง ด้านในเพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม และสัมผัสวิถีชีวิตของชนกลุ่มน้อยเผ่าปูอี ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่
ทั้งนี้ ดอกคาโนลาปลูกมากในประเทศแถบยุโรป อเมริกา อเมริกาใต้ ลาตินอเมริกา คานาดา ออสเตรเลีย และประเทศจีน โดยที่จีนปลูกกันเกือบจะทุกมณฑล แต่ที่มากที่สุดเห็นจะเป็นมณฑลยูนนาน โดยเฉพาะที่โหลวผิงแห่งนี้ ซึ่งสีทองเหลืองอร่ามของทุ่งคาโนลาและกลิ่นหอมดึงดูดความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้เป็นจำนวนมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
Cr.https://www.pptvhd36.com/news/news/ประเด็นร้อน/47823




เขาวงกตไร่ข้าวโพด




คอร์นนีเลียส เดอะ คอบาซอรัส (Cornelius the Cob-asaurus) คือชื่อของไดโนเสาร์เขาวงกตข้าวโพดที่แรก (และตัวแรก) ของโลก
ในปี 1993 ดอน ฟรานซ์ (Don Frantz) และ เอเดรียน ฟิชเชอร์ (Adrian Fisher) นักออกแบบเขาวงกตระดับโลกได้ออกแบบเขาวงกตไร่ข้าวโพดที่แรกของโลก มีชื่อว่า The Amazing Maize Maze ตั้งอยู่ที่ Lebanon Valley College, USA โดย เขาวงกตนี้ถูกดีไซน์เป็นรูปไดโนเสาร์

แต่เบื้องหลังไดโนเสาร์ข้าวโพดตัวนี้ แท้จริงแล้วโปรเจคต์นี้เป็นไอเดียที่เกิดขึ้นมาเพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคตะวันตกของอเมริกา  เขาวงกตไร่ข้าวโพดนี้เปิดทำการเพียง 2 อาทิตย์   แต่ภายในอาทิตย์แรกกลับมีคนกว่า 6,000 คนหลั่งไหลเข้ามาและสุดท้ายสามารถระดมทุนได้กว่า 32,000 ดอลล่าสหรัฐบริจาคให้แก่สภากาชาดของสหรัฐ



(เขาวงกตไร่ข้าวโพดที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือ Cool Patch Pumbkins in Dixon, California มีพื้นที่ประมาณ 160 ไร่ ถูกจัดเป็นไร่วงกตที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยกินเนสบุ๊คปี 2007 ใหญ่จนผู้เข้าชมหาทางออกไม่ได้ต้องแจ้ง 911 มาช่วย)

รูป: http://hybridtechcar.com/
Cr.https://it-it.facebook.com/Amazingreenthailand/photos/มารู้จักเรื่องราวของเขาวงกตไร่ข้าวโพดที่แรกของโลกกันดีกว่าworlds-first-corn-maze/119942805355249/




สวนวงกตแบบยุคกลาง 



(เขาวงกตที่สร้างขึ้นภายใน Villandry Castle ซึ่งจำลองแบบมาจากเขาวงกตในตำนานกรีก "Daedalus" ที่ใช้กักขังอสูรมิโนทอร์)

ปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ใน  Villandry ห่างจากเมือง Tours ไปประมาณ 15 กิโลเมตร  โดยได้ถูกสร้างขึ้นในแบบของสถาปัตยกรรมยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1536 นับเป็นปราสาทหลังสุดท้ายที่ถูกสร้างขึ้นในบริเวณลุ่มแม่น้ำลัวร์  

โดยตัวปราสาทนั้นได้รับการบูรณะครั้งใหญ่โดย Joachim Carvallo เอกลักษณ์ที่ทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวคือการตกแต่งสวนหลากหลายรูปแบบบนพื้นที่กว่า 6 ไร่ที่มองเห็นได้ชัดจากหอกลาง ที่มีทั้งพุ่มประดับเลขาคณิตรูปทรงต่างๆ สวนน้ำพุคลาสสิค , สวนพระอาทิตย์ , หรือสวนวงกตที่เป็นสวนเรียบง่ายแบบยุคกลาง เป็นต้น ตัวปราสาทและสวนนั้นได้ขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์เมื่อปี 1934

สวนที่สวยงามลดหลั่นกันไปสามระดับนั้นประกอบไปด้วยชั้นบนสุดคือสวนน้ำ The water garden สวนนี้ได้รับการออกแบบให้เหมือนกระจกของพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 โดยมีฐานเป็นรูปเหลี่ยมและโค้งมนที่ส่วนบน ถัดจากสวนน้ำจะเป็นสวนไม้ประดับ จะแบ่งออกเป็นสวนแห่งความรัก สวนเพลง และสวนสมุนไพร  ซึ่งสวนแต่ละแบบก็จะมีการแบ่งย่อยไปแต่ละโซนอีกครั้ง สุดท้ายสวนผัก the kitchen garden ก็จะประกอบด้วยสวนผักรูปทรงสี่เหลี่ยม 9 สวน ที่ประกอบไปด้วยผักสวนครัวต่างๆ มากมายผลัดเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น สลัดหลากสี หอมรั่งกะหล่ำปลี เป็นต้น
Photo from pxhere.com/en/photo/1374997 
Cr.https://www.talontiew.com/chateau-and-gardens-of-villandry/



ประวัติของเขาวงกตและมิโนทอร์
ที่มาของความเชื่อเรื่องเขาวงกต มาจากตำนานกรีกเรื่องหนึ่ง กล่าวถึงพระนางปาซิปาอี มเหสีของราชาไมนอส ถูกสาปให้ไปหลงรักวัวขาว ที่สามีของเธอไม่ยอมแก้บนบูชายัญไปให้โพ-ไซดอนเจ้าแห่งทะเล ผลพวงของความรักต่างสปีชี่ ทำให้เกิดสัตว์ ประหลาดครึ่งคนครึ่งวัวเรียกกันว่า มิโนทอร์ (Minotaur) เจ้าตัวนี้แหละที่ทำให้พระราชาแสนจะอับอาย เพราะว่ามันประจานความผิดของพระองค์ในแง่ไม่ รักษาสัญญา เลยจำเป็นต้องจับเจ้าเด็กประหลาดขังไว้ในห้องเขาวงกตที่แดดาลุสออกแบบ
 
กาลต่อมา เมื่อราชาไมนอส ยกกองทัพไปตีเอเธนส์ชนะ พระองค์เรียกร้อง บรรณาการเป็นหนุ่มสาว ชาวเอเธนส์อย่างละเจ็ดคนทุกปี เอาไปให้มิโนทอร์รับประทาน เรื่องจบลงตรงที่ครั้งสุดท้าย วีรบุรุษเธสซีอุส เดินทางมาเป็นบรรณาการมีชีวิต ได้ฆ่าสัตว์ประหลาด ด้วยกำลังมหาศาลของเขา และสามารถหาทางออกมาจากเขาวงกต ด้วยอุบายกลุ่มด้ายที่อรีแอดนี่บอกให้

ตำนานนี้ดูเหมือนจะเป็นนิทานไร้ความจริง แต่พอพระราชวังที่คนอสสอสเผยโฉมขึ้น จะเห็นได้ว่า การออกแบบอาคารพระราชวังนี้ มันซับซ้อนเสียจนคนหลงได้ง่ายๆ นอกจากจะมีบันไดอยู่หลายอันในระยะใกล้ๆกัน แต่กลับเชื่อมห้องต่างๆในต่างชั้น แล้วยังมีเฉลียงหลายที่นำมาจากลานแห่งหนึ่งไปสู่ทางเลี้ยวและหักมุม ไหนจะห้องที่สร้างไว้อย่างแปลกๆ ความซับซ้อนชวนงงเช่นนี้ อาจเป็นรากฐานความเชื่อเรื่องเขาวงกต (Labyrinth) ได้ไม่ยากเลย.
 
เมื่อสี่พันกว่าปีก่อนโน้น เกาะครีต(CRETE) ซึ่งเป็นเกาะหนึ่งในทะเลเมดิเตอร์-เรเนียน มีสภาพเป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรมไมโนอันที่รุ่งเรือง มีวัฒนธรรมประเพณี และความมั่งคั่งมาก่อนกรีกหลายศตวรรษ ทว่าในท้ายที่สุด ดินแดนอารยธรรมนี้ก็พบกับความพินาศล่มจมจากการที่เกาะธีรา (Thira เดี๋ยวนี้คือเกาะซานโครินี อยู่ห่างออกไป 70 ไมล์) อันเป็นเกาะสำคัญของแผ่นดินได้ถูกคลื่นยักษ์จากแรงภูเขาไฟระเบิดถล่มทลาย สร้างความเสียหายให้จนย่อยยับ อารยธรรมไมโนอันก็จางหายไปจากโลกจากนั้น เป็นต้นมา(เรื่องนี้อาจเป็นต้นเค้าของตำนานแอตแลนติส ซึ่งถูกเทพลงโทษด้วยการส่งน้ำมาท่วมเกาะก็เป็นได้)
ครีตไม่มีร่องรอยอะไรหลงเหลืออยู่ นอกจากตำนานกษัตริย์ ไมนอส และ มิโนทอร์ (Minotaur) สัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งวัว ที่อาศัยอยู่ในเขาวงกตใต้ พระราชวัง แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านมาจนกระทั่ง ถึงศตวรรษที่ 20 เซอร์ อาเธอร์ อีแวน ผู้หลงใหลตำนาน ได้พบซากเมืองหลวง คนอสสอส

เซอร์อีแวน พบซากเมืองขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับท่าเรือ เมื่อประมาณเอาจากสิ่งก่อสร้างหลงเหลือต่างๆ คนอสสอสคงเคยมีพลเมืองถึง 100,000 คน โดยถ้าพิเคราะห์จากซากสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งโดดเด่นที่สุด สิ่งก่อสร้างหลังนี้เป็นอาคารเล่นระดับ มีห้องนับเป็นร้อย และมีบางส่วนอยู่ใต้ดิน ส่วนที่สมบูรณ์ที่สุดแสดงให้เห็นว่า ผนังมีการประดับตกแต่งด้วยภาพเฟรสโกสีสดใส เป็นเรื่องราวของชีวิตในท้องทะเล นางระบำ และการบูชาวัว

นอกเหนือจากนี้ ในสิ่งก่อสร้าง ยังมีสิ่งของต่างๆ อีกมาก ทั้งยุ้งทำด้วยหิน เศษเครื่องดนตรี ขวานทำด้วยบรอนซ์ และหัวธนู กระดานตารางหมากรุก ขนาดใหญ่ ราวเมตรคูณเมตร ทำจากทองคำฝังงา แก้วและดินเผาเคลือบมัน มีห้องโถงด้านหน้า ก็มีการปูหินอลาบาสเตอร์ ขัดมัน แถมด้วยเสาหินอันแสดงลักษณะ สิ่งก่อสร้างของชาวไมโนอันอีกด้วย  แต่ผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมัน ฮันส์ จอร์จ วันเดอลิช มีความเห็นว่านี่ไม่ใช่พระราชวัง แต่เป็นสุสานขนาดใหญ่เท่านั้น
Cr.ที่มา  http://artsmen.net
Cr.https://www.clipmass.com/story/7000

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่