แชร์วิธีจัดการหนี้ช่วงวิฤต COVID-19

หลังจากหลาย ๆ ธนาคารออกมาตรการช่วยเหลือให้ลูกหนี้ได้พักชำระหนี้ จะ 3-6 เดือนก็ว่ากันไป ซึ่งบางธนาคารก็พักหนี้ให้ทันทีอัตโนมัติ บางแห่งลูกหนี้ต้องยื่นเอกสารเพิ่มเติมยืนยันว่าได้รับผลกระทบจากวิกฤต COVID-19 จริง และแต่ละแห่งก็จะมีเงื่อนไขไม่เหมือนกัน บางแห่งก็ให้พักจ่ายเงินต้น (คือจ่ายแค่ดอกเบี้ย เงินต้นเหลือเท่าเดิม) บางแห่งก็ให้พักจ่ายทั้งเงินต้นและเงินดอก 

          แต่สิ่งที่ธนาคารทั้งหลายไม่ได้บอกคุณ หรือเป็นสิ่งที่เพื่อน ๆ หลายคนลืมนึกถึงก็คือ เมื่อธนาคารให้พักชำระหนี้ “ดอกเบี้ยจะไม่หยุดเดิน” และจะเดินหน้าไปทุกวันตามปกติ รวมถึงระยะเวลาที่เราขอพักหนี้ด้วย ซึ่งดอกเบี้ยตามงวดที่เราพักชำระหนี้ จะถูกรวมเป็นก้อนเอาไว้และเขาก็จะเรียกจ่ายเราหลังจากที่เรากลับมาชำระหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยก้อนนี้จะถูกเรียกว่า “ดอกเบี้ยคงค้าง” ซึ่งธนาคารจะมีวิธีเรียกเก็บที่แตกต่างกันออกไป 
วันนี้เราจะมาแชร์การจัดการหนี้ในช่วงวิกฤติ COVID-19 เป็น 3 กรณี เพื่อให้เพื่อน ๆได้พิจารณาว่าทางเลือกไหนเหมาะกับตัวเองมากที่สุด ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะ

          การจัดการหนี้ในช่วงวิกฤติ COVID-19 แบบนี้ นิวบ์ขอแบ่งออกเป็น 3 วิธีด้วยกัน คือ

1.       กัดฟันผ่อนต่อ ไม่ขอพักหนี้
สำหรับใครที่ยังพอมีกำลังในการผ่อนหนี้ อาจจะตึงกว่าช่วงปกติ แต่ยังสามารถผ่อนชำระหนี้ได้ นิวบ์ขอแนะนำให้กัดฟันผ่อนต่อค่ะ เพราะอย่างที่บอกว่าสุดท้ายแล้ว เราต้องตามชำระดอกเบี้ยตามระยะเวลาที่พักหนี้ไป แถมเงินต้นก็ไม่ลดลงด้วย ดอกเบี้ยจัดหนักจัดเต็มแน่นอน ดังนั้นถ้ายังสามารถผ่อนต่อได้ ผ่อนต่อเถอะนะ

2.       พักชำระเงินต้น ขอผ่อนแต่ดอกเบี้ย 
วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ถูกลดเงินเดือน แต่ไม่อยากต้องมาตามจ่ายดอกเบี้ยคงค้าง การยอมจ่ายดอกเบี้ยไปก่อน เงินต้นค่อยว่ากันหลัง COVID-19 ข้อดีคือสามารถจ่ายหนี้ในจำนวนเงินที่น้อยลง มีเงินสดเก็บไว้ใช้จ่าย ไม่ได้มีหนี้เพิ่มจากดอกเบี้ยคงค้าง (แต่หนี้ก็ไม่ได้ลดลงนะ) ถ้าใครรับได้จุดหนี้ ลองคุยกับธนาคารก็ได้ว่า เราจะสามารถพักแต่เงินต้นได้ไหม แล้วขอจ่ายแค่ดอกเบี้ยไปก่อน

3.       ขอพักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย 
สำหรับใครที่ไม่ไหวจริง ๆ รายได้ลดลงจนไม่สามารถชำระหนี้ต่อได้ นิวบ์แนะนำว่าอย่าฝืนค่ะ รีบติดต่อธนาคารเพื่อเข้าร่วมโครงการพักหนี้ เพราะนอกจากจะทำให้เราสามารถนำเงินที่มีอยู่มาใช้ในชีวิตประจำวันก่อนแล้ว การติดต่อขอพักหนี้กับธนาคารจะไม่ทำให้เกิดประวัติในเครดิตบูโร ส่วนเรื่องดอกเบี้ยคงค้างนั้น ไว้ว่ากันหลัง COVID-19 

ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่เห็นภาพว่าแต่ละวิธีนั้นคิดคำนวณยังไง เราจะขอยกตัวอย่างมาให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันค่ะ 
ยกตัวอย่าง นางสาวติ๊ดเป็นหนี้ 1,000,000 บาท ต้องผ่อนชำระหนี้เดือนละ 10,000 บาท แบ่งเป็น เงินต้น 4,000 บาท + ดอกเบี้ย 6,000 บาท นางสาวติ๊ดจะสามารถเลือกจัดการหนี้ได้ 3 วิธีดังนี้

แบบที่ 1 - ไม่ขอพักหนี้ จ่ายตามปกติ
นางสาวติ๊ดผ่อนชำระเดือนละ 10,000 บาท 
(เงินต้น 4,000 + ดอกเบี้ย 6,000 บาท) 
.... 6 เดือนต่อมา .....
นางสาวติ๊ดจะเหลือหนี้เพียง 976,000 บาท
1,000,000 – (4,000 x 6) = 976,000
 
แบบที่ 2 – ขอพักชำระเงินต้น ชำระแต่ดอกเบี้ย
นางสาวติ๊ดผ่อนชำระเดือนละ 6,000 บาท
.... 6 เดือนต่อมา .....
นางสาวติ๊ดจะเหลือหนี้ 1,000,000 บาท เท่าเดิม
1,000,000 – (0 x 6) = 1,000,000
 
แบบที่ 3 – ขอพักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
นางสาวติ๊ด ไม่ต้องชำระหนี้เลยเป็นเวลา 6 เดือน
.... 6 เดือนต่อมา .....
นางสาวติ๊ดจะเหลือหนี้ 1,036,000 บาท (หนีเดิม 1,000,000 + ดอกเบี้ยคงค้าง 36,000)
1,000,000 – (0 x 6) + (6,000 X 6)
หนีเดิม – (เงินต้นที่ชำระ x ระยะเวลาที่ชำระหนี้) + (ดอกเบี้ย x ระยะเวลา)
 
          ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือวิธีจัดการหนี้ในช่วงวิกฤต COVID-19 ที่นิวบ์เชื่อว่ากระทบทุกคน ทุกฝ่าย ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะมนุษย์หนี้ทั้งหลาย หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่า 

อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ : แชร์วิธีจัดการหนี้ช่วงวิฤต COVID-19
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่