“สุดารัตน์”ติงเชิญเจ้าสัวร่วมทีมฯเอื้อประโยชน์หรือไม่
https://www.innnews.co.th/politics/news_651248/

"สุดารัตน์" ติงเชิญเจ้าสัวร่วมทีมไทยแลนด์ เอื้อประโยชน์หรือไม่ และไม่ยืดเยื้อเหมือนกับการช่วยเหลือคนจน
 
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เตรียมเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง 20 กลุ่มมหาเศรษฐีของไทย เพื่อเทียบเชิญเข้าร่วมทีมไทยแลนด์ โดยตั้งคำถามถึงความเหมาะสม ซึ่งสังคมได้วิพากษ์วิจารณ์แล้วอย่างกว้างขวาง เพราะอาจนำไปสู่ข้อครหา ว่า เอื้อประโยชน์หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ไปตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการช่วยเจ้าสัวไปก่อนแล้วหรือไม่
 
ทั้งนี้ เป็นการช่วยที่ไม่ยืดเยื้อเหมือนกับการช่วยเหลือคนจน ช่วยคนรวยช่วยได้เร็ว เพราะฉะนั้นการที่มาขอความร่วมมือจากเจ้าสัว ท้ายที่สุดจะมีอะไรแลกเปลี่ยนหรือไม่ อย่างที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ว่าเจ้าสัวบางรายก็ได้ช่วยเหลือไปแล้ว ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นควรตั้งกองทุน มาอุ้มตราสารหนี้อีก 4 แสนล้านบาท จะกลายเป็นข้อครหาและข้อสงสัย ในปัจจุบันจนถึงอนาคต
 

---

 
‘สุทิน’ โวยอย่ามัดมือชกถกเงินกู้ 1 ล้านล้าน 1 วัน เล็งตั้งกมธ.ตรวจสอบเข้มใช้เงิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_2146237

เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวกรณีการเตรียมเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญว่า 
 
วาระเร่งด่วนที่จะพิจารณาหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ คือ การพิจารณา พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 วงเงิน 1 ล้านล้านบาท เพราะเป็นอำนาจของรัฐบาลที่จะออกพ.ร.ก.กู้เงิน แต่เมื่อพ.ร.ก.กู้เงินมีผลบังคับใช้แล้ว รัฐบาลต้องนำพ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวมาให้สภาฯรับรอง ส่วนที่นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ออกมาระบุว่าสภาฯจะพิจารณาร่างพ.ร.ก.กู้เงินฯ ให้จบเพียงเดียว เรื่องนี้มองว่าไม่ควรจะมากำหนดวันเวลาที่ตายตัว เพราะเรื่องออกพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ถือเป็นการก่อหนี้ของประเทศที่มากอยู่ ส.ส.ที่เป็นตัวแทนของประชาชนจะต้องอภิปรายสอบถาม ถึงแหล่งที่มาของเงินกู้ การใช้จ่ายเงินกู้ว่าจะมีประสิทธิภาพแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนได้ตรงจุดหรือไม่ รวมทั้งแนวทางการใช้หนี้เงินกู้ว่าจะมีวิธีการใดเพื่อลดภาระต่อประชาชนและประเทศให้มากที่สุด เรื่องนี้จะมามัดมือชกให้พิจารณาเพียงแค่ 1 วันคงจะไม่ได้ ทั้งนี้ฝ่ายค้านทราบถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องใช้เงินจากพ.ร.ก.กู้เงิน ไปแก้ปัญหาให้ประชาชน แต่ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้เงินกู้ของรัฐบาล ให้มีความรอบคอบและเกิดความโปร่งใสมากที่สุด
 
“ฝ่ายค้านจะใช้กลไกของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)สามัญ ประจำสภาฯ ในการกำกับดูแล และตรวจสอบการใช้งบประมาณในพ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ให้มีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส เกิดประโยชน์ต่อประชาชน และระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มากที่สุด หากกมธ.สามัญฯ ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ อาจจำเป็นต้องตั้งกมธ.วิสามัญฯขึ้นมาตรวจสอบการใช้จ่ายเงินกู้ของรัฐบาลต่อไป” นายสุทิน กล่าว