JJNY : จี้ถามวันเฉลิมถูกอุ้มหาย/สมพงษ์-สุดารัตน์จับมือแถลงข่าว/ลำไยจี้ประกันราคาหลังขาดทุน5ปีต่อเนื่อง/ยอดขายชุดนร.ตกฮวบ

ฝ่ายค้านกระทู้สดจี้ถาม วันเฉลิมถูกอุ้มหาย 'ดอน' รับ ไม่เคยได้ยินชื่อ ต้องรอกัมพูชาสอบ
https://www.matichon.co.th/politics/news_2222501

 
ก้าวไกล-เพื่อไทย ตั้งกระทู้ปมอุ้มวันเฉลิม ถาม “บิ๊กตู่” ไม่มา ส่งยุติธรรม-บัวแก้ว แจง “โรม” ถามรบ.ได้ไปสอบส่วนราชการที่เพจดังชี้เบาะแสหรือยัง ด้าน “สมศักดิ์” ไม่ตอบ ส่วน “ดอน” บอก เราทำได้แค่รอกัมพูชา
 
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 10 มิถุนายน ที่รัฐสภา เกียกกาย มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้สดด้วยวาจา โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงเหตุการณ์ที่มีกลุ่มคนร้ายอุ้มตัวนายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือต้าร์ ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา จากหน้าคอนโด ที่กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา ว่า กรณีดังกล่าวสังคมได้เคลือบแคลงอาจมีเงื่อนงำ เพราะนายวันเฉลิมต้องลี้ภัย เพราะรัฐประหารปี 2557 ถูกคสช.ออกหมายเรียก แต่ไม่ไปรายงานตัว และถูกดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพราะถูกกล่าว หาเป็นแอดมินเพจกูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ๆ ซึ่งแม้ว่า นายวันเฉลิมจะเป็นผู้ลี้ภัย แต่ต้องได้รับการคุ้มครอง
 
“ไม่ว่า นายวันเฉลิมจะเป็นคนที่รัก หรือชังของรัฐบาล แต่กรณีที่เกิดขึ้นรัฐบาลกลับไม่ใส่ใจช่วยเหลือติดตามเลย ที่ผ่านมานับแต่พล.อ.ประยุทธ์ เถลิงอำนาจมีการอุ้มหายลักษณะนี้ไปแล้ว 9 ราย โดย 7 รายไม่รู้ชะตากรรมเป็นอย่างไร อีก 2รายเสียชีวิต แต่ไม่มีการชี้แจงจากรัฐบาลใดๆเลย จึงขอตั้งคำถามคดีอุ้มหายต่อรัฐบาล 9 คดี มีรายละเอียดความคืบหน้า และคนเหล่านี้มีชะตากรรมอย่างไรบ้าง ฝ่ายมั่นคงมองนายวันเฉลิมเกี่ยวข้องกับภัยความมั่นคงในฐานะใด ทำไมถึงมีรายชื่อเป็นขบวนการหมิ่นสถาบัน และนี่คือมูลเหตุจูงใจอะไรในการอุ้มหรือไม่ ถึงทำให้ พล.ต.บุรินทร์ ทองประไพ อดีตนายทหารฝ่ายกฎหมายคสช. ต้องออกมาชี้แจง เพื่อตัดมูลเหตุจูงใจดังกล่าว ที่สำคัญรัฐบาลได้ดำเนินการสอบสวนสืบสวนบุคคลต้องสงสัยก่อเหตุดังกล่าวที่เพจต่างๆได้ชี้เบาะแส ซึ่งเป็นบุคคลในส่วนราชการกินภาษีของประชาชนแล้วหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว
 
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงแทนนายกฯว่า กรณีของนายวันเฉลิม ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลกัมพูชา ยังไม่ยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงหรือไม่ สิ่งที่ปรากฏออกมาส่วนใหญ่มาจากสื่อต่างๆเป็นหลัก แต่เบื้องต้นกระทรวงยุติธรรม ยืนยันได้ว่า นายวันเฉลิมไม่เคยขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม กรณีการอุ้มนายวันเฉลิมหายนั้น คงไม่สามารถตอบอะไรได้ แม้จะกรณีนี้จะไม่ใช่เรื่องปกติ แต่ไม่มีใครทราบข่าวได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบนอธิปไตยของประเทศกัมพูชา การสืบสวนจึงเป็นของประเทศกัมพูชา ตนตอบได้เท่านี้ แต่หากสมาชิกต้องการทราบข้อมูลที่ลึงซึ่งกว่านี้ของบุคคลที่สูญหายไป ทั้ง 9 คนที่ระบุ ตนยินดีที่จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงยุติธรรมให้
 
จากนั้น นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ตั้งกระทู้สดถามกระทรวงต่างประเทศถึงการติดตามช่วยเหลือนายวันเฉลิมมีความคืบหน้าอย่างไร และกระทรวงต่างประเทศมีนโยบายดูแลผู้ลี้ภัยที่อยู่ต่างประเทศอย่างไร โดยนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงว่า ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศมา 6 ปี ไม่เคยเห็นชื่อนายวันเฉลิมเลย จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อาจเป็นเพราะเป็นชื่อที่ไม่มีความสำคัญมากนักในแง่การต่างประเทศ และความมั่นคง จึงไม่น่าเป็นผู้มีภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ไม่เช่นนั้นคงได้เห็นชื่อนี้แล้ว แต่เมื่อเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว จึงคงต้องรอฟังคำตอบจากรัฐบาลกัมพูชา โดยทราบว่า ทางกัมพูชากำลังจะเริ่มเข้าไปตรวจ จึงต้องให้เวลากับกัมพูชาตรวจสอบ แต่สำหรับรัฐบาลไทยทำได้อย่างมากแค่ฝากกัมพูชาช่วยติดตาม คงตอบได้เพียงเท่านี้ โดญไม่สามารถพยากรณ์คาดเดาอะไรได้ล่วงหน้า จนกว่าจะได้คำตอบจากกัมพูชา
 
“ยืนยันว่า รัฐบาลพร้อมดูแลคนไทยในต่างประเทศทุกคน แต่คนไทยในต่างแดนมักไม่แสดงตัว จนกระทั่งเกิดปัญหาความเดือดร้อน จึงมาแสดงตนต่อสถานทูต ยิ่งคนที่ไปอยู่ต่างประเทศเพราะมีปัญหา ยิ่งไม่อยากแสดงตัว กรณีนายวันเฉลิมน่าจะอยู่ในข่ายนี้ เพราะตามบันทึกของกระทรวงต่างประเทศนั้น นายวันเฉลิมไม่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย ตามบัญชีของสํานักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ก็ไม่มีชื่อนายวันเฉลิมอยู่ เรื่องนี้จึงไม่มีอะไรดีไปกว่ารอฟังความคืบหน้าจากทางการกัมพูชา ส่วนข่าวที่ออกมาจาก ฮิวแมนไรท์วอทช์ กับ แอมเนสตี้นั้น เป็นการปล่อยข่าวเพื่อสร้างบรรยากาศให้คนสนใจ ส่วนเรื่องที่มีการให้เบาะแสข้อมูลคดีนี้ ตามทวิตเตอร์หรือเพจต่างๆนั้น เป็นการปั่นกระแสกันได้ง่าย การปั่นกระแสตามโซเชียลจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ ดังนั้นควรรอฟังคำชี้แจงจากกัมพูชาดีกว่า” นายดอน กล่าว
 

 
'สมพงษ์-สุดารัตน์' จับมือ แถลงข่าวสยบรอยร้าว ย้ำเข้าใจคนออกพรรค เพื่อแก้เกมรธน.
https://www.matichon.co.th/politics/news_2222359

“สมพงษ์-สุดารัตน์” จับมือแถลงข่าวสยบรอยร้าว “เพื่อไทย” บอกเข้าใจคนจะออกไปตั้งพรรค เพราะรธน.ทำให้ไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ เชื่อ ส.ส.พท.ไม่ไปไหน ในอนาคตจับมือกันทำงานเหมือนเดิม
 
เมื่อเวลา 10.40 น. วันี่ 10 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรค พท. นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.อุบลราชธานี  พรรคพท. ในฐานะประธานภาคอีสาน พร้อมด้วยส.ส.พรรคพท. ได้ร่วมกันแถลงถึงกรณีมีกระแสข่าวเรื่องความแตกแยกภายในพรรคพท. รวมถึงกรณีที่คนในพรรคพท.จะไปตั้งพรรคใหม่
 
โดยนายสมพงษ์กล่าวว่า ในการทำงานของพรรคพท. เราแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดแจ้ง ตนดูแลในสภาผู้แทนราษฎร ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ดูแลเกี่ยวด้านยุทธศาสตร์ ทั้งตน และคุณหญิงสุดารัตน์ เราทำงานกันกลมเกลียว เข้าอกเข้าใจกัน ต่างคนทำงาน ประโยชน์สูงสุดตกอยู่ที่พรรคพท.ทั้งนั้น สิ่งใดที่ท่านเข้าใจผิด ขอให้เข้าใจด้วยว่าเราทำงานกันกลมเกลียวอย่างจริงจัง ไม่เชื่อท่านลองสอบถามสมาชิกพรรคพท.ได้เลย แต่แน่นอน การทำงานอาจจะติดขัดกันบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ สามารถทำความเข้าใจกันได้ ไม่มีอุปสรรคใดๆ ทั้งสิ้น
 
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ข้อเท็จจริง วันนี้พรรคพท. เรามีการทำงานอย่างกลมเกลียวกัน ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างเข้มแข็งเพื่อให้พรรคพท.แข็งแรง สามารถเป็นที่พึ่งที่หวังในยามที่ประชาชนกำลังท้อแท้ หมดหวัง ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ พรรคพท.เราไม่มีเวลามาทะเลาะกัน ทุกคนที่ได้รับเลือกตั้งมา ล้วนได้รับเลือกตั้งมาจากความไว้วางใจของพี่น้องประชาชน เขาคาดหวังว่าเราจะเป็นปากเสียง และแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ข่าวที่ออกมาระยะเวลา 2-3 อาทิตย์ พวกเราไม่สบายใจ เพราะเป็นแหล่งข่าวที่เราไม่สบายใจ เป็นแหล่งข่าวที่ออกมาทำลายความเชื่อมั่นต่อประชาชน ต่อพรรคพท. ซึ่งไม่เป็นความจริง ช่วงโควิดนั้น ส.ส.เราทุกคนทำงานอย่างต่อเนื่อง เมื่อเปิดสภามาก็ทำงานอย่างเต็มที่ภายใต้ความเข้มแข็งในสภาของหัวหน้าสมพงษ์ในสภา ทั้งนี้ ส่วนเรื่องที่มีการผูกโยงกับข่าวที่จะมีสมาชิกออกไปตั้งพรรค เราเข้าใจรัฐธรรมนูญฉบับนี้ต้องการไม่ให้พรรคพท.ได้ปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้น คนที่เป็นนักการเมืองแล้วต้องเข้าสภา เขาได้ไปช่วยกันทำพรรคขึ้นมาเป็นเรื่องดีทั้งนั้น และเรามั่นใจว่าเขายังอยู่ซีกประชาธิปไตย เราไม่ได้ขัดข้องอะไรเลย เป็นความจำเป็นจากกติกาที่บิดเบี้ยวทำ เราเข้าใจดี
 
นายสุทินกล่าวว่า ในฐานะประธานวิปที่ทำงานภายใต้การการนำของหัวหน้าพรรค และประธานยุทธศาสตร์ ถ้า 2 ท่านทำงานไม่เป็นเอกภาพ คนที่จะทำงานยากคือตน และเลขาธิการพรรค ข้อเท็จจริงขอเรียนว่า ตนทำงานอย่างมีความสุข ไม่สับสนอะไร ได้สัญญาณจากพรรคชัดเจน ดังนั้น ข่าวที่ปรากฎออกมา ไม่ว่าจะจากแหล่งข่าวใดก็ตาม ขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ใครเจตนาปล่อยข่าวให้พรรคเสียหายเราก็ขอว่า อย่าทำอย่างนั้นเลย เราเข้าใจเรื่องการออกไปตั้งพรรคเป็นเรื่องปกติ และควรสนับสนุนด้วยเพราะรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ เพียงแต่ว่าการไป การสื่อสาร หรือการเสนอออกไปไม่น่าทำให้มีผลให้พรรคเดิมเสียหาย อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า ไม่น่าจะใช่เจตนาของท่านเหล่านั้น แต่หากเป็นเจตนาจริงๆ ท่านก็ต้องให้ความเห็นใจจากเพื่อนส.ส. เพราะจนถึงตอนนี้ ตนเชื่อว่า ทั้งคนที่อยู่ และคนที่ไปยังเข้าใจกัน เพราะต้องทำงานร่วมกันในอนาคตอีกยาว และยังอยู่ที่ฝ่ายประชาธิปไตยเหมือนเดิม ความจริงเรื่องเล็กน้อยมาก แต่พอมีการสื่อสารที่ผิดพลาดคนที่ทุกข์มากคือ ส.ส.เขต โดยเฉพาะส.ส.ภาคอีสานที่ถูกพาดพิงพอสมควร
 
ทั้งนี้ บทพิสูจน์ที่จะสะท้อนเอกภาพของพรรค คือ อยากให้ดูที่ผลงาน การบริหารพรรคพท.ยังเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ กลไกทุกส่วนยังปกติ การอภิปรายพ.ร.ก.กู้เงินที่ผ่านมา เราก็ภูมิใจในผลงาน และทำหน้าที่ได้อย่างดี เพราะมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้ผลงานออกมาดี ส่วนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ อาจจะมีปัญหาขลุกขลักไปบ้าง แต่ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เราเพิ่งกลับเข้ามาเป็นส.ส. เป็นการผสมผสานระหว่างพรรคเก่า พรรคใหม่ พรรคร่วมฝ่ายค้านยังต้องมาแชร์ประสบการณ์ และเรียนรู้กันอีกมาก ซึ่งเชื่อว่า จะดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งงานในสภา และนอกสภา
 
ด้านนายชูวิทย์กล่าวว่า เรายังเหนียวแน่น กลมเกลียวที่จะอยู่พรรคพท. เพื่อความหวังของพี่น้องประชาชนชาวอีสานที่ให้ความไว้วางใจเราตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน มาพท. และตนเชื่อว่าเพื่อนส.ส.ทุกคนไม่หนีไปไหน ยังอยู่พรรคพท. เพื่อกอบกู้ประชาธิปไตย และทำงานให้พี่น้องประชาชนชาวอีสานที่มอบความไว้วางใจให้เรา
 
เมื่อถามว่า ได้เคยพูดคุยกับผู้ที่ออกไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่ นายสมพงษ์กล่าวว่า เราคุยกันปกติ ไม่มีอะไร ตนอยากเรียนว่า ในขณะที่เรามองว่ารัฐบาลอยู่ในภวังค์ที่โซเซ ก็ย่อมมีบุคคลที่ต้องเตรียมตัว อย่างพท. กับไทยรักษาชาติ ก็เตรียมตัว ไม่ได้เป็นเรื่องแปลก เรายังเป็นเพื่อนฝูงกัน เพราะพรรคเราไม่มีทางที่จะได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
 
เมื่อถามว่า การแถลงข่าววันนี้แปลว่าใครจะย้ายไปอยู่พรรคใหม่พท.ก็เปิดกว้างใช่หรือไม่ นายสมพงษ์กล่าวว่า มั่นใจว่าส.ส.พท. 130 กว่าคน ไม่ไปไหน อยู่พรรคพท.นี่แหละ ที่จะไปคือไปเอาปาร์ตี้ลิสต์ ทั้งนี้ การตั้งพรรคเป็นแนวความคิดของบุคคล ที่เห็นว่ารัฐบาลมีปัญหา ก็เตรียมตัว พรรคอื่นๆ ก็เตรียมกันอยู่ ในซีกรัฐบาลก็เตรียมอยู่เช่นกัน
 
ขณะที่นายสุทินกล่าวว่า ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นแบบนี้ตนเชื่อว่าท่านจะอยู่ที่เดิม แต่เมื่อรัฐธรรมนูญเป็นแบบนี้ และไม่มั่นใจว่าจะแก้ไขได้ ท่านก็ต้องแสวงหานทางที่ท่านจะได้ทำงานการเมือง คือต้องไปตั้งพรรคเพื่อไปหาที่ยืนเท่านั้นเอง ซึ่งตนเชื่อว่าสุดท้ายเราก็จะจับมือทำงานร่วมกันเหมือนเดิม ดังนั้น น่าเห็นใจท่านด้วยซ้ำไป เพราะถ้าเราดึงท่านไว้ท่านก็ไม่มีโอกาสที่จะทำงานการเมือง แต่ท่านไปอย่างนั้น เราเป็นกำลังใจให้ด้วย และถ้ามีอะไรให้ช่วย เราก็ยินดีช่วยด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่