ก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19 คงปฏิเสธไม่ได้ว่า"หุ้นรับเหมาก่อสร้าง" เป็นกลุ่มที่น่าจับตามาก เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 จะเข้ามาช่วยหนุนโครงการก่อสร้างมหาศาล แต่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิว...สถานการณ์ก่อสร้าง-การเปิดประมูลงานใหม่ ยังเป็นอย่างที่คิดอยู่หรือเปล่า? เพราะตอนนี้นอกจากเวลาในการทำงานก่อสร้างจะลดลง แถมความสำคัญอันดับแรกน่าจะเป็นการทุ่มเทเพื่อเยียวยาประชาชนและเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 เสียมากกว่า
*** ราคาหุ้น 4 ยักษ์ รับเหมาก่อสร้าง ยังมาแรง!
แม้ในขณะนี้ภาครัฐจะหันไปให้ความสำคัญกับการแก้วิกฤตโควิด-19 เป็นอันดับแรก สร้างความกังวลถึงงบประมาณในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็แอบปรับตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นรับเหมาก่อสร้าง 4 รายใหญ่ อย่าง บมจ.ช.การช่าง(CK)บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ) ในช่วง 4 วันทำการก่อนหน้านี้(7 เม.ย. - 10 เม.ย.63)
โดยราคาหุ้น CK ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันที่ 3 เม.ย.63 ที่ 15.20 บาท มาปิดตลาดอยู่ที่ 16.90 บาท ในวันทำการล่าสุด 10เม.ย.63 คิดเป็นเพิ่มขึ้นถึง 11.18%
ขณะที่ราคาหุ้น STEC ในช่วงเดียวกัน จาก 11.60 บาท มาเป็น 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 17.24%
ด้านราคาหุ้น ITD จาก 0.78 บาท ทะลุขึ้นมาเป็น 1.06 บาท เพิ่มขึ้นถึง 35.89%
ส่วนราคาหุ้น UNIQ จาก 3.98 บาท มาเป็น 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 42% มากที่สุดในบรรดาผู้รับเหมารายใหญ่ 4 ราย
ซึ่งบล.เคจีไอ เคยระบุถึงความกังวลไว้ก่อนหน้านี้ว่า การเปิดประมูลโครงการภาครัฐ การอนุมัติ และการประชุมต่างๆ มีโอกาสที่จะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากรัฐบาลเน้นให้ความสำคัญกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
*** ไม่ต้องห่วงงบฯ 2.08 แสนลบ.ยังอยู่ในแผน และเบิกครบ 100% ในก.ย.63
บล.หยวนต้า ระบุว่า แม้ว่าภาครัฐจะหันมาให้น้ำหนักกับการแก้ไขผลกระทบจากโควิด-19 เป็นอย่างแรก โดยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาถึง 3 เฟส ด้วยกัน แต่ทางภาครัฐยังคงยืนยันว่ายังให้ความสนใจไปที่การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นโครงการแรกๆ โดยการเร่งจ่ายงบประมาณ 2.08 แสนล้านบาท ให้ครบ 100% ภายในเดือน ก.ย. 63 เพราะเม็ดเงินการลงทุนก่อสร้างมีความจำเป็นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเช่นกัน
ส่วนโครงการที่น่าจะเกิดขึ้นภายในปี 63 ก็คือ 1.รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย(บางขุนนนท์-มีนบุรี) วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท คาดขายแบบ TOR ให้เข้าร่วมประมูลได้ใน 1 - 2 เดือนหน้า และได้ชื่อผู้รับเหมาในช่วงครึ่งปีหลัง 2.รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย(รังสิต-ธรรมศาสตร์) (ตลิ่งชัน-ศิริราช) (ตลิ่งชัน-ศาลายา) วงเงินราว 2.3 หมื่นล้านบาท คาดเปิดประมูลในเดือน มิ.ย. ส่วน3.โครงการอื่นๆ เช่น รถไฟทางคู่ และรถไฟไทย-จีน ในช่วงครึ่งปีหลัง
*** เคอร์ฟิว ทำให้งานก่อสร้างล่าช้า ให้น้ำหนักลงทุน"เท่ากับตลาด"
จากมาตรการเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ ทำให้เวลาในการทำงานก่อสร้างน้อยลง บล.หยวนต้า ระบุต่อว่า จากการก่อสร้างที่ลดลงแล้วทำให้งานใหม่ๆ จะชะลอออกไป เช่น รถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน งานสนามบินอู่ตะเภาที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาในเดือนพ.ค.63
ซึ่งจากเหตุผลข้างต้นทำให้ การรับรู้รายได้ และกำไรที่ลดลง จึงปรับประมาณการกลุ่มในปี 63 และ 64 ลง 16% และ 20% มาอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท และ 4.4 พันล้านบาท ตามลำดับ
ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมา "เท่ากับตลาด" ปัจจุบันกลุ่มรับเหมาก่อสร้างลงมาซื้อขายในระดับ P/E ที่ราวๆ 12.75 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 22.8 เท่ามาก ส่วน PBV ซื้อขายอยู่ที่ราว 0.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 2 เท่า
*** CK-STEC นำโด่งหุ้นแนะนำประจำกลุ่ม
จากการสำรวจพบว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ CK และ STEC เป็นหุ้นเด่นประจำกลุ่ม สาเหตุก็คือ มีโอกาสเข้ารับงานใหม่ๆของภาครัฐได้มากกว่ารายอื่นๆ และเป็นตัวเก็งเข้าชิงรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย
โดยให้ราคาเหมาะสมและคำแนะนำหุ้น CK และ STEC ไว้ดังนี้
ปัญหาของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างไม่ใช่การเลื่อนใช้งบประมาณของภาครัฐแล้ว แต่เป็นการจับตาไปที่ตัวผู้ประกอบการเองต่างหากว่าการเคอร์ฟิวจะเป็นอุปสรรคทำให้งานก่อสร้างล่าช้า และทำให้โครงการใหม่ๆต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ ดังนั้นนักลงทุนต้องรอลุ้นความคืบหน้าของแต่ละโครงการในช่วงโควิด-19 อย่างใกล้ชิด แม้ข่าวดีขณะนี้ก็คือผู้ประกอบการหลายรายยืนยันว่าการทำงานยังเป็นปกติอยู่ก็ตาม!
.
**อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่==>>
http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=M01tZytMOGJKRlk9
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website :
https://www.efinancethai.com
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook :
https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin
'หุ้นรับเหมาฯ' สะดุดเคอร์ฟิว...จับตางานก่อสร้างเดินตามแผนหรือไม่?
ก่อนที่จะเกิดวิกฤตโควิด-19 คงปฏิเสธไม่ได้ว่า"หุ้นรับเหมาก่อสร้าง" เป็นกลุ่มที่น่าจับตามาก เพราะการเบิกจ่ายงบประมาณปี 63 จะเข้ามาช่วยหนุนโครงการก่อสร้างมหาศาล แต่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิว...สถานการณ์ก่อสร้าง-การเปิดประมูลงานใหม่ ยังเป็นอย่างที่คิดอยู่หรือเปล่า? เพราะตอนนี้นอกจากเวลาในการทำงานก่อสร้างจะลดลง แถมความสำคัญอันดับแรกน่าจะเป็นการทุ่มเทเพื่อเยียวยาประชาชนและเศรษฐกิจจากวิกฤตโควิด-19 เสียมากกว่า
*** ราคาหุ้น 4 ยักษ์ รับเหมาก่อสร้าง ยังมาแรง!
แม้ในขณะนี้ภาครัฐจะหันไปให้ความสำคัญกับการแก้วิกฤตโควิด-19 เป็นอันดับแรก สร้างความกังวลถึงงบประมาณในส่วนของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างก็แอบปรับตัวขึ้นมาอย่างเงียบๆเช่นกัน โดยเฉพาะหุ้นรับเหมาก่อสร้าง 4 รายใหญ่ อย่าง บมจ.ช.การช่าง(CK)บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น(STEC) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์(ITD) และ บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ) ในช่วง 4 วันทำการก่อนหน้านี้(7 เม.ย. - 10 เม.ย.63)
โดยราคาหุ้น CK ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันที่ 3 เม.ย.63 ที่ 15.20 บาท มาปิดตลาดอยู่ที่ 16.90 บาท ในวันทำการล่าสุด 10เม.ย.63 คิดเป็นเพิ่มขึ้นถึง 11.18%
ขณะที่ราคาหุ้น STEC ในช่วงเดียวกัน จาก 11.60 บาท มาเป็น 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 17.24%
ด้านราคาหุ้น ITD จาก 0.78 บาท ทะลุขึ้นมาเป็น 1.06 บาท เพิ่มขึ้นถึง 35.89%
ส่วนราคาหุ้น UNIQ จาก 3.98 บาท มาเป็น 5.65 บาท เพิ่มขึ้น 42% มากที่สุดในบรรดาผู้รับเหมารายใหญ่ 4 ราย
ซึ่งบล.เคจีไอ เคยระบุถึงความกังวลไว้ก่อนหน้านี้ว่า การเปิดประมูลโครงการภาครัฐ การอนุมัติ และการประชุมต่างๆ มีโอกาสที่จะต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากรัฐบาลเน้นให้ความสำคัญกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
*** ไม่ต้องห่วงงบฯ 2.08 แสนลบ.ยังอยู่ในแผน และเบิกครบ 100% ในก.ย.63
บล.หยวนต้า ระบุว่า แม้ว่าภาครัฐจะหันมาให้น้ำหนักกับการแก้ไขผลกระทบจากโควิด-19 เป็นอย่างแรก โดยการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาถึง 3 เฟส ด้วยกัน แต่ทางภาครัฐยังคงยืนยันว่ายังให้ความสนใจไปที่การพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานเป็นโครงการแรกๆ โดยการเร่งจ่ายงบประมาณ 2.08 แสนล้านบาท ให้ครบ 100% ภายในเดือน ก.ย. 63 เพราะเม็ดเงินการลงทุนก่อสร้างมีความจำเป็นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจเช่นกัน
ส่วนโครงการที่น่าจะเกิดขึ้นภายในปี 63 ก็คือ 1.รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย(บางขุนนนท์-มีนบุรี) วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท คาดขายแบบ TOR ให้เข้าร่วมประมูลได้ใน 1 - 2 เดือนหน้า และได้ชื่อผู้รับเหมาในช่วงครึ่งปีหลัง 2.รถไฟฟ้าสายสีแดงส่วนต่อขยาย(รังสิต-ธรรมศาสตร์) (ตลิ่งชัน-ศิริราช) (ตลิ่งชัน-ศาลายา) วงเงินราว 2.3 หมื่นล้านบาท คาดเปิดประมูลในเดือน มิ.ย. ส่วน3.โครงการอื่นๆ เช่น รถไฟทางคู่ และรถไฟไทย-จีน ในช่วงครึ่งปีหลัง
*** เคอร์ฟิว ทำให้งานก่อสร้างล่าช้า ให้น้ำหนักลงทุน"เท่ากับตลาด"
จากมาตรการเคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ ทำให้เวลาในการทำงานก่อสร้างน้อยลง บล.หยวนต้า ระบุต่อว่า จากการก่อสร้างที่ลดลงแล้วทำให้งานใหม่ๆ จะชะลอออกไป เช่น รถไฟความเร็วสูง 3 สนามบิน งานสนามบินอู่ตะเภาที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาในเดือนพ.ค.63
ซึ่งจากเหตุผลข้างต้นทำให้ การรับรู้รายได้ และกำไรที่ลดลง จึงปรับประมาณการกลุ่มในปี 63 และ 64 ลง 16% และ 20% มาอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท และ 4.4 พันล้านบาท ตามลำดับ
ให้น้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มรับเหมา "เท่ากับตลาด" ปัจจุบันกลุ่มรับเหมาก่อสร้างลงมาซื้อขายในระดับ P/E ที่ราวๆ 12.75 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 22.8 เท่ามาก ส่วน PBV ซื้อขายอยู่ที่ราว 0.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 2 เท่า
*** CK-STEC นำโด่งหุ้นแนะนำประจำกลุ่ม
จากการสำรวจพบว่านักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำ CK และ STEC เป็นหุ้นเด่นประจำกลุ่ม สาเหตุก็คือ มีโอกาสเข้ารับงานใหม่ๆของภาครัฐได้มากกว่ารายอื่นๆ และเป็นตัวเก็งเข้าชิงรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนต่อขยาย
โดยให้ราคาเหมาะสมและคำแนะนำหุ้น CK และ STEC ไว้ดังนี้
ปัญหาของหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างไม่ใช่การเลื่อนใช้งบประมาณของภาครัฐแล้ว แต่เป็นการจับตาไปที่ตัวผู้ประกอบการเองต่างหากว่าการเคอร์ฟิวจะเป็นอุปสรรคทำให้งานก่อสร้างล่าช้า และทำให้โครงการใหม่ๆต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ ดังนั้นนักลงทุนต้องรอลุ้นความคืบหน้าของแต่ละโครงการในช่วงโควิด-19 อย่างใกล้ชิด แม้ข่าวดีขณะนี้ก็คือผู้ประกอบการหลายรายยืนยันว่าการทำงานยังเป็นปกติอยู่ก็ตาม!
.
**อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่==>> http://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?release=y&id=M01tZytMOGJKRlk9
--------------------------
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่นี่
Website : https://www.efinancethai.com
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/
lTwitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin