STEC ชนะงานประมูลก่อสร้างรัฐสภาใหม่ 1.2 หมื่นลบ. สูงกว่าราคากลาง
Source - IQ Biz (Th)
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 56)--นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาและประสานงานในการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เปิดเผยผลการเปิดซองราคาโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ พบว่าบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดและได้รับเลือก คือ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) โดยเสนอราคาเข้ามาที่ 12,906,982,000 บาท
ทั้งนี้ ราคาที่ STEC เสนอมาดังกล่าวยังคงสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ 12,287,465,000 บาท ดังนั้นในขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจะดำเนินการเจรจาต่อรองราคาให้ลดลงมาเท่ากับราคากลางที่ตั้งไว้ แต่หาก STEC ไม่สามารถลดราคาได้ก็จะต้องมีการปรับเพิ่มงบประมาณที่จะขอจัดสรรในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
ส่วนที่มีการออกมาท้วงติงคุณสมบัติของ STEC ที่เข้าข่ายขัดเงื่อนไขทีโออาร์ เนื่องจากมีกรรมการบริษัท ชื่อ พ.ท.ทวีสิน รักกตัญญู ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะที่ปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง อีกทั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดร่างทีโออาร์และเอกสารประกวดราคา โดยตามเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติของผู้เสนอราคาต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างรัฐสภามาก่อนนั้น นายนิคม ระบุว่า พ.ท.ทวีสินได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว อีกทั้งกรรมการได้พิจารณาคุณสมบัติถึง 2 รอบ จึงไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับราคาที่บริษัทผ่านการคัดเลือกและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติที่เหลืออีก 3 บริษัท ได้เสนอราคามา คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์(ITD) เสนอราคา 13,900,785,610 บาท, บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น(SYNTEC) เสนอราคา 13,700,000,000 บาท และ บมจ.เพาเวอร์ไลน์(PLE) เสนอราคา 13,638,233,723บาท
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/กษมาพร/เสาวลักษณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--
stecชนะประมูล
Source - IQ Biz (Th)
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (07 มี.ค. 56)--นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมการให้คำปรึกษาและประสานงานในการกำกับดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เปิดเผยผลการเปิดซองราคาโครงการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ พบว่าบริษัทที่เสนอราคาต่ำสุดและได้รับเลือก คือ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(STEC) โดยเสนอราคาเข้ามาที่ 12,906,982,000 บาท
ทั้งนี้ ราคาที่ STEC เสนอมาดังกล่าวยังคงสูงกว่าราคากลางที่กำหนดไว้ 12,287,465,000 บาท ดังนั้นในขั้นตอนต่อไปทางคณะกรรมการที่ได้รับมอบหมายจะดำเนินการเจรจาต่อรองราคาให้ลดลงมาเท่ากับราคากลางที่ตั้งไว้ แต่หาก STEC ไม่สามารถลดราคาได้ก็จะต้องมีการปรับเพิ่มงบประมาณที่จะขอจัดสรรในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว
ส่วนที่มีการออกมาท้วงติงคุณสมบัติของ STEC ที่เข้าข่ายขัดเงื่อนไขทีโออาร์ เนื่องจากมีกรรมการบริษัท ชื่อ พ.ท.ทวีสิน รักกตัญญู ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะที่ปรึกษาในการจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการและควบคุมงานก่อสร้าง อีกทั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการกำหนดร่างทีโออาร์และเอกสารประกวดราคา โดยตามเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติของผู้เสนอราคาต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างรัฐสภามาก่อนนั้น นายนิคม ระบุว่า พ.ท.ทวีสินได้ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวแล้ว อีกทั้งกรรมการได้พิจารณาคุณสมบัติถึง 2 รอบ จึงไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
สำหรับราคาที่บริษัทผ่านการคัดเลือกและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติที่เหลืออีก 3 บริษัท ได้เสนอราคามา คือ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล็อปเมนต์(ITD) เสนอราคา 13,900,785,610 บาท, บมจ.ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น(SYNTEC) เสนอราคา 13,700,000,000 บาท และ บมจ.เพาเวอร์ไลน์(PLE) เสนอราคา 13,638,233,723บาท
--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/กษมาพร/เสาวลักษณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--