ทริปนี้เราไปเที่ยวแบบเน้นที่จังหวัดโอคายาม่า 6 วันค่ะ
EP1 วันแรก >>
https://ppantip.com/topic/39789948
EP2 วันที่สอง >>
https://ppantip.com/topic/39793767
คำเตือน : เนื่องจากเราขับรถไม่เป็นการเดินทางโดยรถสาธาระที่มีและ.. รถแท็กซี่ค่ะ ! แน่นอนว่าแท็กซี่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพงแต่จุดประสงค์ที่มาเขียนเพราะว่าอยากจะแชร์สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอคายาม่าให้เพื่อนๆเผื่อจะได้เอาไปเป็นไอเดียในการท่องเที่ยวค่ะ *หากขับรถเป็นแนะนำให้เช่ารถขับจะดีกว่าค่ะ*
แผนการเดินทางวันที่ 3 แบบสั้นๆคือวันนี้จะไปดูซาลาแมนเดอร์ยักษ์!! เก็บผลไม้ เดินชิลชมสวนโคราคุเอน สวนสวยTop 3 ของญี่ปุ่น เที่ยวปราสาทโอคายาม่า ปิดท้ายด้วยการช้อปที่ดองกี้
โอฮะโยโกะไซมัส .. ตื่นเข้ามาประมาณ 7.30 น. อาหารเช้าของ yukai resort yubaraonsen terunoyu ที่เราพักเมื่อคืน เป็นสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ มีข้าวต้ม ขนมปัง ขนมจีบ นักเก็ตไก่ ไข่ดาว ฯลฯ
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จก่อนจะเช็คเอาท์ เราจะไปที่ Hanzaki Center เป็นพิพิธภัณฑ์ซาลาแมนเดอร์ยักษ์!
จากโรงแรม Yukai Resort Terunoyu ที่เราพักสามารถเดินไปได้ประมาณ 2 นาทีค่ะ
เข้าไปไม่คิดว่าจะมีตัวจริงอยู่นึกว่ามีแต่ภาพให้ดู เจอปุ๊ปถึงกับช็อค.. น้องตัวใหญ่มาก ยักษ์จริงๆ!! ตัวนี้ความยาวประมาณเมตรกว่าๆ
*Japanese giant salamander ภาษาญี่ปุ่นโอซานโชอูโอ, ฮานซะกิ
พนักงานกำลังล้างตู้อยู่พอดี (น้องใหญ่กว่าขาคนล้าง T^T) ที่ห้องนี้จะมีตัวใหญ่ประมาณ 3 ตัวค่ะ
ด้านในก็จะมีรูปเรื่องราวบอกเล่าว่าเจอน้องแถวๆแม่น้ำใกล้ๆนี้ น้องอาศัยอยู่ได้แค่ในแหล่งน้ำที่สะอาดเท่านั้น กินปลาและสัตว์เล็กในแม่น้ำเป็นอาหาร
เดินไปเจอตัวที่ตายแล้วดองไว้ เพราะว่าเป็นตัวที่ยักษ์มากกก ประมาณ 163 ซม. (เทียบกับความสูงเราแล้วสูงกว่าเราอีกกก)
ด้านหลังมีศาลเจ้าเล็กๆเจ้าหน้าที่บอกว่านี่คือ ศาลเจ้าซาลาแมนเดอร์ยักษ์ มีป้ายเขียนอธิบายไว้ว่า... อืมมม.... เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ อ่านไม่ออกข้ามไป 55555
ประมาณ 9.00 น. เราก็กลับมาเช็คเอ้าท์ที่โรงแรมและจุดต่อไปที่เราจะไปคือ เก็บผลไม้ที่ฟาร์มโทโมมิเอ็น (Tomomien Fruit Farm)
ออกไปรอรถ "Maniwakun (Hiruzen - Kuse route)” สีเขียวคันดีคันเดิม รถจะมารับที่หน้าทางเข้าโรงแรม บริเวณที่จอดรถ
รถบัสจะมาตอนประมาณ 9.20 น. เพื่อกลับไปที่สถานีชูโกคุ คะซึยาม่า (Chugoku-Katsuyama Station)
*ขออนุญาตแปะรูปเดิมนะคะ พอดีรีบขึ้นรถเลยไม่ได้ถ่าย
จากสถานี สถานีชูโกคุ คะซึยาม่า (Chugoku-Katsuyama Station) ซื้อตั๋วรถไฟไปที่สถานีโอคายาม่า (Okayama)
จากสถานีโอคายาม่าออกทางประตูทางออกทิศตะวันออก ออกมาก็เจอกับ.. โมโมทาโร่และสหาย!! (ในที่สุดเราก็เจอน้องแล้ววววว)
ปล.เรื่องย่อยนิทานเรื่องโมโมทาโร่เพื่อใครไม่รู้จัก จุดเริ่มต้นเรื่องเกิดจากลูกท้อลูกใหญ่ลอยตามลำธารผ่านคุณยายที่กำลังซักผ้าอยู่ คุณยายเห็นเลยเก็บเอากลับบ้านเพื่อที่จะกิน หลังจากตากลับมาบ้านก็เลยผ่าลูกท้อปรากฏว่าด้านในมีเด็กผู้ชายน่าตาสุดคิ้วท์อยู่ ตายายที่ลูกกันลำพังสองคนอย่างเหงาดีใจมากคิดว่าเป็นสวรรค์ประทานเด็กมาให้แน่ๆ เลยเลี้ยงดูและตั้งชื่อเด็กน้อยว่า “โมโมตาโร” หรือ “เด็กชายลูกท้อ” (โมโมะ หมายถึงลูกท้อ ส่วนตาโรหรือทาโรเป็นชื่อที่นิยมใช้กับเด็กผู้ชายชาวญี่ปุ่น) พอโตเป็นเด็กดี มีน้ำใจ มีพละกำลังมาก วันหนึ่งได้ข่าวว่ามียักษ์มารังควานที่หมู่บ้านจึงอาศัยออกไปปราบ ระหว่างการเดินทางก็เจอกับสุนัข ลิง และนก โมโมทาโร่ให้ขนมคิบิดังโงะกับสัตว์ต่างๆเพื่อให้เดินทางไปด้วยกัน สุดท้ายก็ชนะยักษ์และตัดหัวยักษ์ได้สำเร็จและบ้านเกิดของโมโมทาโร่ก็คือที่ "จังหวัดโอคายาม่า" นี่เองค๊าาาาา
วันนี้เราจองโรงแรมไว้ที่ Hotel Areaone Okayama จากสถานีออกทางทิศตะวันออก เดินไปประมาณ 6 นาที แวะไปฝากเก็บเป๋าทิ้งไว้ก่อน
*สำหรับใครที่โรงแรมไกลหรือไม่อยากเดินเยอะก็สามารถฝากกระเป๋าตามล็อคเกอร์หยอดเหรียญในสถานีได้ค่ะ ราคาขึ้นอยู่กับไซส์ล็อคเกอร์ 300-500 เยน
ฝากเสร็จแล้ว.. ก่อนไปกินผลไม้ เราไปหาข้าวกลางวันกินก่อน เดินซอกแซกอย่างไร้จุดหมายไปเลยๆ ก็ไปเจอร้านหนึ่งชื่อว่า Yamato จากโรงแรมเดินไปปะมาณ 15 นาที
เมนูไม่มีภาษาอังกฤษแต่ว่ามีรูปให้จิ้มค่า มีเป็นโซบะ ข้าวผัด ทงคัตสึ แกงกะหรี่
เราสั่งโซบะกับข้าวหมูทอดมา โซบะน้ำข้นปานกลาง รสชาติกำลังดี หมูละลายในปาก 730 เยน ผ่าน!
กรอบนอกนุ่มใน ซอสหวานเปรี้ยวหน่อยๆ เข้ากันดี ข้าวนุ่มมาก สรุปอร่อย! 780 เยน
อิ่มแล้วลุยต่อค่ะ!! .. จากบริเวณสถานีโอคายาม่านั่งรถแท็กซี่ไปที่ฟาร์มโทโมมิเอ็น (Tomomien Fruit Farm) ประมาณ 30 นาที ราคา 5,140 เยน
https://the-way-of-japan.com/fruits/en/2017/10/12/1954/
อย่างที่บอกเรามาตามหาโมโมทาโร่ถ้าจะให้เข้าตรีมก็ต้องไปเก็บลูกพีช(ลูกท้อ)ด้วยสิ! ที่จังหวัดโอคายาม่าเป็นจังหวัดที่มีองุ่นพันธุ์ไชน์ มัสคัสปลูกเยอะที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสายพันธุ์นี้ได้ฉายาว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ลูกใหญ่อลังการ หวานช่ำเลื่องชื่อ แต่เราจะไปกินพีช ฮาๆๆ
มาถึงแล้ว.. มาถึงเอะ... ที่นี่มาถูกไหม ที่นี่ที่ไหน ...มองไปเป็นลานจอดรถโล่งๆ มีทุ่งนา ใกล้ที่จอดรถจะมีเต็นท์พนักงานอยู่ เดินเข้าไป Say hi และต้องอกหักฝันสลาย เพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนพีชหมดพอดี.. และองุ่นพันธุ์ไชน์ มัสคัสยังไม่โตเต็มที่ ... เจ้าหน้าที่แนะนำให้เก็บเป็นองุ่นพันธุ์พิโอเน่กำลังโตเต็มที่หวานอร่อยไม่แพ้กัน
* ปฏิทินผลไม้โอคายาม่านอกจากองุ่นก็มีพีชและสตรอว์เบอร์รี่ แปะไว้ให้เพื่อนๆกันพลาดแบบเรา...ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะคะ
https://www.okayama-japan.jp/th/feature/fruit
วิธีเก็บและราคาของแต่ละฟาร์มจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วยนะคะ สำหรับที่นี่
ราคาองุ่นพันธุ์พิโอเน่
1. เก็บองุ่น 1 พวง + ทานองุ่นประมาณ 20 เม็ด ราคา 2,100 เยน (จองล่วงหน้า 1,900 เยน)
2. เก็บอย่างเดียว 1 พวง 1,500 เยน (จองล่วงหน้า 1,300 เยน)
3. ทาน 20 เม็ด ราคา 750 เยน (จองล่วงหน้า 700 เยน)
เราเลือกแบบที่ 1 คือเก็บด้วยและนั่งทานด้วย จ่ายตังเรียบร้อยได้มา 1 พวงน่าจะ 20 เม็ดกว่าๆ เห็นน้อยนึกว่าจะไม่อิ่ม แต่พอกินจริงๆ จุกมากแล้วเพราะว่าเม็ดใหญ่มาก! เรากินองุ่นแบบไม่ปลอกเปือกคนญี่ปุ่นข้างๆสกิดบอกว่า “ปลอกเปลือกสิ หวานกว่านะ” ขนาดไม่ปลอกยังหวานพอลองปลอก หวานบาดคอมาก!!
ทานเสร็จคุณยายก็เดินนำเราไปยังที่เก็บองุ่นคุณยายอธิบายว่า เราสามารถเลือกได้ 1 พวง ถ้าเจอพวงที่ถูกใจเอามือข้างหนึ่งจับพวงเพื่อรองไว้อย่าให้ร่วง อีกมือถือกรรไกรตัดชั๊บเอาให้กล่องกลับบ้านได้เลย
หลังจากที่เดินวนหาสักพักเราก็ได้พวงที่ใหญ่มหึมาถูกใจใช่เลย! ตอนตัดเกือบหล่นเพราะหนักมากน่าจะเกือบกิโลได้ค่ะ แนะนำให้จับดีๆ
(คลิปสั้นเก็บองุ่น :
https://www.youtube.com/watch?v=c_RyBJD1B6o&feature=youtu.be)
เดินผ่านองุ่นพันธุ์ไชมัสคัสราชาผลไม้ แอบไปส่องดูคิดในใจว่า “เดี๋ยว!นี่คือยังไม่โตพร้อมที่จะกินเหรอ แค่นี้ก็ใหญ่แล้วนะเว้ย!”
หลังจากเก็บเสร็จเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราก็แวะไปที่ช็อปของฟาร์ม จากฟาร์มต้องนั่งรถไปอีกประมาณ 5 นาที (
https://goo.gl/maps/B5VHSVL4rUjbh2ns6)
ที่ช็อปช้อปมีผลไม้ขายเหมือนกันลูกใหญ่ๆ โตๆ คัดสรรมาอย่างดี มีไวน์ ขนม ของฝากจากโอคายาม่า และมี.. ซอฟท์ครีมด้วยค๊า ไม่ได้กินที่ฟาร์มซื้อซอฟท์ครีมพีชกินก็ได้ ฮืออ ฟินหอมมม
จากช็อปเราจะไปต่อกันที่สวนที่ติดอันดับสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นนั้นก็คือสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden) และจากนั้นก็จะไปต่อที่ปราสาทโอคายาม่าซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนค่ะ จากที่นี่นั่งรถแท็กซี่ไปสวนโคราคุเอน ประมาณ 30 นาที ราคา 5,500 เยน
สวนโคราคุเอน (Korakuen Garden)
・ตั๋วเข้าเฉพาะสวนโคราคุเอนราคา 400 เยน
・ตั๋วสำหรับเข้าสวนโคราคุเอนและปราสาทโอคายาม่าราคา 560 เยนค่ะ
ตรงทางเข้ามีคู่มือเป็นภาษาอังกฤษแจกด้วยนะ หรือใครอยากได้ภาษาจีน เกาหลี ฝรั่งเศส ก็จัดไปปป
จากทางเข้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอกับนกกระสา เป็นนกที่เลี้ยงไว้ในสวน จะมีปล่อยออกไปที่สวนบ้างเป็นบ้างวัน
สวนสวยสมคำล่ำลือจริงๆ
จากสวนสามารถมองเห็นปราสาทโอคายาม่าด้วย
ตรงพื้นที่นี้ส่วนใหญ่จะปลูกเป็นดอกไม้ ข้าว แล้วแต่ฤดูกาลค่ะ ส่วนเราไปต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงปลูกข้าวค่ะ ด้านหลังที่เห็นเขียวเข้มๆคือต้นชาเขียว
มีร้านชาให้นั่งพัก ดื่มชาชมวิวด้วย
โซนต้นซากุระกว้างมาก ที่สวนนี้จะสวยทุกฤดู แต่ที่นิยมสุดๆจะเป็นช่วงซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ (เดี๋ยวเรามาใหม่ ฮาๆ)
ก่อนจะถึงทางออกฝั่งที่ใกล้ๆกับปราสาทมีร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ
จากสวนโคราคุเอนสามารถเดินข้ามสะพานเหล็ก (ไม่ใช่สะพานเหล็กที่ไทยนะ ฮาๆ) ไปที่ปราสาทได้
ที่แม่น้ำสามารถปั่นเป็ดหรือจะปั่นลูกพีช ชมวิวชิลๆรอบปราสาทโอคายาม่าได้ค่ะ (ราคาไม่ได้เดินไปดูขอโทษค่ะ)
เดินเล่นในสวนเพลิดไปหน่อยกว่าจะมาถึงปราสาทโอคายาม่าก็เกือบ 16.45 น. แล้วค่ะ รีบจ้ำเลยยย ปราสาทปิด 17.30 น.
[CR] เจาะลึก Okayama บ้านเกิดโมโมทาโร่ ขับรถไม่เป็นก็เที่ยวได้ EP.3
EP1 วันแรก >> https://ppantip.com/topic/39789948
EP2 วันที่สอง >> https://ppantip.com/topic/39793767
คำเตือน : เนื่องจากเราขับรถไม่เป็นการเดินทางโดยรถสาธาระที่มีและ.. รถแท็กซี่ค่ะ ! แน่นอนว่าแท็กซี่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพงแต่จุดประสงค์ที่มาเขียนเพราะว่าอยากจะแชร์สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดโอคายาม่าให้เพื่อนๆเผื่อจะได้เอาไปเป็นไอเดียในการท่องเที่ยวค่ะ *หากขับรถเป็นแนะนำให้เช่ารถขับจะดีกว่าค่ะ*
แผนการเดินทางวันที่ 3 แบบสั้นๆคือวันนี้จะไปดูซาลาแมนเดอร์ยักษ์!! เก็บผลไม้ เดินชิลชมสวนโคราคุเอน สวนสวยTop 3 ของญี่ปุ่น เที่ยวปราสาทโอคายาม่า ปิดท้ายด้วยการช้อปที่ดองกี้
โอฮะโยโกะไซมัส .. ตื่นเข้ามาประมาณ 7.30 น. อาหารเช้าของ yukai resort yubaraonsen terunoyu ที่เราพักเมื่อคืน เป็นสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ มีข้าวต้ม ขนมปัง ขนมจีบ นักเก็ตไก่ ไข่ดาว ฯลฯ
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จก่อนจะเช็คเอาท์ เราจะไปที่ Hanzaki Center เป็นพิพิธภัณฑ์ซาลาแมนเดอร์ยักษ์!
จากโรงแรม Yukai Resort Terunoyu ที่เราพักสามารถเดินไปได้ประมาณ 2 นาทีค่ะ
เข้าไปไม่คิดว่าจะมีตัวจริงอยู่นึกว่ามีแต่ภาพให้ดู เจอปุ๊ปถึงกับช็อค.. น้องตัวใหญ่มาก ยักษ์จริงๆ!! ตัวนี้ความยาวประมาณเมตรกว่าๆ
*Japanese giant salamander ภาษาญี่ปุ่นโอซานโชอูโอ, ฮานซะกิ
พนักงานกำลังล้างตู้อยู่พอดี (น้องใหญ่กว่าขาคนล้าง T^T) ที่ห้องนี้จะมีตัวใหญ่ประมาณ 3 ตัวค่ะ
ด้านในก็จะมีรูปเรื่องราวบอกเล่าว่าเจอน้องแถวๆแม่น้ำใกล้ๆนี้ น้องอาศัยอยู่ได้แค่ในแหล่งน้ำที่สะอาดเท่านั้น กินปลาและสัตว์เล็กในแม่น้ำเป็นอาหาร
เดินไปเจอตัวที่ตายแล้วดองไว้ เพราะว่าเป็นตัวที่ยักษ์มากกก ประมาณ 163 ซม. (เทียบกับความสูงเราแล้วสูงกว่าเราอีกกก)
ด้านหลังมีศาลเจ้าเล็กๆเจ้าหน้าที่บอกว่านี่คือ ศาลเจ้าซาลาแมนเดอร์ยักษ์ มีป้ายเขียนอธิบายไว้ว่า... อืมมม.... เป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ อ่านไม่ออกข้ามไป 55555
ประมาณ 9.00 น. เราก็กลับมาเช็คเอ้าท์ที่โรงแรมและจุดต่อไปที่เราจะไปคือ เก็บผลไม้ที่ฟาร์มโทโมมิเอ็น (Tomomien Fruit Farm)
ออกไปรอรถ "Maniwakun (Hiruzen - Kuse route)” สีเขียวคันดีคันเดิม รถจะมารับที่หน้าทางเข้าโรงแรม บริเวณที่จอดรถ
รถบัสจะมาตอนประมาณ 9.20 น. เพื่อกลับไปที่สถานีชูโกคุ คะซึยาม่า (Chugoku-Katsuyama Station)
*ขออนุญาตแปะรูปเดิมนะคะ พอดีรีบขึ้นรถเลยไม่ได้ถ่าย
จากสถานี สถานีชูโกคุ คะซึยาม่า (Chugoku-Katsuyama Station) ซื้อตั๋วรถไฟไปที่สถานีโอคายาม่า (Okayama)
จากสถานีโอคายาม่าออกทางประตูทางออกทิศตะวันออก ออกมาก็เจอกับ.. โมโมทาโร่และสหาย!! (ในที่สุดเราก็เจอน้องแล้ววววว)
ปล.เรื่องย่อยนิทานเรื่องโมโมทาโร่เพื่อใครไม่รู้จัก จุดเริ่มต้นเรื่องเกิดจากลูกท้อลูกใหญ่ลอยตามลำธารผ่านคุณยายที่กำลังซักผ้าอยู่ คุณยายเห็นเลยเก็บเอากลับบ้านเพื่อที่จะกิน หลังจากตากลับมาบ้านก็เลยผ่าลูกท้อปรากฏว่าด้านในมีเด็กผู้ชายน่าตาสุดคิ้วท์อยู่ ตายายที่ลูกกันลำพังสองคนอย่างเหงาดีใจมากคิดว่าเป็นสวรรค์ประทานเด็กมาให้แน่ๆ เลยเลี้ยงดูและตั้งชื่อเด็กน้อยว่า “โมโมตาโร” หรือ “เด็กชายลูกท้อ” (โมโมะ หมายถึงลูกท้อ ส่วนตาโรหรือทาโรเป็นชื่อที่นิยมใช้กับเด็กผู้ชายชาวญี่ปุ่น) พอโตเป็นเด็กดี มีน้ำใจ มีพละกำลังมาก วันหนึ่งได้ข่าวว่ามียักษ์มารังควานที่หมู่บ้านจึงอาศัยออกไปปราบ ระหว่างการเดินทางก็เจอกับสุนัข ลิง และนก โมโมทาโร่ให้ขนมคิบิดังโงะกับสัตว์ต่างๆเพื่อให้เดินทางไปด้วยกัน สุดท้ายก็ชนะยักษ์และตัดหัวยักษ์ได้สำเร็จและบ้านเกิดของโมโมทาโร่ก็คือที่ "จังหวัดโอคายาม่า" นี่เองค๊าาาาา
วันนี้เราจองโรงแรมไว้ที่ Hotel Areaone Okayama จากสถานีออกทางทิศตะวันออก เดินไปประมาณ 6 นาที แวะไปฝากเก็บเป๋าทิ้งไว้ก่อน
*สำหรับใครที่โรงแรมไกลหรือไม่อยากเดินเยอะก็สามารถฝากกระเป๋าตามล็อคเกอร์หยอดเหรียญในสถานีได้ค่ะ ราคาขึ้นอยู่กับไซส์ล็อคเกอร์ 300-500 เยน
ฝากเสร็จแล้ว.. ก่อนไปกินผลไม้ เราไปหาข้าวกลางวันกินก่อน เดินซอกแซกอย่างไร้จุดหมายไปเลยๆ ก็ไปเจอร้านหนึ่งชื่อว่า Yamato จากโรงแรมเดินไปปะมาณ 15 นาที
เมนูไม่มีภาษาอังกฤษแต่ว่ามีรูปให้จิ้มค่า มีเป็นโซบะ ข้าวผัด ทงคัตสึ แกงกะหรี่
เราสั่งโซบะกับข้าวหมูทอดมา โซบะน้ำข้นปานกลาง รสชาติกำลังดี หมูละลายในปาก 730 เยน ผ่าน!
กรอบนอกนุ่มใน ซอสหวานเปรี้ยวหน่อยๆ เข้ากันดี ข้าวนุ่มมาก สรุปอร่อย! 780 เยน
อิ่มแล้วลุยต่อค่ะ!! .. จากบริเวณสถานีโอคายาม่านั่งรถแท็กซี่ไปที่ฟาร์มโทโมมิเอ็น (Tomomien Fruit Farm) ประมาณ 30 นาที ราคา 5,140 เยน
https://the-way-of-japan.com/fruits/en/2017/10/12/1954/
อย่างที่บอกเรามาตามหาโมโมทาโร่ถ้าจะให้เข้าตรีมก็ต้องไปเก็บลูกพีช(ลูกท้อ)ด้วยสิ! ที่จังหวัดโอคายาม่าเป็นจังหวัดที่มีองุ่นพันธุ์ไชน์ มัสคัสปลูกเยอะที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งสายพันธุ์นี้ได้ฉายาว่าเป็นราชาแห่งผลไม้ ลูกใหญ่อลังการ หวานช่ำเลื่องชื่อ แต่เราจะไปกินพีช ฮาๆๆ
มาถึงแล้ว.. มาถึงเอะ... ที่นี่มาถูกไหม ที่นี่ที่ไหน ...มองไปเป็นลานจอดรถโล่งๆ มีทุ่งนา ใกล้ที่จอดรถจะมีเต็นท์พนักงานอยู่ เดินเข้าไป Say hi และต้องอกหักฝันสลาย เพราะช่วงที่เราไปเป็นช่วงต้นเดือนกันยายนพีชหมดพอดี.. และองุ่นพันธุ์ไชน์ มัสคัสยังไม่โตเต็มที่ ... เจ้าหน้าที่แนะนำให้เก็บเป็นองุ่นพันธุ์พิโอเน่กำลังโตเต็มที่หวานอร่อยไม่แพ้กัน
* ปฏิทินผลไม้โอคายาม่านอกจากองุ่นก็มีพีชและสตรอว์เบอร์รี่ แปะไว้ให้เพื่อนๆกันพลาดแบบเรา...ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยนะคะ https://www.okayama-japan.jp/th/feature/fruit
วิธีเก็บและราคาของแต่ละฟาร์มจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ด้วยนะคะ สำหรับที่นี่
ราคาองุ่นพันธุ์พิโอเน่
1. เก็บองุ่น 1 พวง + ทานองุ่นประมาณ 20 เม็ด ราคา 2,100 เยน (จองล่วงหน้า 1,900 เยน)
2. เก็บอย่างเดียว 1 พวง 1,500 เยน (จองล่วงหน้า 1,300 เยน)
3. ทาน 20 เม็ด ราคา 750 เยน (จองล่วงหน้า 700 เยน)
เราเลือกแบบที่ 1 คือเก็บด้วยและนั่งทานด้วย จ่ายตังเรียบร้อยได้มา 1 พวงน่าจะ 20 เม็ดกว่าๆ เห็นน้อยนึกว่าจะไม่อิ่ม แต่พอกินจริงๆ จุกมากแล้วเพราะว่าเม็ดใหญ่มาก! เรากินองุ่นแบบไม่ปลอกเปือกคนญี่ปุ่นข้างๆสกิดบอกว่า “ปลอกเปลือกสิ หวานกว่านะ” ขนาดไม่ปลอกยังหวานพอลองปลอก หวานบาดคอมาก!!
ทานเสร็จคุณยายก็เดินนำเราไปยังที่เก็บองุ่นคุณยายอธิบายว่า เราสามารถเลือกได้ 1 พวง ถ้าเจอพวงที่ถูกใจเอามือข้างหนึ่งจับพวงเพื่อรองไว้อย่าให้ร่วง อีกมือถือกรรไกรตัดชั๊บเอาให้กล่องกลับบ้านได้เลย
หลังจากที่เดินวนหาสักพักเราก็ได้พวงที่ใหญ่มหึมาถูกใจใช่เลย! ตอนตัดเกือบหล่นเพราะหนักมากน่าจะเกือบกิโลได้ค่ะ แนะนำให้จับดีๆ
(คลิปสั้นเก็บองุ่น : https://www.youtube.com/watch?v=c_RyBJD1B6o&feature=youtu.be)
เดินผ่านองุ่นพันธุ์ไชมัสคัสราชาผลไม้ แอบไปส่องดูคิดในใจว่า “เดี๋ยว!นี่คือยังไม่โตพร้อมที่จะกินเหรอ แค่นี้ก็ใหญ่แล้วนะเว้ย!”
หลังจากเก็บเสร็จเจ้าหน้าที่ก็บอกให้เราก็แวะไปที่ช็อปของฟาร์ม จากฟาร์มต้องนั่งรถไปอีกประมาณ 5 นาที (https://goo.gl/maps/B5VHSVL4rUjbh2ns6)
ที่ช็อปช้อปมีผลไม้ขายเหมือนกันลูกใหญ่ๆ โตๆ คัดสรรมาอย่างดี มีไวน์ ขนม ของฝากจากโอคายาม่า และมี.. ซอฟท์ครีมด้วยค๊า ไม่ได้กินที่ฟาร์มซื้อซอฟท์ครีมพีชกินก็ได้ ฮืออ ฟินหอมมม
จากช็อปเราจะไปต่อกันที่สวนที่ติดอันดับสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่นนั้นก็คือสวนโคราคุเอน (Korakuen Garden) และจากนั้นก็จะไปต่อที่ปราสาทโอคายาม่าซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสวนค่ะ จากที่นี่นั่งรถแท็กซี่ไปสวนโคราคุเอน ประมาณ 30 นาที ราคา 5,500 เยน
สวนโคราคุเอน (Korakuen Garden)
・ตั๋วเข้าเฉพาะสวนโคราคุเอนราคา 400 เยน
・ตั๋วสำหรับเข้าสวนโคราคุเอนและปราสาทโอคายาม่าราคา 560 เยนค่ะ
ตรงทางเข้ามีคู่มือเป็นภาษาอังกฤษแจกด้วยนะ หรือใครอยากได้ภาษาจีน เกาหลี ฝรั่งเศส ก็จัดไปปป
จากทางเข้าเลี้ยวไปทางซ้ายจะเจอกับนกกระสา เป็นนกที่เลี้ยงไว้ในสวน จะมีปล่อยออกไปที่สวนบ้างเป็นบ้างวัน
สวนสวยสมคำล่ำลือจริงๆ
จากสวนสามารถมองเห็นปราสาทโอคายาม่าด้วย
ตรงพื้นที่นี้ส่วนใหญ่จะปลูกเป็นดอกไม้ ข้าว แล้วแต่ฤดูกาลค่ะ ส่วนเราไปต้นเดือนกันยายนเป็นช่วงปลูกข้าวค่ะ ด้านหลังที่เห็นเขียวเข้มๆคือต้นชาเขียว
มีร้านชาให้นั่งพัก ดื่มชาชมวิวด้วย
โซนต้นซากุระกว้างมาก ที่สวนนี้จะสวยทุกฤดู แต่ที่นิยมสุดๆจะเป็นช่วงซากุระกับใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ (เดี๋ยวเรามาใหม่ ฮาๆ)
ก่อนจะถึงทางออกฝั่งที่ใกล้ๆกับปราสาทมีร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ
จากสวนโคราคุเอนสามารถเดินข้ามสะพานเหล็ก (ไม่ใช่สะพานเหล็กที่ไทยนะ ฮาๆ) ไปที่ปราสาทได้
ที่แม่น้ำสามารถปั่นเป็ดหรือจะปั่นลูกพีช ชมวิวชิลๆรอบปราสาทโอคายาม่าได้ค่ะ (ราคาไม่ได้เดินไปดูขอโทษค่ะ)
เดินเล่นในสวนเพลิดไปหน่อยกว่าจะมาถึงปราสาทโอคายาม่าก็เกือบ 16.45 น. แล้วค่ะ รีบจ้ำเลยยย ปราสาทปิด 17.30 น.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้