วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวกันที่  “โอคายาม่า (Okayama)” เมืองที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น “ดินแดนแห่งแสงตะวัน” เนื่องจากโอคายาม่าเป็นจังหวัดที่มีอากาศอบอุ่น และฝนตกน้อยทำให้บรรยากาศดี เที่ยวได้ตลอดทั้งปีเลย และที่สำคัญโอคายาม่ายังเรียกได้ว่าเป็นอาณาจักรแห่งผลไม้ ซึ่งผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองนี้คือ ลูกพีช (หรือโมโม่ในภาษาญี่ปุ่น) และ องุ่นพันธุ์ Shine Muscat  ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูร้อนถึงฤดูใบไม้ร่วง เราจะสามารถเก็บองุ่น และลูกพีชสดๆ จากต้นได้เลย (แค่คิดก็ฟินแล้ว)  

สำหรับการเดินทางมาโอคายาม่านั้นสามารถนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานีโอคายาม่าได้โดยตรง และใช้เวลาเดินทางมาไม่นานจากเมืองต่างๆ จากโอซาก้า ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ 45 นาที, จากฮิเมจิ ใช้เวลาเดินทาง 19 นาที และจากฮิโรชิม่าใช้เวลาเพียง 35 นาที หรือจะนั่งชินคันเซ็นจากเมืองฟุกุโอกะมาโอคายาม่าก็ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ทำให้เราสามารถมาเที่ยวชิลล์ๆ แบบเช้า - เย็นกลับได้เลย

ด้วยความที่โอคายาม่านั้นเป็นเมืองที่สงบ เพียบพร้อมไปด้วยศิลปะ วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจ ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติ และบ้านเรือนที่มีกลิ่นอายที่ยังคงความเป็นวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม รวมไปถึงยังมีแหล่งช้อปปิ้ง อาหาร และขนมขึ้นชื่อเพียบ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างวันนี้เราคัดมาให้แล้ว

1. ปราสาทโอคายาม่า (Okayama Castle)



ด้านในปราสาทตกแต่งไว้อย่างสวยงาม ชั้น 1 - 4 จะเป็นพื้นที่จัดแสดงเกี่ยวกับศิลปะวัฒนธรรม ประวัติความเป็นมาของปราสาท ซึ่งจะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมทดลองทำเครื่องดินเผา “Bizenyaki” ด้วย  และที่ชั้น 2 จะมีบริการให้เช่าชุดกิโมโนฟรี ซึ่งจะมีให้บริการทั้งหมด 5 รอบ  (จำกัดรอบละ 5 คนค่ะ)



และที่จุดชมวิวชั้น 5 - 6 เราจะสามารถมองเห็น “Kin No Shachihoko (รูปสลักปลาหัวเสือทองคำ เป็นสัญลักษณ์สำหรับป้องกันอัคคีภัย) และรูปปั้นลูกท้อสีทองที่สวยงามอยู่บนหลังคาของปราสาท และจากชั้นบนเรายังสามารถมองเห็นวิวสวนโคราคุเอนใกล้ๆ ได้อีกด้วย


สำหรับใครที่มาเที่ยวปราสาทโอคายาม่า ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี,ฤดูร้อน, ฤดูใบไม้ร่วง จะได้เห็นการประดับไฟที่สวยงามระยิบระยับในตอนกลางคืนด้วยนะ

ค่าเข้าชม 320 เยน  
นอกจากนั้นยังมีตั๋วชุดคู่ (ตั๋วที่เข้าได้ทั้งปราสาทโอคายาม่าและสวนโอคายาม่าโคราคุเอน) ราคา 580 เยน
เปิดตั้งแต่เวลา 9:00 น. – 17:30 น.

2. สวนโอคายาม่าโคราคุเอน  (Okayama Korakuen Garden)

เมื่อเดินออกมาด้านหน้าปราสาทโอคายาม่า แล้วเดินข้ามฝั่งแม่น้ำอาซาฮีมา ก็จะเจอกับสวนโอคายาม่าโคราคุเอน ที่นี่เป็น 1 ใน 3 สวนที่สวยงามที่สุดในญี่ปุ่น เช่นเดียวกับสวน Kenrokuen จังหวัดคานาซาว่า และสวน Kairaku-en จังหวัดอิบารากิ และสวนโอคายาม่าโคราคุเอนแห่งนี้ยังเป็นสวนที่ได้ 3 ดาว จาก Michelin Green Guide Japan อีกด้วย  


พื้นที่สวนกว้างมาก  มีโซนให้เดินเล่นหลายโซนเลยค่ะ ทั้งไร่ชา สวนบ๊วย สวนซากุระ นอกจากนี้ยังมีสวนดอกอาซาเลีย และไอริส รวมทั้งบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ มีปลาคาร์ฟว่ายอยู่ในบ่อหลายร้อยตัวเชียวล่ะ






ค่าเข้าชม 410 เยน  
เปิดตั้งแต่เวลา  7:30 น. – 18:00 น. (20 มีนาคม – 30 กันยายน)
8:00 น. – 17:00 น. (1 ตุลาคม – 19 มีนาคม) 

3. เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง (Kurashiki Bikan Historical Quarter)

การเดินทางมาเมืองคุราชิกิ เราสามารถขึ้นรถไฟ JR จากสถานีโอคายาม่า ราคาตั๋ว 320 เยน ใช้เวลาประมาณ 13-17 นาที นั่งต่อเดียวก็ถึงสถานีคุราชิกิเลยค่ะ

ที่นี่เป็นหมู่บ้านโบราณของเมืองโอคายาม่า เดิมทีเคยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าที่รุ่งเรืองมาก่อน มาเที่ยวที่นี่เราจะได้เดินเล่นสบายๆ ชมสวนริมคลองคุราชิกิ ล่องเรือชมวิว เที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะ รวมไปถึงช้อปปิ้งของที่ระลึกขึ้นชื่อของเมืองโอคายาม่าได้ด้วยค่ะ


บ้านเรือนที่นี่เก่าแก่มากๆ เพราะสร้างตั้งสมัยเอโดะ ซึ่งปัจจุบันได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นร้านค้าขายของ มีทั้งร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขนมหวานขึ้นชื่อของเมืองโอคายาม่าและคาเฟ่ ซึ่งยังคงมีกลิ่นอายความวินเทจเบาๆ แถมมีมุมถ่ายรูปเยอะเลย



อย่างที่บอกว่าร้านค้าที่นี่มีหลายร้านมาก อย่างร้านนี้  “Hayashi Genjuro Shouten” เดิมเป็นร้านขายยา ที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นร้านขายของที่ระลึกดีไซน์เก๋ๆ และแปลกตา เช่น ของสะสมและของใช้ต่างๆ ในบ้าน  และด้านบนยังมีคาเฟ่ด้วยนะ



นอกจากนั้นที่คุราชิกิ ยังเป็นต้นกำเนิด Masking tape หรือเทปกระดาษในญี่ปุ่นด้วย ซึ่งร้าน “TANE” เป็นร้านค้าที่รวม Masking tape ไว้ให้เลือกมากมายหลายแบบ จะซื้อใช้เองหรือซื้อเป็นของฝากก็ดี รับรองว่าคนที่ชอบสะสม Masking tape เป็นปลื้มแน่นอน




สาวก DENIM มาทางนี้เลยจ้า เพราะที่นี่มี DENIM Street ถนนของคนรักยีนส์โดยเฉพาะ มีร้านค้า ขายเสื้อผ้า กระเป๋าเท่ๆ ของใช้ที่ทำมาจากผ้ายีนส์เพียบ  



นอกจากนั้นที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์โมโมทาโร่ (Momotaro Karakuri Museum) ซึ่งจัดแสดงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับนิทานพื้นบ้านเรื่องโมโมทาโร่ และจำหน่ายของที่ระลึกที่มีเฉพาะที่นี่ที่เดียวด้วย


นี่เลย ร้านชาไข่มุกยอดฮิต มีโลโก้โมโมทาโร่สุดน่ารักอยู่บนแก้วด้วย ><  นอกจากนั้นยังมีเครื่องดื่มอร่อยๆ อีกมากมายเลย ไม่ว่าจะเป็น Fruit milk, Chesse Tea,น้ำผลไม้ใส่โซดา ทานแล้วสดชื่นขึ้นเยอะเลย




และกิจกรรมที่อยากแนะนำอีกอย่างก็คือ การฝึกทำขนม “Murasuzume” เป็นขนมท้องถิ่นซึ่งถือเป็นของฝากอันดับต้นๆ ของโอคายาม่า ราคาชิ้นเล็ก 3 ชิ้น ราคา 600 เยนค่ะ




ที่คุราชิกิ ยังมีคาเฟ่สัตว์ด้วย ไม่ว่าจะเป็น คาเฟ่หมาชิบะ คาเฟ่หนูแฮมสเตอร์ คาเฟ่นกฮูก คาเฟ่เม่น ได้เล่นและเห็นน้องๆ แบบใกล้ชิดเลยล่ะ  




หิวๆ ก็แวะซดอุด้งร้อนๆ กันค่ะ ร้านนี้เป็นร้านอุด้งชื่อดังของเมืองคุราชิกิเลยนะ เส้นอุด้งนุ่มๆ กับรสชาติน้ำซุป มีให้เลือกทั้งแบบซุปโชยุหรือซุปน้ำใส ได้กินแล้วฟินเลย >>///<<


นอกจากนั้นในคุราชิกิ ยังมีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมให้สายช้อปได้ละลายทรัพย์ด้วย นั่นก็คือ  Mitsui Outlet Park  ที่นี่เป็น Outlet Mall สุดอลัง ที่มีร้านค้าแบรนด์ดังให้เลือกช้อปมากกว่า 120 ร้าน แค่เดินออกจากสถานีรถไฟคุราชิกิ เดินไปเพียง 10 นาทีก็ถึงแล้ว เรียกว่าเป็น Outlet ที่มีการเดินทางที่สะดวกมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งเลยล่ะ




4. พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาแมวกวัก (Manekineko Museum of Art)

จากสถานี JR Okayama สามารถนั่ง Taxi ต่อมาอีกประมาณ 20 นาที ก็จะมาถึงพิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาแมวกวัก ที่นี่ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านเล็กๆ ในย่านคานะยะมาจิ (Kanayamachi)  เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความคาวาอิสุดๆ ><  เพราะเป็นแหล่งรวมคอลเล็คชั่นตุ๊กตาแมวกวักนำโชค ที่รวบรวมมาจากทั่วประเทศญี่ปุ่นกว่า 700 ตัว เลยทีเดียว













เวลาเปิดให้บริการ 10:00 น. – 17:00 น. (เปิดรับผู้เข้าชมถึง 16:30 น.)
ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 600 เยน นักเรียน 300 เยน (ระดับประถมและมัธยมต้น)