แวะไปเที่ยว Okayama และ Hyogo 4 วัน 3 คืน ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามีที่เที่ยวสนุกๆ ชิคๆ ถ่ายรูปสวยๆ ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมาแนะนำค่ะ เป็นทริป 4 วัน คราวนี้เราเที่ยวช้าๆ เก็บน้อยที่
ซึ่งแพลนคร่าวๆ ของเราทั้ง 4 วัน มีดังนี้ค่ะ

Day 1: ถึงสถานี Okayama ตอนบ่ายๆ ต่อรถไฟไป Kibitsu shrine
Day 2: รถไฟ La Malle De Bois -  Kurashiki - เช่ารถ - Yubara Onsen
Day 3: Okutsu valley - คืนรถ - ปราสาทฮิเมจิ
Day 4: Arima onsen - Mt. Rokko

ไปดูกันเล้ย 😍👍

Day 1: Kibitsu shrine
เริ่มต้นทริปที่ศาลเจ้า Kibitsu ถือเป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในจังหวัด Okayama ค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้มีความเกี่ยวข้องกับตำนานพื้นบ้านโมโมทาโร เด็กชายที่เกิดจากลูกท้อที่โด่งดังของญี่ปุ่น ห้องโถงหลักของศาลเจ้าแห่งนี้มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สังเกตได้จากหลังคาหน้าจั่วคู่ ที่เป็นที่รู้จักในชื่อ "คิบิ ซุคุริ" ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของศาลเจ้าคือทางเดิมเชื่อมระหว่างศาลเจ้าหลักกับศาลเจ้ารองที่มีหลังคาเชื่อมยาวเกือบ 400 เมตร ระหว่างทางจะสามารถเพลิดเพลินกับความสวยงามของดอกไม้ตามฤดูกาลที่เบ่งบานอยู่ตลอดสองข้างทางอีกด้วย

การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจาก JR Kibitsu Sta.
พิกัด: HTTPS://GOO.GL/MAPS/ST4HECXWYJFZZT2K7



Day 2: รถไฟ La Malle De Bois, เมือง Kurashiki จังหวัดโอคายามะ, Yubara Onsen

La Malle De Bois เป็นรถไฟที่วิ่งจากสถานี JR โอคายามะ ไปรอบๆ บริเวณเซโตะอุจิ เช่น อูโนะในจังหวัดโอคายามะ โอโนะมิจิ ในจังหวัดฮิโรชิมะ และโคโตฮิระในจังหวัดคางาวะ ชื่อของรถไฟขบวนนี้หมายถึง "กระเป๋าเดินทางไม้" ในภาษาฝรั่งเศส และแนวคิดคือ "กล่องเครื่องมือสำหรับเดินทาง" ซึ่งคุณสามารถโดยสารรถไฟขบวนพิเศษนี้ไปพร้อมกับสิ่งของที่จำเป็นสำหรับการเดินทางของคุณเช่นจักรยาน ภายในรถมีการตกแต่งที่หรูหราด้วยศิลปะร่วมสมัย ในขบวนรถมีสินค้า limited edition ที่ทำร่วมกับสินค้าพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อ คุณจะสามารถใช้เวลาไปถึงจุดหมายปลายทางอย่างเพลิดเพลิน ไม่มีเบื่อแน่นอน
 
Website: https://www.jr-odekake.net/railroad/kankoutrain/area_okayama/lamalledebois/



เมือง Kurashiki ในจังหวัดโอคายามะ
เมืองประวัติศาสตร์ที่มีการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสไตล์ญี่ปุ่นและตะวันตก คุราชิกิมีพื้นที่คลองที่ได้รับการอนุรักษ์ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ได้รับการกำหนดให้เป็นเขตอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ เมืองนี้เป็นสถานที่เงียบสงบแต่ก็เรียงรายไปด้วยร้านอาหาร แกลเลอรี่ คาเฟ่ชิคๆ และร้านค้าอย่างกลมกลืน

จุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือ “ทัวร์ล่องเรือแบบดั้งเดิมของคลองคุราชิกิ” ทัวร์ล่องเรือนี้เปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมกำแพงสีขาวของเมืองจากเรือลำเล็กริมคลองคุราชิกิที่ไหลผ่านใจกลางเมือง และการเดินเล่นไปตามถนนสายประวัติศาสตร์ของคุราชิกิ

นอกจากนี้คุราชิกิยังขึ้นชื่อเรื่องงานคราฟท์ ยีนส์ และสินค้าที่ผลิตด้วยผ้าเดนิมอีกหลากหลาย แม้จะเป็นเมืองเล็กๆ แต่รับรองได้ว่าคุณจะสนุกจนลืมเวลาไปเลย

พิกัด Kurashiki Bikan Historical Quarter: HTTPS://GOO.GL/MAPS/ZNWJSYPS9ESTHSIL9


Yubara Onsen
ตั้งอยู่ในเมืองมานิวะ ทางเหนือของจังหวัดโอคายามะ เป็นที่รู้จักในนาม “น้ำพุร้อนสามแห่ง แห่งมิมาซากะ” ร่วมกับโอคุสึและยูโนะโกะออนเซ็น นอกจากนี้ยังมีแหล่งน้ำพุร้อนอื่น ๆ อีก 15 แห่งในบริเวณนั้น

ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงที่สุดที่เรียกว่า Sunayu (บ่อทราย) เป็นสถานที่อาบน้ำรวมแห่งเดียวที่คุณสามารถอาบน้ำได้ฟรี!ในญี่ปุ่นตะวันตก ที่ Sunayu มีห้องอาบน้ำสามประเภท Bijin no yu (น้ำพุร้อนแห่งความงาม), Kodakara no yu (น้ำพุร้อนแห่งความอุดมสมบูรณ์) และ Choju no yu (น้ำพุร้อนแห่งอายุยืน) อุณหภูมิของน้ำประมาณ 48 ถึง 60 องศาเซลเซียส อุดมไปด้วยอัลคาไลน์ไฮโปโทนิกซึ่งมีประสิทธิภาพในการรักษาอาการปวดเส้นประสาท เมื่อยล้า และดีเยี่ยมสำหรับการดูแลผิว ถ้าได้ลองซักครั้ง ต้องฟินแน่นอน 😘💕
 
การเดินทาง: นั่งรถบัสประมาณ 35 นาทีจากสถานี JR Chugoku-Katsuyama
พิกัด: HTTPS://GOO.GL/MAPS/EPUAHFE49XBYFYSA8



Day 3: Okutsu valley, ปราสาทฮิเมจิ

Okutsu valley
หุบเขาแห่งนี้ คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเดินเล่นและชมทิวทัศน์ที่สวยงามบนทางเดินของหุบเขาที่มีความยาวประมาณ 800 เมตรได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นการชมต้นซากุระป่าและความเขียวขจีของฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ภูมิทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและหิมะในฤดูหนาว และจะมีความสวยงามเป็นพิเศษในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี มุมยอดนิยมของการถ่ายรูปช่วงนี้ จะเป็นตรงสะพานที่มีแม่น้ำไหลผ่าน กับใบไม้สีส้ม สีแดงที่หลากหลายของต้นไม้นับพัน 
 
การเดินทาง: ใช้เวลาประมาณ 60 นาทีโดยรถประจำทางจากสถานี JR Tsuyama
พิกัด: HTTPS://MAPS.APP.GOO.GL/DNRKI9IOUT9X5MDM9



Himeji castle
ปราสาทฮิเมจิ หรือที่รู้จักในชื่อปราสาทนกกระสาขาว เพราะมีลักษณะสีขาวสง่างาม ถือเป็นปราสาทที่งดงามตระการตาที่สุดในญี่ปุ่นด้วยขนาดและความงามที่โอ่อ่า บริเวณปราสาทได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ปราสาทแห่งนี้เป็นทั้งสมบัติของชาติและมรดกโลก ไม่เคยถูกทำลายจากสงคราม แผ่นดินไหว หรือไฟไหม้ ซึ่งต่างจากปราสาทอื่นๆ ในญี่ปุ่น และยังคงดำรงอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ในฐานะหนึ่งในปราสาทดั้งเดิมสิบสองแห่งของประเทศ เพิ่งได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้อีกครั้งในปี 2015

ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 เยน เด็ก 300 เยน
พิกัด Himeji Castle: HTTPS://GOO.GL/MAPS/H5CZOV1EPLZJHUHS8



Day 4: Arima onsen, Mt. Rokko

Arima onsen
อาริมะออนเซ็นเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงในเขตเมืองโกเบ แต่อยู่ฝั่งตรงข้ามของภูเขารกโกะจากใจกลางเมือง เมืองนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาตามธรรมชาติ แต่ก็อยู่ใกล้พอสำหรับชาวโกเบและโอซาก้า ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับที่ง่ายและเป็นที่นิยมหรือวันหยุดสุดสัปดาห์ เมืองนี้มีน้ำพุร้อนสองประเภทซึ่งผุดขึ้นจากแหล่งต่างๆ รอบเมือง ได้แก่ คินเซ็น "น้ำสีทอง" ที่มีสีน้ำตาลและมีคราบเหล็ก เชื่อว่าดีสำหรับโรคผิวหนังและช่วยลดการปวดกล้ามเนื้อ ในขณะที่ กินเซ็น "น้ำสีเงิน" ประกอบด้วยเรเดียมและคาร์บอเนต ว่ากันว่ารักษาอาการเจ็บป่วยของกล้ามเนื้อและข้อต่างๆ ได้ดี
ผู้มาเยือนอาริมะออนเซ็นสามารถเพลิดเพลินกับการอาบน้ำพุร้อนที่โรงอาบน้ำสาธารณะสองแห่งหรือที่เรียวกังหลายแห่งในเมือง เรียวกังหลายแห่งเปิดห้องอาบน้ำให้แขกที่ไม่ได้เข้าพักในระหว่างวันด้วย ค่าเข้าชมการแช่น้ำแบบไปเช้าเย็นกลับจะอยู่ระหว่าง 500 ถึง 2500 เยน
 
การเดินทาง: นั่งรถบัส Hankyu จากสถานี Sannomiya 710 เยน (1 ชม. 20 นาที) หรือ JR Busจากสถานี Shin-Kobe 780 เยน (50 นาที)



Mt. Rokko
เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขา Rokko เป็นฉากหลังสีเขียวสบายตาของเมืองโกเบ คุณสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพแบบพาโนรามาของเมืองโกเบและโอซาก้าได้จากบนภูเขาแห่งนี้ ซึ่งจะงดงามเป็นพิเศษในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน

บน Mt. Rokko ยังมีสถานที่ให้เที่ยวชมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี ทุ่งหญ้าที่มีดอกไม้และแกะ สนามกอล์ฟแห่งแรกของญี่ปุ่น และ Rokko Garden Terrace ศูนย์นักท่องเที่ยวที่มีร้านอาหาร ร้านค้า และจุดชมวิวสำหรับนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนสบายๆ ขณะดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ไปด้วย
 
สถานที่จำหน่าย *ไม่มีจำหน่ายที่เขา Rokko
KANSAI TOURIST INFORMATION CENTER Terminal 1
BIC CAMERA Namba Store 1F
EDION NAMBA TOURIST INFORMATION CENTER
Hankyu Tourist Center OSAKA-UMEDA
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.rokkosan.com/th/pass/



เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับการรีวิวทริปOkayama&Hyogo ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หวังว่าจะเป็นแนวทางสำหรับการวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งถัดไป
ถ้าใครอยากฟังรีวิวเต็มๆเกี่ยวกับทริปนี้ ไปคลิปรีวิวทริปของเราได้ด้วย ที่นี่
และหากดูคลิปแล้วสามารถร่วมสนุกแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่ 10 ก.พ. ถึง 9 มี.ค. 2565 กับOkayama&Hyogo เพื่อลุ้นรางวัลกับเราได้ด้วย
ลองดูรายละเอียดกิจกรรมข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ

ติดตามกระทู้อื่น
ทริปตะลุยคิวชูเหนือ ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
https://ppantip.com/topic/41228335
พาไปเที่ยวเกาะชิโกกุ ญี่ปุ่น มีอะไรน่าเที่ยวบ้างมาดูกันเลย
https://ppantip.com/topic/41090349

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวคิวชูได้ที่
FB : https://www.facebook.com/japan.discovery.thai/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่