เห็นช่วงนี้ตัวเลขลดลง ๆ ทุกวันก็ใจชื้นขึ้นนะคะ อยากกลับไปใช้ชีวิตปกติแล้ว แต่ตอนช่วงพีคที่ตรวจเจอวันละ 100 กว่า ๆ มันก็แค่ 100 กว่า ๆ ไม่เคยแตะถึง 200 เทียบกับประเทศอื่น ๆ คือน้อยมากจนงง ถึงจะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่พอมีตัวเปรียบเทียบ (ประเทศอื่น ๆ) หลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเอ๊ะ มีอะไรแปลก ๆ หรือเปล่า หรือเพราะเราตรวจน้อย?

แต่อันนี้เราลองคิดเล่น ๆ นะคะว่ามันเป็นไปได้ไหมถ้าจะบอกว่า คนจำนวนมากอาจจะเคยติดโควิดกันมาแล้วและหายแล้วแบบไม่รู้ตัว

จากข้อมูลหลาย ๆ แหล่งที่อ่านมาพูดตรงกันว่า อาการของโรคนี้โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ร้ายแรง จะมีคนที่อาการหนักประมาณ 20% ส่วนที่เหลือก็อาจจะเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดาและรักษาหายเองได้

ทีนี้มันน่าคิดตรงที่ว่าประเทศเราเจอผู้ติดเชื้อเป็นประเทศแรก ๆ (แล้วก็เว้นช่วงไปนานมาก ๆ ตอนเจอรายที่ 30 กว่า ๆ) ในช่วงแรก ๆ นั้นเราตั้งเกณฑ์ไว้ว่าคนที่เข้าเกณฑ์ตรวจโรคได้ต้องเดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจริง ๆ อาจจะมีการแพร่เชื้อเป็นวงกว้างภายในประเทศไปแล้ว เพราะเราก็มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเยอะ (ช่วงนั้นเรายังไม่ตื่นตัว ยังไม่ใส่หน้ากาก ไม่เว้นระยะห่างกัน) แต่ไม่มีใครได้ตรวจ ใครป่วยก็กินยารักษาตัวเองไม่กี่วันก็หาย ใครป่วยหนัก ๆ ก็อาจจะไปหาหมอ แต่ก็ไม่ได้ตรวจโควิด (เพราะไม่ได้เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง) ทีนี้พอเวลาผ่านไป เราเพิ่งจริงจังกับการตรวจโควิด ก็เลยไม่ค่อยมีคนป่วยเพราะคนส่วนใหญ่เคยเป็นและหายแล้วเลยยังมีภูมิคุ้มกันอยู่ (เคยอ่านมาว่าหลังจากหายจะมีภูมิคุ้มกันอยู่ช่วงหนึ่ง แต่อาจจะไม่ใช่ตลอดไป)

ลองตั้งข้อสงสัยดูค่ะ ไม่รู้ว่าเป็นไปได้มากแค่ไหน เราก็เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาที่ต้อง WFH ไม่ได้มีความรู้ทางการแพทย์อะไร 55555 แค่ฟัง ๆ อ่าน ๆ ที่นักวิชาการเขาพูด ๆ กัน เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างแล้วมันเกิดไอเดียนี้ขึ้นมาน่ะค่ะ