Sega Saturn ออกวางจำหน่ายครั้งแรกที่ญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 1994 และเพียงวันแรกก็สามารถทำยอดขายไปได้ถึง 2 แสนเครื่องโดยเกมที่ขายดีที่สุดของ Saturn ในช่วงแรกคือ Virtua Fighter ที่ยอดขายเกือบเทียบเท่าจำนวนเครื่องที่ขายออกไปได้เลยทีเดียว
เมื่อ PlayStation(ps) เริ่มวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ธ.ค. 1994 โดยทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่องในวันแรกและเมื่อสิ้นปี 1994 ก็ทำยอดขายรวมได้ 3 แสนเครื่องในขณะที่ Saturn ขายไปได้แล้ว 5 แสนเครื่อง SEGA ก็เข้าใจว่าเครื่องของคู่แข่งสู้ของตนเองไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปยอดขายของ ps กลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จน 6 เดือนให้หลังยอดขายของ ps กลับสูงถึง 2 ล้านเครื่องมากกว่า Saturn ที่ทำได้เพียง 1 ล้านเครื่อง
Sega of Japan(SoJ) กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
ดังนั้นการทำตลาดที่อเมริกา SEGA จึงตัดสินใจใช้แผนเดิมแบบเดียวกันกับที่ทำในสมัย Sega Genesis และได้ผล
นั้นก็คือวางจำหน่ายเครื่องเกมก่อนคู่แข่งเพื่อครองส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้มากที่สุด
แต่ก็มีความกังวลอยู่ว่า Sega of America(SoA) ที่นำโดย ทอม คาลินสกี นั้นจะยอมทำตามนโยบายรึไม่
เพื่อให้แน่ใจว่า SoA จะปฏิบัติตามแผนการตลาดของ SoJ อย่างเคร่งครัด CEO ของ SoJ ในขณะนั้น นากายาม่า จึงเดินทางไปพบกับทอมที่อเมริกาเพื่อถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเองโดยตรง
ในหนังสือ Console War นั้นได้เล่าไว้ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานอาหารเย็นที่ร้านด้วยกัน
โดยนากายาม่าบอกให้ทอมเปิดตัวและวางจำหน่าย Sega Saturn ในงาน E3 1995 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทอมไม่เห็นด้วย เพราะ Saturn ยังไม่พร้อมที่จะเปิดตัวในอเมริกา ไม่ว่าจะเรื่องจำนวนเกมที่พร้อมวางจำหน่ายมีน้อยเกินไป เรื่องความม่พร้อมในการกระจายสินค้า นี่ยังไม่ร่วมถึงปัญหาของเครื่องและการพัฒนาเกมที่ทำได้ยากมาก เค้าพอคาดเดาได้ในใจแล้วว่าแผนการชิงเปิดตัวนี้สุดท้ายจะจบไม่สวยและพยายามที่จะอธิบายกับนากายาม่า
แต่นากายาม่าไม่ฟัง
“นายไม่ใช่คนตัดสินใจ!”
“นายต้องเข้าใจสถานการณ์บ้าง!”
ในมุมมองของทอม เค้าเห็นว่านากายาม่าเปลี่ยนไปมาก
จนถึงทุกวันนี้ ผู้เขียนยังไม่พบเอกสารหรือบทสัมภาษณ์ของนากายาม่าเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เค้าเป็น CEO ของ SoJ เลย
จึงไม่ทราบว่าตัวนากายาม่าเองนั้นต้องประสบอะไรมาบ้างในระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง
ในมุมมองของผู้เขียนนั้นคาดว่าตัวนากายาม่าเองก็คงจะถูกกดดันจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างมากเช่นกันจนอยู่ในสถานะ “แพ้ไม่ได้” และยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ Saturn ประสบความสำเร็จด้วยฝีมือของ SoJ
ไม่ฟังแม้แต่คนที่ตนเองเคยสนับสนุนและไม่ใส่ใจว่าคนเดียวกันนี้เองที่ทำให้ Sega Genesis ประสบความสำเร็จในอเมริกา
ทอมไม่มีทางเลือกต้องยอมทำตามที่นากายาม่าสั่งเพราะถึงเค้าจะไม่ทำ ถึงเค้าจะลาออก SoJ ก็จะหาคนที่ยอมทำตามมาแทนเค้าอยู่ดี และตัวเค้าเองก็ยังไม่อยากจะยอมแพ้ต่อ Nintendo ในการแข่งขันเครื่องเกมคอนโซลอีกด้วย
เค้าได้แต่หวัง
หวังว่า Saturn ที่ประสบความสำเร็จและทำยอดขายได้ดีในญี่ปุ่น แท้จริงแล้วอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด
หวังว่าแผนของนากายาม่าจะ Work
หวังว่าเค้าเองที่คิดผิด
งาน E3 วันที่ 11 เดือนพฤษภาคม 1995 SoA ได้บรรยายเปิดตัว Sega Saturn และปิดการบรรยายด้วยเซอร์ไพรส์ใหญ่
Sega Saturn จะวางจำหน่ายทันทีด้วยราคา 399USD
โดย Sega เองคาดว่า Sony ก็จะขายเครื่องของตนในราคา 399 จึงจงใจตั้งราคาให้ชนกัน
“Sega ไม่ได้อยู่เพียงที่นี่ ตอนนี้มันอยู่ข้างนอกนั้นแล้ว”
หลังจากนั้น 15 นาทีก็เป็นตาของ Sony บรรยาย ทอมและทีมอีกสองคนก็มานั่งฟังด้วย
เป็น 10 นาทีที่กล่าวเพียงความเป็นมาของ SCE และประสบการณ์ความประทับใจในเครื่องเกมคอนโซลยุค 16 Bit
ทอมและทีมเข้าใจว่าพวกเค้าทำ Sony หัวหดไปแล้ว
จนกระทั้ง Steve Race ขึ้นมาพูด
“299”
เป็นราคาที่ถูกว่า Saturn ถึง 100USD หรือ 25%
เมื่อสตีฟเดินลงจากเวทีห้องก็เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องของความดีใจและสะใจของผู้ชม
แต่ในวันนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งที่อยู่ในห้องเช่นกัน เป็นเสียงที่เบา ๆ ของทอมที่หันไปพูดกับลูกทีม
“oh shxt”
to be continued in “Sega Saturn Too Hungry Too Much Too Rush” Part 3
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/ 
บทความตามใจฉัน “Sega Saturn: Too Hungry Too Much Too Rush” Part 2
เมื่อ PlayStation(ps) เริ่มวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นในวันที่ 4 ธ.ค. 1994 โดยทำยอดขายได้ 1 แสนเครื่องในวันแรกและเมื่อสิ้นปี 1994 ก็ทำยอดขายรวมได้ 3 แสนเครื่องในขณะที่ Saturn ขายไปได้แล้ว 5 แสนเครื่อง SEGA ก็เข้าใจว่าเครื่องของคู่แข่งสู้ของตนเองไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปยอดขายของ ps กลับยิ่งเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ จน 6 เดือนให้หลังยอดขายของ ps กลับสูงถึง 2 ล้านเครื่องมากกว่า Saturn ที่ทำได้เพียง 1 ล้านเครื่อง
Sega of Japan(SoJ) กังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
ดังนั้นการทำตลาดที่อเมริกา SEGA จึงตัดสินใจใช้แผนเดิมแบบเดียวกันกับที่ทำในสมัย Sega Genesis และได้ผล
นั้นก็คือวางจำหน่ายเครื่องเกมก่อนคู่แข่งเพื่อครองส่วนแบ่งตลาดมาให้ได้มากที่สุด
แต่ก็มีความกังวลอยู่ว่า Sega of America(SoA) ที่นำโดย ทอม คาลินสกี นั้นจะยอมทำตามนโยบายรึไม่
เพื่อให้แน่ใจว่า SoA จะปฏิบัติตามแผนการตลาดของ SoJ อย่างเคร่งครัด CEO ของ SoJ ในขณะนั้น นากายาม่า จึงเดินทางไปพบกับทอมที่อเมริกาเพื่อถ่ายทอดคำสั่งด้วยตนเองโดยตรง
ในหนังสือ Console War นั้นได้เล่าไว้ว่าการสั่งการนี้เกิดขึ้นในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งทานอาหารเย็นที่ร้านด้วยกัน
โดยนากายาม่าบอกให้ทอมเปิดตัวและวางจำหน่าย Sega Saturn ในงาน E3 1995 ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ทอมไม่เห็นด้วย เพราะ Saturn ยังไม่พร้อมที่จะเปิดตัวในอเมริกา ไม่ว่าจะเรื่องจำนวนเกมที่พร้อมวางจำหน่ายมีน้อยเกินไป เรื่องความม่พร้อมในการกระจายสินค้า นี่ยังไม่ร่วมถึงปัญหาของเครื่องและการพัฒนาเกมที่ทำได้ยากมาก เค้าพอคาดเดาได้ในใจแล้วว่าแผนการชิงเปิดตัวนี้สุดท้ายจะจบไม่สวยและพยายามที่จะอธิบายกับนากายาม่า
แต่นากายาม่าไม่ฟัง
“นายไม่ใช่คนตัดสินใจ!”
“นายต้องเข้าใจสถานการณ์บ้าง!”
ในมุมมองของทอม เค้าเห็นว่านากายาม่าเปลี่ยนไปมาก
จนถึงทุกวันนี้ ผู้เขียนยังไม่พบเอกสารหรือบทสัมภาษณ์ของนากายาม่าเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เค้าเป็น CEO ของ SoJ เลย
จึงไม่ทราบว่าตัวนากายาม่าเองนั้นต้องประสบอะไรมาบ้างในระหว่างที่อยู่ในตำแหน่ง
ในมุมมองของผู้เขียนนั้นคาดว่าตัวนากายาม่าเองก็คงจะถูกกดดันจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างมากเช่นกันจนอยู่ในสถานะ “แพ้ไม่ได้” และยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ Saturn ประสบความสำเร็จด้วยฝีมือของ SoJ
ไม่ฟังแม้แต่คนที่ตนเองเคยสนับสนุนและไม่ใส่ใจว่าคนเดียวกันนี้เองที่ทำให้ Sega Genesis ประสบความสำเร็จในอเมริกา
ทอมไม่มีทางเลือกต้องยอมทำตามที่นากายาม่าสั่งเพราะถึงเค้าจะไม่ทำ ถึงเค้าจะลาออก SoJ ก็จะหาคนที่ยอมทำตามมาแทนเค้าอยู่ดี และตัวเค้าเองก็ยังไม่อยากจะยอมแพ้ต่อ Nintendo ในการแข่งขันเครื่องเกมคอนโซลอีกด้วย
เค้าได้แต่หวัง
หวังว่า Saturn ที่ประสบความสำเร็จและทำยอดขายได้ดีในญี่ปุ่น แท้จริงแล้วอาจจะไม่ได้แย่อย่างที่คิด
หวังว่าแผนของนากายาม่าจะ Work
หวังว่าเค้าเองที่คิดผิด
งาน E3 วันที่ 11 เดือนพฤษภาคม 1995 SoA ได้บรรยายเปิดตัว Sega Saturn และปิดการบรรยายด้วยเซอร์ไพรส์ใหญ่
Sega Saturn จะวางจำหน่ายทันทีด้วยราคา 399USD
โดย Sega เองคาดว่า Sony ก็จะขายเครื่องของตนในราคา 399 จึงจงใจตั้งราคาให้ชนกัน
“Sega ไม่ได้อยู่เพียงที่นี่ ตอนนี้มันอยู่ข้างนอกนั้นแล้ว”
หลังจากนั้น 15 นาทีก็เป็นตาของ Sony บรรยาย ทอมและทีมอีกสองคนก็มานั่งฟังด้วย
เป็น 10 นาทีที่กล่าวเพียงความเป็นมาของ SCE และประสบการณ์ความประทับใจในเครื่องเกมคอนโซลยุค 16 Bit
ทอมและทีมเข้าใจว่าพวกเค้าทำ Sony หัวหดไปแล้ว
จนกระทั้ง Steve Race ขึ้นมาพูด
“299”
เป็นราคาที่ถูกว่า Saturn ถึง 100USD หรือ 25%
เมื่อสตีฟเดินลงจากเวทีห้องก็เต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องของความดีใจและสะใจของผู้ชม
แต่ในวันนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งที่อยู่ในห้องเช่นกัน เป็นเสียงที่เบา ๆ ของทอมที่หันไปพูดกับลูกทีม
“oh shxt”
to be continued in “Sega Saturn Too Hungry Too Much Too Rush” Part 3
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/