ไปห้างแล้วโดนบูธเสริมความงามดักหน้าแล้วขายคอสแบบแกมบังคับ

กระทู้สนทนา
ขอเกริ่นก่อนว่าเราเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ในกทม. และไม่ค่อยได้มา กทม. เรียกว่าบ้านนอกเลยก็ว่าได้นะ จนเรามาทำงานที่กทม.และเช่าหออยู่ที่กทม.ไม่กี่วัน
เรื่องมันเกิดคือว่า วันนั้นเรามาจากบ้าน แล้วไปห้างใหญ่ห้างหนึ่งในกทม. (ไม่เอ่ยชื่อห้างแล้วกัน) เพื่อจะซื้อของกินของใช้กลับไปหอพัก ลากกระเป๋าหนึ่งใบ พร้อมสะพายเป้ แต่งกายด้วยเสื้อยืด กางเกงขาสั้น เดินสำรวจๆ ไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มีคนมาดักหน้า เป็นบูธเกี่ยวกับรักษาผิวหน้า(ตอนแรกไม่รู้) คือเขาบอกว่าน้อยช่วยเยี่ยมชมบูธพี่หน่อย จับของขวัญให้พี่หน่อย ประมาณนี้เราก็อ่ะ ช่วย!!! แล้วเราก็ตกหลุมจนได้ พนักงานคนแรกดูจะมีระดับนิดนึงเข้ามาทัก
พนักงาน1 : น้องมาจากไหนเนี่ย
เรา : มาจากบ้าน..(เมืองที่อาศัย)..ค่ะ กำลังจะกลับหอค่ะพี่
พนักงาน 1 : อ่าวคนบ้านเดียวกัน พี่ขอตรวจสภาพหน้าหน่อยได้ไหม ฟรีนะพี่ไม่คิดเงิน
เรา : ไม่เป็นไรค่ะพี่
พนักงาน1 : มาเถอะๆ คนบ้านเดียวกันพี่ดูแลเองฟรีไม่ต้องคิดมาก
...เราก็ไม่รู้จะทำไง โดนลากไปตรวจสภาพหน้า ถ่ายรูปแชะๆๆ...
พนักงาน1 : หน้าน้องเนี่ย...(ยาวเลย)...พี่ขอเสนอนะเดี๋ยวให้น้องไปบำรุงผิวหน้า...(ฟังไม่ทัน)ราคา 2,000 บาท...พี่ขอนะเป็นเควรีวิวพี่ แค่ 2,000 ได้ 2 รอบ น้องไม่ต้องเสียเพิ่ม...บลาๆ...น้องจับลูกบอลก่อน
...เราจับได้เลข 3...
พนักงาน 2 : น้องมีบัตรเครดิต หรือบัตรอะไรที่มีเลข 3 ไหม
...เรามีบัตรเดบิทเอทีเอ็ม เลยยื่นให้ไป แล้วเขาคงแอบเห็นเงินในกระเป๋าหนาๆ เขาเลยคิดว่าเรามีเงินเยอะ (มีแบงค์พัน2-3ใบกะแบงค์ปลีกปึกนึง)...
พนักงาน2 : น้องพกเงินเยอะนะเนี่ย
เรา : อ๋อ!!เงินเก็บค่ะพี่ (ตอนนั้นเริ่มอึดอัดหนักแล้ว)
พนักงาน1 : 2 แกพาน้องไปทำ...(ฟังไม่ทัน)...ที่ชั้น xx นะ
...แล้วพนักงาน 2 ยกกระเป๋าเราไป แล้วพาเราไปร้านเขาที่ชั้น...xx... ให้เราเซ็นเอกสาร ลงสุดทายอ่านได้แค่ ไม่ขอคืนเงินไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น (อ่านไม่ทันค่ะ เพราะเขาให้เราเซ็นแล้วรีบดึงไป) เสร็จแล้วเอาบัตรปชช.เราไป แล้วทำเอกสาร ให้เราจ่าย 2,000 บาท เราก็คิดว่าจ่ายๆ ไปได้จบๆ ทำๆ รีบๆ กลับ เสร็จแล้วเราก็เข้าไปทำ เอาสัมภาระวางไว้นอกห้อง ยกเว้นกระเป๋าตังกะโทรศัพท์ ส้วนบัญชีธนาคารเราไว้ในกระเป๋าเป้ 2 เล่มคือมีเงิน 10,000 บาท อีกเล่มมี 2,000 บาท แต่ว่าใช้จ่ายค่าหอ กับซื้อของไปเกือบหมดบัญชีแล้ว...
...นวดหน้าเสร็จปั๊บ กำลังจะรับเอกสาร คือเราอยากกลับแล้วมันก็เริ่มเย็นแล้ว คิดว่าเสียเงิน 2,000 คอเสร็จแล้วจบแล้ว ไม่จ่ะ!!!
พนักงาน 2 : พี่แถมสปามือพาราฟินให้...
...เขาจับมือเราจุ่มในเทียนพาราฟินอุ่นๆ สภาพมือเหมือนโดเรม่อนอ่ะ หยิบอะไรไม่ได้แม้แต่โทรศัพท์...
...อยู่ๆ พนักงาน 3 (น่าจะเป็นเจ้ใหญ่) เขามาคุยกะเรา แบบไม่มีโอกาสให้เราได้พูดเท่าไหร่...
พนักงาน 3 : เป็นไงคะน้องทำแล้วรู้สึกดีไหม.. หน้าน้องสวยนะ ผิวดี แต่น้องไม่ค่อยดูแลใช่มะ เนี่ยพี่มีข้อเสนอดีๆ ให้น้องนะ คือเมื่อกี้ที่น้องทำอ่ะปกติราคารอบละ 2,500-5,000 บาท แต่เนี่ยคือพี่ลดให้ 2 ครั้ง 2,000 เลยนะ แล้วพี่อยากให้น้องดูแลต่ออ่ะ คือน้องเป็นคนผิวดีมากเลยนะ ถ้าน้องได้คอสนี้ไปพี่ว่าน้องต้องสวยขึ้นแน่ๆ เลย ปกติน้องใช้ครีมอะไรไหมอ่ะ
เรา : (อึดอัดแย่แล้ว) ไม่ค่ะ เพราะแพ้ครีมทุกอย่างเลยไม่ใช้อะไรเลย
พนักงาน 3 : เนี่ยพี่เลยอยากให้น้องทำเลย ถาน้องทำตอนนี้นะ พี่บอกเลยว่าน้องจะสร้างความมั่นใจให้ตัวเองได้มากขึ้นเลยนะ น้องจะสวยมากขึ้น พี่เสนอคอสนี้ให้เลย ปกติ 50,000 บาท พี่คิด 20,000 บาทไปเลย มีสปาโอโซนผิวหน้ากับบำรุงวิตามินผิว ให้รูขุมขนกระชับ ปกติแยก ก็ รอบละ 5,000 ละนะ เนี่ยน้องดูสิ (ยื่นใบเมนูราคามาให้)
เรา : คือพี่คะ หนูไม่มีเงิน (หน้าเสีย)
พนักงาน3 : อะไร เมื่อกี้น้องพี่(พนักงาน2) บอกว่ามีตั้งเก็บเป็นหมื่น อีกบัญชีนึงน้องก็มี ในกระเป๋าก็มีเป็นหมื่นนี่ (รู้ได้ไงว่าเรามีอีกบัญชีนึง?!?)
เรา : หนูไม่มีจริงๆ ค่ะพี่ คือเงินเก็บหนูอยู่ที่แม่ แม่หนูเก็บให้หมดแล้ว(หน้าเจื่อนมาก เห็นตัวเองในกระจก)
พนักงาน 3: (สวนกลับทันที) งั้นไม่เป็นไร พี่เสนออันใหม่ให้ละกัน คอสนี้เดือนละครั้งปีนึง พี่ให้ราคาพิเศษไปเลย 13,000 บาท ตกเดือนนึง 1,180 บาท ประมาณนั้น แต่น้องต้องจ่ายมัดจำให้พี่ก่อน ประมาณ 5,000 บาท เนี่ยดีมากเลยนะ แบบว่าพี่อยากให้น้องได้คอสนี้ไปจริงๆ พี่อยากดูแลผิวหน้าน้องจริงๆ
เรา : ค่ะพี่ (เหมือนตกลงไปโดยที่ก็ไม่ค่อยเต็มใจเพราะเราอยากกลับหอแล้ว)แต่หนูไม่มีเงินจริงๆ ค่ะพี่ (อึกอักมาก ไม่ไหวแล้ว)
พนักงาน 2+3 : ดีเลย พี่อยากให้น้องได้จริงๆ นะ เดี๋ยวพี่ 2 ดูแลให้อย่างดีเลย เขาเพิ่งได้งานต้องผ่านโปรแล้วเนี่ย น้องก็ได้สวย แต่น้องต้องจ่ายให้พวกพี่ก่อนให้ครบ 5,000 บาท คุ้มมากเลยนะ
เรา : ยืนยันคำเดิม หนูไม่มีเงินจริงๆ นะคะพี่ ในกระเป๋าที่พี่เห็นหนาๆ อ่ะ แบงค์ย่อยทั้งนั้น
พนักงาน 2+3 : น้องหายืมคนอื่นมาได้ป่ะล่ะ
เรา : ไม่มีค่ะพี่หนูมาคนเดียว หนูไม่มีคนให้ยืมหรอกค่ะ
พนักงาน 3 : (กุมขมับ) พี่อยากให้น้องได้จริงๆนะ แปบนะ พี่ขอไปคุยกันก่อน
...แล้วพนักงาน 2 กะ 3 ก็ออกจากห้องไป คุยอะไรกันแปบนึงก็กลับเข้ามาคุยกับเราอีก...
พนักงาน 3 : น้องงั้นเอางี้พี่อยากให้น้องได้คอสนี้จริงๆ นะ มัดจำอีกสักพันนึงให้พี่ได้ไหมล่ะ เนี่ยน้องจะคุ้มมากจริงๆ นะ
เรา : คือพี่คะหนูไม่มีเงินจริงๆ ในกระเป๋าที่พี่เห็นหนาๆ อ่ะแบงค์ย่อยค่ะ หนูไม่มีจริงๆ ถ้าหนูให้พี่หมดแล้วหนูเอาที่ไหนกินข้าวล่ะคะ เพราะแม่ก็ให้หนูมาแค่นี้จริงๆ
พนักงาน 2+3 : งั้นมากินมาม่ากะพี่ดีกว่า (ขำเราอีก)
...ตอนนั้นเราไม่ขำด้วยแล้ว มือก็สภาพโดเรม่อน ใจอึดอัดอยากกลับออกมาให้ไวที่สุด สุดท้ายเขาก็ยอมปล่อยเราด้วยประโยคขำๆ นั้น แต่ยังไม่จบนะคือ เขาจะให้เรามาทำต่อให้ได้
พนักงาน 2 : น้องเหลือรอบนึงนะ น้องจะมาทำได้อีกเมื่อไหร่ดีอ่ะ
เรา : (ตอบแบบอึดอัดใจ พนักงาน 3 ยื่นปฏิทินให้เรา) วันที่ xxx ก็ได้ค่ะ
พนักงาน 3 : โอเคเดี๋ยวน้องแลกไลน์ไว้กับพี่ 2 เลยนะ
พนักงาน 2 : แลกไลน์นะ เดี๋ยวพี่นัดวันกะเวลาให้ มาหาพี่นะ
...แล้วพนักงาน 2 ก็เอาพาราฟินที่มือออกให้ แล้วพามาส่งที่ลิฟต์ให้เราลงมาเอง...
...คือสงสัยอยู่หลายประเด็น...
1. ทำไมเจาะจงเราที่เหมือนดูบ้านนอกชัดขนาดนี้
2. รู้ได้ไงว่ามี 2 บัญชีแล้วมีเงินหลักหมื่น ทั้งที่ตอนคุยตอนแรกเราไม่ได้พูดเลยว่าเรามี 2 บัญชี และทั้งสองบัญชี้นี้อยู่ในกระเป๋าสัมภาระที่ถูกกองอยู่หน้าห้อง
3. ทำไมต้องยัดเยียดขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ดูจากสีหน้าและท่าทางที่แสดงออกอยู่แล้วว่าไม่ต้องการ แต่ก็ยังจะยัดเยียดให้เรา
...และอื่นๆ อีกมากมายที่คิดไม่อออกบอกไม่ถูก ลายระเอียดมียิบย่อยกลัวยาวกว่านี้ มันรู้สึกแย่ไปหมดเลย ที่เหมือนเอาคนมาพูดๆ ใส่เราให้เรายอมรับโดยละม่อม...
ไม่โอเคอย่างรุนแรง บริการจากพนักงานที่ทำหน้าให้อ่ะ ถามว่าดีไหมก็ดีนะ แต่เจอสถานการณ์แบบนี้ไป เราไม่โอเคจริงๆ เราก็เป็นเด็กมาจากบ้านนอก ไม่ได้พกเงินมาเยอะขนาดนั้นหรอก แล้วยุคนี้ก็รู้ๆ กันอยู่ ว่าแค่เงินจะกินยังไม่ค่อยจะพอใช้เลย เรื่องดูแลผิวไรงี้เราไม่สนใจหรอก เราเป็นของเราแบบนี้เราพอใจแล้วนี่นา
...ใครเคยเจอแบบนี้บ้างไหม แล้วทำยังไงกันคะ...
...เอ้อ!!! แล้วก็ที่เหลืออีกรอบนึงเราว่าเรายอมเสียฟรีไปเลย 2,000 บาท เพราะเรากลัวว่าถ้าไปอีกคราวนี้ไม่จบที่ 13,000 บาท แน่นอน หรือว่าไงดีอ่ะคะ...
...แม่กะเพื่อนบอกให้แจ้งความ แต่เรายอมเองมันแจ้งไม่ได้หรอก แต่แจ้งไปทางอินบล็อคของห้างแล้วไม่รู้จะอ่านไหม หลังจากที่โดนจากบูธนั้น เดินกลับมาก็เจออีกบูธดักเหมือนกันไม่ยอมให้เราเดินไป เราบอกว่าเราไม่มีจริงๆ หน้าเราจะร้องไห้แล้วอ่ะ เขาถึงยอม ทำไมเจอแบบนี้เยอะจัง...
...ขอโทษที่ยืดยาวนะ คือแบบทนไม่ไหวจริงๆ T..T
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่