เรื่องบังเอิญ มันมีอยู่จริงไหมหนอ?
เมื่อวานนั่งรถเมล์จากคลองตันไปสี่พระยา เพื่อจะไปดูน้องโกโกวา นี่เตรียมเวลาไว้ชิวๆหนึ่งชั่วโมง
ปรากฏว่าชั่วโมงครึ่ง รถยังคลานอยู่แถวประตูน้ำ นั่งนึกไปนึกมาเอาไงดี ไปถึงก็เกือบจะจบงานแล้ว
เลยตัดสินใจตรงราชเทวี ว่าไม่ไปแล้ว อ้าววว แล้วเราจะไปไหนดีล่ะ?
ขณะที่กำลังนั่งคิดนึกมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็มีสาวน้อยคนหนึ่ง อายุน่าจะ 20 ต้นๆ
เธอเพิ่งขึ้นรถมาแล้วถามทางกระเป๋ารถ แต่ดูเหมือนกระเป๋าจะมือสมัครเล่น ตอบไม่ค่อยแม่น
ผมเลยตอบให้แทน ช่วงที่น้องคนนั้นหันหน้ามา เฮ้อออออ คือจะบอกไงดี นี่มันสาวในสเป็กเลยนี่หน่า
เธอเป็นสาวตัวเล็ก สูงน่าจะ 155 ผมยาวปะบ่าผิวขาว ดวงตากลมโต ตาใสมาก มองมาที่ผมนี่เหมือนถูกสะกดเลย
ผมก็คุยกับเธอสักยี่สิบวินาที บอกป้ายที่เธอจะลง แล้วให้เดินไปทางไหนบ้าง (เธอลงสามย่านมิตฯ)
โอเค เธอก็ยิ้มหวานขอบคุณ แล้วหันกลับไปนั่งด้านหน้าผม
ตอนนี้รถถึง MBK48 ผมก็นึกในใจ เออ ไปเดินหาไรกินที่สามย่านดีกว่า เธอก็ลงเหมือนกันจะได้หาเรื่องชวนคุย
พอรถถึงป้าย เธอก็ลงประตูหน้า ผมลงประตูตรงกลาง ผมรีบจ้ำเท้าเดินตามเธอ หวังว่าจะหาเรื่องคุยบอกทางเธออีกที
แต่ในตอนนั้นที่เธออยู่หน้าผมสักห้าก้าว เธอก็หยิบมือถือขึ้นมา คุยกับใครสักคน ผมก็ชะงัก ระหว่างนั้นเธอก็เดินขึ้นสะพานลอย
เพื่อข้ามไปสามย่าน ผมก็ เฮ้อออ ไม่ไปดีกว่า เลยเดินตรงไป เธอขึ้นสะพานผมเดินบนฟุตบาท แยกไปตามทางของตัวเอง
ผมเดินไปงงไปเพราะแผนเปลี่ยนอีกแล้ว เลยเดินเข้าจามจุรีสแควร์ ไปหาอะไรกิน อยู่ในนั้นครึ่งชั่วโมง จากนั้นผมเดินชิวๆแข่งรถติดไปสวนลุม
ใช่แล้วมางานกาชาดก็แล้วกัน ในใจตอนนั้นยังนึกถึงหน้าเธอเลย คือถ้าคุณได้เจอใครสักคนที่มัน At First คุณจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
ผมก็เดินงานกาชาดเข้าบูธนั้นออกบูธนี้ สอยดาวหารางวัลใหญ่ แต่ในมือที่ได้คือปลากระป๋อง น้ำยาล้างจาน และยาดมยาหม่อง
ผมเดินไปเดินมาอยู่กว่าสองชั่วโมง ไม่ไหวแล้ว วันสุดท้ายคนเยอะมากกกกกก เยอะแบบว่า นี่มันงานเทกระจาดแจกฟรีหรือป่าวนี่
ผมจึงเดินหาทางออก เพื่อขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ขณะกำลังเดินมาถึงตรงสี่แยกในสวนลุม จังหวะนั้นเป็นช่วงที่คนน้อย
นึกภาพรถติดไฟแดง แล้วมันจะมีช่วงจังหวะหนึ่งที่ ถนนว่าง และตอนนั้นนั่นเอง
เล่าเรื่องแปลกให้อ่าน มิใช่สิเล่าเรื่องบังเอิญต่างหาก แต่ว่าก็ว่าเถอะ
เมื่อวานนั่งรถเมล์จากคลองตันไปสี่พระยา เพื่อจะไปดูน้องโกโกวา นี่เตรียมเวลาไว้ชิวๆหนึ่งชั่วโมง
ปรากฏว่าชั่วโมงครึ่ง รถยังคลานอยู่แถวประตูน้ำ นั่งนึกไปนึกมาเอาไงดี ไปถึงก็เกือบจะจบงานแล้ว
เลยตัดสินใจตรงราชเทวี ว่าไม่ไปแล้ว อ้าววว แล้วเราจะไปไหนดีล่ะ?
ขณะที่กำลังนั่งคิดนึกมองออกไปนอกหน้าต่าง ก็มีสาวน้อยคนหนึ่ง อายุน่าจะ 20 ต้นๆ
เธอเพิ่งขึ้นรถมาแล้วถามทางกระเป๋ารถ แต่ดูเหมือนกระเป๋าจะมือสมัครเล่น ตอบไม่ค่อยแม่น
ผมเลยตอบให้แทน ช่วงที่น้องคนนั้นหันหน้ามา เฮ้อออออ คือจะบอกไงดี นี่มันสาวในสเป็กเลยนี่หน่า
เธอเป็นสาวตัวเล็ก สูงน่าจะ 155 ผมยาวปะบ่าผิวขาว ดวงตากลมโต ตาใสมาก มองมาที่ผมนี่เหมือนถูกสะกดเลย
ผมก็คุยกับเธอสักยี่สิบวินาที บอกป้ายที่เธอจะลง แล้วให้เดินไปทางไหนบ้าง (เธอลงสามย่านมิตฯ)
โอเค เธอก็ยิ้มหวานขอบคุณ แล้วหันกลับไปนั่งด้านหน้าผม
ตอนนี้รถถึง MBK48 ผมก็นึกในใจ เออ ไปเดินหาไรกินที่สามย่านดีกว่า เธอก็ลงเหมือนกันจะได้หาเรื่องชวนคุย
พอรถถึงป้าย เธอก็ลงประตูหน้า ผมลงประตูตรงกลาง ผมรีบจ้ำเท้าเดินตามเธอ หวังว่าจะหาเรื่องคุยบอกทางเธออีกที
แต่ในตอนนั้นที่เธออยู่หน้าผมสักห้าก้าว เธอก็หยิบมือถือขึ้นมา คุยกับใครสักคน ผมก็ชะงัก ระหว่างนั้นเธอก็เดินขึ้นสะพานลอย
เพื่อข้ามไปสามย่าน ผมก็ เฮ้อออ ไม่ไปดีกว่า เลยเดินตรงไป เธอขึ้นสะพานผมเดินบนฟุตบาท แยกไปตามทางของตัวเอง
ผมเดินไปงงไปเพราะแผนเปลี่ยนอีกแล้ว เลยเดินเข้าจามจุรีสแควร์ ไปหาอะไรกิน อยู่ในนั้นครึ่งชั่วโมง จากนั้นผมเดินชิวๆแข่งรถติดไปสวนลุม
ใช่แล้วมางานกาชาดก็แล้วกัน ในใจตอนนั้นยังนึกถึงหน้าเธอเลย คือถ้าคุณได้เจอใครสักคนที่มัน At First คุณจะเข้าใจความรู้สึกนี้ดี
ผมก็เดินงานกาชาดเข้าบูธนั้นออกบูธนี้ สอยดาวหารางวัลใหญ่ แต่ในมือที่ได้คือปลากระป๋อง น้ำยาล้างจาน และยาดมยาหม่อง
ผมเดินไปเดินมาอยู่กว่าสองชั่วโมง ไม่ไหวแล้ว วันสุดท้ายคนเยอะมากกกกกก เยอะแบบว่า นี่มันงานเทกระจาดแจกฟรีหรือป่าวนี่
ผมจึงเดินหาทางออก เพื่อขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ขณะกำลังเดินมาถึงตรงสี่แยกในสวนลุม จังหวะนั้นเป็นช่วงที่คนน้อย
นึกภาพรถติดไฟแดง แล้วมันจะมีช่วงจังหวะหนึ่งที่ ถนนว่าง และตอนนั้นนั่นเอง