เป็นคนหนึ่งที่มีนิสัยขี้เกียจ และชอบให้คนมานวดๆ ให้ เลยชอบเข้าสปามาตั้งแต่สมัยเรียนค่ะ หน้า ตัว เอาหมด ตอนนั้นไม่ได้คิดมากค่ะ เพราะมีท่านแม่เป็นสปอร์เซอร์
แต่พอเรียนจบ ทำงาน บ่จี้ค่ะ แล้วเคราะห์ซ้ำกรรมซัด สิวมาตอนจะจบค่ะท่าน ผลคือ หน้าพัง รอยมาเต็ม

เมื่อเข้าสู่การทำงาน เงินจากเด็จแม่ไม่กระเด็นมาหา สิ่งที่เราทำได้คือประหยัดค่ะ บ๊ายบาย การซื้อบริการความสวยโดยสิ้นเชิง

ประสบการณ์ที่ทำให้รู้สึกแย่สุดๆ คือเมื่อวานค่ะ พอเลิกงานรีบตรงดิ่งไปเมกะบางนา เนื่องจากชั้นในของซาบีน่า 1 แถม 1 พอทำงานแล้วต้องประหยัด T^T พอซื้อเสร็จเดินช็อปวนไปวนมา แอบสารภาพค่ะว่าหลงทาง แถวนั้นร้านเครื่องสำอาจแอบเยอะ เป็นการทดสอบความอดทนไปในตัว ถ้าเผลอซื้อเดือนนี้จะกินแกลบค่ะ แค่เสื้อในก็หมดไป 2 พันกว่าแล้ว

แล้วพอดีไปเจอ บูตของสถานบันเสริมความสวยแห่งหนึ่งค่ะ เดินผ่านเราก็มองตามประสาคนที่ชิดกับร้านโทนๆ นี้ ไม่ได้ใช้แล้วขอมองๆ ก็ยังดี มีพนักงานมาชวนเราไปฟังค่ะ แบบมาลองทำพาราฟินมือก่อนนะคะ ช่วยมาลงชื่อให้พี่หน่อยนะคะ ลังเลค่ะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าถ้าไปปุ๊ปเราจะเจออะไร ผ่านมาเยอะค่ะ พี่เค้าก็อ้อนๆ ว่าวันนี้พี่ต้องทำยอดหาประวัติลูกค้าที่เข้ามาฟังที่บูตให้ได้ แค่ฟังก็ได้ค่ะ นี่พี่มีบริการทำพาราฟินมือฟรีค่ะ มาลองนะคะ

เรารู้อยู่แล้วค่ะ ว่าพาราฟินมือคืออะไร เคยทำค่ะ พี่เขาก็ชวนเราคุยเรื่องผิว เขาจับมือเราบอกน้องผิวดีนะคะ แต่แห้งไปหน่อย ลองทำพาราฟินมือนะคะ น้องเคยทำไหม พอเราตอบว่าเคย เค้าก็ถามแบบน้องเคยทำกับที่ไหนมาบ้างคะ สิ่งที่เราตอบคือ หนูจำไม่ได้เหมือนกันค่ะ ว่าไปที่ไหนมาบ้าง อย่างที่บอกค่ะ ว่าตอนนั้นไม่ได้สน เกาะม่ามี้ไป

จากที่คุยกัน พี่เค้าคงจับได้แหละว่าเราคุ้นเคยกับการบริการเสริมความงาม ที่กล้ามานั่ง เพราะมั่นใจค่ะ ว่าตัวเองธาตุแข็ง เจอมาเยอะค่ะ เพราะชอบศึกษาเกี่ยวกับการดูแลตัวเองอยู่แล้ว เอาจริงๆ ตอนนี้ก็กำลังมองหาที่จะทำหน้าอยู่นะคะ เพราะตอนนี้หน้าเป็นรอยสิว กำลังคิดเปรียบเทียบราคากับสถานที่อยู่ ยังไม่ตัดสินใจ

พอดีกิ๊บวอดเชอร์ ที่บูตหมด พี่คนที่ทำพาราฟินมือให้เรา ชวนเราไปที่ร้านค่ะ ทั้งๆ ที่มือเราข้างหนึ่งเป็นพังพืดกัปปะอยู่เนี้ยแหละ เราบอกเลยว่าไม่โอเคค่ะ ไม่เดินไป หนูขอโบรชัวร์รายละเอียดคอร์ดพี่ดีกว่า เดี๋ยวหนูเอาไปพิจารณาประกอบๆ กันเอง เรื่องกำลังจะจบค่ะ ที่พูดไปไม่ได้โกหกนะคะ กำลังมองหาอยู่จริงๆ ร้านนี้ก็กำลังจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกของเรา

จังหวะนั้นมีชายใจสาวคนหนึ่งเดินตรงมาที่โต๊ะ ถามพี่ที่เขาขายของเราอยู่ว่าเราสนตัวไหน เค้าแนะให้เราเลเซอร์รอย เราออกตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าทำได้หมดยกเว้นเลเซอร์ มันเจ็บ แล้วแม่ไม่โอเคด้วย
พี่ตุ๊ดคนนี้เหมือนเค้าจะขายของให้ได้อะ ตอนนั้นที่โต๊ะมารุมขายเราอยู่สามคนได้ค่ะ พี่ผู้หญิงโอเคนะคะ คุยรู้เรื่อง เราบอกว่าขอคิดดูก่อน เพราะคอร์ดหนึ่งมันเป็นหมื่น พี่เค้าก็โอเค แต่พอพี่ตุ๊ดเข้ามาแบบเหมือนเค้าพยายามรั้งมาก เหมือนพอยิ่งรู้ว่าเราเคยทำอยู่แล้วเค้ายิ่งรั้ง เค้าเสนอให้เราไปแว็กรักแร้ก่อน แบบราคานี้ๆๆๆ ไรงี้ค่ะ เราบอกพี่หนูขอรายละเอียดก่อน เดี๋ยวหนูสนใจแล้วมาเอง เค้าแบบ น้องขาเงินพันเดียวเอง น้องจะคิดอะไรเยอะ คุ้มค่ะ เค้าแหวกดูของที่เราซื้อ น้องซื้อของแพงกว่านี้ตั้งเยอะ เขาชี้กระเป๋าเรา ถามจริงตอนซื้อกระเป๋าคิดเยอะขนาดนี้เลยหรอ เค้ายุเราอีกนานคงรู้แล้วแหละว่าเราไม่ไปแน่  เค้าก็แบบคิดมากผมหงอกแบบนี้แหละ เค้าชี้ๆ ที่ผมเรา คือแบบ เฮ้ยย หมดค่ะ บอกเลย คือลุกขึ้นมาแบบมีนๆ ค่ะ บอกขอบคุณแล้วยิ้มให้พี่ผู้หญิงแล้วเดินออกมาเลย ก่อนเราจะลุกเราได้ยินเหมือนพี่เค้าคุยกันแว่วๆ นะคะ 'สงสารน้องเค้าว่ะ'


อารมณ์ตอนนั้นคือ อย่าหวังเลยว่าสถาบันนี้จะได้เงินฉันอีก พอกลับมาดูสมุด เราเคยใช้บริการแว็กขนแขน ขาที่นี่ค่ะ

บอกเลยนะคะทุกท่าน ถ้าคนที่เขาสนใจ คุณแค่ให้ข้อมูล บอกสิทธิประโยชน์ ส่วนลดก็พอค่ะ การที่คุณตื้อแบบจะเอาให้ได้ มันน่ากลัว อีกหน่อยพอแค่เค้าได้ยินชื่อสถานบันก็ไม่อยากจะเฉียดแล้ว ฝังใจค่ะ

เป็นคนหนึ่งค่ะที่เสร็จเซลล์ที่ปล่อยให้เราคิดเองมานักต่อนัก แนวดูแลแนะนำแล้วปล่อยกลับ คุยเล่นเรื่องความสวยงามแลกเปลี่ยนเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยกัน เหมือนเพื่อนสาวเมาส์กัน เราติดต่อกลับไปเอง บอกว่าพี่คนนี้ๆ เค้าแนะนำเราดี อยากให้คนนี้ดูแล แค่นี้เองค่ะ

แล้วสิ่งที่ทำให้ความประทับใจที่มีอยู่ 0-10 ในตอนแรกมันติดลบลงเรื่อยๆ เลยคือการที่คุณรุมค่ะ การที่คุณพยายามจะบังคับ เราที่คุณมาโดนตัวเราเกินความจำเป็นโดยไม่ขออนุญาต การที่คุณมาวิจารย์จุดด้อยของเรา ผมเราจะหงอกแล้วไงคะ มันใช่สิ่งที่คุณควรพูดกับคนที่อาจจะมาเป็นลูกค้าคุณไหม

บอกเลยค่ะว่าวันนั้นเรากลับห้องแบบอารมณ์เสีย

เราเคยเข้าไปฟังบูตมาเยอะนะคะ แต่บูตนี้ทำให้เรารู้สึกแย่ที่สุด