เริ่มเรื่องก่อนเลยนะค่ะ ดิฉันปัจจุปันได้จบการศึกษามาจากที่นั้นเป็นเวลาเกือบ2ปีแล้ว ดิฉันศึกษาอยู่ที่นั้นตั้งแต่ม.1-ม.6โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ก่อตั้งมาแล้วมากกว่า 91 ปี
ซึ่งดิฉันเป็นคนที่มักเจออะไรแปลกจากโรงเรียนนี้อยู่บ่อยๆ เนี่ยจากตัวดิฉันเองเป็นนักทำกิจกรรมในโรงเรียน ในบางครั้งอาจจะต้องอยู่ช่วยงานเพื่อนๆหรืออาจารย์จนดึก หรือในบางครั้งอาจจะต้องนอนค้างกันเลยทีเดียว ดิฉันขออนุญาติเช่าเป็นเหตุการณ์นะค่ะ เพราะเนื่องจากเหตุการเกินในช่วงวันเวลาที่แตกต่างกัน ในวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ที่ทั้งเจอเองและได้รับฟังมานะค่ะ
มากันเรื่องแรกเลยค่ะ^^~~
เรื่อง 1.ห้องน้ำหญิงอาคาร 5 ชั้นสอง
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่พบเจอบ่อยที่สุด เอาเป็นว่าพบเจอจนชินเลยก็ว่าได้ ตัวของดิฉันเองในช่วงมัธยมต้นจะเรียนอาคารนี้เป็นส่วนใหญ่ และซึ่งด้วยอาคารนี้อยู่บริเวณส่วนหน้าของโรงเรียน เวลาทำธุระส่วนตัวก็จะมักเข้าห้องน้ำนี้ แต่สิ่งที่แปลกคือห้องน้ำนี้หากเราเข้าคนเดียวมักจะได้ยินเสียงเปิดน้ำเอง ทั้งที่ในห้องน้ำมีคนเข้าเองหรือในบางทีเปิดทิ้งไว้จนเราต้องเข้าไปปิดแบบงงๆ บางทีก็มาในกลิ่นเหม็นเน่าซึ่งประสบการณ์นี้เจอกับหลายคนเลยทีเดียว
เรื่องที่ 2. มาต้องที่อาคารเดิมชั้นเดิมนะค่ะ เวลานั้นน่าจะเป็นช่วงดึกแล้วดิฉันต้องอยู่ช่วยงานที่โรงเรียนจนดึกซึ่งนั่งทำงานตรงหน้าห้องนาฏศิลป์หันหน้าไปทางอาคารห้าด้วยความที่เป็นคนพูดมากก็พูดเสียงดังกับเพื่อแจวจาวจนกระทั้งได้ยินเสียงนกอะไรซักอย่างร้องเสียงแหลมมากทุกคนจึงหยุดชะงัก แล้วมองหน้ากันแล้วหันไปรอบๆจน กระทั้งสายตามองไปฝั่งตรงข้ามที่อาคารห้าเห็นผู้หญิงผมสั้นบ๊อบใส่เสื้อเชิ้สขาวกระโปรงสีดำเดินไปเดินมาบริเวณชั้นสองฝั่งปีกภาษาไทยทั้งที่ประตูข้างล่างปิดหมด ทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วเงียบต่างตั้งใจทำงานแล้วรีบกลับบ้านทันที
เรื่องที่ 3.ห้องของโบราณอาคารแนะแนว (อาคารหลังเเรกที่สร้างขึ้นตอนก่อตั้งโรงเรียน)
ตอนนี้ดิฉันเป็นนักเรียนใหม่ชั้นม.1เรียนพระพุทธศาสนาที่อาคารนี้ โดยมีอาจารย์ผู้หญิงเป็นคนสอน ซึ่งขอเกิ่นเลยว่าดิฉันเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เรียนห้องนี้ เพราะหลังจากที่ขึ้นม.2อาจารย์ท่านนี้ได้เกษียณพอดี ทำให้ห้องนี้ถูกปิดลงไม่มีใครได้เรียนอีก
เริ่มจากวิชานี้เป็นวิชาพระพุทธศาสนาเวลาเข้าเรียนก็จะมักนั่งสมาธิสวดมน เดินจงกรมตามที่อาจารย์สอน ในห้องนี้มีของโบราณอยู่ด้วยอาทิ ดาบโบราณ ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่บนโต๊ะตั้งโชว์ โดยวางไว้อย่างนั้นไม่มีอะไรคลอบไว้เพื่องป้องกันของเสียหาย อีกทั้งยังมีชุดไทยใส่หุ่นไว้ในตู้กระจกหันออกแต่หากอ้อมไปข้างหลังสามารถเอื่อมมือเข้าไปจับได้ ด้วยความที่เป็นเด็กซนอยากรู้อยากเห็นตัวเองและเพื่อนๆจึงฝ่าฝืนคำสั่งครูตอนไม่อยู่ว่าห้ามจับสิ่งของ เดินไปจับเล่นหัวเราะกิ๊กกักๆจนกระทั้งอาจารย์มาไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอกลับบ้านเท่านั้นแหละ นอนหลับฝันร้ายเห็นคนทำหน้าโกรธจัด ร่างสูงใหญ่ยืนชีดาบมา จนไข้ขึ้นไปโรงเรียนไม่ได้จนต้องไปหาหลวงพ่อ หลังจากเหตุการณ์ก็ไม่กล้ายุ่งกับของเหล่านั้นอีกเลย
เรื่องเล่าเพิ่มเติมอาคารนี้ห้ามไปคนเดียวหลัง6โมง
เรื่องที่ 4.ห้องน้ำอาคาร6ชั้น2 มีเรื่องเล่าอยู่ว่าเคยมีนักเรียนหญิงทำแท้งแล้วเด็กหลุดออกมาที่ห้องน้ำห้องสุดท้าย ได้นำเด็กทิ้งในถังขยะในห้องน้ำโดยไร้ความปรานีจนป้าแม่บ้านมาเจอ ทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าว่ามักได้ยินเสียงเด็กหัวเราะอยู่ในห้องน้ำ
เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดจนจนทำให้ฉี่แตกกันเลยทีเดียวเริ่มจาก วันพรุ่งนี้เป็นวันวิชาการของโรงเรียนที่จะมีนักเรียนจากต่างโรงเรียนเข้ามาศึกษาดูงานและร่วมกิจจะกรรม ซึ่งทางกลุ่มแกนนำนักเรียนได้ตกลงกันว่าจะทำบ้านผีสิงวันสุดท้ายก่อนวันงานจริงทุกคนจะต้องมาช่วยกันทำฉากให้เสร็จ ตอนเวลานั้นเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน รู้สึกปวดเบาอยากเข้าห้องน้ำด้วยความที่อาคารปิดหมดแล้วและไม่มีคนมืดน่ากลัว จึงชวนเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองไปเป็นเพื่อน เราก็เดินไปตามทางมืดๆผ่านโรงอาหาร เดินไปเรื่อยๆจนผ่านน้ำพุปลาทองใกล้จะถึงห้องน้ำแล้วด้วยความที่มืด และห้องน้ำเปิดไฟสะลัวๆทำให้พอมองเห็นบาง แต่สิ่งที่เห็นทำให้ดิฉันและเพื่อนต้องหยุดชะงักเพราะเห็นมีนักเรียนน่าจะประมาณม.ต้น มองไม่ออกว่าผู้หญิงหญิงผู้ชายเพราะใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวคลุมหน้าไม่ใส่รองเท้า ไม่เห็นหน้าเหมือนเห็นเป็นเงาดำแล้วเป็นเท้าเลยนั่งเกาะอู้บนราวกำแพงอยู่อย่างงั้น ตอนนั้นก็คิดว่าเพื่อต่างสาขาแกล้งหรือป่าวแต่ในเวลานั้นมีแต่กลุ่มของดิฉันที่ได้รับอนุญาติให้ทำงานต่อกลุ่มอื่นทะยอยกลับบ้านกันหมอดแล้ว เมื่อได้สติจึงได้เรียกเพื่อนเบาๆว่าเห็นเหมือนกูไหม แต่ที่เราเห็นคือเพื่อนกำลังยืนตาค้างไม่พูดอะไร จนเรากับเพื่อนค่อยๆเดินถ่อยหลังแต่เพื่อนสติแตก กรี๊ดร้องแล้ววิ่งเราจึงวิ่งตามแต่ เราได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอยากตุบๆเสียงดังเราหันไปดูปรากฏว่าเงานั้นกระโดดลงมาแล้วว่าตามทำให้ฉี่แตก เหงื่อแต่เงานั้นวิ่งมาจนถึงหน้าโรงอาหารแล้วก็เงียบไป จนเราวิ่งมาถึงที่เพื่อนอยู่ในสภาพนั้น แล้วหน้าซีดเพื่อนๆน้องต่างเป็นห่วงเราจึงเล่าให้ฟังทุกคนก็อ้ำๆอึ้ง เราจึงตัดสินใจว่าไม่อยู่แล้วจะขอออกไปตากที่นี่จึ้งได้ปีนรั้วออกมาเพราะประตูโรงเรียนได้ปิดไปเสียแล้ว นี่เป็นเหตุการที่ทำให้เราไม่กล้าอยู่โรงเรียนจนดึกอีกเล
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
(หากใครมีเรื่องราวมาช่วยแชร์กันได้นะ ที่จริงมีอีกเยอะ แต่ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำพูดได้)
เรื่องเล่าผีโรงเรียนชื่อดังจังหวัดลำพูน
ซึ่งดิฉันเป็นคนที่มักเจออะไรแปลกจากโรงเรียนนี้อยู่บ่อยๆ เนี่ยจากตัวดิฉันเองเป็นนักทำกิจกรรมในโรงเรียน ในบางครั้งอาจจะต้องอยู่ช่วยงานเพื่อนๆหรืออาจารย์จนดึก หรือในบางครั้งอาจจะต้องนอนค้างกันเลยทีเดียว ดิฉันขออนุญาติเช่าเป็นเหตุการณ์นะค่ะ เพราะเนื่องจากเหตุการเกินในช่วงวันเวลาที่แตกต่างกัน ในวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ที่ทั้งเจอเองและได้รับฟังมานะค่ะ
มากันเรื่องแรกเลยค่ะ^^~~
เรื่อง 1.ห้องน้ำหญิงอาคาร 5 ชั้นสอง
เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการณ์ที่พบเจอบ่อยที่สุด เอาเป็นว่าพบเจอจนชินเลยก็ว่าได้ ตัวของดิฉันเองในช่วงมัธยมต้นจะเรียนอาคารนี้เป็นส่วนใหญ่ และซึ่งด้วยอาคารนี้อยู่บริเวณส่วนหน้าของโรงเรียน เวลาทำธุระส่วนตัวก็จะมักเข้าห้องน้ำนี้ แต่สิ่งที่แปลกคือห้องน้ำนี้หากเราเข้าคนเดียวมักจะได้ยินเสียงเปิดน้ำเอง ทั้งที่ในห้องน้ำมีคนเข้าเองหรือในบางทีเปิดทิ้งไว้จนเราต้องเข้าไปปิดแบบงงๆ บางทีก็มาในกลิ่นเหม็นเน่าซึ่งประสบการณ์นี้เจอกับหลายคนเลยทีเดียว
เรื่องที่ 2. มาต้องที่อาคารเดิมชั้นเดิมนะค่ะ เวลานั้นน่าจะเป็นช่วงดึกแล้วดิฉันต้องอยู่ช่วยงานที่โรงเรียนจนดึกซึ่งนั่งทำงานตรงหน้าห้องนาฏศิลป์หันหน้าไปทางอาคารห้าด้วยความที่เป็นคนพูดมากก็พูดเสียงดังกับเพื่อแจวจาวจนกระทั้งได้ยินเสียงนกอะไรซักอย่างร้องเสียงแหลมมากทุกคนจึงหยุดชะงัก แล้วมองหน้ากันแล้วหันไปรอบๆจน กระทั้งสายตามองไปฝั่งตรงข้ามที่อาคารห้าเห็นผู้หญิงผมสั้นบ๊อบใส่เสื้อเชิ้สขาวกระโปรงสีดำเดินไปเดินมาบริเวณชั้นสองฝั่งปีกภาษาไทยทั้งที่ประตูข้างล่างปิดหมด ทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วเงียบต่างตั้งใจทำงานแล้วรีบกลับบ้านทันที
เรื่องที่ 3.ห้องของโบราณอาคารแนะแนว (อาคารหลังเเรกที่สร้างขึ้นตอนก่อตั้งโรงเรียน)
ตอนนี้ดิฉันเป็นนักเรียนใหม่ชั้นม.1เรียนพระพุทธศาสนาที่อาคารนี้ โดยมีอาจารย์ผู้หญิงเป็นคนสอน ซึ่งขอเกิ่นเลยว่าดิฉันเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เรียนห้องนี้ เพราะหลังจากที่ขึ้นม.2อาจารย์ท่านนี้ได้เกษียณพอดี ทำให้ห้องนี้ถูกปิดลงไม่มีใครได้เรียนอีก
เริ่มจากวิชานี้เป็นวิชาพระพุทธศาสนาเวลาเข้าเรียนก็จะมักนั่งสมาธิสวดมน เดินจงกรมตามที่อาจารย์สอน ในห้องนี้มีของโบราณอยู่ด้วยอาทิ ดาบโบราณ ข้าวของเครื่องใช้วางอยู่บนโต๊ะตั้งโชว์ โดยวางไว้อย่างนั้นไม่มีอะไรคลอบไว้เพื่องป้องกันของเสียหาย อีกทั้งยังมีชุดไทยใส่หุ่นไว้ในตู้กระจกหันออกแต่หากอ้อมไปข้างหลังสามารถเอื่อมมือเข้าไปจับได้ ด้วยความที่เป็นเด็กซนอยากรู้อยากเห็นตัวเองและเพื่อนๆจึงฝ่าฝืนคำสั่งครูตอนไม่อยู่ว่าห้ามจับสิ่งของ เดินไปจับเล่นหัวเราะกิ๊กกักๆจนกระทั้งอาจารย์มาไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอกลับบ้านเท่านั้นแหละ นอนหลับฝันร้ายเห็นคนทำหน้าโกรธจัด ร่างสูงใหญ่ยืนชีดาบมา จนไข้ขึ้นไปโรงเรียนไม่ได้จนต้องไปหาหลวงพ่อ หลังจากเหตุการณ์ก็ไม่กล้ายุ่งกับของเหล่านั้นอีกเลย
เรื่องเล่าเพิ่มเติมอาคารนี้ห้ามไปคนเดียวหลัง6โมง
เรื่องที่ 4.ห้องน้ำอาคาร6ชั้น2 มีเรื่องเล่าอยู่ว่าเคยมีนักเรียนหญิงทำแท้งแล้วเด็กหลุดออกมาที่ห้องน้ำห้องสุดท้าย ได้นำเด็กทิ้งในถังขยะในห้องน้ำโดยไร้ความปรานีจนป้าแม่บ้านมาเจอ ทำให้กลายเป็นเรื่องเล่าว่ามักได้ยินเสียงเด็กหัวเราะอยู่ในห้องน้ำ
เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องที่น่ากลัวที่สุดจนจนทำให้ฉี่แตกกันเลยทีเดียวเริ่มจาก วันพรุ่งนี้เป็นวันวิชาการของโรงเรียนที่จะมีนักเรียนจากต่างโรงเรียนเข้ามาศึกษาดูงานและร่วมกิจจะกรรม ซึ่งทางกลุ่มแกนนำนักเรียนได้ตกลงกันว่าจะทำบ้านผีสิงวันสุดท้ายก่อนวันงานจริงทุกคนจะต้องมาช่วยกันทำฉากให้เสร็จ ตอนเวลานั้นเป็นเวลาประมาณเกือบเที่ยงคืน รู้สึกปวดเบาอยากเข้าห้องน้ำด้วยความที่อาคารปิดหมดแล้วและไม่มีคนมืดน่ากลัว จึงชวนเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสองไปเป็นเพื่อน เราก็เดินไปตามทางมืดๆผ่านโรงอาหาร เดินไปเรื่อยๆจนผ่านน้ำพุปลาทองใกล้จะถึงห้องน้ำแล้วด้วยความที่มืด และห้องน้ำเปิดไฟสะลัวๆทำให้พอมองเห็นบาง แต่สิ่งที่เห็นทำให้ดิฉันและเพื่อนต้องหยุดชะงักเพราะเห็นมีนักเรียนน่าจะประมาณม.ต้น มองไม่ออกว่าผู้หญิงหญิงผู้ชายเพราะใส่เสื้อฮู้ดแขนยาวคลุมหน้าไม่ใส่รองเท้า ไม่เห็นหน้าเหมือนเห็นเป็นเงาดำแล้วเป็นเท้าเลยนั่งเกาะอู้บนราวกำแพงอยู่อย่างงั้น ตอนนั้นก็คิดว่าเพื่อต่างสาขาแกล้งหรือป่าวแต่ในเวลานั้นมีแต่กลุ่มของดิฉันที่ได้รับอนุญาติให้ทำงานต่อกลุ่มอื่นทะยอยกลับบ้านกันหมอดแล้ว เมื่อได้สติจึงได้เรียกเพื่อนเบาๆว่าเห็นเหมือนกูไหม แต่ที่เราเห็นคือเพื่อนกำลังยืนตาค้างไม่พูดอะไร จนเรากับเพื่อนค่อยๆเดินถ่อยหลังแต่เพื่อนสติแตก กรี๊ดร้องแล้ววิ่งเราจึงวิ่งตามแต่ เราได้ยินเสียงเหมือนอะไรบางอยากตุบๆเสียงดังเราหันไปดูปรากฏว่าเงานั้นกระโดดลงมาแล้วว่าตามทำให้ฉี่แตก เหงื่อแต่เงานั้นวิ่งมาจนถึงหน้าโรงอาหารแล้วก็เงียบไป จนเราวิ่งมาถึงที่เพื่อนอยู่ในสภาพนั้น แล้วหน้าซีดเพื่อนๆน้องต่างเป็นห่วงเราจึงเล่าให้ฟังทุกคนก็อ้ำๆอึ้ง เราจึงตัดสินใจว่าไม่อยู่แล้วจะขอออกไปตากที่นี่จึ้งได้ปีนรั้วออกมาเพราะประตูโรงเรียนได้ปิดไปเสียแล้ว นี่เป็นเหตุการที่ทำให้เราไม่กล้าอยู่โรงเรียนจนดึกอีกเล
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
(หากใครมีเรื่องราวมาช่วยแชร์กันได้นะ ที่จริงมีอีกเยอะ แต่ไม่สามารถเรียบเรียงเป็นคำพูดได้)