ความเดิม
กำลังจะออกหันหลังวิ่ง มือของใครคนหนึ่งยื่นมาดึงข้อเท้าไว้แน่น
ยายปานนั่นเอง มือทั้งสองที่หักยับยื่นมาจับขาของเธอไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมามอง ปากอ้ากว้าง แต่ไม่มีเสียงร้องออกมาให้ได้ยิน ไม่น่าเชื่อว่าแกจะมีหน้าฟื้นขึ้นมาได้อีก ทั้งที่ร่างยับเยินถึงเพียงนั้น
......
เรื่องตกใจไม่ต้องพูดถึง แค่ใบหน้าอันบิดเบี้ยวผิดรูปผิดธรรมชาติของคุณยายสยอง ก็ทำให้ขวัญกระเจิงได้ แต่อารมณ์ขุ่นแค้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องรอปรึกษาใครให้เสียเวลา สุดาหันปลายปืนลูกซองยาว จ่อใบหน้าของยายปาน ลูกปืนรออยู่ในรังเพลิง เหนี่ยวตูมทันที เสียงดังสะท้านสะเทือนไปทั่วห้องใต้ดิน แม้แต่ชาติที่อยู่ด้านข้างยังสะดุ้งด้วยความตกใจ
สุดาไม่รอดูผลว่าจะเป็นหรือตาย เพราะเป็นที่ประจักษ์ต่อตาแล้วว่ายายปานเป็นศพที่ฟื้นขึ้นมา คงตายแล้วตายอีกได้หลายรอบ ลูกปืนอาจจะหยุดแกได้สักระยะหนึ่ง ในการใช้เวลาปรับสภาพ หญิงสาวรีบฉุดแขนของชาติ ให้เร่งฝีเท้า ก้าวเร็วไปตามทางเดิน ทิศทางตรงกันข้ามกับทางลับที่ลงมาจากด้านบน โดยหวังว่าข้างหน้าจะมีทางออก พาขึ้นไปพื้นดินด้านบนสักแห่ง หันหลังมองแวบหนึ่ง ร่างที่ลุกขึ้นมาจากความตายพากันเดินมุ่งหน้าตามมา เป็นภาพราวฝันร้าย ไม่ได้วิ่งกวดไล่ตามรวดเร็วโหดร้ายแบบในหนังซอมบี้ แต่ความน่าสยดสยองชวนขนลุกของร่างเดินแข็งทื่อเชื่องช้า มีมากกว่าพวกผีวิ่งเร็วเสียด้วยซ้ำ สายตารับรู้ถึงการคุกคามมุ่งร้ายหมายขวัญชัดเจน ชนิดไม่ต้องสงสัย
นั่นอาจเป็นไม้ตายของคุณเกริกไกร คงกำลังโกรธแค้นเต็มที เพราะแผนการพังทลายแบบไม่เป็นท่า อุตส่าห์ลงทุนมายาวนาน ในการหาทางเข้าครอบงำร่างหนุ่มแข็งแรง พร้อมกับการคืนร่างของวิญญาณคนรักในอดีต
เสียงร้องของชาติ อาการชี้มืออย่างตกใจ ทำให้สุดาเงยหน้ามอง
คุณเกริกไกรเกาะอยู่บนเพดานราวกับเป็นแมงมุมขนาดยักษ์ สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ร่างผอมแห้งผิวขาวซีดผิดมนุษย์ทำให้ดูเหมือนผีร้ายมากเข้าไปทุกที ท่าทางรอซุ่มโจมตีอย่างเงียบกริบ ดีว่าชาติมองเห็นเสียก่อน
และก็ดีว่าสุดาจัดการกระชากกระโจมปืน สภาพพร้อมยิงเรียบร้อยล่วงหน้า อันเป็นความเคยชินกับการฝึกใช้ปืนมาระยะหนึ่ง ประกอบสถานการณ์สยองขวัญ ทำให้จำเป็นต้องพร้อมสู้สุดชีวิต
เธอตวัดปลายปืนขึ้นใส่ ลั่นไกทันที
สิ้นเสียงตูมสนั่นสะท้านสะเทือน ร่างของคุณเกริกไกร ร่วงลงมาจากเพดานกระแทกพื้นทางเดิน แต่ไม่หมดฤทธิ์ ลุกขึ้นวิ่งโขยกเขยกแบบบาดเจ็บไปตามทางเดินด้านหน้า เลี้ยวหายลับไปบริเวณมุมโค้ง จะเป็นภูตผีปีศาจหรืออะไรก็ตาม ถ้าลูกปืนมีผล สุดดาก็พร้อมจะสู้ตายถวายชีวิต ลูกกระสุนยังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง พอให้ได้อุ่นใจ
รู้สึกเหมือนจะมองเห็นร่างของยายปานกำลังลุกขึ้นมา เดินปะปนกับร่างร้ายทั้งหลาย ที่พากันดาหน้าเข้ามา ความตายไม่ยอมตายจริง ๆ
สุดาถือปืน ชาติมีท่อนไม้ในมือเป็นอาวุธ วิ่งตามร่างของคุณเกริกไกร เพราะคิดว่าถ้าจัดการกับพวกผีร้าย ก็ควรจัดการกับหัวหน้าใหญ่น่าจะดีที่สุด
พอเลี้ยวโค้งทางเดินใต้ดิน มองเห็นหลังไว ๆ กำลังวูบหายเข้าไปในห้องหนึ่ง พร้อมกับอาการปิดประตูอย่างรวดเร็ว
จนตรอกแล้วสินะ...สุดาคำรามในใจ เชื่อว่าความเลวร้ายวิปริตผิดปกติสะพรึงกลัว ที่เกิดกับชีวิตของเธอ จะต้องมีสาเหตุมาจากเจ้าของบ้านหลังใหญ่แห่งนี้แน่นอน การหลบเข้าไปในห้อง เท่ากับหาจุดอับให้ตัวเอง
ไปถึงหน้าห้อง ประตูปิดล็อก แต่ไม่เป็นปัญหา พอเสียงปืนระเบิดตูม ตามด้วยการกระโดดถีบของคนสวนหนุ่ม ผู้ล่วงรู้ความลับมืดดำมากที่สุด ประตูก็เปิดอ้าออก
คุณเกริกไกรกำลังยืนหมุนคว้างกลางห้อง ในลักษณะหนูติดจั่น
ไม่มีใครคิดจะคุยกับภูตผีปีศาจให้เสียเวลาเสียอารมณ์ สุดาผู้พร้อมสรรพสำหรับบวกกับผี เหนี่ยวไกปืนสนั่นแบบไม่ต้องคิด ในระยะห่างไม่ถึงสามวา ร่างของคุณเกริกไกรผวาไปด้านหลัง กระแทกกับกองวัสดุบางอย่างในห้องล้มโครมคราม ประกายไฟลุกพรึบขึ้นทันที
เสียงชาติร้องตะโกนบอกให้ระวัง ว่าเป็นห้องเก็บเชื้อเพลิง เจ้าของบ้านคงจัดให้ห้องนี้ไว้สำหรับเก็บน้ำมัน ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ห้องใต้ดินมีพลังงานไฟฟ้าใช้สำรอง เป็นการวางระบบระเบียบอย่างน่าทึ่ง ถ้าไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังและความลับอันน่ากลัว
ประกายไฟลุกโชน ลูกกระสุนบางส่วนคงไปโดนถังน้ำมัน จนเกิดประกายไฟ
ขาติได้สติก่อน ดึงมือของหญิงสาวให้ออกวิ่งทันที ทางเดินใต้ดินมีอาการสั่นไหวไปมาราวกับวิ่งบนลำตัวยาวเหยียดของพญางูยักษ์ เสียงความถี่ต่ำสะท้อนสะท้านไปทั่วทางเดิน คล้ายเป็นเสียงร่ำร้องอย่างคลั่งแค้นผิดหวังจากผีปีศาจนรก ขณะพากันออกวิ่ง ยังรู้สึกถึงแสงสว่างและความร้อนตามจากด้านหลัง ประหนึ่งว่าทุกส่วนของทางเดินใต้ดิน กลับกลายเป็นวัสดุไวไฟชั้นดี ชักนำไฟโลกันตร์ ให้ขึ้นมาปะทุลุกโชน
บันไดทางสูงชันบริเวณสุดทางเดิน ด้านบนมีประตูไม้เพดานปิดสนิท นั่นเป็นความหวังเดียวสำหรับโอกาสหลุดรอด และดูเหมือนว่าสวรรค์ยังเมตตา ประตูติดผนังด้านบนไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้อย่างที่กังวล บันไดไม้แข็งแรงพอให้คนทั้งคู่ขึ้นไปช่วยกันออกแรงดันแบบสุดกำลัง ก็สามารถเปิดออกได้ ทั้งสองช่วยกันยกแผ่นไม้เปิดกว้างออก พุ่งตัวขึ้นมาจากทางลับแบบไม่คิดชีวิต เพราะกลุ่มควันเปลวไฟกำลังไล่ติดตามมาติด ๆ
พอหลุดรอดออกมาได้ บานประตูถูกทิ้งโครมลงปิดลงตามเดิม มีกลุ่มควันระอุออกมาตามรอยต่อเป็นสาย กลิ่นเหม็นฉุนจมูกอย่างน่ากลัว
ทางออกซ่อนอยู่ป่าละเมาะด้านหลังจากคฤหาสน์ในระยะเกือบร้อยเมตร ซ่อนอยู่แนวป่าตำแหน่งลับสายตาผู้คน คงไม่ต้องคิดหาทางจัดการกับทางออกอีกต่อไป เพราะความร้อนของเปลวเพลิงนรก คงจัดการให้ทุกอย่างในชั้นใต้ดิน ให้มอดไหม้ไปจนหมด เมื่อเกิดความผิดพลาด ปีศาจร้ายคงไม่ยอมทิ้งหลักฐานทิ้งร่องรอยของพวกมันเอาไว้ รวมทั้งอำนาจชั่วร้ายที่จางหายกับความมืดดำของค่ำคืน
มองไปทางบ้านหลังใหญ่ เห็นตัวบ้านกำลังมีเปลวเพลิงเผาผลาญจนสว่างจ้า ทำให้บริเวณรอบด้านแทบไม่ต่างจากเวลากลางวัน เพลิงนรกกำลังแลบเลียกัดกินตัวบ้านอย่างหิวกระหายตะกรุมตะกราม
นั่นเป็นชีวิต อนาคต หรือสิ่งเลวร้ายกันแน่ ที่กำลังถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา ทั้งสองไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ได้แต่ยืนจ้องมองเนิ่นนาน
รุ่งเช้าแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้า
ตัวบ้านหลังใหญ่กล้บกลายเป็นซากสถานแห่งความทรงจำอันเลวร้ายสยดสยอง บางส่วนยังคงมีกลุ่มควันเปลวไฟ ความรู้สึกของชาติและสุดา คล้ายคนที่เพิ่งมีสติกระจ่างสว่างชัด หลังจากเคลื่อนผ่านพ้นกลุ่มเมฆหมอกหนาทึบ เต็มไปด้วยอาถรรพ์ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยถูกครอบงำมานาน กลับคืนมาเป็นตัวของตัวเองเต็มที่
ทั้งสองคนหันหน้าจ้องตากันเป็นครั้งแรก นึกไม่ออกว่าตลอดเวลาผ่านมา ตัวเองไปคิด และกระทำเรื่องเลวร้ายได้อย่างไร ราวกับถูกปีศาจเขียนเส้นทางลิขิตชีวิต ความละอายใจปรากฏในสีหน้าแววตาเป็นครั้งแรกเช่นกัน
“พี่ดา ผมขอโทษนะครับ” คนสวนหนุ่มพูดเสียงเครือ จากนั้นก้มหน้ามองพื้น ก่อนหันหลังก้าวเดินห่างออกไป สุดามองตามไปด้วยความรู้สึกโล่งใจมากกว่าจะอาลัยอาวรณ์ ทั้งที่รู้ว่าอาจเป็นการจากกันโดยไม่มีโอกาสเจอกันอีก ความรู้สึกผิด กลายเป็นกำแพงขวางกั้นตลอดไป
“พี่เองก็ขอโทษ...” เธอพึมพำ
สุดากระชากกระโจมปืนลูกซอง ตรวจสอบความเรียบร้อยของอาวุธคู่ใจ บรรจุกระสุนที่เหลือในกระเป๋าลงในหลอดกระสุน เหวี่ยงปืนขึ้นพาดบ่า ก้าวเท้าไปตามทางเดิน ห่างออกไปจากตัวบ้าน ตัดแนวไม้ ผ่านกลุ่มควัน กลางแสงแรกแห่งรุ่งรุณ ทิ้งความเลวร้ายไว้เบื้องหลัง โดยไม่คิดจะหันหลังกลับมามองอีกเลย
จบ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม จนจบ ครับ
ข้าหน่อย แต่ไม่ห่างหาย^^
ความตายที่ไม่ยอมตาย.....บทสุดท้าย
ความเดิม
กำลังจะออกหันหลังวิ่ง มือของใครคนหนึ่งยื่นมาดึงข้อเท้าไว้แน่น
ยายปานนั่นเอง มือทั้งสองที่หักยับยื่นมาจับขาของเธอไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมามอง ปากอ้ากว้าง แต่ไม่มีเสียงร้องออกมาให้ได้ยิน ไม่น่าเชื่อว่าแกจะมีหน้าฟื้นขึ้นมาได้อีก ทั้งที่ร่างยับเยินถึงเพียงนั้น
......
เรื่องตกใจไม่ต้องพูดถึง แค่ใบหน้าอันบิดเบี้ยวผิดรูปผิดธรรมชาติของคุณยายสยอง ก็ทำให้ขวัญกระเจิงได้ แต่อารมณ์ขุ่นแค้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ต้องรอปรึกษาใครให้เสียเวลา สุดาหันปลายปืนลูกซองยาว จ่อใบหน้าของยายปาน ลูกปืนรออยู่ในรังเพลิง เหนี่ยวตูมทันที เสียงดังสะท้านสะเทือนไปทั่วห้องใต้ดิน แม้แต่ชาติที่อยู่ด้านข้างยังสะดุ้งด้วยความตกใจ
สุดาไม่รอดูผลว่าจะเป็นหรือตาย เพราะเป็นที่ประจักษ์ต่อตาแล้วว่ายายปานเป็นศพที่ฟื้นขึ้นมา คงตายแล้วตายอีกได้หลายรอบ ลูกปืนอาจจะหยุดแกได้สักระยะหนึ่ง ในการใช้เวลาปรับสภาพ หญิงสาวรีบฉุดแขนของชาติ ให้เร่งฝีเท้า ก้าวเร็วไปตามทางเดิน ทิศทางตรงกันข้ามกับทางลับที่ลงมาจากด้านบน โดยหวังว่าข้างหน้าจะมีทางออก พาขึ้นไปพื้นดินด้านบนสักแห่ง หันหลังมองแวบหนึ่ง ร่างที่ลุกขึ้นมาจากความตายพากันเดินมุ่งหน้าตามมา เป็นภาพราวฝันร้าย ไม่ได้วิ่งกวดไล่ตามรวดเร็วโหดร้ายแบบในหนังซอมบี้ แต่ความน่าสยดสยองชวนขนลุกของร่างเดินแข็งทื่อเชื่องช้า มีมากกว่าพวกผีวิ่งเร็วเสียด้วยซ้ำ สายตารับรู้ถึงการคุกคามมุ่งร้ายหมายขวัญชัดเจน ชนิดไม่ต้องสงสัย
นั่นอาจเป็นไม้ตายของคุณเกริกไกร คงกำลังโกรธแค้นเต็มที เพราะแผนการพังทลายแบบไม่เป็นท่า อุตส่าห์ลงทุนมายาวนาน ในการหาทางเข้าครอบงำร่างหนุ่มแข็งแรง พร้อมกับการคืนร่างของวิญญาณคนรักในอดีต
เสียงร้องของชาติ อาการชี้มืออย่างตกใจ ทำให้สุดาเงยหน้ามอง
คุณเกริกไกรเกาะอยู่บนเพดานราวกับเป็นแมงมุมขนาดยักษ์ สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียว ร่างผอมแห้งผิวขาวซีดผิดมนุษย์ทำให้ดูเหมือนผีร้ายมากเข้าไปทุกที ท่าทางรอซุ่มโจมตีอย่างเงียบกริบ ดีว่าชาติมองเห็นเสียก่อน
และก็ดีว่าสุดาจัดการกระชากกระโจมปืน สภาพพร้อมยิงเรียบร้อยล่วงหน้า อันเป็นความเคยชินกับการฝึกใช้ปืนมาระยะหนึ่ง ประกอบสถานการณ์สยองขวัญ ทำให้จำเป็นต้องพร้อมสู้สุดชีวิต
เธอตวัดปลายปืนขึ้นใส่ ลั่นไกทันที
สิ้นเสียงตูมสนั่นสะท้านสะเทือน ร่างของคุณเกริกไกร ร่วงลงมาจากเพดานกระแทกพื้นทางเดิน แต่ไม่หมดฤทธิ์ ลุกขึ้นวิ่งโขยกเขยกแบบบาดเจ็บไปตามทางเดินด้านหน้า เลี้ยวหายลับไปบริเวณมุมโค้ง จะเป็นภูตผีปีศาจหรืออะไรก็ตาม ถ้าลูกปืนมีผล สุดดาก็พร้อมจะสู้ตายถวายชีวิต ลูกกระสุนยังเหลืออยู่จำนวนหนึ่ง พอให้ได้อุ่นใจ
รู้สึกเหมือนจะมองเห็นร่างของยายปานกำลังลุกขึ้นมา เดินปะปนกับร่างร้ายทั้งหลาย ที่พากันดาหน้าเข้ามา ความตายไม่ยอมตายจริง ๆ
สุดาถือปืน ชาติมีท่อนไม้ในมือเป็นอาวุธ วิ่งตามร่างของคุณเกริกไกร เพราะคิดว่าถ้าจัดการกับพวกผีร้าย ก็ควรจัดการกับหัวหน้าใหญ่น่าจะดีที่สุด
พอเลี้ยวโค้งทางเดินใต้ดิน มองเห็นหลังไว ๆ กำลังวูบหายเข้าไปในห้องหนึ่ง พร้อมกับอาการปิดประตูอย่างรวดเร็ว
จนตรอกแล้วสินะ...สุดาคำรามในใจ เชื่อว่าความเลวร้ายวิปริตผิดปกติสะพรึงกลัว ที่เกิดกับชีวิตของเธอ จะต้องมีสาเหตุมาจากเจ้าของบ้านหลังใหญ่แห่งนี้แน่นอน การหลบเข้าไปในห้อง เท่ากับหาจุดอับให้ตัวเอง
ไปถึงหน้าห้อง ประตูปิดล็อก แต่ไม่เป็นปัญหา พอเสียงปืนระเบิดตูม ตามด้วยการกระโดดถีบของคนสวนหนุ่ม ผู้ล่วงรู้ความลับมืดดำมากที่สุด ประตูก็เปิดอ้าออก
คุณเกริกไกรกำลังยืนหมุนคว้างกลางห้อง ในลักษณะหนูติดจั่น
ไม่มีใครคิดจะคุยกับภูตผีปีศาจให้เสียเวลาเสียอารมณ์ สุดาผู้พร้อมสรรพสำหรับบวกกับผี เหนี่ยวไกปืนสนั่นแบบไม่ต้องคิด ในระยะห่างไม่ถึงสามวา ร่างของคุณเกริกไกรผวาไปด้านหลัง กระแทกกับกองวัสดุบางอย่างในห้องล้มโครมคราม ประกายไฟลุกพรึบขึ้นทันที
เสียงชาติร้องตะโกนบอกให้ระวัง ว่าเป็นห้องเก็บเชื้อเพลิง เจ้าของบ้านคงจัดให้ห้องนี้ไว้สำหรับเก็บน้ำมัน ในกรณีฉุกเฉิน ทำให้ห้องใต้ดินมีพลังงานไฟฟ้าใช้สำรอง เป็นการวางระบบระเบียบอย่างน่าทึ่ง ถ้าไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังและความลับอันน่ากลัว
ประกายไฟลุกโชน ลูกกระสุนบางส่วนคงไปโดนถังน้ำมัน จนเกิดประกายไฟ
ขาติได้สติก่อน ดึงมือของหญิงสาวให้ออกวิ่งทันที ทางเดินใต้ดินมีอาการสั่นไหวไปมาราวกับวิ่งบนลำตัวยาวเหยียดของพญางูยักษ์ เสียงความถี่ต่ำสะท้อนสะท้านไปทั่วทางเดิน คล้ายเป็นเสียงร่ำร้องอย่างคลั่งแค้นผิดหวังจากผีปีศาจนรก ขณะพากันออกวิ่ง ยังรู้สึกถึงแสงสว่างและความร้อนตามจากด้านหลัง ประหนึ่งว่าทุกส่วนของทางเดินใต้ดิน กลับกลายเป็นวัสดุไวไฟชั้นดี ชักนำไฟโลกันตร์ ให้ขึ้นมาปะทุลุกโชน
บันไดทางสูงชันบริเวณสุดทางเดิน ด้านบนมีประตูไม้เพดานปิดสนิท นั่นเป็นความหวังเดียวสำหรับโอกาสหลุดรอด และดูเหมือนว่าสวรรค์ยังเมตตา ประตูติดผนังด้านบนไม่ได้ถูกล็อกเอาไว้อย่างที่กังวล บันไดไม้แข็งแรงพอให้คนทั้งคู่ขึ้นไปช่วยกันออกแรงดันแบบสุดกำลัง ก็สามารถเปิดออกได้ ทั้งสองช่วยกันยกแผ่นไม้เปิดกว้างออก พุ่งตัวขึ้นมาจากทางลับแบบไม่คิดชีวิต เพราะกลุ่มควันเปลวไฟกำลังไล่ติดตามมาติด ๆ
พอหลุดรอดออกมาได้ บานประตูถูกทิ้งโครมลงปิดลงตามเดิม มีกลุ่มควันระอุออกมาตามรอยต่อเป็นสาย กลิ่นเหม็นฉุนจมูกอย่างน่ากลัว
ทางออกซ่อนอยู่ป่าละเมาะด้านหลังจากคฤหาสน์ในระยะเกือบร้อยเมตร ซ่อนอยู่แนวป่าตำแหน่งลับสายตาผู้คน คงไม่ต้องคิดหาทางจัดการกับทางออกอีกต่อไป เพราะความร้อนของเปลวเพลิงนรก คงจัดการให้ทุกอย่างในชั้นใต้ดิน ให้มอดไหม้ไปจนหมด เมื่อเกิดความผิดพลาด ปีศาจร้ายคงไม่ยอมทิ้งหลักฐานทิ้งร่องรอยของพวกมันเอาไว้ รวมทั้งอำนาจชั่วร้ายที่จางหายกับความมืดดำของค่ำคืน
มองไปทางบ้านหลังใหญ่ เห็นตัวบ้านกำลังมีเปลวเพลิงเผาผลาญจนสว่างจ้า ทำให้บริเวณรอบด้านแทบไม่ต่างจากเวลากลางวัน เพลิงนรกกำลังแลบเลียกัดกินตัวบ้านอย่างหิวกระหายตะกรุมตะกราม
นั่นเป็นชีวิต อนาคต หรือสิ่งเลวร้ายกันแน่ ที่กำลังถูกเผาไหม้ต่อหน้าต่อตา ทั้งสองไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้น ได้แต่ยืนจ้องมองเนิ่นนาน
รุ่งเช้าแสงเงินแสงทองเริ่มจับขอบฟ้า
ตัวบ้านหลังใหญ่กล้บกลายเป็นซากสถานแห่งความทรงจำอันเลวร้ายสยดสยอง บางส่วนยังคงมีกลุ่มควันเปลวไฟ ความรู้สึกของชาติและสุดา คล้ายคนที่เพิ่งมีสติกระจ่างสว่างชัด หลังจากเคลื่อนผ่านพ้นกลุ่มเมฆหมอกหนาทึบ เต็มไปด้วยอาถรรพ์ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยถูกครอบงำมานาน กลับคืนมาเป็นตัวของตัวเองเต็มที่
ทั้งสองคนหันหน้าจ้องตากันเป็นครั้งแรก นึกไม่ออกว่าตลอดเวลาผ่านมา ตัวเองไปคิด และกระทำเรื่องเลวร้ายได้อย่างไร ราวกับถูกปีศาจเขียนเส้นทางลิขิตชีวิต ความละอายใจปรากฏในสีหน้าแววตาเป็นครั้งแรกเช่นกัน
“พี่ดา ผมขอโทษนะครับ” คนสวนหนุ่มพูดเสียงเครือ จากนั้นก้มหน้ามองพื้น ก่อนหันหลังก้าวเดินห่างออกไป สุดามองตามไปด้วยความรู้สึกโล่งใจมากกว่าจะอาลัยอาวรณ์ ทั้งที่รู้ว่าอาจเป็นการจากกันโดยไม่มีโอกาสเจอกันอีก ความรู้สึกผิด กลายเป็นกำแพงขวางกั้นตลอดไป
“พี่เองก็ขอโทษ...” เธอพึมพำ
สุดากระชากกระโจมปืนลูกซอง ตรวจสอบความเรียบร้อยของอาวุธคู่ใจ บรรจุกระสุนที่เหลือในกระเป๋าลงในหลอดกระสุน เหวี่ยงปืนขึ้นพาดบ่า ก้าวเท้าไปตามทางเดิน ห่างออกไปจากตัวบ้าน ตัดแนวไม้ ผ่านกลุ่มควัน กลางแสงแรกแห่งรุ่งรุณ ทิ้งความเลวร้ายไว้เบื้องหลัง โดยไม่คิดจะหันหลังกลับมามองอีกเลย
จบ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม จนจบ ครับ
ข้าหน่อย แต่ไม่ห่างหาย^^