บทที่ 4
https://ppantip.com/topic/36957724
บทที่ 5 ล่าผีป่า
ท่านเจ้านายสั่งให้ฆ่าตัดคอ แล้วหิ้วหัวของมันติดมือกลับไปฝากด้วย
แต่ถ้ามีเสียงปืนดังก็จะดึงดูดความสนใจของผู้คนในระแวกนี้และพวกนั้นก็จะแห่แหนกันมา งานของเขาจะยุ่งยากวุ่นวายขึ้นโดยไม่จำเป็น เหยื่อที่เขากำลังตามล่าอาจจะหลุดมือไปได้ เขาจึงจำต้องยิงให้มันบาดเจ็บหรือตายผ่านกระบอกเก็บเสียงเช่นนี้ต่อไป และจะใช้มีดเล่มยาวคมกริบในฝักที่ผูกรัดติดไว้กับต้นขาข้างขวาบั่นคอมันให้ขาดสะบั้นลงในฉับเดียว
มันเคลื่อนที่เร็วเหมือนปีศาจ วิ่งหลบหลีกซอกแซกเข้าตามโคนต้นไม้แล้วสลับไปหลบซ่อนตัวหลังก้อนหินใหญ่กำบังกายอยู่ตลอด ไม่เคยอยู่นิ่งให้เขามีเวลายกปืนขึ้นเล็งแล้วเหนี่ยวไกได้อย่างถนัดถนี่เลยสักวินาทีเดียว
ถึงกระนั้น ต่อให้มันวิ่งไปข้างหน้าได้เร็วแค่ไหน มันก็จะไม่มีทางรอดพ้นสายตานักล่าแกะรอยผู้เก่งกาจเช่นเขาไปได้อย่างเด็ดขาด
แรกสุดเขาเห็นมันใช้ผ้าสีขาวคลุมกาย ต่อมาก็เหลือเพียงชุดสีดำสองชิ้นเล็กๆ กระจ้อยร่อยปกปิดส่วนบนและล่าง ทว่าในตอนนี้ เงาร่างที่กำลังวิ่งซิกแซกสลับฟันฟลา ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เบื้องหน้านั้น ผิวหนังของมันกลับถูกพอกไว้ด้วยดินโคลนทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว แถมบนหัวที่เขาต้องการตัดให้ขาดยังมีใบไม้สีเขียวอยู่เต็มไปหมด
มันปรับเปลี่ยนอำพรางกายจนดูเหมือนว่าตัวมันกลายร่างไปเป็นภูติผีร้ายที่สิงสถิตอาศัยอยู่ตามพื้นดินและต้นไม้ในป่าเขารอบข้าง
เขาติดตามไล่ล่ามันไม่หยุดมายาวนานมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงติดต่อกันแล้ว ตั้งแต่ก่อนฟ้าสางและตลอดทั้งวันของเมื่อวาน จวบจนดวงอาทิตย์ตกและขึ้นอีกครั้ง ล่วงเลยมาจนถึงช่วงสายของวันนี้ ผ่านภูมิประเทศที่เป็นป่าภูเขาสี่ลูก ข้ามลำธารอีกหนึ่งสาย พ่นกระสุนออกไปใส่หลายสิบนัด แต่กลับยิงพลาดเป้าไปทั้งหมดอย่างน่าเสียดาย
เขายังไปต่อไหว ร่างกายอึดอดทนต่อความยากลำบากและสามารถฟันฝ่าอุปสรรคขวางกั้นได้อย่างไร้ปัญหา น้ำกับอาหารในเป้สะพายจะช่วยเพิ่มพละกำลังให้เขาตามล่ามันได้อีกหลายวัน ขณะที่มันเองก็กำลังโจนทะยานไปอย่างไม่คิดชีวิต ชนิดไม่มีเวลาได้หยุดพักหายใจหายคอนานนักเช่นกัน มันวิ่งตัวเปล่า ปราศจากของกินรวมถึงอาวุธที่จะใช้ตอบโต้เขาได้ อีกไม่กี่ก้าวก็คงจะหมดสภาพและหลบลี้หนีไปไม่พ้น สุดท้ายมันก็จะโดนเขาจับมาตัดหัวตามบัญชาของท่านเจ้านาย
มันกระโจนเข้าข้างหลังหินก้อนใหญ่ใกล้พงหญ้าสูงอีกครั้ง ห่างจากตัวเขาไปไม่ถึงสามสิบเมตร แต่คราวนี้เขาไม่เห็นมันโผล่ออกด้านไหนไม่ว่าซ้ายหรือขวา ไร้เสียงฝีเท้าเปลือยเปล่าเผ่นโผนบนพื้นดิน สงสัยเรี่ยวแรงจะไม่เหลือให้ใช้วิ่งหนีอีกต่อไปแล้ว
เขาแสยะยิ้มเยาะ ยกปืนขึ้นเล็งในระดับสายตา มองผ่านศูนย์หลัง นิ้วชี้วางบนไก ส่ายปากกระบอกหาเป้ายิง ย่อเข่าลง เอียงตัวเล็กน้อย ย่องด้วยปลายเท้าเชื่องช้าแผ่วเบาบนกอหญ้าและพุ่มไม้เตี้ยให้เกิดสุ้มเสียงน้อยที่สุด พร้อมจะกระหน่ำยิงใส่ทุกสิ่งที่โผล่ออกมาขวางทาง
นักล่าเคลื่อนตัวมาถึงก้อนหินที่สูงท่วมหัว ย่องปลายเท้าก้าวอ้อมมาทางขวา ทันใดก็มีเสียงซวบดังขึ้นด้านหลังไม่ไกล เขาหันควับกลับไปมองพร้อมเล็งปืนในมือหมายจะยิง แต่เห็นเป็นเพียงท่อนไม้ขนาดเท่าต้นขาตกลงกลางกอหญ้าแห้งตรงนั้น ส่ายหัว ยิ้มเย้ยหยัน และมองสำรวจอย่างระแวดระวังตัว
ครั้นหันกลับมาในทิศทางเดิมอีกที ก็ปรากฏมีก้อนวัตถุสีดำลอยละลิ่วกลางอากาศ ตรงเข้ามายังศีรษะของเขาด้วยความเร็วสูง เขารีบเร่งเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนสวนทางกลับไปหลายนัดโดยไม่ได้เล็ง หมายจะยับยั้งทำลายวัตถุนั้น ยิงไปพลางเบี่ยงโยกตัวดึงหัวหลบพร้อมกัน ทว่าช้าเกินไป สายเกินการณ์ สิ่งที่ตั้งใจไม่สัมฤทธิ์ผล เขายิงไม่โดนสักนัด มิหน้ำซ้ำยังถูกก้อนสีดำนั้นพุ่งชนเข้าที่ใบหน้าซีกขวาอย่างจังโครมเบ้อเริ่มจนตัวเขากระเด็นหงายหลังล้มลงกับพื้นดินอย่างสิ้นท่า มวลคูณความเร็ว หนักหน่วงรุนแรงไม่แตกต่างจากลูกตุ้มเหล็ก
ในเสี้ยววินาทีที่เพลี่ยงพล้ำก้นจ้ำเบ้า เขาเหลือบเห็นร่างพอกดินโคลนเป็นเพียงเงาลางๆ พุ่งทะยานหายเข้ากลางพงหญ้าสูงถัดจากก้อนหินใหญ่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้าย่ำบนใบไม้แห้งห่างไกลออกไปในผืนป่าอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเงียบหายไปในที่สุด
ดูสภาพของตัวเองตอนนี้ช่างน่าอัปยศอดสูยิ่งนัก เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะลุกขึ้นวิ่งตามไปไล่ยิงมันได้อีกครั้งดั่งใจนึก
หัวกะโหลกเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ รวดร้าวสุดแสนสาหัส เลือดสดๆ ไหลอาบจากหน้าผากและโหนกแก้มลงมาถึงปลายคาง ทั่วทั้งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
ดวงตาข้างขวาลืมไม่ขึ้น เจ็บปวดระบมสุดบรรยาย ใช้มือซ้ายสัมผัสแผลแตกบนใบหน้า ขยุ้มลิ่มเลือดมามองดูด้วยตาข้างซ้าย มือขวากำด้ามปืนแน่น อาศัยปากกระบอกเก็บเสียงที่ปลายปืนเป็นเครื่องค้ำยันพยุงร่างกายลุกขึ้นแล้วยืนพิงข้างก้อนหิน กัดฟันกรอด อารมณ์เดือดปุด
เงี่ยหูฟังเสียงท่ามกลางความเงียบงันของป่าไม้ สายตาข้างเดียวมองสอดส่ายทุกทิศ แต่ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดที่มีขาเคลื่อนไหวใกล้ตัวอีกแล้ว
มันหนีได้ มันรอดพ้นเงื้อมมือนักล่าระดับพระกาฬจากที่ราบสูงโกลันไปแล้ว มันน่าเจ็บใจนัก
ก้มมองหาก้อนวัตถุสีดำบนพื้นดิน พบมันตกอยู่ข้างกอไม้ห่างไปสองก้าว ขยับเท้าเข้ามาดูใกล้ๆ และแล้วก็ต้องหัวเราะเยาะให้กับความโง่เง่าเต่าล้านปีของตัวเอง เขารู้จักยกทรงที่ใช้ห่อหุ้มอวัยวะเนียนนุ่มบนหน้าอกสตรี แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผ้าชี้นน้อยจะถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นถุงบรรจุก้อนหินแข็งโป๊กขนาดเท่าหัวเด็กแล้วใช้สายเสื้อเป็นส่วนมือจับในการเหวี่ยงเพื่อขว้างเข้ามาพุ่งชนกระแทกใบหน้าของเขาจนแตกยับเยินแบบนี้
-------------------------------------------------------------
เขียนโดย นาถ นทีธาร
[นิยาย] ฝ่าฝูงโจร (บทที่ 5 ล่าผีป่า)
บทที่ 5 ล่าผีป่า
ท่านเจ้านายสั่งให้ฆ่าตัดคอ แล้วหิ้วหัวของมันติดมือกลับไปฝากด้วย
แต่ถ้ามีเสียงปืนดังก็จะดึงดูดความสนใจของผู้คนในระแวกนี้และพวกนั้นก็จะแห่แหนกันมา งานของเขาจะยุ่งยากวุ่นวายขึ้นโดยไม่จำเป็น เหยื่อที่เขากำลังตามล่าอาจจะหลุดมือไปได้ เขาจึงจำต้องยิงให้มันบาดเจ็บหรือตายผ่านกระบอกเก็บเสียงเช่นนี้ต่อไป และจะใช้มีดเล่มยาวคมกริบในฝักที่ผูกรัดติดไว้กับต้นขาข้างขวาบั่นคอมันให้ขาดสะบั้นลงในฉับเดียว
มันเคลื่อนที่เร็วเหมือนปีศาจ วิ่งหลบหลีกซอกแซกเข้าตามโคนต้นไม้แล้วสลับไปหลบซ่อนตัวหลังก้อนหินใหญ่กำบังกายอยู่ตลอด ไม่เคยอยู่นิ่งให้เขามีเวลายกปืนขึ้นเล็งแล้วเหนี่ยวไกได้อย่างถนัดถนี่เลยสักวินาทีเดียว
ถึงกระนั้น ต่อให้มันวิ่งไปข้างหน้าได้เร็วแค่ไหน มันก็จะไม่มีทางรอดพ้นสายตานักล่าแกะรอยผู้เก่งกาจเช่นเขาไปได้อย่างเด็ดขาด
แรกสุดเขาเห็นมันใช้ผ้าสีขาวคลุมกาย ต่อมาก็เหลือเพียงชุดสีดำสองชิ้นเล็กๆ กระจ้อยร่อยปกปิดส่วนบนและล่าง ทว่าในตอนนี้ เงาร่างที่กำลังวิ่งซิกแซกสลับฟันฟลา ผลุบๆ โผล่ๆ อยู่เบื้องหน้านั้น ผิวหนังของมันกลับถูกพอกไว้ด้วยดินโคลนทั่วทั้งใบหน้าและลำตัว แถมบนหัวที่เขาต้องการตัดให้ขาดยังมีใบไม้สีเขียวอยู่เต็มไปหมด
มันปรับเปลี่ยนอำพรางกายจนดูเหมือนว่าตัวมันกลายร่างไปเป็นภูติผีร้ายที่สิงสถิตอาศัยอยู่ตามพื้นดินและต้นไม้ในป่าเขารอบข้าง
เขาติดตามไล่ล่ามันไม่หยุดมายาวนานมากกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงติดต่อกันแล้ว ตั้งแต่ก่อนฟ้าสางและตลอดทั้งวันของเมื่อวาน จวบจนดวงอาทิตย์ตกและขึ้นอีกครั้ง ล่วงเลยมาจนถึงช่วงสายของวันนี้ ผ่านภูมิประเทศที่เป็นป่าภูเขาสี่ลูก ข้ามลำธารอีกหนึ่งสาย พ่นกระสุนออกไปใส่หลายสิบนัด แต่กลับยิงพลาดเป้าไปทั้งหมดอย่างน่าเสียดาย
เขายังไปต่อไหว ร่างกายอึดอดทนต่อความยากลำบากและสามารถฟันฝ่าอุปสรรคขวางกั้นได้อย่างไร้ปัญหา น้ำกับอาหารในเป้สะพายจะช่วยเพิ่มพละกำลังให้เขาตามล่ามันได้อีกหลายวัน ขณะที่มันเองก็กำลังโจนทะยานไปอย่างไม่คิดชีวิต ชนิดไม่มีเวลาได้หยุดพักหายใจหายคอนานนักเช่นกัน มันวิ่งตัวเปล่า ปราศจากของกินรวมถึงอาวุธที่จะใช้ตอบโต้เขาได้ อีกไม่กี่ก้าวก็คงจะหมดสภาพและหลบลี้หนีไปไม่พ้น สุดท้ายมันก็จะโดนเขาจับมาตัดหัวตามบัญชาของท่านเจ้านาย
มันกระโจนเข้าข้างหลังหินก้อนใหญ่ใกล้พงหญ้าสูงอีกครั้ง ห่างจากตัวเขาไปไม่ถึงสามสิบเมตร แต่คราวนี้เขาไม่เห็นมันโผล่ออกด้านไหนไม่ว่าซ้ายหรือขวา ไร้เสียงฝีเท้าเปลือยเปล่าเผ่นโผนบนพื้นดิน สงสัยเรี่ยวแรงจะไม่เหลือให้ใช้วิ่งหนีอีกต่อไปแล้ว
เขาแสยะยิ้มเยาะ ยกปืนขึ้นเล็งในระดับสายตา มองผ่านศูนย์หลัง นิ้วชี้วางบนไก ส่ายปากกระบอกหาเป้ายิง ย่อเข่าลง เอียงตัวเล็กน้อย ย่องด้วยปลายเท้าเชื่องช้าแผ่วเบาบนกอหญ้าและพุ่มไม้เตี้ยให้เกิดสุ้มเสียงน้อยที่สุด พร้อมจะกระหน่ำยิงใส่ทุกสิ่งที่โผล่ออกมาขวางทาง
นักล่าเคลื่อนตัวมาถึงก้อนหินที่สูงท่วมหัว ย่องปลายเท้าก้าวอ้อมมาทางขวา ทันใดก็มีเสียงซวบดังขึ้นด้านหลังไม่ไกล เขาหันควับกลับไปมองพร้อมเล็งปืนในมือหมายจะยิง แต่เห็นเป็นเพียงท่อนไม้ขนาดเท่าต้นขาตกลงกลางกอหญ้าแห้งตรงนั้น ส่ายหัว ยิ้มเย้ยหยัน และมองสำรวจอย่างระแวดระวังตัว
ครั้นหันกลับมาในทิศทางเดิมอีกที ก็ปรากฏมีก้อนวัตถุสีดำลอยละลิ่วกลางอากาศ ตรงเข้ามายังศีรษะของเขาด้วยความเร็วสูง เขารีบเร่งเหนี่ยวไกปล่อยกระสุนสวนทางกลับไปหลายนัดโดยไม่ได้เล็ง หมายจะยับยั้งทำลายวัตถุนั้น ยิงไปพลางเบี่ยงโยกตัวดึงหัวหลบพร้อมกัน ทว่าช้าเกินไป สายเกินการณ์ สิ่งที่ตั้งใจไม่สัมฤทธิ์ผล เขายิงไม่โดนสักนัด มิหน้ำซ้ำยังถูกก้อนสีดำนั้นพุ่งชนเข้าที่ใบหน้าซีกขวาอย่างจังโครมเบ้อเริ่มจนตัวเขากระเด็นหงายหลังล้มลงกับพื้นดินอย่างสิ้นท่า มวลคูณความเร็ว หนักหน่วงรุนแรงไม่แตกต่างจากลูกตุ้มเหล็ก
ในเสี้ยววินาทีที่เพลี่ยงพล้ำก้นจ้ำเบ้า เขาเหลือบเห็นร่างพอกดินโคลนเป็นเพียงเงาลางๆ พุ่งทะยานหายเข้ากลางพงหญ้าสูงถัดจากก้อนหินใหญ่ จากนั้นก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้าย่ำบนใบไม้แห้งห่างไกลออกไปในผืนป่าอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเงียบหายไปในที่สุด
ดูสภาพของตัวเองตอนนี้ช่างน่าอัปยศอดสูยิ่งนัก เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะลุกขึ้นวิ่งตามไปไล่ยิงมันได้อีกครั้งดั่งใจนึก
หัวกะโหลกเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ รวดร้าวสุดแสนสาหัส เลือดสดๆ ไหลอาบจากหน้าผากและโหนกแก้มลงมาถึงปลายคาง ทั่วทั้งตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ
ดวงตาข้างขวาลืมไม่ขึ้น เจ็บปวดระบมสุดบรรยาย ใช้มือซ้ายสัมผัสแผลแตกบนใบหน้า ขยุ้มลิ่มเลือดมามองดูด้วยตาข้างซ้าย มือขวากำด้ามปืนแน่น อาศัยปากกระบอกเก็บเสียงที่ปลายปืนเป็นเครื่องค้ำยันพยุงร่างกายลุกขึ้นแล้วยืนพิงข้างก้อนหิน กัดฟันกรอด อารมณ์เดือดปุด
เงี่ยหูฟังเสียงท่ามกลางความเงียบงันของป่าไม้ สายตาข้างเดียวมองสอดส่ายทุกทิศ แต่ก็ไม่พบสิ่งมีชีวิตใดที่มีขาเคลื่อนไหวใกล้ตัวอีกแล้ว
มันหนีได้ มันรอดพ้นเงื้อมมือนักล่าระดับพระกาฬจากที่ราบสูงโกลันไปแล้ว มันน่าเจ็บใจนัก
ก้มมองหาก้อนวัตถุสีดำบนพื้นดิน พบมันตกอยู่ข้างกอไม้ห่างไปสองก้าว ขยับเท้าเข้ามาดูใกล้ๆ และแล้วก็ต้องหัวเราะเยาะให้กับความโง่เง่าเต่าล้านปีของตัวเอง เขารู้จักยกทรงที่ใช้ห่อหุ้มอวัยวะเนียนนุ่มบนหน้าอกสตรี แต่ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผ้าชี้นน้อยจะถูกนำมาดัดแปลงให้เป็นถุงบรรจุก้อนหินแข็งโป๊กขนาดเท่าหัวเด็กแล้วใช้สายเสื้อเป็นส่วนมือจับในการเหวี่ยงเพื่อขว้างเข้ามาพุ่งชนกระแทกใบหน้าของเขาจนแตกยับเยินแบบนี้
-------------------------------------------------------------
เขียนโดย นาถ นทีธาร